คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 423 งานประชุมรายงานโปรเจ็กต์

ตอนที่ 423 งานประชุมรายงานโปรเจ็กต์

ถึงแม้อิ๋งจื่อจินจะไม่ไปงานประชุมรายงานโปรเจ็กต์ แต่ก็ติดตาม อ่านคอมเมนต์ของชาวเน็ตต่างประเทศ

เธอเลิกคิ้ว

บังเอิญจริงที่สองยักษ์ใหญ่นั่นมากันหมด

เธอพบว่าสมัยนี้มีนักทำนายเยอะทีเดียว

อิ๋งจื่อจินพิงเตียง สีหน้าเรื่อยเปื่อย ล็อกอินเข้าเว็บบอร์ดเอ็นโอเคในคอมพิวเตอร์

พอเข้าไปก็มีข้อความเด้งขึ้นมา

[รักแค่เงิน : !!!]

[รักแค่เงิน : บอส ผมถูกรังแก]

[เทพพยากรณ์ : วันๆ ไม่ได้ออกไปไหนยังจะถูกใครรังแกได้]

[รักแค่เงิน : มีเครือบริษัทชื่อวีนัสกรุ๊ป ช่างเถอะ มันจะชื่ออะไรก็ไม่สำคัญ ยังไงซะบอสก็ไม่มีทางสนใจเรื่องพวกนี้ เอาเป็นว่าพวกเขาลงทุนในโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาลที่บอสพูดถึงสองแสนล้าน]

[รักแค่เงิน : ผมลงไปแค่หนึ่งแสนล้าน แบบนี้ไม่เรียกรังแกผมเหรอ เขาจะแข่งรวยกับผมใช่ไหม]

[รักแค่เงิน : บอส นี่เป็นการท้าทายบอสเหมือนกัน ของในคลังสมบัติของผมก็มีส่วนของบอสเหมือนกัน]

[เทพพยากรณ์ : …]

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองทางประตู

เวลานี้เวินเฟิงเหมียนนอนไปแล้ว แต่ไม่ได้ตัดไฟ

เพราะตอนนี้ซีอีโอวีนัสกรุ๊ปที่รังแกซีซาร์ ลอเรนท์กำลังนั่งอยู่ที่โซฟา

เธอก็เลยได้ใช้ไฟนานหน่อย

มีเสียง “ติ๊ดๆ” ดังมาจากคอมพิวเตอร์อีกครั้ง

[รักแค่เงิน : แบบนี้ผมจะทนได้เหรอ มันหยามกันชัดๆ!]

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว ขณะที่กำลังจะตอบก็มีอีกข้อความเข้ามา

[รักแค่เงิน : ผมทนได้ ผมยังอยากนอนอยู่บนกองเงินกองทอง ผมไม่ถือสาหาความไอ้จอมล้างผลาญวีนัสกรุ๊ปหรอก ผมยังจะหัวเราะเยาะพวกเขาด้วย เปลืองเงิน!]

อิ๋งจื่อจิน “…”

ยังคงเป็นเด็กเพี้ยนคนเดิมสินะ

เวลานี้มีเสียงเคาะประตูเบาๆ

ฟู่อวิ๋นเซินพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เยาเยานอนหรือยัง”

อิ๋งจื่อจินไม่อยากขยับ แค่ตอบกลับ “ยังไม่นอน เข้ามาสิ”

ฟู่อวิ๋นเซินจับลูกบิดแล้วเปิดประตูเดินเข้ามา

อิ๋งจื่อจินอยู่ในชุดนอนกระโปรงสีขาว นั่งนิ่งอยู่บนเตียง

แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ตกกระทบลงบนขาที่ขาวนวลของเธอ คล้ายมีม่านบางหนึ่งชั้น

เย้ายวนสะกดใจ

สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินเรียบเฉย หยิบผ้าขนหนูไปคลุมให้เธอ

จากนั้นก็นั่งลงข้างเธอ เลิกคิ้วพลางพูด “เตรียมจะพาพี่ชายไปเจอผู้ปกครองอย่างเป็นทางการเมื่อไร”

“วันนี้คุณแสดงออกขนาดนั้น พ่อกับคุณตามองออกหมดแล้ว” อิ๋งจื่อจินหาว คิดไม่เหมือนเขา “ยังจะกังวลอะไร”

ผู้เฒ่าจงกับเวินเฟิงเหมียนต่างก็รู้เรื่องที่ฟู่อวิ๋นเซินช่วยเธอออกมา

ถึงแม้ปากของผู้เฒ่าจงจะบอกว่าถูกหมูคาบผักกาดขาวไปกินแล้ว แต่ในความเป็นจริงก็พอใจฟู่อวิ๋นเซินมาก

ฟู่อวิ๋นเซินเงียบไปชั่วขณะ ยิ้มเล็กน้อย “กังวลว่าจะดีกับเธอไม่พอ เกิดวันไหนหนีไปจะทำยังไง เดี๋ยวพี่ชายจะเหลือตัวคนเดียวอีก”

แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยรู้สึกปลอดภัยเลย ทั้งยังต้องคอยระแวง

เขาเองก็คิดมาตลอดว่าตัวเองไม่ดี คนใกล้ชิดถึงได้จากไปทีละคน

ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้ไปดูดวง เพื่อดูว่าตัวเองเป็นกาลกิณีหรือเปล่า

“ฉันเพิ่งมีความรักครั้งแรก และก็เพิ่งมีแฟนคนแรก” อิ๋งจื่อจินเงยหน้า พูดด้วยเสียงเรียบเฉย “แต่ฉันจะเรียนรู้ว่าการเป็นแฟนที่ดีต้องทำยังไง พวกเราเรียนรู้ไปด้วยกันได้”

“คุณไม่ต้องกังวล ชีวิตนี้ของฉันจะไม่มีใครอีกนอกจากคุณ”

พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่ราวกับเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่กระทบแก้วหูของผู้ฟัง

แววตาของฟู่อวิ๋นเซินวูบไหว ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มออกมา กุมมือเธอไว้ “เธอทำให้พี่ชายหัวใจเต้นแรง อยากจับดูไหม”

คราวนี้อิ๋งจื่อจินไม่ขัดขืน ปล่อยให้เขาจับมือเธอไปวาง

ฟู่อวิ๋นเซินอกกว้าง อบอุ่นและแข็งแรง

จับเสร็จเธอก็หาวออกมา วิจารณ์ด้วยท่าทางขี้เกียจ “กล้ามแน่นดีนะ”

“หืม?” ฟู่อวิ๋นเซินก็พิงเตียง กลับมามีท่าทางเหมือนคุณชายเสเพล

“ปั้นมาให้เธอโดยเฉพาะ มีกล้ามท้องด้วย เชิญจับได้ตลอดเวลา”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา จากนั้นก็ถีบไปหนึ่งที “ได้คืบเอาศอก”

“เอาล่ะ เข้าเรื่อง ช่วงนี้เหตุการณ์ไม่ค่อยสงบ พี่ชายจะส่งเธอไปพักในโลกจอมยุทธระยะหนึ่ง” ฟู่อวิ๋นเซินลูบหัวเธอ เอาหน้าผากเข้าไปแนบชิด พูดเสียงเบา

“พี่ชายติดต่อตระกูลเยี่ยไว้แล้ว พวกเขาจะดูแลเธอให้ อวิ๋นซานก็จะติดตามเธอไปด้วย ส่วนพี่ชาย มีธุระต้องออกไปจัดการหน่อย”

ถึงแม้โลกจอมยุทธจะระส่ำระสาย ตระกูลน้อยใหญ่แก่งแย่งชิงดีกันอยู่ตลอด

แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้โลกจอมยุทธเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว

ต่อให้เป็นพวกคนที่มีสัญลักษณ์รูปกะโหลกนั่นก็ไม่กล้าไปโลกจอมยุทธแน่นอน

จอมยุทธที่ฝึกมาสองร้อยปีขึ้นไปต่างเก็บตัวเงียบหมด

ไม่มีใครรู้ความสามารถที่แท้จริงของโลกจอมยุทธ

อิ๋งจื่อจินนิ่งไปชั่วขณะ เธอขมวดคิ้ว

“ฉันอยากไปกับ…”

“ชู่ว ไม่ดื้อ เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กยุ่งไม่ได้” ฟู่อวิ๋นเซินหยิกแก้มเธอ

“พี่ชายไม่อยากให้เธอเหนื่อยเกินไป”

อิ๋งจื่อจินพูดอย่างใจเย็น “เหนื่อยเกินไปจะเกิดริ้วรอยเป็นคนแก่”

“…”

“โจมตีเรื่องอายุอีกแล้วนะ” ฟู่อวิ๋นเซินหันมามองด้วยแววตาขึงขัง

“เยาเยา พี่ชายลงโทษเธอสักหน่อยดีไหม”

อิ๋งจื่อจินยังไม่ทันตอบก็ถูกรวบตัวเข้าไปกอด

เขาอยู่ใกล้เธอมากขึ้น

เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขา และริมฝีปากของเขาอย่างชัดเจน

แววตาของอิ๋งจื่อจินวูบไหว

ริมฝีปากของเขาเคลื่อนผ่านริมฝีปากของเธอไปหยุดลงที่หน้าผาก

หัวเราะเบาๆ

“ฝันดีนะแฟน”

วันต่อมา

เวลาแปดโมงเช้าที่ยุโรป

งานประชุมรายงานโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาลเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

สื่อจำนวนมากต่างรีบมาถึงงานประชุม

เกอร์เวนมีสถานะที่สูงมากในวงการวิจัยวิทยาศาสตร์และยุโรป ข่าวล่าสุดที่ได้จากเขามีมูลค่าที่สูงมาก

“มีหลายคนถามผมว่าทำไมถึงเริ่มโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาล” เกอร์เวนดันแว่นตายิ้มเล็กน้อย “เป็นที่ทราบกันดีว่าพวกเราสำรวจจักรวาลกันมาหลายสิบปีแล้วแต่ก็ยังเป็นเพียงเศษเสี้ยวของภูเขาน้ำแข็ง”

“ในจักรวาลจะต้องมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อยู่อีกแน่นอน เครื่องมือวิทยาศาสตร์ก็เคยจับสัญญาณที่อยู่ในอวกาศได้ แต่สิ่งมีชีวิตในอวกาศมีจริงหรือไม่ พวกเราต่างไม่เคยเห็น”

“ผมวิจัยกลศาสตร์ควอนตัมมาตลอด หวังจะช่วยโลกแก้โจทย์ยากนี้ได้ และนี่คือจินตนาการของผมครับ”

บนหน้าจอขนาดใหญ่เป็นไฟล์นำเสนอที่ผู้ช่วยและบรรดานักวิจัยช่วยกันทำ

ในนั้นมีภาพร่างยานอวกาศข้ามจักรวาลที่เกอร์เวนวาดในขั้นต้น รวมถึงชื่อเฉพาะ และความรู้ทางทฤษฎี

แต่พวกสื่อไม่สนใจความรู้ด้านกลศาสตร์ควอนตัมเหล่านี้ ทว่าก็ทำได้เพียงรอคอยอย่างอดทน

หลังจากเกอร์เวนพูดรายงานทั้งหมดจบ ผู้ช่วยก็รับไมโครโฟนมา

“ถ้าทุกท่านมีคำถามอะไรเชิญถามตอนนี้ได้เลยครับ”

บรรดาสื่อที่ฟังรายงานจวนจะหลับเต็มทีในที่สุดสมองก็ตื่นตัว พากันยื่นไมโครโฟนเข้าไปแล้วเริ่มยิงคำถามใส่

“ศาสตราจารย์เกอร์เวนครับ อะไรทำให้คุณมีความกล้าริเริ่มโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาลครับ คุณคิดว่าระดับสติปัญญาของคุณถึงขั้นที่บุกเบิกจักรวาลได้แล้วเหรอครับ”

“ศาสตราจารย์เกอร์เวนคะ ไม่ทราบว่าได้อ่านคอมเมนต์ในโซเชียลบ้างไหมคะ หลายคนบอกว่าคุณกำลังฝันกลางวัน ยอมรับไหมคะ”

“ศาสตราจารย์เกอร์เวนครับ ผมต้องขอถามเลยครับว่า คุณไม่มีเงินทุน แถมโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาลยังต้องใช้เงินทุนมหาศาล คุณยังจะหานักลงทุนที่ร่ำรวยกว่าตระกูลแพชช์ได้อีกเหรอครับ”

แต่ละคำถามหนักๆ ทั้งนั้น

คำถามเหล่านี้ของพวกสื่อก็แค่เพื่อดึงดูดความสนใจ ไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของเกอร์เวน

แต่เกอร์เวนไม่ได้โกรธ กลับดูใจเย็นมาก

เขาดันแว่นตาอีกครั้ง ถอยหลังหนึ่งก้าว เอามือไพล่หลังทำเสียงหึเบาๆ

เดี๋ยวคอยดูว่าใครกันแน่ที่เป็นคนโง่

“ผมดีใจมากครับที่ทุกคนติดตามโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาลขนาดนี้” คนที่รับหน้าที่ตอบคำถามคือผู้ช่วย ท่าทางจริงจัง

“หลังจากที่ตระกูลแพชช์ถอนเงินลงทุนไป ทางห้องทดลองก็ประสบภาวะที่อาจต้องปิดตัวลง”

“ผมกับศาสตราจารย์ก็ลำบากใจมาก ไม่รู้ทำอย่างไรโปรเจ็กต์นี้ถึงจะดำเนินต่อไปได้”

“แต่ก็ได้นักวิจัยคนหนึ่งในห้องทดลองของเราช่วยไว้ เธอดึงนักลงทุนสองรายใหญ่มาให้พวกเราครับ” ผู้ช่วยกดปุ่มให้ฉากด้านหลังเลื่อนลงมา

“ทุกท่านดูบนหน้าจอนี้นะครับ นี่คือเงินสนับสนุนทั้งหมดที่พวกเราได้รับ”

“พวกเราขอรับรองว่าจะไม่มีทางสูญเปล่าแม้แต่นิดเดียว พอถึงเวลาพวกเราจะเปิดเผยการใช้เงินให้สังคมได้รับรู้ ช่วยกันตรวจสอบได้ครับ”

“เมื่อโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาลสำเร็จก็จะสร้างความสุขให้กับสังคม”

ชายวัยกลางคนย่อมได้ยินคำพูดพวกนี้ แต่เขาก็แค่แสยะยิ้ม

เกอร์เวนยังจะดึงนักลงทุนรายใหญ่จากไหนได้

เหลวไหลสิ้นดี

มีใครกล้าเสี่ยงล่วงเกินตระกูลแพชช์ไปลงทุนให้ด้วยเหรอ

แค่เขาพูดคำเดียวก็ไม่มีตระกูลไหนหรือเครือบริษัทในยุโรปลงทุนให้โปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาลแล้ว

คิดว่าตระกูลลอเรนท์จะมาเหรอ

ชายวัยกลางคนหมดความสนใจจะดูต่อ “ไปเถอะ”

คนดูแลกลับไม่ขยับ เขาเบิกตาโพลง จ้องตัวเลขสองบรรทัดที่อยู่บนหน้าจอ พูดเสียงหลง

“นายท่าน ดูนั่นสิครับ มัน มัน…”

ชายวัยกลางคนหยุดเดิน มองไปด้วยความหงุดหงิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset