ตอนที่ 410 อิ๋งจื่อจินจากประเทศจีน
ไม่อย่างนั้นไอริน่าก็ไม่มีทางพูดหยามเกียรติประเทศจีนว่าเป็นขยะได้หน้าตาเฉยแบบนี้
เถิงอวิ้นเมิ่งพูดเสียงเบา “ไม่รู้ว่ามีเล่นตุกติกตอนจับฉลากหรือเปล่า ผู้เข้าแข่งขันฝ่ายเราเจอไอริน่าเยอะเกินไป”
“ฉันไม่เก่งด้วยแหละ” นักเรียนหญิงขอบตาแดงก่ำ “ถ้าฉันมีความรู้มากกว่านี้หน่อยก็คงไม่ถึงกับได้แค่ห้าคะแนน”
“ไม่ใช่ เธอเก่งมากแล้ว” อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น “พวกเธอไม่ใช่ไม่เก่ง ก็แค่ความรู้ที่อีกฝ่ายมีไม่ใช่ความรู้ของเด็กมอปลาย มันไม่เท่าเทียมกัน”
เมื่อวานอวี้เสวี่ยเซิงก็มาหาเธอ ยืนยันอีกครั้งว่าไอริน่าถูกปลุกความทรงจำในชาติก่อนขึ้นมา
เขายังได้ตั้งใจไปหาข้อมูลพวกนักวิทยาศาสตร์ในประวัติศาสตร์ของยุโรป เพียงแต่ไม่มีคนไหนที่ตรงตามเงื่อนไข
นักวิทยาศาสตร์แข่งกับเด็กมัธยมปลาย ผลลัพธ์ยังจะต้องพูดอีกเหรอ
“ใครๆ ก็รู้ว่าเธอมีความพิเศษ แต่จะทำไงได้” เฟิงเย่ว์ถอนหายใจ “ฉันว่าฉันควรไปให้หมอสะกดจิตด้วยดีไหม เกิดเมื่อชาติที่แล้วฉันเป็นไซมอน แบรนด์ล่ะ”
อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วขณะ “วางใจได้ นายไม่ใช่เขาหรอก นายจริงใจกว่าเขาเยอะ”
เฟิงเย่ว์ “?”
“ไปกินข้าวก่อน” อิ๋งจื่อจินดูเวลา “ถึงจะมีแรงลงแข่งตอนบ่าย”
เถิงอวิ้นเมิ่งพยักหน้า ประคองนักเรียนหญิงคนนั้นยืนขึ้น
ชั้นใต้ดินของสนามแข่งเป็นร้านอาหาร
พอพวกเขาเข้าไปก็ได้ยินเสียงชู่ว
เป็นผู้เข้าแข่งขันจากโรงเรียนเอลาน
ไอริน่านั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขา ริมฝีปากแสยะยิ้ม
เธอมองอิ๋งจื่อจินแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เมื่อวานฉันลืมพูดกับเธอไป ฉันหวังว่าพวกเราจะได้เจอกันในการแข่งเดี่ยว จะได้แข่งให้รู้กันไปเลย แต่น่าเสียดายที่เธอจับได้แข่งทีม”
ไม่อย่างนั้นเธอคงได้บดขยี้ศักดิ์ศรีของอิ๋งจื่อจินให้เละจมดินไปแล้ว
อิ๋งจื่อจินหยุดเดิน หันหน้ามา สายตาเย็นชาดุจหิมะ “ก่อนหน้านี้ฉันคงจะพูด แต่ตอนนี้…”
“เธอไม่คู่ควร”
ไอริน่าสีหน้าเปลี่ยน น้ำเสียงก็เปลี่ยนไป “ฉันไม่คู่ควรงั้นเหรอ”
มือข้างหนึ่งของอิ๋งจื่อจินล้วงกระเป๋า “เจอกันนัดสุดท้าย”
ไอริน่าอึ้ง ขมวดคิ้ว “เธอว่าไงนะ”
อิ๋งจื่อจินไม่สนใจอีก เดินไปที่ช่องหยิบอาหาร
“ไอริน่า ไม่ต้องไปสนใจหรอก” นักเรียนชายที่อยู่ข้างๆ ยิ้มประชด พูดอย่างไม่แคร์ “แข่งเดี่ยวกับแข่งทีมเลือกลงได้แค่อย่างเดียว เธอก็แค่พูดอวดดีไปงั้น”
ไอริน่าเม้มริมฝีปาก
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอสังหรณ์ใจไม่ดีชอบกล แต่ก็บอกไม่ถูก
เธอเองก็ขี้เกียจจะสนใจอิ๋งจื่อจิน เดินออกจากร้านอาหาร
…
หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จอิ๋งจื่อจินก็แยกกับพวกเถิงอวิ้นเมิ่ง
เธอดูแผนที่ จากนั้นก็ไปห้องทำงานของคณะกรรมการ
ในนั้นมีหัวหน้าคณะกรรมการกับเจ้าหน้าที่หลายคน
“นักเรียนอิ๋งจื่อจิน” หัวหน้ายืนขึ้น พูดด้วยความกระตือรือร้น “มีเรื่องอะไรเหรอ”
การแข่งทีมเป็นการแข่งขันที่ต้องร่วมมือกัน จึงเป็นการยากที่จะแสดงความสามารถโดดเด่น
แต่กลับมีอิ๋งจื่อจินที่แตกต่างไปจากคนอื่น
แค่ลงแข่งก็โด่งดัง
ตอนนี้บรรดาคณะกรรมการทุกคนไม่มีใครไม่รู้จักเธอ
อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “อาจารย์คะ หนูมาถามดูค่ะว่า ตอนนั้นที่พวกอาจารย์เคยบอกยังคงเหมือนเดิมไหมคะ”
หัวหน้าอึ้งไปเล็กน้อย “เธอหมายถึงอะไรเหรอ”
อิ๋งจื่อจินยื่นโทรศัพท์มือถือไปตรงหน้าเขา
หัวหน้ารับมา แววตานิ่งไปชั่วขณะ
เขาตะลึงมาก แทบพูดไม่ออก “นักเรียนอิ๋งจื่อจิน เธอ…”
บนหน้าจอโทรศัพท์เป็นชื่อผู้ใช้งานกับคะแนนทำโจทย์ของอิ๋งจื่อจิน
ถึงแม้การแข่งขันแบบออนไลน์ของไอเอสซีจะจบลงไปแล้ว แต่แอปฯ ทำโจทย์กับแอ๊กเคานท์ใช้งานยังคงถูกเก็บไว้
“หนูเองค่ะ” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “สรุปว่า ยังเหมือนเดิมไหมคะ”
“เหมือนสิ ตามนั้นเลย” หัวหน้าตื่นเต้นใบหน้าแดงก่ำ “เธอมาร่วมแข่งขันก็ถือเป็นเกียรติของไอเอสซี”
อันดับหนึ่งชาร์ตรวม!
ในที่สุดพวกเขาก็เชิญมาได้แล้ว!
ไม่สิ ควรพูดว่าเดิมทีอันดับหนึ่งของชาร์ตรวมก็อยู่ในสนามแข่งอยู่แล้ว
นี่มันเรื่องแฟนตาซีอะไรกัน
“ถ้าอย่างนั้นควรถือว่าหนูมีสองสิทธิ์นะคะ” อิ๋งจื่อจินพูด “หนูขอจับฉลากอีกครั้งก็ได้หรือเปล่าคะ”
“ได้สิ” หัวหน้าพยักหน้า “แต่ตอนนั้นที่รับปากเธอไว้คือให้แข่งแบบหนึ่งต่อหนึ่ง เธอไปแข่งรอบสุดท้ายได้เลยนะ”
อิ๋งจื่อจินเก็บโทรศัพท์มือถือ “งั้นก็ได้ค่ะ หนูจะแข่งรอบตัดสินของการแข่งเดี่ยว”
“ได้ๆๆ” หัวหน้าเดินออกไปส่งอิ๋งจื่อจิน “เดี๋ยวพวกเราจัดให้ พวกเราจะจัดการให้นะ”
…
มีคนจากทั่วทุกมุมโลกจำนวนไม่น้อยที่รับชมการถ่ายทอดสด แน่นอนว่าก็ไม่ใช่ทั้งหมด อย่างไรเสียขนาดการแข่งโอลิมปิกยังใช่ว่าทุกคนจะดู
อิ๋งเย่ว์เซวียนเริ่มดูในวันที่สาม
จนถึงตอนนี้มีผู้เข้าแข่งขันจากประเทศจีนแข่งกับไอริน่าไปแล้วทั้งหมดสี่สิบเจ็ดคน
ซึ่งก็ถูกกดคะแนนไว้โดยไม่มีใครรอดสักคน
อิ๋งเย่ว์เซวียนแอบแสยะยิ้มในใจ
เธอยอมรับในความสามารถของอิ๋งจื่อจิน ไม่มีใครในวัยเดียวกันที่เทียบได้
แต่ตอนนี้เป็นแบบนี้แล้ว บางคนไม่ได้มองว่าอิ๋งจื่อจินเก่งขนาดไหน พวกเขาสนใจแค่ผลลัพธ์
หรือแม้กระทั่งต่อให้พวกเขารู้ว่าเป็นเพราะไอริน่า บรรดาผู้เข้าแข่งขันจากประเทศจีนถึงได้ถูกกดคะแนนไว้ แต่พวกเขาก็จะยังคงโทษว่าเป็นความรับผิดชอบของอิ๋งจื่อจินอยู่ดี
มีแต่จะโทษอิ๋งจื่อจินว่าทำให้ประเทศจีนคว้าอันดับสูงๆ ไม่ได้
เหมือนกับการแข่งขันกีฬา คนเหล่านี้ไม่มีทางจดจำว่านักกีฬาเคยทำลายสถิติโลกมาก่อน
มีแต่จะจำเรื่องอย่างนักกีฬาบาดเจ็บจนต้องถอนตัวออกจากการแข่งขัน พลาดคว้าแชมป์ ผลงานรั้งท้าย
อิ๋งเย่ว์เซวียนก้มหน้า มุมปากมีรอยยิ้มเย้ยหยัน
เธอแค่รอดูตอนประเทศจีนรั้งท้ายในการแข่งรอบชิงชนะเลิศไอเอสซี พออิ๋งจื่อจินกลับประเทศก็จะถูกชาวเน็ตด่าจนไม่เหลือสภาพ
เธอไม่มีความสุข อิ๋งจื่อจินก็อย่าได้คิดจะเสวยสุข
อิ๋งเย่ว์เซวียนดื่มน้ำ ดูถ่ายทอดสดต่อ
เวลานี้เป็นการแข่งสนามสุดท้ายของการแข่งเดี่ยวแล้ว
ก่อนหน้านี้หลายรอบเถิงอวิ้นเมิ่งไม่เคยเจอไอริน่า พึ่งพาความสามารถของตัวเองจนเข้ารอบตัดสินในขั้นท้าย
ไอริน่าไม่เห็นเถิงอวิ้นเมิ่งอยู่ในสายตา ยังคงตอบโจทย์เสร็จภายในห้านาที
บนหน้าจอใหญ่แสดงผลคะแนนของทั้งสองคน
ยี่สิบต่อเก้า
ยังคงเป็นการทิ้งห่างที่กินขาด
ถึงแม้ผลลัพธ์นี้จะอยู่ในความคาดหมายของเถิงอวิ้นเมิ่ง แต่ก็ยังคงรู้สึกแย่อยู่ดี
[เถิงอวิ้นเมิ่ง เธอเก่งมากแล้ว สู้ๆ เชื่อมั่นในตัวเองนะ!]
[พวกเราไม่เทียบกับคนไร้มารยาท ถึงจะชนะการแข่ง แต่แพ้เรื่องนิสัย]
[หึๆ อย่าพยายามหาข้ออ้างปลอบตัวเองเลย ไอริน่าเก่งที่สุด]
“จื่อจิน” เถิงอวิ้นเมิ่งเดินลงมา ขอบตาเริ่มแดง “ขอโทษนะ”
การแข่งทีมทำคะแนนได้สูงเพราะอิ๋งจื่อจิน ส่วนทางด้านแข่งเดี่ยวถูกไอริน่ากดคะแนนไว้หมด
ผลคะแนนรวมยังไม่ออก แต่ก็แน่ใจได้ว่าเกรงว่าประเทศจีนจะไม่ติดสิบอันดับแรกด้วยซ้ำ
“ไม่เป็นไร” อิ๋งจื่อจินจับบ่าเถิงอวิ้นเมิ่ง “ยังไม่ถึงวินาทีสุดท้าย อย่าเพิ่งพูดแบบนี้”
พูดจบเธอก็ยืนขึ้น เอาป้ายชื่อตัวเองติดตรงหน้าอกแล้วเดินขึ้นเวที
เถิงอวิ้นเมิ่งอึ้ง “จื่อจิน?”
การแข่งเดี่ยวจบลงแล้วยังจะขึ้นไปทำไม
“เทพอิ๋ง!” เฟิงเย่ว์ร้อนใจ “เทพอิ๋ง ใจเย็นๆ อย่าขึ้นไปต่อยคน พวกเราเอากระสอบไปคลุมหัวลากมาตีทีหลังได้”
อิ๋งจื่อจินไม่ได้หันหน้าไป เธอเดินขึ้นบันไดกลางเวทีไปแล้ว
ในเวลาเดียวกันพิธีกรได้เอาไมโครโฟนขึ้นมาพูดด้วยความตื่นเต้น
“ทุกท่านครับ การแข่งขันยังไม่จบ อย่าเพิ่งลุกไปไหนนะครับ อย่าเพิ่งออกไป นี่เป็นการแข่งขันรอบสุดท้าย รับรองว่ามันกว่าที่ทุกท่านจินตนาการแน่นอนครับ!”
พอได้ยินแบบนี้บรรดาผู้ชมกับผู้เข้าแข่งขันต่างก็ตกใจ รวมถึงเหล่าศาสตราจารย์ที่นั่งอยู่ในโซนของตัวเองด้วย
เวลานี้เอง อิ๋งจื่อจินได้เดินขึ้นไปหยุดตรงหน้าเครื่องสำหรับตอบคำถามแล้ว
บนหน้าจอถ่ายทอดสดแทบระเบิด
แน่นอนว่าเป็นหน้าจอของชาวเน็ตประเทศอื่น
[อิ๋งจื่อจินมีสิทธิ์อะไรมาลงแข่งแบบเดี่ยวด้วย]
[ไม่ยุติธรรม!]
[ขี้โกงๆๆ!]
ผู้ชมที่อยู่ในสนามแข่งต่างก็ตะลึง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แววตาของไอริน่าขรึมลง
“ผู้ที่ติดตามการแข่งขันของเราจะต้องทราบแน่ครับว่าพวกเรามีอันดับหนึ่งของชาร์ตรวม!” พิธีกรหน้าแดงด้วยความตื่นเต้น “วันนี้พวกเราเชิญเธอมาลงสนามได้แล้ว และจะทำการแข่งขันรอบตัดสินแบบหนึ่งต่อหนึ่งครับ!”
[ขำเป็นบ้า อย่าบอกนะว่าอิ๋งจื่อจินก็คืออันดับหนึ่งของชาร์ตรวม มีผู้เข้าแข่งขันที่ได้โควตาเข้ารอบชิงชนะเลิศคนไหนบ้างยังจะมีอารมณ์ไปลงแข่งรอบคัดเลือกอีก บ้าเหรอ]
[ถ้าอิ๋งจื่อจินเป็นอันดับหนึ่งของชาร์ตรวม ฉันจะไปกระโดดตึกเลยเอ้า]
[คณะกรรมการแอบช่วยประเทศจีนชัดๆ จึ๊ๆๆ]
ผู้ชมด้านล่างตะโกนด้วยความโมโห
“ทุกท่านใจเย็นๆ ก่อนนะครับ” พิธีกรเร่งเสียง “เหนือความคาดหมายของพวกเราเช่นกัน แท้จริงแล้วอันดับหนึ่งของชาร์ตรวมทั่วโลกก็คือผู้เข้าแข่งขันที่ได้โควตาผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ตามกติกาการแข่งขันทำให้เธอยังมีอีกหนึ่งสิทธิ์ครับ”
“เชิญทุกท่านมองที่หน้าจอครับ”
ผลคะแนนที่อยู่บนหน้าจอใหญ่หายไป กลายเป็นโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าอิ๋งจื่อจิน
บนโต๊ะมีโทรศัพท์มือถือของเธอ บนหน้าจอเป็นแอปฯ ทำโจทย์ของไอเอสซี แสดงชื่อบัญชีผู้ใช้งานและคะแนนของเธออย่างชัดเจน
จากนั้นอิ๋งจื่อจินก็เปิดแอปฯ ฉลามไลฟ์สดแล้วล็อกอินแอ๊กเคานท์ของตัวเองต่อหน้าทุกคน
ช็อกโกแลตมูส
เป็นไอดีที่ธรรมดามาก แต่บรรดาชาวเน็ตของประเทศจีนต่างรู้จัก
แอ๊กเคานท์ไลฟ์สดของอันดับหนึ่งชาร์ตรวมทั่วโลก!
“…”
เกิดความเงียบขึ้นในสนามแข่ง บนหน้าถ่ายทอดสดของแต่ละประเทศก็โล่งในชั่วขณะ
ไอริน่ากำมือแน่น เธอเงยหน้าทันที พูดเสียงลอดไรฟัน “เธอ คืออันดับหนึ่งของชาร์ตรวมทั่วโลกเหรอ!”
มิน่าเมื่อวานซืนอิ๋งจื่อจินถึงพูดกับเธอว่าเจอกันนัดสุดท้าย
คนอื่นไม่รู้ แต่เธอเข้าใจ
มีแค่อันดับหนึ่งของชาร์ตรวมเท่านั้นที่สามารถทำให้เธอกลัวได้ แถมยังส่งผลมากด้วย
ด้วยเหตุนี้หลังจากที่ไอริน่าใช้คำพูดรุนแรงแบบนั้นออกไป เธอเองก็นึกเสียใจภายหลัง
แต่พอรู้ว่าอันดับหนึ่งของชาร์ตรวมไม่มา อันที่จริงเธอก็โล่งอก
อิ๋งจื่อจินเงยหน้า สีหน้าเรียบเฉย แววตาหนักแน่น
เธอมองผู้ชมจำนวนมากในสนามแข่ง มองกล้องถ่ายทอดสดของแต่ละประเทศ
จากนั้นก็ยื่นมือออกมาจับป้ายชื่อตรงหน้าอกแล้วแนะนำตัวอีกครั้ง
“อิ๋งจื่อจินจากประเทศจีน”
สู้เพื่อประเทศจีน!