ตอนที่ 432 อิ๋งจื่อจิน ‘ดีมาก’
ด้านล่างยังได้แนบรูปอีกหลายรูป
เป็นภาพห้องส่วนตัวภายในโรงแรมเหม่ยเล่อ ในนั้นมีชายวัยกลางคนหลายคน สภาพบนพื้นเละเทะ
นอกจากนี้ยังมีลำดับเวลาการเกิดเหตุการณ์
รวมถึงภาพแคปหน้าจอการสนทนาในวีแชทระหว่างถงอวี่เฟยกับผู้จัดการส่วนตัว
เพียงชั่วพริบตายอดแชร์กับยอดคอมเมนต์ก็ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว
ชั่วขณะนั้นชาวเน็ตรู้สึกเหลือเชื่อ
[???]
[โอ้โห ข่าวใหญ่เลยนะ]
[ชูกวงมีเดียน่าขยะแขยงขนาดนี้เลยเหรอ ซีอีโอกับพวกผู้บริหารระดับสูงรังแกดาราหญิงเหรอ หน้าด้าน!]
[ทุกคนใจเย็นก่อน ฉันว่าชูกวงมีเดียไม่ใช่บริษัทแบบนั้น ชูกวงมีเดียยุติธรรมมาตลอด ปกป้องดารา เรื่องนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่นอน ไม่แน่เดี๋ยวอาจมีคดีพลิก]
[หลักฐานอยู่ตรงหน้า ยังจะมีพลิกอะไรอีก อวี่เฟยเป็นดาราในสังกัดชูกวงมีเดีย ชูกวงมีเดียดีกับเธอมาก ถ้าไม่ได้เกิดเรื่องที่น่าขยะแขยงแบบนี้เธอจะออกมาพูดเหรอ]
[ชูกวงมีเดียดิ้นไม่หลุดแน่!]
[ชื่อเสียงสำคัญสำหรับผู้หญิงแค่ไหนทุกคนรู้หรือเปล่า ใครจะเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่น!]
[เดิมทีคิดว่าชูกวงมีเดียเป็นบริษัทใสสะอาดในวงการบันเทิง นึกไม่ถึงว่าจะเหมือนซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ เก่งแต่ดูดเลือด หึๆ พวกนายทุนหน้าเลือด]
ภายใต้การผลักดันอย่างเต็มกำลังของเทียนสิงมีเดีย โพสต์นี้ของถงอวี่เฟยจึงติดอันดับหนึ่งในคำค้นยอดนิยมทันที
ทั้งยังดังระเบิด
แน่นอนว่าไม่ใช่ชาวเน็ตทั้งหมดที่จะบ้าตามกระแส มีชาวเน็ตบางคนตั้งใจสืบจากลำดับเหตุการณ์
แต่สุดท้ายก็พบว่าลำดับเวลาไม่มีอะไรผิด
ผ่านไปสองชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นชูกวงมีเดียหรือผู้จัดการส่วนตัวของถงอวี่เฟยต่างไม่มีใครออกมาพูด
เรื่องระดับนี้ ถ้าเป็นข่าวเท็จก็ควรออกมากันแล้ว
คราวนี้ชาวเน็ตยิ่งเชื่อกันเข้าไปใหญ่
นี่ก็คือหนึ่งในแผนของเทียนสิงมีเดีย
สาเหตุที่ลั่วเหวินปินเลือกถงอวี่เฟยเป็นเพราะชื่อเสียงของเธอใช้ได้ ไม่เคยมีข่าวฉาวอะไร
อีกทั้งผู้หญิงไม่มีทางเอาชื่อเสียงของตัวเองมาล้อเล่น พวกเขาทำแบบนี้เพราะเข้าใจหลักจิตวิทยาของชาวเน็ต
คนเรามักจะเข้าข้างฝ่ายที่อ่อนแอเสมอ
บันทึกการสนทนาระหว่างถงอวี่เฟยกับผู้จัดการส่วนตัวเป็นของจริง เธอไปที่โรงแรมเหม่ยเล่อก็เป็นเรื่องจริงเหมือนกัน
เพียงแต่ลั่วเหวินปินรู้มาก่อนว่า นอกจากฝ่ายผู้จัดละครแล้ว พวกผู้บริหารระดับสูงของชูกวงมีเดียก็ยังคุยเรื่องสำคัญอยู่อีกห้องหนึ่ง
ในนั้นมีซีอีโอคนใหม่ที่พวกเขาสืบมาได้
ลั่วเหวินปินจึงให้ถงอวี่เฟยจงใจเข้าไปในห้องนั้น
ไม่ว่าอย่างไรถงอวี่เฟยก็เป็นดาราแถวหน้าของวงการแล้ว พวกผู้บริหารระดับสูงของชูกวงมีเดียย่อมรู้จักเธอ อีกทั้งพอได้ยินว่าเธอเข้าผิดห้องก็ไม่ได้ถือสา แค่ให้เธอออกไป
ถงอวี่เฟยวางยาหลอนประสาทให้พวกเขากินในเวลานี้ จากนั้นก็จัดการถ่ายภาพตัวเอง
ด้วยเหตุนี้รูปถ่ายก็เป็นของจริงเช่นกัน
ลั่วเหวินปินรู้ว่าต่อให้มีคนไปสืบก็ไม่มีทางสืบเจออะไร
ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ยาหลอนประสาทที่อยู่ในร่างกายก็ถูกขับออกหมดแล้ว
เขายังได้ให้คนไปลบภาพจากกล้องวงจรปิดทิ้ง เป็นโปรแกรมเมอร์ของทางไทม์มีเดีย และยังเป็นหนึ่งในแฮกเกอร์ชั้นยอดของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนาม
ต่อให้ชูกวงมีเดียจะเก่งสักแค่ไหนก็ไม่มีทางสู้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างไทม์มีเดียได้ ย่อมล้าหลังในเรื่องเทคโนโลยีกว่า
แฮกเกอร์ชั้นยอดของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามใช่ว่าใครก็จ้างได้ง่ายๆ
ชูกวงมีเดียไม่มีทางเชิญแฮกเกอร์ที่เก่งกว่ามาได้แน่
ไม่มีทางมีคนสืบเจอ
เว้นเสียแต่จะทำนายล่วงหน้าได้ รู้หมดทุกอย่าง
แต่จะเป็นไปได้อย่างไร
ขนาดพวกหมอดูที่อยู่สมาคมโหราศาสตร์ก็ยังไม่เก่งถึงขั้นนั้น
นี่เพิ่งเป็นขั้นแรก ยังมีแผนที่โหดกว่านี้รออยู่อีก
ชูกวงมีเดียค่อยๆ รอไปเถอะ
ลั่วเหวินปินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน มองคอมพิวเตอร์พลางดื่มชาอย่างใจเย็น
…
วันต่อมา
เวลาเช้าตรู่
ชาวเน็ตยังไม่ได้สติกลับมาจากโพสต์เวยปั๋วของถงอวี่เฟยก็มาตะลึงเพราะอีกโพสต์หนึ่ง
โพสต์นี้เป็นของเทียนสิงมีเดีย
แอทเทียนสิงมีเดีย : [พวกเราขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณถง ชูกวงมีเดียข่มบริษัทบันเทิงบริษัทอื่นๆ มาตลอด พวกเราก็จนปัญญาจะต่อกรกับชูกวงมีเดีย แต่คุณถงได้มอบความกล้าหาญให้พวกเรา พวกเราก็จะขอพูดเรื่องหนึ่ง
ละครเรื่องลำนำใต้หล้าของ แอทชูกวงมีเดีย ในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นแกนหลักของเรื่อง ตัวละคร หรือแม้กระทั่งซีนใหญ่ๆ แทบจะเหมือนกับบทละครที่พวกเราซื้อมา
ละครเรื่องนี้ก็ดัดแปลงมาจากนวนิยายเหมือนกัน ชื่อเรื่อง โฉมงามคีรีธาร
พวกเราตั้งใจไปสืบมา วันตีพิมพ์เรื่องโฉมงามคีรีธารเร็วกว่าลำนำใต้หล้า
เรียนถาม แอทชูกวงมีเดีย ก่อนพวกคุณจะถ่ายละครไม่สืบหน่อยเหรอครับว่ามีการคัดลอกงานประพันธ์เรื่องไหนหรือเปล่า]
เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ระลอกใหม่อีกครั้ง
[ไปสืบมาแล้ว เนื้อหาเรื่องโฉมงามคีรีธารโดยรวมเหมือนลำนำใต้หล้าจริงๆ เหมือนเอาจีนไปแปลจีนอีกรอบ]
[ตอนลำนำใต้หล้าออกตอนแรก โฉมงามคีรีธารก็จบไปแล้ว พวกคนที่บอกว่าโฉมงามคีรีธารไปลอกเขามา แสดงว่าคนแต่งทะลุมิติไปลอกมางั้นเหรอ]
[ละครที่ลอกคนอื่นมาต้องเอาออก! แถมฉันยังดูจบแล้วด้วย จะอ้วก]
[ชูกวงมีเดียถ่ายละครที่คัดลอกบทประพันธ์ ทำให้เทียนสิงมีเดียที่มีลิขสิทธิ์แท้ถ่ายไม่ได้]
[เรื่องถงอวี่เฟยพวกคุณยังพอแถได้ แต่เรื่องลอกผลงานแถไม่ได้แล้วหรือเปล่า]
ในเวลาแค่สองชั่วโมง คะแนนประเมินลำนำใต้หล้าที่ฉายอยู่บนแพลตฟอร์มก็ได้ลดลงจากเก้าจุดสองเหลือหกจุดเก้า ทั้งยังมีแนวโน้มจะลดลงเรื่อยๆ
…
สองเรื่องนี้ลุกลามใหญ่โต อิ๋งจื่อจินก็รู้แล้ว
ตอนเธออยู่ในโลกจอมยุทธ์ก็ไม่ได้พยากรณ์เรื่องของโลกภายนอก
กระแสวิจารณ์รุนแรงมาก เหตุการณ์ไม่สู้ดี
อิ๋งจื่อจินเลื่อนแผนกลับฮู่เฉิง บ่ายสามโมงเธอไปที่สำนักงานใหญ่ชูกวงมีเดีย โดยเข้าทางประตูหลัง
ประตูหน้ามีนักข่าวกับแฟนคลับที่โกรธมากมาออกันอยู่เต็ม เข้าไม่ได้
บรรดาผู้บริหารระดับสูงกำลังประชุมอยู่ในห้องประชุม
พวกเขาหารือกันมาทั้งคืนก็ยังไม่ได้วิธีรับมือ
เลขาสาวขอบตาดำคล้ำ เห็นชัดว่าอดหลับอดนอน ท่าทางดูไม่สดชื่น
อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้วเล็กน้อย
เธอเอามือจับบ่าเลขาสาวแล้วถ่ายทอดกำลังภายในให้อย่างนุ่มนวล
เลขาสาวรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที เธอนวดศีรษะ “บอส”
“ดื่มน้ำหน่อย” อิ๋งจื่อจินพูด “เล่ามาให้ละเอียด”
“บอสคะ คนที่อยู่ในรูปถ่ายเป็นผู้บริหารระดับสูงของพวกเราจริงๆ ค่ะ แต่ฉันเชื่อว่าพวกเขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้” เลขาสาวดื่มน้ำอึกหนึ่ง “เพราะฉันถามพวกเขาแล้ว พวกเขาบอกว่าจำเหตุการณ์ตอนนั้นไม่ได้เลย คิดว่าอาจถูกฝ่ายนั้นวางยาอะไรที่ส่งผลต่อประสาทค่ะ”
“ถงอวี่เฟยน่าจะร่วมมือกับเทียนสิงมีเดีย อยากใช้โอกาสนี้ทำลายพวกเราค่ะ”
“ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะช่วงนั้นบอสสลบอยู่ ประธานกรรมการหลี่มารักษาการแทนบอส เทียนสิงมีเดียก็เลยคิดว่าเขาเป็นบอสค่ะ”
“ส่วนเรื่องคัดลอกบทประพันธ์…” เลขาสาวดื่มน้ำจนหมดถึงเริ่มหายใจคล่อง ยิ้มเศร้า “น่าเสียดายค่ะที่เมื่อเทียบเรื่องเวลาก็คือการคัดลอกจริงๆ”
“ตอนที่เทียนสิงมีเดียมาหาพวกเราเรื่องนี้ พวกเราก็ตรวจสอบแล้ว ถามย้ำกับทางคนเขียนบท เธอก็ยืนยันว่าเธอเขียนเองไม่ได้ลอกใครค่ะ”
คำพูดมีทั้งจริงและเท็จ
แต่รูปถ่ายพวกนั้นกลับเป็นของจริง
พวกเขาไปขอภาพบันทึกจากทางโรงแรมแล้ว ย่อมพบว่าถูกลบทิ้งเรียบร้อย และก็ลองกู้ข้อมูลกลับมา แต่ก็ไม่สำเร็จ
มีรูปเป็นหลักฐาน พูดจนปากฉีกก็ไม่มีใครเชื่อ
แต่บอกว่าซีอีโอของชูกวงมีเดียลวนลามถงอวี่เฟยงั้นเหรอ
เลขาสาวโมโหจนหัวเราะ
ช่วงนั้นอิ๋งจื่อจินไม่อยู่ตี้ตูเสียหน่อย
“ใจเย็นๆ ค่อยๆ แก้ปัญหาไปทีละเรื่อง” อิ๋งจื่อจินหรี่ตา “คนเขียนบทเรื่องลำนำใต้หล้าอยู่ที่ไหน เธอพูดจริง เธอเป็นคนเขียนเองจริงๆ”
“คอนโดของบริษัทค่ะ” เลขาสาวอึ้งก่อน จากนั้นก็ตอบทันที “พอเกิดเรื่องคัดลอกบทละคร แฟนคลับที่อารมณ์ร้อนจำนวนไม่น้อยก็ขุดที่อยู่ของเธอออกมา”
“ฉันกลัวเธอเกิดเรื่องเลยให้เธอย้ายเข้าคอนโดของบริษัททันทีค่ะ รปภ.ของที่นั่นดูแลเข้มงวดกว่าค่ะ”
คนเขียนบทเรื่องลำนำใต้หล้าก็คือนักเขียนที่ประพันธ์เรื่องนี้เอง
แฟนคลับของนวนิยายเรื่องนี้มีเยอะมาก หลังจากที่เกิดเรื่องคัดลอกผลงาน กระแสโจมตีเรื่องนี้ก็เลยยิ่งรุนแรง
อิ๋งจื่อจินพูด “ดีมาก”
เลขาสาวรู้สึกผิดมาก “ขอโทษจริงๆ ค่ะบอส เรื่องแบบนี้ไม่ควรเอามารบกวนบอสเลยจริงๆ ค่ะ”
“ในเมื่อเรียกฉันว่าบอส ฉันก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับบริษัทเหมือนกัน” อิ๋งจื่อจินใจเย็นมาก “อีกฝ่ายเตรียมการมาแล้ว อยู่ในความคาดหมาย ไม่ต้องกลัว นี่เป็นแค่การเกริ่นนำ”
โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้ เสียงข้อความวีแชท
ฟู่อวิ๋นเซินส่งข้อความมาหา
[พี่ชายรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว ขอโทษนะเยาเยา เรื่องนี้พี่ชายก็ต้องรับผิดชอบด้วย ยกบริษัทให้เธอ แต่กลับเป็นการเพิ่มความยุ่งยากให้]
อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว พิมพ์คำพูดของฟู่อวิ๋นเซินก่อนหน้านี้ส่งไป
[แฟนสาวช่วยยังจะพูดขอโทษอีกเหรอ เห็นเป็นคนนอกหรือไงแฟนหนุ่ม]
คราวนี้ทางฟู่อวิ๋นเซินเงียบไปนาน
เท้าของเลขาสาวหยุดชะงัก เธอมองโทรศัพท์มือถือ โกรธจนหน้าแดงก่ำ “บอสคะ เทียนสิงมีเดียยังไปหาคนมาปลอมเป็นบอสด้วยค่ะ!”