ตอนที่ 506 ฟาดใส่หน้า ลูกของตระกูลอภิมหาบอสหายไปงั้นเหรอ
มอนด์เข้าสู่วงการแข่งรถมาได้สิบปี คว้าแชมป์ในการแข่งขันน้อยใหญ่มาไม่รู้ตั้งกี่รายการแล้ว
รองแชมป์ก็ได้มาไม่น้อย แต่ยังไม่เคยมีการแข่งขันครั้งไหนทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเท่านี้มาก่อน
รถแข่งคันนี้ของเขาก็ผ่านการดัดแปลงมาด้วยความตั้งใจ อุปกรณ์และอะไหล่ใช้ของดีกว่านักแข่งคนอื่นหลายเท่า
หากระหว่างแข่งขันรถยนต์ของเขาชนกับคันอื่น ก็คงมีแต่เขาที่ชนะ
มอนด์ไม่เชื่ออย่างสิ้นเชิงว่า ลำพังแค่รถตระกูลทีจะสามารถทำให้ซิวอวี่ชนะเขาได้ถึงแปดนาที
อีกทั้งยังอาศัยแค่เส้นทางช่วงสุดท้าย
ก่อนหน้านั้นมอนด์เป็นที่หนึ่งมาตลอด
แบบนี้มันดูไม่สมเหตุสมผล
เขาเป็นทหารรับจ้าง คลุกคลีอยู่ในโลกใต้ดิน
จึงรู้ว่ามียาต้องห้ามแบบนั้นที่ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายรวมถึงประสาทสัมผัสอื่นๆ ให้นักแข่งรถได้
เนื่องจากเป็นการแข่งขันที่ตระกูลแมนสันจัด จึงไม่มีใครกล้าใช้ยาต้องห้ามแบบนั้น
มอนด์ยังสงสัยอีกว่า เนวิเกเตอร์หญิงคนนี้ก็โกง แต่ยังไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีไหน
เนวิเกเตอร์ของเขาร่วมงานกันมาห้าปีแล้ว ชั้นเชิงและการตัดสินใจล้วนเป็นระดับแนวหน้าของวงการแข่งรถ สามารถช่วยเขาเลี่ยงอันตรายได้ทันเวลา
แต่การตัดสินใจของมนุษย์ก็ไม่ใช่สิ่งสมบูรณ์แบบ และมีความแตกต่างในเรื่องเวลา
มีเนวิเกเตอร์คนไหนบ้างที่สามารถชี้แนะได้โดยไม่ผิดพลาดแม้แต่น้อย
มันเป็นไปไม่ได้!
มอนด์แสยะยิ้ม สายตาเย็นชายิ่งกว่าเดิม “อีกอย่าง รถของคุณมันได้มาตรฐานการแข่งขันเหรอ กล้าให้คณะกรรมการตรวจสอบไหมล่ะ”
ผู้ชมที่อยู่บนอัฒจันทร์เริ่มสงสัย ต่างส่งเสียงจอแจ
บรรดาผู้ชื่นชอบรถแข่งที่รับชมถ่ายทอดสดอยู่ทั่วโลกก็ค่อนข้างเอนเอียงไปทางมอนด์
อย่างไรเสียในเวลาห้าปี ซิวอวี่ไม่เคยปรากฏตัว และก็มีแค่พวกคนสมัยก่อนที่จดจำเธอได้
ผู้ชมส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อของเธอ
แต่มอนด์ไม่เหมือนกัน ตอนนี้มอนด์เป็นคนดังของวงการแข่งรถ
[ก็ว่าอยู่ทำไมวิ่งได้เร็วขนาดนั้น ฉันว่ารถแข่งคันนี้ต้องเกินขอบเขตมาตรฐานแน่ ดัดแปลงอย่างรุนแรง!]
[ฉันรู้ความสามารถของมอนด์ดี เขาเป็นแชมป์หลายสมัยก่อนหน้านี้ ถึงจะยังไม่ถึงระดับราชานักแข่ง แต่ก็ไม่ได้แย่ไปกว่ากันมากนัก เขาถูกนักแข่งหญิงนำแปดนาที มันก็ดูปลอมไปหน่อยจริงๆ]
[ฉันมองออกแล้ว ประเทศจีนเก่งแต่เรื่องโกง ไม่มีความสามารถเลยสักนิด น่าขายหน้า]
ในการแข่งขันกีฬา เนื่องจากชายหญิงมีความแตกต่างกันทางด้านสมรรถภาพทางร่างกายและด้านอื่นๆ มาโดยกำเนิด เดิมทีผู้หญิงก็เอาชนะผู้ชายเรื่องกีฬายากอยู่แล้ว
อีกทั้งเรื่องที่บรรดาผู้ชมยังไม่รู้ก็คือ เนื่องจากมอนด์เป็นทหารรับจ้าง ร่างกายของเขาจึงแข็งแรงกว่านักแข่งทั่วไป
และนี่ก็เป็นสิ่งที่มอนด์รับไม่ได้เช่นกัน
เขาเป็นทหารรับจ้างระดับเอ ยังจะสู้ผู้หญิงชาวจีนไม่ได้อีกเหรอ
“สู้ไม่ได้ก็มาหาว่าโกงเหรอ” ซิวอวี่กอดอก มองมอนด์ด้วยสายตาเย็นชา “สปิริตนักกีฬาของพวกนายมีแค่นี้เหรอ”
มอนด์ไม่สนใจซิวอวี่ แต่หันไปทางที่นั่งวีไอพี โค้งให้นายใหญ่แมนสันหนึ่งทีด้วยความนอบน้อม แต่น้ำเสียงที่พูดกลับเย็นชา “คุณแมนสันครับ ผมขอให้มีการตรวจสอบรถแข่งของนักแข่งเบอร์สิบเอ็ด รวมถึงตัวเธอด้วยครับ! เธอต้องใช้ยาต้องห้ามแน่นอนครับ!”
รถแข่งของซิวอวี่ถูกทีมเอ็กซ์เอสของพวกเขาทำลายไปแล้ว
ทำไมอยู่ๆ ถึงมีรถของตระกูลทีโผล่มาได้
ก่อนลงแข่งแรลลี่รถแข่งทุกคันจะต้องได้รับการตรวจสอบว่าได้มาตรฐานหรือไม่
สีหน้าของนายใหญ่แมนสันก็เริ่มตึงเครียด
ก็จริง
ตอนเขาเห็นรถตระกูลที มัวแต่ตื่นเต้นจนลืมเรื่องนี้ไป
ถ้าไม่ได้มาตรฐาน ต่อให้เป็นรถตระกูลทีก็ทำผิดกติกาไม่ได้
มอนด์เห็นนายใหญ่แมนสันเริ่มหวั่นไหวจึงพูดต่อ “นายใหญ่แมนสันครับ โปรดตรวจสอบด้วยครับ!”
“ถ้าตรวจสอบ งั้นรถทุกคันก็ตรวจไปด้วยกันเลยสิ” เวลานี้อิ๋งจื่อจินเงยหน้าพูดขึ้นมา “จะมาปฏิเสธความสามารถของพวกเราเพราะสงสัยไม่ได้ นายใหญ่แมนสันว่าไหม”
นายใหญ่แมนสันครุ่นคิดชั่วครู่แล้วตอบตกลง “ตรวจสอบรถของสิบอันดับแรกเดี๋ยวนี้”
พอเขาพูดแบบนี้ คณะกรรมการก็เอาเครื่องมือและอุปกรณ์เข้าไปเริ่มตรวจสอบรถ
กล้องก็เคลื่อนตามไปเพื่อความโปร่งใส
หลังจากผ่านไปสักพัก
“นายใหญ่แมนสันครับ รถของนักแข่งเบอร์สิบเอ็ดไม่มีปัญหาครับ และก็ไม่ได้ใช้ยาต้องห้าม” หัวหน้ากรรมการตรวจสอบเสร็จก็มารายงานด้วยความนอบน้อม “รถตระกูลทีผลิตมาตามมาตรฐานของรถแข่งทุกอย่างครับ แต่ว่า…”
หยุดเล็กน้อย เขามองนักแข่งอีกคนหนึ่ง “รถของนักแข่งเบอร์สามสิบแปดไม่ได้มาตรฐาน อีกทั้งเขายังใช้ยาต้องห้ามด้วยครับ”
มอนด์สีหน้าเปลี่ยน
นักแข่งเบอร์สามสิบแปดเป็นของทีมเอ็กซ์เอสของพวกเขา!
มอนด์หันขวับมองนักแข่งเบอร์สามสิบแปด “นายบ้าไปแล้วเหรอ!”
นักแข่งเบอร์สามสิบแปดเม้มริมฝีปาก ไม่พูดอะไร
เขาถูกมอนด์กดมานาน เลยอยากลองเล่นตุกติกในสนามดูเพื่อนำมอนด์
แต่คาดไม่ถึงว่าคณะกรรมการจะอยู่ๆ ก็ตรวจรถแข่งของสิบอันดับแรก
“โอ๊ะ นี่สินะเพื่อนร่วมทีมทรยศในตำนาน” ซิวอวี่ทำเสียงจึ๊ ตบมือ “เก่งมากๆ ฉันเพิ่งเคยเห็นคนทำแบบนี้เป็นครั้งแรก”
มอนด์โมโหแทบคลั่ง
เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาไปดัดแปลงรถมา
นายใหญ่แมนสันมองมอนด์ที่กำลังหงุดหงิดหัวร้อน สีหน้าของเขาก็เย็นชาเช่นกัน “คุณยังมีอะไรจะพูดอีกไหม”
“มีแน่นอนครับ! งั้นเธอต้องโกงแน่นอน!” มอนด์ขบฟันแน่น อารมณ์เดือดรุนแรง “พวกคุณถามเนวิเกเตอร์ของผมได้เลยครับ การตัดสินใจเรื่องเส้นทางของเนวิเกเตอร์ของนักแข่งเบอร์สิบเอ็ดมันเกินคนปกติไปมาก!”
เนวิเกเตอร์ของมอนด์ที่อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้น “เส้นทางช่วงสุดท้ายยากขนาดไหน นายใหญ่แมนสันก็ทราบดี”
ขนาดเขามีประสบการณ์เป็นเนวิเกเตอร์มาเยอะมาก ยังไม่กล้าแนะนำนักแข่งในเวลากระชั้นแบบนั้น
เพราะเมื่อเกิดความผิดพลาดก็จะตายกันหมด ไม่เหลือทั้งรถทั้งคน
ในเมื่อรถไม่มีปัญหา ซิวอวี่ก็ไม่ได้ใช้ยาต้องห้าม พอนายใหญ่แมนสันได้ยินแบบนี้ก็แสยะยิ้มพลางก้าวขึ้นหน้า “ได้ งั้นตอนนี้ก็ให้หลังเวทีเปิดภาพบันทึก”
พ่อบ้านรีบไปจัดการ
ครั้นแล้วบนหน้าจอใหญ่ก็ปรากฏภาพการแข่งขันเมื่อครู่
ตัดเอาเฉพาะการแข่งทั้งหมดของซิวอวี่ รวมถึงคลิปเสียงของอิ๋งจื่อจินในฐานะเนวิเกเตอร์
ก่อนหน้านี้บรรดาผู้ชมที่ดูการแข่งขันก็ไม่ได้ยินเสียงชี้แนะของเนวิเกเตอร์
แต่ตอนนี้พอหลังเวทีเปิดให้ฟัง ทุกคนก็ได้ฟังกันหมด
เสียงของอิ๋งจื่อจินชัดเจน หนักแน่นมีพลัง เจือไปด้วยอารมณ์ที่ช่วยปลอบโยน
ทุกคำชี้แนะของเธอแม่นยำแบบไม่ผิดสักวินาที น่ากลัวมากทีเดียว
[อื้อหือ เนวิเกเตอร์ขั้นเทพ เก่งขนาดนี้เลยเหรอ ต่อให้คุ้นเคยกับสนามก็เทพเกินไปอยู่ดี เป็นหมอดูหรือเปล่า]
[เดี๋ยวนะ ทำไมเสียงนี้ฟังไม่ออกว่าเป็นเด็กสาว มันดูกลางๆ มาก อ๊ากกก ฉันจะบ้าแล้ว เนวิเกเตอร์คนนี้เป็นใคร]
[นี่มันเครื่องมือรูปคนชัดๆ!]
ซิวอวี่ถึงได้นึกออกว่า น้ำเสียงที่อิ๋งจื่อจินใช้พูดแตกต่างจากปกติ
เธอลูบคาง กระซิบพูด “พ่ออิ๋ง นี่ก็คือเสียงที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ เทียบกับเธอไม่ติดเลยนะ”
มอนด์ที่อยู่ข้างๆ ฟังอยู่ เหงื่อเริ่มไหลท่วมตัว เปียกชุดนักแข่งจนชุ่ม
ไม่ได้โกงเหรอ
จะเป็นไปได้ยังไง!
นายใหญ่แมนสันพูดขึ้นอีกครั้ง เขาถามกลับ “แบบนี้ยังจะหาว่าพวกเขาโกงอีกไหม คุณยังรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมอีกไหม”
“นะ นายใหญ่แมนสัน…” มอนด์อ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกอีก
เวลานี้อิ๋งจื่อจินพยักหน้า น้ำเสียงเย็นชา ยังคงใช้น้ำเสียงที่แยกไม่ออกว่าชายหรือหญิง “นายใหญ่แมนสัน มีคลิปที่อยากให้นายใหญ่ได้เห็น”
พ่อบ้านอึ้ง มองนายใหญ่แมนสัน
นายใหญ่โบกมือ “เอาไปเปิด”
พ่อบ้านรีบติดต่อหลังเวที
ไม่นานก็มีสต๊าฟวิ่งมาเอาแฟลชไดร์ฟจากอิ๋งจื่อจิน เปิดคลิปวิดีโอที่อยู่ในนั้นแล้วส่งขึ้นหน้าจอใหญ่
มีสองคลิป คลิปหนึ่งเป็นตอนที่ทีมเอ็กซ์เอสทำลายรถแข่งของซิวอวี่ อีกคลิปเป็นตอนที่ทีมเอ็กซ์เอสจงใจทำร้ายเนวิเกเตอร์ของซิวอวี่
[นี่มันวางแผนฆ่าหรือเปล่า]
[เออะ ตกลงใครกันแน่ที่โกง ใครกันที่ไม่เคารพการแข่งขัน]
[เจ๊อวี่ยังไม่ทันลงสนามก็กลัวขนาดนี้แล้ว ไอ้ขี้แพ้]
[ทีมเอ็กซ์เอสขยะมาก เสียแรงที่เมื่อก่อนเคยชอบพวกคุณ ฉันมันตาบอด!]
คราวนี้ทุกคนในทีมเอ็กซ์เอสต่างสีหน้าเปลี่ยน หน้าซีดกันหมด
ไม่มีใครคาดคิดว่านายใหญ่แมนสันจะรับปากข้อเรียกร้องของอิ๋งจื่อจินให้เปิดคลิปต่อหน้าทุกคน
พอดูคลิปจบ สีหน้าของนายใหญ่แมนสันก็บึ้งตึงลงอย่างสิ้นเชิง “ยึดทรัพยากรทั้งหมด ห้ามลงแข่งไม่ว่ารายการไหน”
ถึงแม้รายการแข่งรถระดับโลกจะไม่ใช่ตระกูลแมนสันจัดขึ้นทั้งหมด แต่ในวงการแข่งรถ คำพูดของตระกูลแมนสันก็มีอำนาจมากที่สุด
ประโยคเดียวก็ตัดอนาคตของทีมเอ็กซ์เอสได้
“จากนั้นส่งข่าวไปที่โลกใต้ดิน” นายใหญ่แมนสันพูดขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่ประโยคนี้ไม่ได้ให้ผู้ชมในสนามกับทางบ้านที่ชมไลฟ์สดได้ยิน แค่พูดกับพ่อบ้าน “ต่อไปฉันไม่อยากเห็นทหารรับจ้างของทีมเอ็กซ์เอสอีก”
เนื่องจากมีแค่หัวหน้าทีมที่เป็นทหารรับจ้างระดับเอ ระดับของกลุ่มทหารรับจ้างทีมเอ็กซ์เอสจึงถูกกำหนดเป็นระดับบี
ในโลกใต้ดินที่กว้างใหญ่ จะบอกว่ากลุ่มทหารรับจ้างระดับบีมีอยู่ทั่วไปก็ไม่ใช่ แต่ก็เกือบพัน
โลกใต้ดินไม่มีประมุข เป็นดินแดนที่วุ่นวายไร้การควบคุม
แต่ในความเป็นจริงคนที่เป็นใหญ่ก็คือสี่ตระกูลมหาเศรษฐี
คำสั่งของนายใหญ่แมนสัน ขอแค่ไม่มากเกินไป โลกใต้ดินก็ไม่มีทางขัดคำสั่ง
แล้วนับประสาอะไรกับแค่ขับไล่กลุ่มทหารรับจ้างระดับบีเท่านั้น
“ครับ นายใหญ่” พ่อบ้านทำความเคารพแล้วออกไปจัดการ
ก่อนไปยังได้เหลือบมองอิ๋งจื่อจินที่ยังคงไม่ถอดหมวกกันน็อก อดลอบถอนหายใจไม่ได้ คลิปพวกนี้ปล่อยออกมาได้เวลาจริงๆ
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ นายใหญ่แมนสันไม่เคยยุ่งเรื่องการเล่นสกปรกพวกนี้
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว ซิวอวี่ เนวิเกเตอร์คนนี้ รวมถึงรถของตระกูลที ได้ดึงดูดความสนใจของนายใหญ่แมนสันที่คลั่งไคล้ดูการแข่งรถเข้าแล้ว
นายใหญ่แมนสันแค่รอไปทำความรู้จักกับพวกเธอ
ครั้งนี้ถือว่าทีมเอ็กซ์เอสเหยียบกับระเบิด
ด้วยเหตุนี้ทีมรถแข่งเอ็กซ์เอส กลุ่มทหารรับจ้างทั้งหมดในทีมก็เป็นอันต้องชีวิตจบเห่อย่างสิ้นเชิง
มอนด์รู้เหตุผลข้อนี้ดี
เขาหน้าซีดยืนตัวแข็งอยู่ข้างรถ ร่างกายสั่นเทา แม้แต่ฟันก็กระทบกัน
มอนด์ไม่เคยคาดคิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้
“ไป พ่ออิ๋ง” ซิวอวี่ไม่แม้แต่จะมองมอนด์ จับบ่าอิ๋งจื่อจิน “วันนี้เธอสร้างผลงาน เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าว”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “ไปเถอะ”
…
เวลานี้
สักที่บนโลก
อาคารสูงตั้งเรียงราย
รถมากมายแล่นอยู่บนถนนกว้างใหญ่ คึกคักพอสมควร
ตรงข้างถนนมีสินค้าไฮเทคจำนวนไม่น้อย ล้ำหน้ายิ่งกว่าทางยุโรป
ภายในสวนขนาดใหญ่มากมีเด็กผู้หญิงที่สูงเพียงหนึ่งเมตรกำลังเดินออกไปด้านนอก
เธอมองรอบตัว ถูมือ เตรียมกระโดดข้ามกำแพงออกไป
มีน้ำเสียงเย็นชาดังจากด้านหลังของเธอ “คุณหนูห้าจะทำอะไรคะ”
เท้าของเด็กน้อยชะงัก ใจหายวาบ หันไปมองหญิงสาว ขมวดคิ้วพลางพูด “ยุ่งอะไรด้วย”
“ฉันแค่มาเตือนคุณหนูห้าค่ะว่าอย่าให้เหมือนครั้งก่อนที่เอาบัตรผ่านของตระกูลไปเที่ยวข้างนอก” หญิงสาวพูด “ข้างนอกวุ่นวายมาก ไม่ได้เจริญเหมือนในเมือง และก็ไม่ดีเหมือนในเมือง คุณหนูห้าไม่จำเป็นต้องออกไปหรอกนะคะ”
“เที่ยวกับปู่เธอน่ะสิ” เด็กน้อยนิสัยเสียมาก ไม่ไว้หน้าหญิงสาวตรงหน้าแม้แต่น้อย “ฉันไปตามหาหลานสาวของฉัน เธอรีบไสหัวไปเลย อย่าคิดว่าตอนนี้ร่างกายของฉันหกขวบแล้วฉันจะจัดการเธอไม่ได้นะ”
ร่างกายของเธอได้รับยาบางอย่างทำให้หดเหลือหกขวบ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม
“หลานสาวบ้าบออะไรกันคะ” พอได้ยินแบบนี้ในที่สุดหญิงสาวก็หน้าบึ้งตึง พูดเสียงแข็ง “ลูกสาวของคุณนายใหญ่ตายไปแล้ว เกิดมาก็ตายเลย เป็นศพทารก”
คุณหนูห้าชักสีหน้าใส่ “หุบปากไปซะ! หายตัวไปต่างหาก!”
เธอไม่เชื่อว่าหลานสาวเธอตายไปแล้ว หลอกกันทั้งนั้น
“คุณหนูห้า เข้าใจค่ะว่าเป็นห่วงคุณนาย แต่ก็ไม่ใช่วิธีนี้” หญิงสาวส่ายหน้า “คุณหนูมีเวลาออกไปตามหาศพทารกอะไรนี่ ไม่สู้ไปตามหาพวกคนเก่งพิสดารข้างนอกมาลองดูว่าจะทำให้คุณนายใหญ่ฟื้นได้ไหม”
เด็กน้อยไม่สนใจหญิงสาวตรงหน้าอีก หามุมกำแพงที่เหมาะๆ
“ถ้าคุณหนูห้ายังดื้ออยู่แบบนี้ งั้นก็ต้องขอล่วงเกินแล้วนะคะ” หญิงสาวถอนหายใจ หันไปสั่งคนรับใช้สองคน “จับคุณหนูห้าขังไว้”