โปรดิวเซอร์หลี่ถึงกับมือสั่นทำถ้วยเก็บอุณหภูมิตกหล่นพื้น
สีหน้าของเขาก็อึ้งสนิท คิดว่าตัวเองหูแว่ว
“นายว่าใครนะ เบอร์ใคร!”
ฉินหลิงอวี๋ถือเป็นสิ่งประหลาดในวงการบันเทิง เธอไม่มีสังกัด และไม่มีผู้จัดการส่วนตัว
นอกจากช่วงแรกที่กลับมาอยู่ประเทศจีน เธอตระเวนทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศสามสิบเมืองโดยให้ชูกวงมีเดียช่วยติดต่อสถานที่ให้
แต่หลังจากนั้นทุกกิจกรรมของฉินหลิงอวี๋ก็ขึ้นอยู่กับว่าเธอถูกใจอันไหนก็ไปติดต่อเอง
ฉินหลิงอวี๋เป็นคนขี้เกียจมาก เธอชอบอยู่ว่างๆ อีกทั้งยังบอกบรรดาแฟนคลับว่าต้องรู้จักไปหาข้าวกินจะมัวแต่มารอดูเธอทำงานไม่ได้
การทำแบบนี้หากเป็นในวงการบันเทิงถือเป็นด้านลบ
กระแสนิยมของแบบนี้ไม่คงอยู่ตลอดกาล
แต่ฉินหลิงอวี๋กลับมหัศจรรย์มาก ความดังของเธอไม่ลดลง ถึงแม้จะเป็นแบบนี้แฟนคลับของฉินหลิงอวี๋ก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น ไม่มีลดน้อยลง เพราะเธอเล่นเกมเก่งมาก ถ้าอารมณ์ดี ฉินหลิงอวี๋จะไปสตรีมเกมบนแอปฉลามไลฟ์สด พาแฟนคลับสนุกไปด้วยกัน แถมยังจะช่วยแฟนคลับเติมเงินซื้ออาวุธต่างๆ ด้วย
สามเดือนเต็มๆ แล้วที่ฉินหลิงอวี๋อยู่ว่าง นับตั้งแต่กิจกรรมออกงานครั้งล่าสุด แต่ยังคงมีหลายโปรเจ็กต์ที่ต่อคิวรอเธอรับสาย ถึงขั้นที่มีหลายโปรดิวเซอร์ที่ยินดีเลื่อนโปรเจ็คต์ออกไปเพื่อรอเธอ
นิสัยแบบนี้ของฉินหลิงอวี๋ โปรดิวเซอร์หลี่กับพวกผู้กำกับ และคนในวงการบันเทิงต่างรู้ดี
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่ตั้งความหวังจะเชิญฉินหลิงอวี๋มา
แต่ตอนนี้!
โปรดิวเซอร์หลี่กระโดดเข้ามาทันที แย่งโทรศัพท์มือถือไปจากมือผู้กำกับอีกครั้ง
เขาพูดเสียงสั่นโทนเสียงผิดเพี้ยนไปหมด “ฮัลโหล สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ ฉันฉินหลิงอวี๋นะคะ” ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงที่ติดเนือยเล็กน้อย
“พวกคุณขาดโปรดิวเซอร์วงบอยแบนด์ใช่ไหมคะ ฉันว่างอยู่พอดี อยากทำให้คนสติเพี้ยนอกแตกตาย คุณว่าฉันเข้าร่วมได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ! ได้แน่นอน!” โปรดิวเซอร์หลี่เก็บความดีใจที่กำลังจะเอ่อล้นทะลัก
“ขอแค่คุณมา อยากจะทำให้คนบ้าอกแตกตายสักกี่คนก็ได้ครับ พวกเราจะช่วยเอง!”
“…ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกค่ะ”
เธอก็แค่กัดกับฉินหลิงเยี่ยนจนชินแล้ว เถียงกันด้วยวาจา ไม่มีใครยอมใคร
“อาจารย์ฉินว่างเมื่อไรครับ” โปรดิวเซอร์หลี่ถาม “ผมจะไปหาเพื่อเซ็นสัญญา”
“วันนี้ได้เลยค่ะ” ฉินหลิงอวี๋เปิดเบียร์กระป๋อง
“จัดการให้เสร็จก่อนหนึ่งทุ่ม ฉันจะไปกินเนื้อย่างค่ะ”
“แน่นอนครับแน่นอน” โปรดิวเซอร์หลี่ขานรับอย่างต่อเนื่อง
หลังจบการสนทนาเขาก็ถอนหายใจโล่งอก เหนื่อยจนทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อีกครั้ง
แต่ไม่ถึงสองวินาทีเขาก็เด้งขึ้นมาอีก
“เร็วเข้า! ช่วยหยิกฉันหน่อย” โปรดิวเซอร์หลี่ทำหน้าเหมือนคนบ้า
“รีบหยิกฉันเร็วเข้า บอกฉันทีว่ามันไม่ใช่ความฝัน!”
ผู้กำกับลังเลนิดหน่อย ยกมือขึ้นตบใบหน้าของโปรดิวเซอร์หลี่เสียงดัง “ผัวะ”
ทิ้งรอยมือไว้อย่างชัดเจน
“ฮ่าๆ ไม่ใช่ความฝัน!” ถูกตบไปหนึ่งที แต่โปรดิวเซอร์หลี่กลับดีใจไม่ไหว
“เรื่องจริง…เรื่องจริงโว้ย!”
เขาได้ร่วมงานกับฉินหลิงอวี๋จริงๆ แล้ว
“พี่หลี่ ไม่ถูกสิ มันไม่ถูกนะ!” ทันใดนั้นผู้กำกับก็ตระหนักได้ถึงปัญหาใหญ่
“เมื่อกี้พวกเราเพิ่งรับปากทางราชินีภาพยนตร์เซี่ยไป ตอนนี้พี่ยังไปรับปากอาจารย์ฉินอีก งั้นสองคนนี้จะทำอย่างไร”
คนหนึ่งราชินีภาพยนตร์ อีกคนเป็นดาราในกระแส ผิดใจกับใครไม่ได้สักคน
อีกทั้งเรื่องลำดับก็เป็นปัญหา หากไม่จัดการให้ดี แฟนคลับของสองคนนี้ได้มาฉีกอกทีมงานแน่
“ให้ตายเหอะ ใครบอกว่าโปรดิวเซอร์วงบอยแบนด์มีได้แค่คนเดียว ใครพูด ฉันพูดเหรอ นายพูดหรือไง”
โปรดิวเซอร์หลี่ทำใจให้สงบลงไม่ได้เลย เขาเริ่มออกลีลาเต้น เท้าเอวหัวเราะร่า
“พวกเราจะใช้สองคน ฮ่าๆ บ้าจัง!”
ผู้กำกับยืนอยู่ด้านข้าง กำลังคิดอยู่ว่าเขาควรตบโปรดิวเซอร์หลี่อีกสักสองสามทีไหม ถึงจะได้สติสักที
แต่ในความเป็นจริง ในใจของเขาก็รู้สึกช็อกมาก
ด้วยระดับความดังของเซี่ยมั่นอวี่ สามารถทำให้รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ถูกยกระดับขึ้นได้ทันที
พอฉินหลิงอวี๋เข้ามาอีกคน ยิ่งลอยขึ้นไปอีกไกล
สองคนนี้มีกลุ่มแฟนคลับที่เหนียวแน่นในต่างประเทศ เพียงพอที่จะทำให้รายการดังไกลไปถึงเมืองนอก
นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 จะไม่ใช่รายการประกวดธรรมดาๆ อีกแล้ว
พวกเขาอยู่วงการบันเทิงมานานขนาดนี้ ยังไม่เคยเจอการร่วมงานระดับเทพแบบนี้มาก่อน
“เร็วเข้า รีบให้คนไปเตรียมการ” โปรดิวเซอร์หลี่กระโดดโลดเต้นอยู่สักพัก ในที่สุดก็คิดได้ เขาย่อมไม่มีทางลืมเรื่องสำคัญที่สุด
“ฉันจะเตรียมสัญญาด้วยตัวเอง ไปเชิญอาจารย์เซี่ยกับอาจารย์ฉินมา เซ็นสัญญา!”
“พอเซ็นสัญญาเสร็จพวกเราจะโพสต์เวยปั๋ว ฮ่าๆ! ขอฉันตบหน้าเยี่ยซีกับแฟนคลับโง่งี่เง่าพวกนั้นหน่อยเถอะ!”
ยังไม่ทันที่ผู้กำกับจะตั้งตัวทัน โปรดิวเซอร์หลี่ก็พุ่งออกจากห้องด้วยความเร็วดุจสายลมไปแล้ว
รองผู้กำกับเข้ามาในเวลานี้พอดี ถูกเปิดประตูใส่หน้ากระเด็นไปติดกำแพง
เขาจับจมูกเดินเข้ามา รู้สึกงงมาก
“ผู้กำกับ พี่หลี่เป็นอะไรไปเหรอ ผมเห็นหน้าเขามีรอยตบด้วย ถูกพี่สะใภ้ตบมาเหรอ”
มือของผู้กำกับยังสั่นอยู่ เขาจุดบุหรี่ สูดลมหายใจเข้าลึก หลังจากข่มอารมณ์กระวนกระวายในจิตใจได้ เขาถึงได้พูดขึ้น
“ไม่ใช่ เขาเป็นบ้าไปแล้ว”
“บ้าไปแล้วเหรอ” รองผู้กำกับล้อเล่น “ทำไมเป็นบ้าล่ะ หรือว่าเซี่ยมั่นอวี่จะมาเหรอ”
พอได้ยินคำพูดนี้ ผู้กำกับก็หยุดสูบบุหรี่ หันไปมองรองผู้กำกับ
รองผู้กำกับถูกจ้องด้วยสายตาแบบนี้ก็รู้สึกหนาว อดเอาเสื้อมาห่อตัวไม่ได้
“ผู้กำกับ ทำไมมองผมแบบนี้ล่ะ”
“นายดูมีอนาคตนะ” ผู้กำกับเดินเข้าไปตบบ่าของเขา พูดจากใจ
“อีกหน่อยเปิดกล้องฉันจะไม่ไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาแล้ว และจะไม่เชิญพวกอาจารย์หมอดูมาแล้วด้วย ฉันจะกราบไหว้นักพยากรณ์อย่างนายดีกว่า เป็นไง”
รองผู้กำกับ “?”
…
ในฐานะที่เป็นบริษัทบันเทิงอันดับหนึ่งของประเทศจีนที่ดึงดูดเงินเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ชูกวงมีเดียได้เตรียมแผนรับรองความเสี่ยงไว้จำนวนไม่น้อยตั้งแต่เริ่มลงทุนให้รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 แล้ว เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิดแบบนี้
หลังจากเยี่ยซีโพสต์เวยปั๋วแบบนั้นไป ชูกวงมีเดียก็เริ่มใช้แผนสำรองทันที จัดให้นักแสดงหญิงในสังกัดไปแทน
ถึงแม้นักแสดงหญิงคนนี้จะไม่ถือว่าอยู่ในกระแสมากนัก แต่ก็เป็นที่รู้จักดี เป็นที่รักในวงการบันเทิง เป็นเพื่อนกับดาราหลายคน จัดเป็นหนึ่งในดาราที่แฟนคลับเยี่ยซีไม่กล้าด่าพอดี ถ้ากล้าด่า อีกหน่อยคงไม่มีใครกล้าร่วมงานกับเยี่ยซีแล้ว
ปรากฏว่าแม้แต่ชูกวงมีเดียก็คาดไม่ถึงว่าทีมงานรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 จะเชิญเซี่ยมั่นอวี่กับฉินหลิงอวี๋มาได้
พออิ๋งจื่อจินกลับถึงค่ายติวไอเอสซีก็ได้รับสายจากเลขาสาว
“บอสคะ สุดยอดมากเลยค่ะ ลูกสาวฉันกับนางฟ้าของฉันจะออกรายการพร้อมกันแล้วค่ะ!”
อิ๋งจื่อจิน “…”
เธอมองไม่ออกเลยจริงๆ ว่าเลขาของเธอจะเป็นพวกคลั่งไคล้ดารา
บ้าดาราถึงขั้นสมมติเป็นครอบครัว ไม่ต้องแต่งงานมีลูกเองแล้ว
อิ๋งจื่อจินเปิดคอมพิวเตอร์ “ลูกสาวคุณเหรอ”
“นางมารสาวบนโลกมนุษย์ฉินหลิงอวี๋ไงคะ!” เลขายังคงกรีดร้อง
“กรี๊ด ฉันจะขิตแล้วค่ะ บอสช่วยใช้สิทธิพิเศษขอบัตรที่นั่งแถวแรกให้ฉันได้ไหมคะ”
“ได้ หักจากเงินเดือนคุณนะ”
“…”
เลขาสาวน้ำตาคลอออกไปทำงานแล้ว
อิ๋งจื่อจินมองรูปถ่ายของฉินหลิงอวี๋ที่เลขาสาวส่งให้ รู้สึกคุ้นหน้าชอบกล
เธอกดหน้าต่างสนทนา ติดต่อฉินหลิงเยี่ยน
[นายหน้าเด็ก นายยังมีญาติอีกใช่ไหม]
เวลานี้ฉินหลิงเยี่ยนกำลังเซ็งอยู่ พอเห็นข้อความนี้ก็โมโห
[มี ยัยนั่นตายไปแล้ว!]
[ฉินหลิงอวี๋เป็นน้องสาวของนาย]
พอเห็นชื่อฉินหลิงอวี๋เขาก็ตกใจ
[บอสรู้ได้ไงอะ]
ถึงแม้แค่ดูชื่อของพวกเขาก็รู้ว่าเกี่ยวข้องกัน แต่บนโลกนี้ก็มีคนชื่อซ้ำนามสกุลซ้ำอยู่ไม่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องชื่อคล้ายเลย
อีกทั้งฉินหลิงอวี๋ก็หน้าตาไม่เหมือนเขา คนหนึ่งหน้าคมเข้ม อีกคนหน้าหวาน
[เดา ดวงตาของเธอค่อนข้างคล้ายนาย]
[คล้ายกับผีสิ ผมดูดีกว่า ยัยนั่นขี้เหร่จะตาย ออกไปข้างนอกผมยังอายที่จะบอกว่าเป็นน้องสาวเลย]
พอได้ยินแบบนี้อิ๋งจื่อจินก็เลิกคิ้ว
เธอเปิดชาร์ตอันดับขวัญใจมหาชนฝ่ายหญิงของปีก่อนในเวยปั๋ว
ฉินหลิงอวี๋ได้อันดับหนึ่ง
เธอได้คะแนนโหวตทั้งหมดห้าสิบกว่าล้านโหวต อันดับสองคือเยี่ยซี ได้ไปแค่เก้าล้านกว่าโหวต เป็นดารากระแสนิยมเหมือนกัน ถ้าไม่เปรียบเทียบก็ไม่เสียหาย
รูปที่อยู่บนชาร์ตจัดอันดับนี้เป็นรูปที่ฉินหลิงอวี๋แต่งคอสเพลย์ เธอแต่งเป็นตัวละครในเกมมือถือยอดนิยมในเวลานี้ ‘ฮวามู่หลาน’
สวมชุดเกราะ แต่กลับยากที่จะปิดบังหุ่นอันเย้ายวน เรียกได้ว่าเป็นนางมารสาวบนโลกมนุษย์ของแท้
อิ๋งจื่อจินพิมพ์โค้ดโปรแกรมใส่ในคอมพิวเตอร์ ดึงรูปภาพนี้เข้าไป
ภายในเวลาไม่กี่นาทีรูปก็ถูกปรับให้คมชัดที่สุด ถึงขั้นที่เห็นแม้กระทั่งขนตามีกี่เส้น
อิ๋งจื่อจินขยายรูปภาพ เห็นหูดที่มือของฉินหลิงอวี๋อย่างชัดเจน
หูดแบบนี้คนทั่วไปไม่มีทางมี
เธอครุ่นคิดแล้วพิมพ์อย่างใจเย็น
[น้องสาวนายเป็นนักฆ่า เข้าไปเป็นดาราในวงการบันเทิงก็ถือเป็นวิธีอำพรางที่ดี ไม่ถูกเจอง่ายๆ]
