ตอนที่ 453 เรียกพี่เขยหน่อยเป็นไง
“วันนี้ผมสามารถนั่งพูดคุยกับทุกคนที่นี่ได้เหมือนคนปกติ ถ่ายคลิปได้ ก็เป็นเพราะความช่วยเหลือของพวกเขาครับ” เวินทิงหลานค่อยๆ พูด “ผมเคยเกลียดพี่สาวมาหนึ่งปี เพราะผมคิดว่าเธอไปอยู่ตระกูลอิ๋งแล้วสุขสบายบนกองเงินกองทองจนลืมผมกับพ่อ”
“แต่ความเป็นจริงไม่ใช่”
“หนึ่งปีนั้นเธอถูกตระกูลอิ๋งข่มเหง ถูกสูบเลือด ถูกหยามศักดิ์ศรี ตอนที่ผมเจอพี่ บนแขนของเธอมีแต่รูเข็ม ถูกเจตนาเจาะ”
“ต่อมาพวกเราถึงมีความสามารถต่อต้าน ผมกับพ่อรู้แล้วว่าพี่ผมต้องเจอกับอะไรมาบ้าง ถึงเดินมาถึงขั้นนี้”
“เธอเป็นพี่สาวของผม พี่สาวเพียงคนเดียว” สีหน้าของเด็กหนุ่มเย็นชา ประโยคสุดท้ายพูดว่า
“ใครก็ห้ามรังแกเธอ ห้ามเด็ดขาด”
คลิปจบลงที่ตรงนี้
แต่พวกรุ่นพี่ของเวินทิงหลานต่างรู้ว่า เขายังมีอีกประโยคที่ยังไม่ได้พูด
ถ้าใครกล้าแตะต้องอิ๋งจื่อจิน เขาก็จะเอาผลงานชิ้นล่าสุดของมหาวิทยาลัยนอร์ตันไปถล่มคนนั้น
มหาวิทยาลัยนอร์ตันปกป้องคนของตัวเองแบบนี้
อิ๋งจื่อจินก็ได้ดูคลิปจนจบ เธอตกอยู่ในห้วงความเงียบ
หัวใจของเธอสั่นไหวเล็กน้อย
อิ๋งจื่อจินหลับตา ถอนหายใจเบาๆ
เธอที่โดดเดี่ยวมาตลอด ไม่เคยคาดคิดว่าเมื่อกลับมาบนโลกมนุษย์อีกครั้งจะได้ครอบครองสายใยที่แน่นแฟ้นขนาดนี้
ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้า ลูบศีรษะเธอ ดวงตาดอกท้อโค้งมนเล็กน้อย
“พี่ชายจะใช้แอคเคาท์ทางการของวีนัสกรุ๊ปแชร์คลิปของเขา จากนั้นจะตอบไปว่า เรียกพี่เขยหน่อยเป็นไง”
อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วขณะ เลิกคิ้ว “ได้ จากนั้นเขาก็จะเอาอาวุธชิ้นใหม่ที่คณะเครื่องกลเพิ่งคิดค้นได้มาถล่มคุณจนไม่เหลือแม้แต่เศษกระดูก”
ฟู่อวิ๋นเซิน “…”
เรื่องนี้เขาเชื่อ
มีคนตั้งมากมายอยากบุกเข้ามหาวิทยาลัยนอร์ตัน แค่เพียงเพื่ออาวุธเหล่านั้นของพวกเขา
ไม่ใช่เพราะคณะเล่นแร่แปรธาตุหรือคณะดาราศาสตร์ แม้แต่พวกบอสบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเคส่วนใหญ่ก็ไม่รู้
หลังจบการพิจารณาคดีแม่มด หลายคนคิดว่าวิชาเล่นแร่แปรธาตุได้จบสิ้นแล้ว
ทางด้านไอบีไอก็กำลังขอซื้ออาวุธจากมหาวิทยาลัยนอร์ตัน
ตอนนี้เวินทิงหลานเป็นบุคคลล้ำค่าของคณะเครื่องกล
“มีข่าวจากทางฮู่เฉิง มีคนตระกูลจี้ไปหาคุณลุงที่นั่น” ฟู่อวิ๋นเซินหยุดเล็กน้อย
“เพียงแต่ไม่เจอก็เลยกลับมาแล้ว”
อิ๋งจื่อจินเงยหน้า “จี้อี้หางเหรอ”
ฟู่อวิ๋นเซินตอบอืม
อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ฉันขอถามความสมัครใจของพ่อก่อน”
…
ทางด้านตระกูลจี้ก็มีคนได้ดูรายการ
เรื่องที่จี้อี้หางไปฮู่เฉิงแต่ไม่เจอจี้เฟิงเหมียนได้ถูกลือไปในสายต่างๆ ของตระกูลจี้ก่อนแล้ว
แต่ไหนแต่ไรมาตระกูลจี้ไม่มีทางสนใจเรื่องคนสอบได้อันดับหนึ่ง อย่างไรเสียพวกนักวิจัยส่วนใหญ่ของตระกูลจี้ก็ล้วนเรียนเองอยู่ที่บ้าน สุดท้ายค่อยดำเนินการสอบวัดผลจากการทดลอง
แต่เนื่องจากการเคลื่อนไหวทุกอย่างของจี้อี้หางอยู่ในสายตาของสายตระกูลสายอื่นๆ พวกเขาจึงรู้ว่าคนสอบได้อันดับหนึ่งคะแนนเต็มในปีนี้ก็คือลูกสาวของจี้เฟิงเหมียน
แม้จะผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว แต่คนตระกูลจี้จำนวนไม่น้อยก็ยังคงจดจำชื่อจี้เฟิงเหมียนได้ขึ้นใจ ก็แค่มองเขาเป็นสิ่งต้องห้ามเลยไม่มีใครพูดถึง
ทุกคนในตระกูลจี้ต่างคิดว่าจี้เฟิงเหมียนตายไปแล้ว แต่กลับไม่มีหลุมฝังศพของเขาในสุสานของตระกูลจี้ และก็ไม่อนุญาต
มีแค่จี้อี้หางที่จะไปเซ่นไหว้คนเดียวทุกปี
“คนสอบได้อันดับหนึ่งปีนี้ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของจี้เฟิงเหมียนเหรอ” ชายวัยกลางคนอึ้ง
“เขาใช้ชีวิตคนเดียวก็ลำบากขนาดนั้นแล้ว ยังจะรับเลี้ยงลูกคนอื่นอีกเหรอ”
“คุณท่าน ในเมื่อไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของจี้เฟิงเหมียน พวกเราจะดึงเธอมาเข้าสายเราได้ไหมครับ” พ่อบ้านหยั่งเชิงถาม
“ถ้าจี้เฟิงเหมียนกลับตระกูลจี้จริง ด้วยความสามารถของเขา รวมกับอิ๋งจื่อจิน เกรงว่าทั้งตระกูลจี้จะต้องตกอยู่ในมือเขาแน่นอน”
ข้อมูลวิจัยของตระกูลจี้ล้ำค่ามาก แม้แต่พวกตระกูลของยุโรปต่างก็แอบจับจ้องอยู่เงียบๆ
โปรเจ็กต์ที่ตอนนี้พวกเขากำลังแย่งกันอยู่ก็มีเกี่ยวข้องกับทางยุโรป จึงสำคัญอย่างยิ่ง
ฟังถึงตรงนี้ชายวัยกลางคนก็เงียบไปแล้วส่ายหน้า คำพูดติดยโสเล็กน้อย
“ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องไปดึงตัวเธอมาด้วยตัวเอง”
พ่อบ้านไม่เข้าใจ “คุณท่าน ขนาดมหาวิทยาลัยตี้ตูกับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกยังอยากได้เธอไป ทำไมถึงไม่จำเป็นล่ะครับ”
“สอบได้อันดับหนึ่งคะแนนเต็ม แถมยังคว้าแชมป์ไอเอสซี เก่งมาก ฉันยอมรับ อาจไม่มีเคยมีใครทำได้แบบนี้” ชายวัยกลางคนตอบ “แต่ไม่ว่าอย่างไร ของพวกนี้สอบแต่ทฤษฎี พวกเราเป็นคนที่ทำการทดลองยังจะไม่รู้อีกเหรอว่าทฤษฎีกับปฏิบัติมันคนละเรื่องกัน”
ความรู้ทางทฤษฎีใครก็เอามาพูดได้
แต่การลงมือปฏิบัติอย่างแท้จริงจะมีสักกี่คนที่ทำได้
ทุกปีมีคนสอบได้อันดับหนึ่งตั้งมากมาย หลังเรียนจบมีสักกี่คนที่ทำเป็นจริงๆ
สุดท้ายก็เงียบหายไปหมดไม่ใช่เหรอ
แต่ถ้าอิ๋งจื่อจินมีบทความตีพิมพ์ลงในเอสซีไอ เขาก็จะไปดึงตัวเธอ
แต่นี่ไม่มี…
“อีกทั้งถ้าอยากเข้าตระกูลจี้ก็ต้องดูด้วยว่ามีความสามารถหรือเปล่า” ชายวัยกลางคนพูดเป็นกลาง
“ตอนนั้นจี้เฟิงเหมียนสร้างความเสียหายอย่างหนักให้ตระกูลจี้ ทางศูนย์วิจัยจะยอมให้เขากลับมาเหรอ”
ไม่แน่อาจทำจี้อี้หางถูกไล่ออกจากตระกูลจี้ไปด้วย
ชายวัยกลางคนเลิกคิด ดูรายการสายใยหมื่นลี้ฆ่าเวลาต่อ
…
คำค้นยอดนิยมยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง
มีชาวเน็ตเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงคนที่ไม่ได้ดูรายการ
พออ่านเสร็จตรรกะของคนปกติถึงกับสั่นคลอน
[เห็นลูกเป็นสินค้า ไร้ประโยชน์ก็ทิ้ง พอมีประโยชน์ก็ไปตามกลับมา สุด!]
[หึหึ เมื่อก่อนเทพอิ๋งไม่รู้ธรรมเนียมของพวกคนรวย เลยไม่คู่ควรเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลอิ๋ง ตอนนี้เธอสอบได้อันดับหนึ่งของประเทศพวกคุณก็เร่เข้ามาเลียหน้า น่าขยะแขยง]
[พวกแม่พระล่ะ ยังจะพูดอีกไหม ดูเอานะ ถ้าไม่ออกจากบ้านตระกูลอิ๋ง เทพอิ๋งคงตายไปแล้ว อยากช่วยก็ไปช่วยเองสิ!]
[ถึงจะดูใจร้าย แต่ฉันขอพูดหน่อย สมน้ำหน้าอิ๋งเจิ้นถิง แม้แต่ลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองก็ยังทิ้งขว้างได้ ตายได้ก็ตายไปเลย ไม่ตายตอนนี้แก่ไปก็ไม่มีใครเลี้ยงหรอก (อีโมชันยิ้ม)]
จงมั่นหวาที่อยู่ในรายการยังไม่รู้เรื่องในเน็ต ไม่รู้ว่าชาวเน็ตทั้งหมดกำลังด่าเธอ
แต่พอดูคลิปจบเธอก็ขาดสติทันที
จงมั่นหวาโยนไมโครโฟนทิ้ง กระโจนเข้าหาพิธีกรพร้อมตะโกน
“ปิดซะ…ปิดซะ! ฉันจะฟ้องพวกคุณข้อหาละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล พวกคุณกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง!”
ก่อนมาออกรายการก็ตกลงกันแล้วว่าจะช่วยเธอเรียกอิ๋งจื่อจินออกมา นี่หลอกเธอเหรอ!
เธอถึงขนาดร้องห่มร้องไห้ขอโทษแล้วก็ยังไม่ปล่อยเธอไปอีกเหรอ
มีใครบ้างไม่เคยทำผิด
“สภาพจิตใจของคุณนายอิ๋งย่ำแย่มาก จำเป็นต้องลงไปพักผ่อนก่อนครับ” พิธีกรยังคงยิ้มอย่างสุภาพ
“ขอโทษด้วยครับที่เกิดเหตุกะทันหัน วันนี้รายการคงต้องจบแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่รับชมครับ”
แม้รายการจะจบลงแล้ว แต่กลับสร้างกระแสอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ตามมาด้วยแฮชแท็กอันที่สี่
แฮชแท็กชูกวงมีเดียโชว์รายได้
[แอทชูกวงมีเดีย : ตระกูลอิ๋งรวยกว่าบอสของพวกเราเหรอ ดูรูปนะ เจ็บหน้าไหม]
ด้านล่างเป็นรายได้หนึ่งเดือนของชูกวงมีเดีย
ตระกูลอิ๋งเป็นตระกูลใหญ่ในฮู่เฉิง แต่ถ้ามองในมุมทั้งประเทศจีน แม้แต่ยี่สิบอันดับแรกก็เบียดเข้าไปไม่ได้
แต่งานของชูกวงมีเดียมีทั่วประเทศ แถมยังมีสถานะที่แน่นอนในระดับโลก
ถึงแม้พวกตระกูลเศรษฐีจะดูถูกวงการบันเทิงมาตลอด แต่ก็ต้องยอมรับว่า รายได้ของบางตระกูลเศรษฐียังห่างชั้นกับชูกวงมีเดียไกลมาก
ชาวเน็ตกดดูรูป แล้วก็ต้องตาลายกับตัวเลขยาวเป็นพรวน
[เทพอิ๋งอภิมหาเศรษฐินี (เข่าทรุด)]
[ขาดคนยกน้ำชาไหม ฉันไปได้นะ!]
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโพสต์เวยปั๋วที่ดึงดูดความสนใจของชาวเน็ต
แต่สองแอคเคาท์ที่โพสต์เวยปั๋วนี้ใหม่มาก แถมยังต้องกดเข้าไปดูในคนที่ชูกวงมีเดียติดตามถึงจะเห็น
เห็นได้ชัดว่าเพิ่งลงทะเบียนได้ไม่นาน
[แอทเนี่ยอวิ๋นเจี้ยน : ตระกูลอิ๋งเหรอ ตระกูลไก่กาอะไร ไม่เห็นเคยได้ยิน เคยได้ยินหรือเปล่า แอทมู่เฮ่อชิง]
[แอทมู่เฮ่อชิง : ไม่รู้จัก]
[แอทเนี่ยอวิ๋นเจี้ยน : ไม่รู้จักก็ถูกแล้ว อะไรกัน ขนาดพวกเรายังต้องขอให้เสี่ยวอิ๋งมาเข้าตระกูลของพวกเรา แล้วพวกคุณเป็นใคร คู่ควรเหรอ
มู่เฮ่อชิงเล่าให้ผมฟังแล้ว ตอนนั้นพวกคุณลั่นวาจาไว้แล้วว่าจะไม่มีทางมาหาเธออีก ทำไม เสียใจเหรอ พวกเรายังมีหลักฐานด้วยนะ]
ชาวเน็ตเห็นสองแอคเคาท์นี้ต่างก็งง
หลายคนรู้จักมู่เฮ่อชิง อย่างไรเสียเขาก็เคยมีผลงานอันทรงเกียรติมากมาย
ถึงขั้นที่ตอนนี้มีเด็กหนุ่มสมัยนี้จำนวนไม่น้อยที่โตมากับการฟังผลงานการรบของเขา
ชื่อเสียงดังกระฉ่อน
มีแค่มู่เฮ่อชิงที่ทำได้ถึงขั้นที่ว่าทั้งคนแก่และเด็กต่างรู้จักเขาหมดอย่างแท้จริง
แต่มู่เฮ่อชิงก็ถอนตัวออกมานานแล้ว เมื่อก่อนก็ไม่เคยได้ยินว่าเขาเล่นโซเชียล ขนาดคนตระกูลมู่ยังไม่เคยได้เจอเขา ทำไมอยู่ๆ มาปรากฏตัวบนเวยปั๋วได้
ความคิดแวบแรกของชาวเน็ตคือมีคนสวมรอย
ส่วนชื่อเนี่ยอวิ๋นเจี้ยนกลับดูไม่คุ้น
แต่ในเมื่อแซ่เนี่ย แถมยังชี้หน้าด่าตระกูลอิ๋ง เรียกชื่อเต็มของมู่เฮ่อชิง ก็แสดงว่าเกี่ยวข้องกับตระกูลเนี่ยแน่นอน
จนกระทั่งชาวเน็ตกดเข้าไปดูสองแอคเคาท์นี้ อ่านข้อความแนะนำตัว แถมยังยืนยันตัวตนแล้วด้วย
มู่เฮ่อชิง นายใหญ่ตระกูลมู่
เนี่ยอวิ๋นเจี้ยน นายใหญ่ตระกูลเนี่ย