คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 320 อิทธิพล เส้นสายของอิ๋งจื่อจิน

แต่ไม่มีใครสนใจอิ๋งจื่อจิน พวกเขาต่างกำลังคิดหนักเรื่องศาสตราจารย์เกอร์เวนกับเครื่องพ่นรูปตัวแอล

เผยเทียนอี้กดเบอร์ที่เป็นตัวเลขยาวๆ ส่วนอาจารย์คนอื่นๆ ก็แยกย้ายกันไปติดต่อหลายคน

มีอาจารย์คนหนึ่งยืนขึ้นแล้วเหลือบไปมองหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างไม่ตั้งใจ

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที ร้องออกมาด้วยความตกใจ

อาจารย์คนอื่นๆ ในคณะวิจัย รวมถึงเผยเทียนอี้ ต่างไม่คิดว่าฝีมือทางด้านคอมพิวเตอร์ของอิ๋งจื่อจินจะเก่งถึงขั้นสามารถหาพิกัดของเกอร์เวนได้

ที่เผยเทียนอี้ติดตามคณะวิจัยมาได้ก็เป็นเพราะเขาเก่งทางด้านคอมพิวเตอร์มาก ไม่ด้อยไปกว่าโปรแกรมเมอร์ หรืออาจจะเก่งกว่าด้วยซ้ำ

อีกทั้งเขายังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ค่อนข้างมีเวลาพอสมควร

แต่ขนาดเผยเทียนอี้ยังระบุพิกัดของศาสตราจารย์เกอร์เวนไม่ได้ คนอื่นจะทำได้เหรอ

นักเรียนมัธยมปลายคนเดียวจะเก่งคอมพิวเตอร์กว่าเผยเทียนอี้อีกเหรอ

แต่ความจริงประจักษ์อยู่ตรงหน้า อิ๋งจื่อจินอาศัยเครื่องระบุพิกัดขนาดจิ๋วที่เผยเทียนอี้ใส่ติดตัวเกอร์เวนในการหาพิกัดของเกอร์เวน

พอได้ยินเสียงอาจารย์คนนั้นร้อง เผยเทียนอี้ก็หันมาด้วยความหงุดหงิด

เดิมทีเขาอยากตวาดเสียงดุ แต่กลับเห็น ‘ระบุพิกัดเป้าหมายเสร็จเรียบร้อย’ ดวงตาเบิกโพลงขึ้นมาทันที

มือของเผยเทียนอี้ที่กำลังกดเบอร์หยุดชะงัก รีบเข้าไปที่คอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว เขารู้สึกเหลือเชื่อ

เขาใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงยังระบุพิกัดไม่ได้ว่าเกอร์เวนอยู่ที่ไหน

แต่อิ๋งจื่อจินเพิ่งมาใช้คอมพิวเตอร์แค่หนึ่งถึงสองนาทีเท่านั้น

เผยเทียนอี้นึกถึงคำพูดของตัวเองก่อนหน้านี้ ตัวเริ่มแข็งทื่อ

นักเรียนมอปลายมีฝีมือทางด้านคอมพิวเตอร์ไม่แพ้แฮกเกอร์จริงๆ เหรอ

เผยเทียนอี้เม้มริมฝีปากแน่น รู้สึกเพียงว่าหน้าต่างที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์กำลังตบหน้าเขา รู้สึกลนลานไปหมด

เขาคิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ แถมยังไม่เคยถูกใครหักหน้าเท่านี้มาก่อน

เวลานี้ได้มีอีกหน้าต่างปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

[อีกสิบวินาทีอุปกรณ์จะถูกทำลาย]

[สิบ เก้า แปด…]

“เร็วเข้า” เผยเทียนอี้รีบร้อน “นี่เป็นโปรแกรมที่ตั้งไว้ พวกเราต้องรีบบันทึกโลเคชั่นไว้”

อิ๋งจื่อจินไม่สนใจเขา เธอขยายแผนที่ มองแวบเดียวก็เข้าใจแล้ว

เผยเทียนอี้เป็นลูกหลานชาวจีนโพ้นทะเล อาศัยอยู่ที่ยุโรปตั้งแต่เด็ก ไม่คุ้นเคยกับประเทศจีนเท่าไร และก็ไม่รู้ด้วยว่าโลเคชั่นที่ว่านี้คืออาคารไหน

“เธอ…” เผยเทียนอี้เงยหน้า อยากเรียกอิ๋งจื่อจิน

แต่เขาเพิ่งพูดได้คำเดียวอิ๋งจื่อจินก็ยืนขึ้น ออกไปจากคอมพิวเตอร์

เธอเดินไปหาอาจารย์อีกคน “เครื่องพ่นรูปตัวแอลคืออะไรคะ”

อาจารย์คนนั้นอึ้ง รีบหันมาบอกทันที “เครื่องพ่นรูปตัวแอลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของห้องทดลอง วิจัยมาห้าปีเต็มๆ มันสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผิวกับพวกเส้นเลือดฝอยได้อย่างรวดเร็ว”

“พ่นไปในปริมาณที่ต่างกันตามขนาดของบาดแผล ตราบใดที่ไม่ใช่แผลที่เป็นอันตรายถึงชีวิตก็จะช่วยฟื้นฟูบาดแผลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องผ่านกระบวนการอะไรทั้งนั้น”

อิ๋งจื่อจินฟังจบก็ครุ่นคิดเล็กน้อย “แค่นี้เหรอคะ”

แค่เครื่องพ่นเครื่องเดียว ฝ่ายนั้นถึงขั้นต้องลงทุนลงแรงลักพาตัวเกอร์เวนเลยเหรอ

ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับเกอร์เวนก็จะทำให้คนทั้งวงการวิชาการโกรธมาก

ต่อให้อีกฝ่ายหลบซ่อนได้ดีแค่ไหนก็ต้องถูกเอาตัวออกมาได้ในไม่ช้าก็เร็ว

อาจารย์คนนั้นที่ถูกถามรู้สึกอึ้ง “แค่นี้…ยังไม่พอเหรอ”

ทำให้บาดแผลหายได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ฟื้นฟูสภาพผิว เมื่อไรที่ประสิทธิภาพของเครื่องพ่นรูปตัวแอลถูกเปิดเผยก็จะเป็นที่ฮือฮาไปทั้งโลก

แต่ตอนนี้เครื่องพ่นรูปตัวแอลเพิ่งผลิตออกมาได้สามเครื่อง กอปรกับวัสดุที่ใช้เป็นของหายาก ทางห้องทดลองจึงยังไม่ประกาศต่อโลกภายนอก

เนื่องจากอิ๋งจื่อจินระบุพิกัดของศาสตราจารย์เกอร์เวนได้สำเร็จ น้ำเสียงของเผยเทียนอี้จึงอ่อนลง เขาอธิบาย “เธออาจไม่เข้าใจพวกการรักษาทางชีวภาพ เรียกได้ว่าเครื่องพ่นรูปตัวแอลเป็นการค้นพบอันยิ่งใหญ่”

อิ๋งจื่อจินนวดศีรษะ

เธอกลับลืมไปเรื่องหนึ่ง

ยาแบบนี้มีในวงการเล่นแร่แปรธาตุกับวงการแพทย์แผนโบราณนานแล้ว แต่คนที่รู้มีน้อยมาก

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า ทั้งสองวงการนี้ได้แยกออกจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง

ไม่ว่าจะนักเล่นแร่แปรธาตุหรือแพทย์แผนโบราณ ต่างก็ไม่มีทางเปิดเผยเทคโนโลยีสำคัญของพวกเขา

โดยเฉพาะวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่เหนือธรรมชาติไปแล้ว ย่อมต้องเก็บเป็นความลับ

เมื่อเป็นแบบนี้เครื่องพ่นรูปตัวแอลก็ดูจะสำคัญมากจริงๆ

อิ๋งจื่อจินไม่พูดอะไรอีก เธอออกจากห้องประชุม

เผยเทียนอี้ขมวดคิ้ว ไม่มีเวลาตามไป

เขาเอาพิกัดที่จดมายื่นให้อาจารย์อีกคน จากนั้นถึงได้กดโทรหาห้องทดลองทางยุโรป

เนื่องจากเครื่องพ่นรูปตัวแอลสำคัญมาก งานวิจัยชิ้นนี้ลงทุนโดยมหาเศรษฐีชาวยุโรป พวกเขาต้องใช้เครื่องพ่นรูปตัวแอลไปแลกตัวเกอร์เวน ก็ต้องขอความเห็นจากมหาเศรษฐีคนนี้ก่อน

หลังจากเผยเทียนอี้พูดจบ ทางห้องทดลองก็รีบรายงานเรื่องนี้ขึ้นไป

ตอบกลับมาเร็วกว่าที่เผยเทียนอี้คิด ห้านาทีต่อมาก็โทรมา คนที่โทรก็คือมหาเศรษฐีคนนั้น

“ขอโทษด้วย พวกเราจะไม่เอาเครื่องพ่นรูปตัวแอลไปแลกตัวศาสตราจารย์เกอร์เวน พวกคุณคิดหาทางเอาเองแล้วกัน”

คำพูดเย็นชา ไม่มีความเห็นใจใดๆ

ยังไม่ทันที่เผยเทียนอี้จะได้พูดอะไร อีกฝ่ายก็วางสายไปแล้ว

เขาช็อกสุดขีด

อาจารย์คนอื่นๆ ก็ส่ายหน้า ต่างถอนหายใจ

ก็จริง สำหรับมหาเศรษฐีคนนั้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าชีวิตของเกอร์เวนไม่สำคัญเท่าเครื่องพ่นรูปตัวแอลที่เพิ่งคิดค้นขึ้นมาได้นี้

“ให้ตายเถอะ” เผยเทียนอี้โมโหมาก ใส่เสื้อเดินออกไป “ผมจะไปพบตำรวจของฮู่เฉิง ไปรอที่นั่นก่อน”

เขาขอเพียงว่าทางนั้นอย่าเพิ่งพลั้งมือฆ่าด้วยความโมโหแล้วกัน

อีกด้านหนึ่ง

อิ๋งจื่อจินยืนพิงต้นไม้คุยโทรศัพท์ “คุณชายเนี่ย มีเรื่องรบกวนหน่อยค่ะ ฉันต้องการทีมยอดฝีมือ”

พอได้ยินคำว่า ‘ยอดฝีมือ’ เนี่ยอี้ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เขาพูดเสียงขรึม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ”

หน่วยอีจื้อมีทั้งหมดสิบทีม แต่นี่ก็เป็นเพียงภายนอก

ยังมีทีมลับๆ อีกสองทีม

ซึ่งสองทีมนี้ถูกเรียกว่า ‘ทีมยอดฝีมือ’

เพราะสมาชิกของสองทีมนี้ต่างเป็นจอมยุทธ์ที่เก่งกาจมาก กำลังภายในแข็งแกร่ง ไม่ต่างอะไรกับในละครที่จอมยุทธ์ขั้นสูงเหาะไปมาบนหลังคาได้ หรือแม้กระทั่งอาจเก่งกว่านั้น

“ศาสตราจารย์ชั้นแนวหน้าของโลกคนหนึ่งถูกลักพาตัวไปค่ะ” อิ๋งจื่อจินหลุบตาลง “ฉันต้องการลูกน้อง”

ถึงแม้ร่างกายของเธอจะฟื้นกลับมาแล้ว แต่ระยะนี้กลับไม่เหมาะที่จะใช้วิทยายุทธ์

และเธอเองก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหน

แต่เธอคิดว่า ในบรรดาคนที่ลักพาตัวเกอร์เวนไปจะต้องมีนักสะกดจิตอยู่ด้วยแน่นอน

ไม่อย่างนั้นบอดี้การ์ดที่คุ้มกันเกอร์เวนไม่มีทางไม่มีความทรงจำในตอนนั้น

“ได้ครับ” เนี่ยอี้ตอบ “ผมจะส่งคนไปเดี๋ยวนี้”

วงการวิชาการไม่มีพรมแดนเรื่องประเทศ หากสูญเสียศาสตราจารย์ชั้นแนวหน้าไปสักคนก็ถือเป็นความสูญเสียของทั้งโลก

เนี่ยอี้วางสายแล้วไปจัดการทันที

เวลาห้าโมงเย็น จั่วหลีก็เดินทางมาจากตี้ตู

เขารีบตามไปสมทบกับเผยเทียนอี้ทันที ทางตำรวจก็อยู่ด้วย

ที่นี่อยู่ห่างจากจุดที่เกอร์เวนถูกลักพาตัวไปไว้แค่หนึ่งร้อยเมตร

พวกเขาไม่กล้าเข้าไปใกล้มากเกินไป กลัวจะถูกสังเกตเห็น

เผยเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ตะโกนเรียก “ศาสตราจารย์จั่วหลี”

“เป็นยังไงบ้างแล้ว” จั่วหลีก็ร้อนใจมาก “ทางนั้นได้บอกหรือเปล่าว่าต้องการอะไรถึงจะยอมปล่อยตัว”

เผยเทียนอี้เงียบไปชั่วครู่แล้วถึงตอบ “พวกเขาต้องการเครื่องพ่นรูปตัวแอลครับ แต่ว่า…”

เขาเล่าเรื่องก่อนหน้านี้ให้ฟัง

จั่วหลีโมโหมาก “ในสายตามีแต่ผลประโยชน์ ไม่ใช่คน!”

“ตอนนี้พวกเรายังติดต่อทางนั้นไม่ได้” เผยเทียนอี้ถอนหายใจ มองตรงไปข้างหน้า “ได้แต่รอพวกเขาติดต่อมาเองครับ”

จั่วหลีพบว่าเขาช่วยอะไรไม่ได้เลย และก็ร้อนใจมาก จนกระทั่งเขาเห็นคนคุ้นเคย

ก็ไม่รู้เพราะอะไร อยู่ๆ เขาก็โล่งใจขึ้น “นักเรียนอิ๋ง”

เผยเทียนอี้อึ้ง หันตัวไป

“ไม่สิๆ” จั่วหลีได้สติกลับมา “ที่นี่อันตรายเกินไป เธออยู่ที่นี่ไม่ได้”

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว ตอบอย่างใจเย็น “กำจัดคนชั่ว”

จั่วหลี “…”

เขาลืมไปว่าเด็กสาวคนนี้สามารถสู้กับผู้ชายตัวใหญ่ได้ อย่างน้อยก็เก่งกว่าเขา

“เธอไม่ควรมาอยู่ที่นี่” เผยเทียนอี้ขมวดคิ้วพลางพูด “ถ้าอีกเดี๋ยวเกิดอะไรขึ้น พวกเราแบ่งสมาธิมาคุ้มกันเธอไม่ได้ เธอกับศาสตราจารย์จั่วหลีกลับไปรอฟังข่าวดีกว่า”

“ไม่ต้องๆ” จั่วหลีส่ายมือ พูดแทนอิ๋งจื่อจิน “ผมไม่ใช่ศาสตราจารย์ชั้นแนวหน้าอะไร ไม่มีใครอยากลักพาตัวผมหรอก”

อิ๋งจื่อจินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูเวลา

อีกสิบนาทีทีมยอดฝีมือก็จะมาถึงแล้ว

เธอเงียบไป สุดท้ายก็ตัดสินใจลองตั้งกระทู้ถามในเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

เผยเทียนอี้กวาดตามองแล้วก็ต้องชะงัก

เขาเห็นไอคอนที่คุ้นเคยบนโทรศัพท์มือถือของอิ๋งจื่อจิน

เป็นไพ่ใบที่สิบของไพ่ทาโรต์สำรับใหญ่ ไพ่นักพรต

ซึ่งก็คือรูปไอคอนของเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

เผยเทียนอี้อึ้ง สายตามองไปที่ชื่อไอดีสำหรับล็อกอินอย่างควบคุมไม่ได้

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset