คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 393 อิ๋งเย่ว์เซวียนยังเป็นลูกนอกสมรสด้วยเหรอ

ตอนที่ 393 อิ๋งเย่ว์เซวียนยังเป็นลูกนอกสมรสด้วยเหรอ

[ควบคุมความเร็วไม่ได้ การเบรกไม่เป็นผล]

บนหน้าจอภายในรถปรากฏข้อความ

เสียงเตือนดังถี่ขึ้น ระบบภายในรถเริ่มรวน

โชคดีที่เวลานี้บนทางด่วนมีรถอยู่ไม่เท่าไร

อิ๋งเทียนลี่ว์เม้มริมฝีปากแน่น สองมือจับพวงมาลัย สายตาจับจ้อง

นับตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วที่เขาฝันเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาก็เปลี่ยนรถคันใหม่

รถคันนี้เป็นรถที่ผลิตโดยบริษัทรถยนต์ในเครือวีนัสกรุ๊ป

ตัวรถแข็งแรงมาก ได้ยินว่าแม้แต่ลูกกระสุนก็ทะลุเข้าไม่ได้ ทั้งยังมีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ และระบบป้องกัน

ถึงแม้อิ๋งเทียนลี่ว์จะได้ถุงเครื่องรางมาจากเหวินเหรินซานแล้ว แต่เหวินเหรินซานก็บอกกับเขาว่า ไม่รับประกันว่าเขาจะพ้นเคราะห์นี้ได้ อีกทั้งความฝันเป็นเพียงลางบอกเหตุ แน่ใจได้อย่างเดียวว่าเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์

อุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนี้อาจเกิดขึ้นได้ด้วยสาเหตุหลายอย่าง ใช่ว่าจะเหมือนในความฝันทั้งหมด

ด้วยเหตุนี้เพื่อความปลอดภัย อิ๋งเทียนลี่ว์จึงไม่ให้ใครขับรถของเขา ทุกครั้งเขาจะเป็นคนขับเอง

ต่อให้ขับเองเขาก็จะระมัดระวังมาก

นึกไม่ถึงว่าก็ยังจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้

อิ๋งเทียนลี่ว์สูดลมหายใจเข้าลึก เขาเงยหน้า ในที่สุดก็เห็นทางลาดฉุกเฉินปรากฏตรงข้างหน้า

เขารู้สึกโล่งอกขึ้นมาบ้าง เตรียมหมุนพวงมาลัยขับไปทางนั้น

แต่ทันใดนั้นก็มีข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอภายในรถอีกครั้ง

[พวงมาลัยสูญเสียการควบคุม]

“เบรก…”

อิ๋งเทียนลี่ว์ไม่มีแม้แต่เวลาจะขับเข้าทางลาดฉุกเฉิน ทั้งคนและรถพุ่งชนที่กั้นข้างทางตกลงไป

เวลาบ่ายสองโมง

จงมั่นหวายังคงหลับอยู่ สะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์จากโรงพยาบาลอันดับหนึ่ง หลังจากฟังปลายสายพูดเสร็จ สีหน้าของเธอก็ซีดลง รีบร้อนถือกระเป๋าออกไปโดยไม่แม้แต่จะใส่เสื้อคลุม

พอไปถึงโรงพยาบาล จงมั่นหวาก็แตกตื่นลนลานแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

หลังจากเธอเห็นหมอออกมาจากห้องผ่าตัดก็รีบเข้าไปหา จับมือหมอไว้

“คุณหมอ ลูกชายฉันล่ะคะ เขาเป็นยังไงบ้าง ยะ…ยังมี”

ทางด่วนเส้นนั้นเดิมทีก็อันตรายอยู่แล้ว เมื่อก่อนก็เคยเกิดอุบัติเหตุบ่อย

ตกลงมาจากบนนั้น ส่วนใหญ่ถ้าไม่บาดเจ็บสาหัสก็ตาย ไม่มีกรณียกเว้น

“คุณคือคุณแม่ของคนไข้ใช่ไหมครับ” หมอมองจงมั่นหวา

“รอสักครู่นะครับ”

เขาเดินเข้าห้องพักผู้ป่วยที่อยู่ข้างๆ ไม่นานก็เดินออกมาอีกครั้ง

จงมั่นหวาใจหาย มือเหงื่อออกด้วยความกังวล สมองคิดฟุ้งซ่านไปใหญ่

ถ้าอิ๋งเทียนลี่ว์เป็นอะไรไปเธอจะทำยังไง

“คนไข้เพิ่งฟื้น เขาต้องการความสงบ ไม่อยากพบคุณในเวลานี้ครับ” หมอพยักหน้าเล็กน้อย

“ไว้อีกสักพักคุณค่อยมาใหม่นะครับ”

พอได้ยินแบบนี้จงมั่นหวาก็รู้สึกโล่งใจก่อน จากนั้นก็อึ้ง “มะ…ไม่อยากเจอฉันเหรอคะ”

หมอไม่พูดอะไรอีก ถอดผ้าปิดปากออกแล้วเดินผ่านจงมั่นหวาไป

คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งกับอิ๋งลู่เวยเป็นแขกประจำของโรงพยาบาลอันดับหนึ่ง หมอเจ้าของไข้อย่างพวกเขายังจะไม่รู้พวกเรื่องต่างๆ ของตระกูลอิ๋งอีกเหรอ

พูดได้เพียงว่าหาเรื่องใส่ตัวทั้งนั้น ทำเรื่องไม่ดีไว้เยอะเข้าก็คือการสร้างเวร ย่อมได้รับผลกรรม

จงมั่นหวายืนอยู่ที่เดิม ผ่านไปสักพักก็ยังไม่ได้สติกลับมา

ผู้เฒ่าจงรีบร้อนเดินเข้ามาในเวลานี้

จงมั่นหวาอ้าปาก “คุณพ่อ เทียนลี่ว์เขา…”

ผู้เฒ่าจงไม่สนใจเธอ เข้าห้องพักผู้ป่วยไปโดยมีหมออีกคนนำทาง

ประตูเปิดออกและปิดลง

จงมั่นหวาหน้าเสีย

ผู้เฒ่าจงไม่ใยดีกับเธอ อิ๋งเทียนลี่ว์ก็ทำตัวห่างเหินกับเธอ

ถ้าสถานะของอิ๋งจื่อจินถูกปิดไว้อย่างดีตั้งแต่แรก ก็คงไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนี้

แต่ตอนนี้หวนคืนไม่ได้แล้ว

เธอไปขอร้องอิ๋งจื่อจิน อิ๋งจื่อจินก็ไม่แม้แต่จะมองเธอ

แล้วเธอจะทำยังไงได้

พอนึกถึงตรงนี้ จงมั่นหวาก็รู้สึกอึดอัดใจอีกครั้ง หายใจไม่สะดวก

แต่ไหนแต่ไรมาเธอทะนงตนจนชิน ชอบให้ทุกเรื่องอยู่ในความควบคุม รวมถึงชีวิตของลูกๆ และเรื่องทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอิ๋งเทียนลี่ว์ตอนก่อนเรียนจบหรืออิ๋งเย่ว์เซวียน ต่างก็เชื่อฟังแค่เธอทั้งนั้น

เป็นเหมือนอิ๋งจื่อจินที่ไหนกัน

เธอไม่ควรรับอิ๋งจื่อจินกลับมา

ไม่อย่างนั้นครอบครัวเธอก็จะยังคงเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่ปรองดอง มีทั้งลูกสาวและลูกชาย เป็นสตรีไฮโซที่ใครๆ ต่างอิจฉา

จงมั่นหวาเม้มริมฝีปาก เธอฝืนยิ้มแล้วเดินออกจากโรงพยาบาลอย่างเหม่อลอย

ภายในห้องพักผู้ป่วย

อิ๋งเทียนลี่ว์นอนอยู่บนเตียง แต่สภาพจิตใจยังดูโอเค

ศีรษะของเขามีผ้าพันไว้หลายชั้น ขาขวาถูกเข้าเฝือก

ผู้เฒ่าจงถึงได้โล่งอก “ยังดี…ยังดีที่ไม่เป็นอะไรมาก ขับรถยังไงให้ตกทางด่วนได้”

“รถเกิดปัญหาครับ” อิ๋งเทียนลี่ว์หันมาแล้วถอนหายใจ

“ผมผิดเองครับที่ไม่ตรวจเช็คก่อน” เขาเล่าเรื่องให้ฟังคร่าวๆ

ผู้เฒ่าจงสีหน้าเปลี่ยน

“พวงมาลัยกับเบรกสูญเสียการควบคุมเหรอ ฝีมือคนทำแน่นอน!”

“ผมก็คิดแบบนั้นครับ” อิ๋งเทียนลี่ว์ตอบ “แต่คนคนนี้คงต้องผิดหวังแล้ว ผมก็แค่ขาหัก ตัวยังปกติดี”

วินาทีที่รถพุ่งตกทางด่วน เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ

ต่อให้ไม่ตายก็คงไม่ต่างอะไรกับนอนเป็นผัก

แต่หลังจากที่รถพุ่งหล่น ในวินาทีสำคัญ ถุงลมนิรภัยก็เด้งออกมาหลายจุด

แม้แต่ประตูรถก็เด้งหลุดออกมาอัตโนมัติ

อิ๋งเทียนลี่ว์ต้องยอมรับเลยว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่เปลี่ยนแปลงชีวิต

เขาหล่นกระแทกแรงพอสมควร แต่ก็ยังเหลือแรงปีนออกไป

พอเขาคลานออกไปได้รถก็ระเบิดทันที

ทุกอย่างมันบังเอิญเกินไป

แค่นิดเดียวเท่านั้น เขาเกือบตายไปด้วยแล้ว

พอได้ยินแบบนี้ ผู้เฒ่าจงก็โมโหจนเกือบหัวใจอุดตัน

“พูดอะไรกัน ถ้าแกตายคงไม่ได้มานอนพูดกับตาอยู่ที่นี่แล้ว”

แต่ละคนชอบทำให้เขาเป็นห่วงอยู่เรื่อย

“คุณตา ช่วยผมหยิบของหน่อยครับ” อิ๋งเทียนลี่ว์ไอเล็กน้อย “อยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทของผม”

ผู้เฒ่าจงทำเสียงฮึดฮัด สุดท้ายก็เดินเข้าไปหยิบ

เขากางเสื้อสูทของอิ๋งเทียนลี่ว์ที่อยู่ข้างๆ ออกแล้วหยิบถุงเครื่องรางในกระเป๋าออกมา

ผู้เฒ่าจงสงสัย “นี่คืออะไร”

“เครื่องรางที่คราวก่อนไปขอมาจากสมาคมโหราศาสตร์ครับ” อิ๋งเทียนลี่ว์พูด

“โยนมาให้หน่อยครับ ผมขยับมือไม่ได้”

ผู้เฒ่าจงเหลือบมองเขา โยนเครื่องรางในมือให้ “อายุเท่านี้ยังจะงมงาย”

อิ๋งเทียนลี่ว์กระแอมอีกครั้ง จนปัญญา “คุณตาก็เชื่อเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ”

“เฮ้ย ตาไม่เหมือนแก” ผู้เฒ่าจงพูดด้วยความภูมิใจ

“ตาเชื่อแค่หลานสาวของตา ใครจะไปรู้ว่าแกเจอหมอดูกำมะลอเข้าหรือเปล่า”

พอพูดถึงอิ๋งจื่อจิน สีหน้าของอิ๋งเทียนลี่ว์ก็ชะงัก “จื่อจินมาหรือเปล่าครับ”

“กำลังมาจากโรงเรียน” ผู้เฒ่าจงถือโทรศัพท์มือถือ

“แต่ตาเห็นแกไม่เป็นอะไรมาก ยังเถียงได้ฉอดๆ ตาให้จื่อจินกลับไปดีกว่า”

อิ๋งเทียนลี่ว์ “…”

สมกับเป็นคุณตา

เขาหลับตา โมโหจนเริ่มนอนต่อ

ด้านนอกโรงพยาบาล

อันที่จริงอิ๋งจื่อจินมาถึงแล้ว เพียงแต่ไม่ได้เข้าไป นั่งอยู่ในร้านกาแฟฝั่งตรงข้าม

ฟู่อวิ๋นเซินมองเธอ

จากนั้นก็ยกมือขึ้น นิ้วเรียวยาวดุจหยกแตะลงบนข้อมือของเธอ แววตาขรึมลงเล็กน้อย

“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม”

“พอไหว” อิ๋งจื่อจินสั่งทีรามิสุ “วางใจได้ ร่างกายไม่เป็นไร และฉันก็ไม่ได้อ่อนแอ”

อย่างไรเสียอิ๋งเทียนลี่ว์ก็เป็นคนธรรมดา อีกทั้งเคราะห์ของเขาก็ไม่เหมือนซังเย่าจือที่ดวงชะตาถึงฆาต และก็ไม่เหมือนตี้อู่เย่ว์ที่ดวงชะตาอายุสั้น

แต่หากว่ากันตามเหตุผล เธอช่วยชีวิตคนที่มีสายเลือดเดียวกันจะเจ็บหนัก

แต่ก็ไม่มีอย่างอื่นอีกนอกจากญาณพยากรณ์ของเธอถูกผนึกไปหนึ่งเดือน ถึงขั้นที่เธอเตรียมใจไว้แล้วว่าแก่นแท้ของร่างกายอาจเสียหายหนัก

อิ๋งจื่อจินหลุบตาลง ตกอยู่ในห้วงความเงียบ

ฟู่อวิ๋นเซินลองจับชีพจรของเธอ จากนั้นก็เอามือออก “งั้นก็ดี”

เขารู้ว่าไม่ว่าจะประเทศจีนหรือยุโรปต่างก็มีคนที่มีญาณพิเศษแบบนี้

เพียงแต่มีการเรียกที่แตกต่างกัน

ในประเทศจีนคนแบบนี้จะถูกเรียกว่านักพยากรณ์

ในยุโรปเรียกว่านักทำนาย

ประวัติศาสตร์ของนักพยากรณ์มีมายาวนานกว่านักทำนาย สามารถไล่ย้อนไปได้ถึงยุคสามราชา และจักรพรรดิทั้งห้า ถึงแม้สมัยนี้จะมีนักพยากรณ์น้อยลงเรื่อยๆ อีกทั้งความสามารถในการพยากรณ์ก็ถดถอยลง แต่อย่างน้อยก็ยังมีตระกูลตี้อู่อยู่

นอกเหนือจากนี้ยังมีคนรุ่นหลังของตระกูลนักพยากรณ์ที่ก่อตั้งเป็นกลุ่มของตัวเอง

แต่ทางยุโรปไม่เหมือนกัน ในช่วงปีหนึ่งพันสี่ร้อยแปดสิบถึงปีหนึ่งพันเจ็ดร้อยแปดสิบ การพิพากษาคดีแม่มดได้มีการตัดคอนักทำนายจำนวนมากต่อหน้ามหาชน โดยเฉพาะในช่วงท้ายศตวรรษที่สิบแปด ไม่เหลือนักทำนายเลยสักคน

แม่มดที่ว่านี้ก็เป็นเพียงคำเรียกแทนตัวเท่านั้น ไม่ได้มีเวทมนตร์อาคมจริงๆ และนี่ก็เป็นหนึ่งในคำพยากรณ์ที่เทพพยากรณ์ทิ้งไว้ในตอนนั้น

พวกนักทำนายที่หลงเหลืออยู่ในยุโรปตอนนี้เพิ่งปรากฏตัวหลังเกิดเหตุการณ์ล้างบางครั้งนั้น เพียงแต่ความสามารถของพวกเขาไม่อาจเทียบชั้นกับรุ่นบรรพบุรุษได้

แต่ไม่ว่าจะเป็นนักพยากรณ์หรือนักทำนาย ตราบใดที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชะตาคนอื่นได้ ก็จะต้องรับการลงโทษที่เท่าเทียมกัน

“ต่อไปทำเรื่องพวกนี้ให้น้อยหน่อยดีกว่า” ฟู่อวิ๋นเซินดันแก้วนมร้อนให้เธอ “มันไม่ดีต่อสุขภาพ”

“ฉันรู้ตัวดี” อิ๋งจื่อจินหยิบส้อม “ฉันไม่ใช่นักบุญที่จะช่วยชีวิตทุกคน”

ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว น้ำเสียงอ่อนลง

“อืม เธอช่วยพี่ชายก็พอแล้ว ขึ้นสวรรค์ก็เอาพี่ชายไปด้วย”

มือของอิ๋งจื่อจินชะงัก เหลือบมองเขา

“เลิกฝันกลางวัน” เธอกินเสร็จก็หาวออกมา

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้า “ง่วงแล้วเหรอ”

“อืม” อิ๋งจื่อจินหยิบผ้าห่มออกมาจากกระเป๋าตัวเองแล้วห่ม “ของีบสักหน่อย”

ถึงแม้ร่างกายของเธอจะไม่เป็นอะไรมาก แต่ก็เสียแรงไปพอสมควร

พอเธอหลับ อวิ๋นซานก็เข้าไปในห้องข้างกันอย่างเงียบๆ

ฟู่อวิ๋นเซินพูด “สืบได้หรือยัง”

“สืบได้แล้วครับคุณชาย ไม่สืบก็คงไม่รู้” อวิ๋นซานกระซิบ

“อิ๋งเย่ว์เซวียนคนนี้เป็นลูกนอกสมรสจริงครับ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset