คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 450 พวกเธอสองคนหมั้นหมายกันแต่เด็ก

ตอนที่ 450 พวกเธอสองคนหมั้นหมายกันแต่เด็ก

อวิ๋นซานเข้าใจ “คุณชายครับ ตั๋วเครื่องบินของคุณชายกับคุณอิ๋ง รวมถึงคุณลุงเวินก็เป็นช่วงบ่ายเหมือนกัน แต่คนละเวลากับจงมั่นหวา ไม่มีทางเจอกันครับ”

“อืม ฉันจะไปรับเธอ” ฟู่อวิ๋นเซินยืนขึ้น “จับตาดูทางด้านฮู่เฉิงให้ดี”

เมื่อก่อนผู้เฒ่าจงก็อยู่ตี้ตู ตอนนี้อุตส่าห์ได้กลับมาแล้ว จึงไม่อยากไปอีก

คนเราเมื่อชราภาพก็อยากกลับสู่บ้านเกิด กลับสู่มาตุภูมิ

ก็ยังรู้สึกโชคดีที่จงมั่นหวายังมีจิตใจส่วนดีอยู่บ้าง ไม่ได้คิดจะทำอะไรผู้เฒ่าจง

อวิ๋นซานกำมือคารวะอีกครั้งแล้วออกไป

เวลาบ่ายสอง อิ๋งจื่อจินเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผู้เฒ่าจงมาส่งเธอที่บ้านครอบครัวเวิน แอบรู้สึกอาลัยอาวรณ์ “ต่อไปต้องกลับมาเยี่ยมตาบ่อยๆ นะ ทางนี้ก็มีบ้านของหลาน”

อิ๋งจื่อจินยิ้ม “หนูรู้ค่ะคุณตา”

“ปู่จง” ฟู่อวิ๋นเซินที่อยู่ข้างๆ ยืนท่าเอื่อยเฉื่อย มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า “ตรุษจีนปีหน้าพวกเราจะกลับมาครับ”

“ไอ้เด็กบ้า” ผู้เฒ่าจงยกมือข้างหนึ่งตบบ่าฟู่อวิ๋นเซิน ขอบตาแดง “แกกับปู่กินของฉันหมดทุกอย่าง”

คืนขนมเขามาหนึ่งคันรถ แต่กลับแย่งหลานสาวของเขาไป

เป็นการค้าที่คุ้มค่าเหลือเกิน

ฟู่อวิ๋นเซินแค่ยิ้ม ไม่พูดอะไร

“ตอนนี้พวกหลานมีชีวิตที่ดีขนาดนี้ ตาแก่ฟู่ที่อยู่บนสวรรค์ก็วางใจแล้ว” ผู้เฒ่าจงถอนหายใจแล้วถามต่อ “เราสองคนจะหมั้นกันเมื่อไร”

ฟู่อวิ๋นเซินหันไปมองอิ๋งจื่อจิน ดวงตาดอกท้อโค้งมน

อิ๋งจื่อจินเตือนผู้เฒ่าจง “คุณตาคะ หนูเพิ่งจะสิบแปด”

“สิบแปดแล้วยังไง” ผู้เฒ่าจงถลึงตาใส่ “มีตั้งหลายคนที่ถูกจองไว้ตั้งแต่ไม่กี่ขวบ หลานอายุตั้งสิบแปดแล้ว ไปแต่งงานที่เมืองนอกก็ได้ทั้งนั้น”

ทันใดนั้นดูเหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ พูดพึมพำ “ตาลืมไป หลานสองคนหมั้นหมายตั้งแต่เด็กแล้ว บังเอิญจริงๆ”

แววตาของฟู่อวิ๋นเซินวูบไหว รู้สึกเหนือความคาดหมายนิดหน่อย “หมั้นหมายแต่เด็กเหรอครับ”

“ใช่” ผู้เฒ่าจงพึมพำ “ก่อนแกจะเกิด ฉันกับปู่ของแกเคยหารือเรื่องนี้กัน แต่สุดท้ายพวกเราก็ดื่มเหล้ากันจนลืมไปเสียสนิท แล้วนี่อยู่ๆ ฉันก็นึกขึ้นมาได้ สมองฉันนี่มันจริงๆ เลย อะไรที่ควรจำกลับไม่จำ”

พูดถึงเรื่องนี้เป็นเพราะตอนดื่มเหล้าเขากับผู้เฒ่าฟู่ไม่มีอะไรให้พนันกันถึงได้พูดเรื่องจับคู่ให้หลาน

นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายจะเป็นจริง

“เฮ้อ ช่างเถอะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว” ผู้เฒ่าจงส่ายมือ “เอาเป็นว่าพวกหลานรีบหมั้นกันนะ อย่างช้าก็ไม่ควรรอจนจื่อจินเรียนจบมหาวิทยาลัย ไม่อย่างนั้นฉันขอบอกเลยนะไอ้เด็กบ้า มีคนต่อคิวรอแย่งเยอะแยะ”

เขาได้ยินมาว่า คนในทีมฟุตบอลสิบกว่าคนของชิงจื้อมาชอบหลานสาวของเขาหมด

“ครับ ผมรู้” ฟู่อวิ๋นเซินสีหน้าเรื่อยเปื่อย จับมืออิ๋งจื่อจิน “ต้องดูความสมัครใจของเยาเยาด้วย ผมเร่งรัดไม่ได้หรอกครับ”

อิ๋งจื่อจินไม่พูด แต่ก็ไม่ได้ดึงมือออก

ผู้เฒ่าจงดีใจมาก “งั้นแกก็เร่งมือเข้า พอถึงเวลาฉันไปเป็นพยานให้ได้”

ทั้งสามคนขึ้นรถ เวินเฟิงเหมียนนั่งหน้า อวิ๋นซานขับรถ

ทั้งสองคนสายตามองตรง หูก็ไม่มีทางได้ยินในสิ่งที่ไม่ควรได้ยิน

เกิดความเงียบอยู่พักใหญ่ ฟู่อวิ๋นเซินถึงเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น “เดิมทีพี่ชายยังคิดว่า…”

อิ๋งจื่อจินพิงหน้าต่างรถหาวออกมา “ยังคิดว่าอะไร”

“คิดว่าปู่จงจะอัดพี่ชาย นึกไม่ถึงว่าเขาจะเร่งให้แต่งงาน” ฟู่อวิ๋นเซินครุ่นคิด “ดังนั้น เธอคิดว่าไงล่ะ”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา “เพิ่งจะคบกันได้เดือนเดียว ยังไม่พอ”

“คบต่อได้” ฟู่อวิ๋นเซินยิ้มมุมปาก ทันใดนั้นเขาก็ย้ำคำพูดของผู้เฒ่าจง “หมั้นหมายแต่เด็ก”

อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น “หืม?”

ฟู่อวิ๋นเซินแบมือ เอามือของเธอมาวางไว้บนมือตัวเอง “ก็แสดงว่าเธอเป็นของพี่ชายตั้งแต่เด็กแล้ว”

วันต่อมา

ณ เมืองตี้ตู

หลังจากผู้เฒ่าเนี่ยรู้ว่าอิ๋งจื่อจินจะรักษาให้ซิวอวี่ เขาก็ตั้งใจจัดหาสถานที่ในโรงพยาบาลส่วนตัวให้โดยเฉพาะ

“เธอบาดเจ็บมาห้าปีแล้ว” อิ๋งจื่อจินตรวจดูอาการของซิวอวี่ ขมวดคิ้วเล็กน้อย “มีกล้ามเนื้อส่วนหนึ่งลีบ กระดูกก็ยังร้าวอยู่ ตอนนั้นไม่เจ็บเหรอ”

ตอนนั้นเธอมองออกว่าซิวอวี่ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ได้ตรวจดูจึงไม่รู้ว่าอาการหนักแค่ไหน

ซิวอวี่พูดเสียงเบา “ตอนนั้นเป็นไงเป็นกัน คิดแค่ว่าตายก็ช่าง เลยไม่ได้รักษา ฉันเคยกรีดข้อมือ กินยานอนหลับ สภาพจิตใจใกล้ไม่ไหวเต็มที ตอนนั้นไม่รู้สึกเจ็บ”

แผลนี้ที่มือเธอได้มาระหว่างการแข่งรถครั้งหนึ่ง

ตระกูลซิวมีทีมแข่งรถที่จะลงแข่งในรายการระดับโลกเพื่อทำการค้ากับตระกูลใหญ่ระดับโลก

จุดนี้คล้ายตระกูลเนี่ยกับตระกูลมู่

แต่ทีมแข่งรถนี้ไม่อนุญาตให้สมาชิกสายตรงของตระกูลเข้าร่วม ซิวอวี่ก็แค่ไปเล่นเอาสนุกๆ

เธอมีฝีมือในการแข่งรถดีมาก ทั้งยังเคยแข่งชนะหัวหน้าทีม ทุกคนในทีมต่างชมเธอไม่ขาดปาก

แต่ต่อมาเธอก็เกิดอุบัติเหตุขณะแข่งครั้งหนึ่ง

ถึงแม้สุดท้ายจะถูกช่วยออกมาได้ แต่มือก็มีอาการหลงเหลือเรื้อรัง

การใช้ชีวิตปกติไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะไปแข่งขันระดับสูงคงเป็นไปไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงต่อยมวยกับแข่งรถยามว่าง

แน่นอนว่าซิวอวี่กับหลิงเหมียนซีรู้จักกัน เธอจะไปรักษาในโลกจอมยุทธ์ก็ย่อมได้

แพทย์แผนโบราณรักษาได้ถึงแก่นแท้อย่างแท้จริง บาดแผลเล็กน้อยแค่นี้ไม่ใช่เรื่องยาก

เพียงแต่เธอไม่ได้ไป

เพราะในเดือนเดียวกันซิวเซ่าหนิง พ่อของซิวอวี่ก็หายตัวไป

ต่อมาแม่ของเธอก็เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วจากไป

ผ่านไปไม่นานผู้เฒ่าซิวก็รับซิวเหยียนกลับมา ให้แม่ของซิวเหยียนขึ้นนั่งในตำแหน่งนายหญิงตระกูลซิว ทั้งยังตั้งให้น้องชายของซิวเหยียนเป็นผู้สืบทอด

ซิวอวี่ท้อแท้สิ้นหวัง ออกจากบ้านตระกูลซิว และไม่เคยกลับไปอีกเลย

ตอนนั้นเธออายุสิบห้าปี

ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถแบกรับอะไรได้มากขนาดนั้น

“อาเกลี้ยกล่อมให้ฉันกลับไปตลอด บอกว่าตระกูลซิวก็คือความทุ่มเทของคุณพ่อ จะปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือคนนอกไม่ได้” ซิวอวี่มองมือตัวเอง “ตอนนั้นฉันคิดว่าตัวเองไม่มีประโยชน์อะไรเลย และก็เกลียดพ่อโดยที่ไม่รู้ความจริง ก็เลยอยู่ที่ฮู่เฉิงมาตลอด”

“ทำไมจะไม่มีประโยชน์” อิ๋งจื่อจินพูด หยิบเข็มทองขึ้นมาเล่มหนึ่ง “เธอแข่งรถเป็น แถมยังต่อยมวยเป็น เธอเคยช่วยคนมาไม่น้อยด้วย เธอเก่งกว่าที่ตัวเองคิดนะ”

ยังไม่ทันที่ซิวอวี่จะได้ซึ้งใจก็ถูกเข็มปักลงไปบนจุดลมปราณ

“พ่ออิ๋ง เจ็บๆๆ” ซิวอวี่ร้องซี้ด น้ำตาเกือบไหล “เบาหน่อย เบาหน่อยนะ ฉันเป็นคนป่วย ช่วยทะนุถนอมหน่อย”

“เบามากแล้ว” อิ๋งจื่อจินก้มหน้า ยังคงปักเข็มต่อ เลิกคิ้วพลางพูด “ถามเขาดูสิ ตอนนั้นที่ฉันรักษาเขา เขาน่าจะเจ็บจนตื่น”

ซิวอวี่เงยหน้ามองหมาร่าเริงที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่ตรงมุม รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที “งั้นฉันสบายใจละ”

เจียงหราน “…”

ทำไมคนที่รับเคราะห์ต้องเป็นเขา

หนึ่งชั่วโมงต่อมาอิ๋งจื่อจินก็ดึงเข็มออกแล้วให้ซิวอวี่กินยาหลายเม็ด

“เร็วใช้ได้” ซิวอวี่สะบัดมือ “เหมือนจะหายแล้วนะ”

“อืม ยังต้องรออีกสองวัน” อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “กันไว้ก่อน”

ซิวอวี่พยักหน้า

เจียงหรานปิดเกม สีหน้าไม่เคร่งเครียด ตบหน้าอกตัวเอง “กลับบ้านตระกูลซิวเมื่อไรเรียกฉันด้วยนะ ฉันกับพ่อของพวกเราจะไปช่วยหนุนหลังให้เธอ”

ต่อให้ตระกูลซิวเก่งแค่ไหนยังจะสู้ตระกูลหลิงในโลกจอมยุทธ์ได้อีกเหรอ

ผู้เฒ่าซิวตกใจช็อกตายยังเบาไป

เวลาเย็น

ณ โรงพยาบาลอันดับหนึ่ง

หลังจากได้หมอช่วยรักษา ในที่สุดอิ๋งเจิ้นถิงก็ฟื้นขึ้นมา

พักอยู่ที่โรงพยาบาลมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว แต่ร่างกายของเขาไม่ดีขึ้น กลับดูจะแย่ลงเสียด้วยซ้ำ

“พ่อครับ ทำใจให้สบายนะครับ” อิ๋งเทียนลี่ว์เช็ดตัวให้อิ๋งเจิ้นถิงพลางพูด “อาการป่วยของคุณพ่อ สภาพจิตใจสำคัญมากครับ”

อิ๋งเจิ้นถิงหน้าเหลือง น้ำเสียงแหบแห้ง พูดอย่างยากลำบาก “ตรวจความเข้ากันทุกคนแล้วเหรอ”

“ครับ ตรวจกันหมดแล้ว รวมถึงคนในตระกูลสายอื่นด้วยครับ ไม่มีคนไหนที่เข้ากันได้เลย” อิ๋งเทียนลี่ว์พูด “ของผมก็เข้ากันไม่ได้ครับ”

ฟังถึงตรงนี้อิ๋งเจิ้นถิงก็รู้สึกสิ้นหวังมาก

เขาอยู่ในวัยกลางคน มีความมุ่งมั่นที่แรงกล้า เขายังอยากพาตระกูลอิ๋งบุกเข้าไปในวงการของตี้ตู

แต่พอมาล้มป่วยแบบนี้ยังจะทำตามความตั้งใจได้อย่างไรอีก

อิ๋งเจิ้นถิงยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

เขาระมัดระวังเรื่องอาหารการกินมาตลอด นอนหลับพักผ่อนก็เพียงพอ ทำไมอยู่ๆ การกำจัดของเสียในร่างกายถึงมีปัญหาได้

อิ๋งเจิ้นถิงคิดอยู่นานก็ไม่เข้าใจ ยังอยากดิ้นรน “ทางโรงพยาบาลล่ะ ก็ไม่มีตับให้ปลูกถ่ายเหรอ”

ไม่มีตับให้ปลูกถ่าย เขาก็ทำได้แค่รอความตาย

อิ๋งเทียนลี่ว์ส่ายหน้า “ไม่มีครับ จำนวนคนที่รอตับกับคนที่บริจาคตับแตกต่างกันมากครับ”

“น้องสาวของลูกมาตรวจหรือยัง” ทันใดนั้นเหมือนอิ๋งเจิ้นถิงนึกอะไรขึ้นได้ จับเตียงลุกขึ้นมานั่ง “ให้เธอมาตรวจ”

“พ่อบ้าไปแล้วเหรอครับ” อิ๋งเทียนลี่ว์โมโหจนหัวเราะ “กรุ๊ปเลือดของจื่อจินมีความพิเศษมาก ไม่มีทางเข้ากันได้อยู่แล้ว นี่เป็นความรู้ทั่วไป แล้วพ่อยังอยากจะให้เธอมาอีกเหรอครับ”

“พ่อไม่ได้หมายถึงเธอ” อิ๋งเจิ้นถิงกัดฟัน “พ่อหมายถึงเสี่ยวเซวียน ให้เสี่ยวเซวียนมาตรวจ”

ท่าทางของอิ๋งเทียนลี่ว์ชะงัก ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น แววตาเปลี่ยนไปทันที “พ่อพูดว่าใครนะครับ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset