ตอนที่ 550 รับความเผด็จการที่มาจากเทพอิ๋งไปเสียเถอะ
[แค่นี้เรียกเหนือฟ้ายังมีฟ้าเหรอ คอมเมนต์บน ลืมเรื่องที่ตอนนั้นผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเทพอิ๋งออกมาแล้วสิบมหาวิทยาลัยใหญ่ร่วมแสดงความยินดีแล้วเหรอ เทพอิ๋งก็แค่ไม่ไป]
[อ้อ จริงสิ เทพอิ๋งอยู่ทุกคณะในมหาวิทยาลัยตี้ตูเลยนะ คนแรกของโลก ฉันพูดแบบนี้ไม่ผิดใช่ไหม]
[มักจะมีคนที่ชอบหาทัวร์มาลงตัวเองอยู่เสมอ]
[มหาวิทยาลัยนอร์ตันออกจากถ้ำครั้งแรก รอดูไลฟ์สด!]
นักศึกษาแต่ละคนเป็นคนส่งประวัติส่วนตัวให้เอง
ฮวนอยู่คณะดาราศาสตร์ ย่อมไม่มีทางบอกว่าตัวเองดูดวงได้ ทั้งยังใช้แอสโตรแลบเป็น พยากรณ์ได้
เขาถึงได้จงใจเขียนไปว่าเขายังเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยศิลปะรอยัลแห่งยุโรปด้วย ทั้งยังเคยได้รับรางวัลใหญ่ระดับนานาชาติหลายครั้ง
เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าประวัติกับทักษะพิเศษของเขาพอเปิดเผยออกไปพวกคนในประเทศจีนกลับไม่ตะลึง
ฮวนก็เพิ่งรู้จักเวยปั๋วครั้งแรก
เขาอ่านคอมเมนต์ในเน็ตจบก็ขมวดคิ้ว “ไอเอสซีเหรอ”
“เป็นการแข่งขันที่นักเรียนมอปลายทั่วโลกเข้าร่วม” แอนดี้พูด “เด็กปีหนึ่งปีนี้มีส่วนหนึ่งมาจากการแข่งขันไอเอสซีไม่ใช่เหรอ แต่ไม่ได้เข้าคณะดาราศาสตร์ของพวกเรา”
ฮวนหมดความสนใจ
ที่แท้ก็แค่การแข่งขันของเด็กมอปลาย
จะเอาทุกคณะของมหาวิทยาลัยตี้ตูมาเทียบกับคณะดาราศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนอร์ตันไม่ได้ คนละระดับกัน
“พวกเราตามไป” ฮวนมองไปข้างหน้า หรี่ตามอง “จะปล่อยให้อะเดลอยู่กับเวินทิงหลานตามลำพังไม่ได้”
และที่สำคัญที่สุดคือ ยังต้องทำแผนของเขาให้สมบูรณ์
ถนนสายของกินอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยตี้ตูสามกิโลเมตร ไม่นานก็ไปถึง
เวินทิงหลานเห็นอิ๋งจื่อจินพาอะเดลไล่กินตั้งแต่หัวถนนยันท้ายถนน “…”
“รุ่นน้องอิ๋ง เหลือถังหูลูแค่สองไม้ ฉันแย่งมาได้แล้ว” หลีหานวิ่งมาจากร้านตรงข้าม “อะ พวกเธอกินกันนะ”
“ขอบคุณค่ะรุ่นพี่หลี” อะเดลรับถังหูลูมา จากนั้นก็ล้วงก้อนทองในกระเป๋าเป้มาวางบนมือหลีหาน “วันหน้าอย่าลืมไปเที่ยวหาฉันที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันนะคะ แมวบ้านฉันขี้อ้อนมากเลยค่ะ”
พอเธอยิ้มก็เผยให้เห็นฟันเขี้ยวที่น่ารักสองซี่
หลีหานมองก้อนทองที่อยู่ในมือ น้ำตาแห่งความยากจนไหลเป็นครั้งแรก “…”
นี่น่ะเหรอโลกของคนรวย
สุดท้ายนักศึกษามหาวิทยาลัยตี้ตูที่มาก็ถูกอะเดลยัดก้อนทองใส่มือทุกคน
“รุ่นน้องอิ๋ง ในที่สุดฉันก็รู้แล้วว่าทำไมอะเดลถึงบอกว่าทรัพย์สินแปดพันล้านถึงไม่ถือว่าเยอะ” หลีหานพูดเสียงเบา “ก็ดูคุณเธอใช้เงินสิ แปดพันล้านดอลลาร์ก็เอาไม่อยู่หรอก”
เมื่อครู่อะเดลจัดการจ่ายเงินให้ทุกคนที่ซื้อของกินบนถนนเส้นนี้
ห้ามยังไงก็ห้ามไม่อยู่
อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่
หรือเธอกับเวินทิงหลานมีความสามารถในการดึงดูดตัวล้างผลาญกันนะ
สมกับที่เป็นครอบครัวเดียวกัน
อิ๋งจื่อจินกับพวกหลีหานพานักศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ตันไปส่งที่ห้องชุดเพรสซิเด้นท์สวีทของโรงแรมควีน
“บ๊ายบาย!” อะเดลโบกมือ “หลานหลาน พี่สาว วันมะรืนเจอกันในรายการน้า”
หลังจากเวินทิงหลานลากกระเป๋ากลับบ้านก็ไม่ได้พูดอะไร
เขาไม่เคยเจอผู้หญิงแบบอะเดลมาก่อน
เวินเฟิงเหมียนวางหนังสือพิมพ์ลง “อวี้อวี้กลับมาแล้ว ไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวมากินข้าวกัน”
เวินทิงหลานวางสัมภาระแล้วขึ้นไปอาบน้ำชั้นบน
เวินเฟิงเหมียนเข้าครัว
อิ๋งจื่อจินตามไปเป็นลูกมือ
เวินเฟิงเหมียนพูดขึ้น “เยาเยา ข้อความวีแชทที่ลูกส่งมาวันนี้หมายความว่าไงเหรอ”
ทำไมเขาอ่านแล้วไม่เข้าใจ
“ก็คือ…” อิ๋งจื่อจินชะงัก ดวงตาหงส์หรี่ลง “น่าจะเห็นแววลูกสะใภ้ของพ่อแล้วล่ะค่ะ”
เวินเฟิงเหมียนตกใจมาก “ลูกสาวบ้านไหนมาถูกใจเหรอ ถูกใจได้ยังไง”
ในฐานะที่เป็นพ่อ เขาย่อมรู้จักลูกชายตัวเองดี
ในสายตาของเวินทิงหลาน นอกจากเขากับอิ๋งจื่อจินแล้วก็เหลือคนอยู่ประเภทเดียว
ชายหญิงไม่มีความแตกต่าง
อิ๋งจื่อจินคิดแล้วพูดขึ้น “เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน เด็กกว่าเสี่ยวหลานหนึ่งรุ่น พวกเขาระเบิดห้องทดลองด้วยกัน”
เวินเฟิงเหมียนพยักหน้า
งั้นก็ดูเหมาะสมกันดี
ยี่สิบนาทีต่อมา
ภายในห้องรับแขก เวินทิงหลานอาบน้ำเสร็จก็เดินเช็ดผมออกมาพลางดูโทรศัพท์มือถือ
จนกระทั่งมีเสียงเนือยดังมาจากด้านหลัง พูดแซว “น้องชาย?”
เวินทิงหลานระแวง ปิดหน้าจอโทรศัพท์ทันที หันไปพูด “มาตั้งแต่เมื่อไร”
“ไม่มีอะไร” ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว เอามือคลายตรงคอเสื้อ ยิ้มพลางพูด “พี่ชายไม่เห็นอะไรทั้งนั้น อืม ไม่เห็นชื่อวีแชท จริงๆ นะ”
เวินทิงหลาน “…”
เขาจะสิบแปดแล้ว ทำไมต้องแหย่เขาเหมือนเขายังเด็ก
พี่สาวเขาทนได้ยังไง
หน้าไม่อายจริงๆ
เวินทิงหลานสีหน้าไร้ความรู้สึก ไม่สนใจฟู่อวิ๋นเซินอีก เข้าไปช่วยเวินเฟิงเหมียนยกกับข้าวในครัว
ฟู่อวิ๋นเซินเดินเข้าห้องกินข้าวแล้วนั่งลงข้างอิ๋งจื่อจิน ยิ้มพลางพูด “น้องชายเธอเหมือนเธอเลย”
“อะไร” อิ๋งจื่อจินตอบแค่นั้น
เธอกำลังดูจำนวนคนที่ให้ความสนใจรายการฉลาดแบบนี้ยกนิ้วให้เลย! ซีซั่นสาม
ตอนนี้ทะลุเก้าสิบล้านเข้าไปแล้ว ทั้งยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด
ซีซั่นสามทะลุสถิติไปแล้ว จำนวนคนให้ความสนใจเยอะกว่ารายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202
และก็เป็นเพราะดำเนินการพร้อมกันทั้งในและต่างประเทศ แถมมหาวิทยาลัยนอร์ตันยังมีอิทธิพลมากกว่าในเมืองนอก
คนเยอะก็แสดงว่าเงินที่เธอจะได้ก็เยอะตามไปด้วย
คุ้มมาก
“ใช้คำพูดวัยรุ่นต้องพูดว่าไงนะ” ฟู่อวิ๋นเซินทำสีหน้าหยอกล้อ เขาหยุดคิดเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “ปากบอกไม่ แต่ร่างกายทำนำไปก่อนแล้ว”
ปากปฏิเสธ แต่ร่างกายกลับซื่อสัตย์
อิ๋งจื่อจินค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ “ไม่ต้องกินแล้วข้าว เชิญกลับได้”
“โอเค ไม่พูดแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซินล้วงลูกอมออกมาหนึ่งเม็ดวางใส่มือเธอ “กินลูกอมนะเด็กดี”
ห้ามแกล้งแฟนสาวหนักเกินไป
…
ซีซั่นสามออกอากาศโดยวิธีถ่ายทอดสด
ไม่มีการเขียนบท แม้แต่หัวข้อก็ไม่บอกให้นักศึกษาคนไหนรู้ก่อน
ออกอากาศกันสดๆ
นอกจากจะถ่ายในบรรยากาศแนววิชาการแล้ว ยังมีกิจกรรมร่วมกันอยู่ไม่น้อย
รายการยังไม่เริ่มคนก็เข้ามารอดูไลฟ์ทะลุร้อยล้านแล้ว
พิธีกรของครั้งนี้ยังคงเป็นฉินหลิงอวี๋
นักศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ตันและมหาวิทยาลัยตี้ตูทั้งหมดสิบคนต้องจับสลากแบ่งกลุ่มตอบคำถามเป็นสองกลุ่ม
อิ๋งจื่อจินอยู่กลุ่มเดียวกับเวินทิงหลานพอดี
[พี่น้องขั้นเทพ!]
[ทำพูดไป ถึงแม้เทพอิ๋งกับน้องเวินจะไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด แต่รู้ใจกันยิ่งกว่าพี่น้องแท้ๆ อีก]
[ไม่มีใครชิปคู่ลูกอวี๋กับเบบี๋อิ๋งเหรอ]
[มี ฉันกำลังรอเอ็มวีตัวใหม่ของลูกอวี๋อยู่]
ชาวเน็ตทั้งในและนอกประเทศต่างรอพร้อมแล้ว อยากรู้ว่าทีมงานจะมีลูกเล่นอะไร
ปรากฏว่าโจทย์แรกก็ทำพวกเขางงมาก
มีสตาฟเอาพวกชิ้นส่วนต่างๆ ออกมา มีทั้งสีดำและสีเงิน
ไม่มีใครมองออกว่ามันคืออะไร
“นี่คือปืนพก เป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่งออกในปีนี้” ฉินหลิงอวี๋มองสคริปต์รายการแล้วอ่านตาม “รุ่นอาร์เอ็กซ์สองศูนย์เก้า รัศมียิงเก้าร้อยเมตร ปากกระบอกปืนสิบเอ็ดจุดแปดมม.”
สาเหตุที่เธอมาเป็นพิธีกรรายการนี้ก็เพราะมีอิ๋งจื่อจินร่วมด้วย
อีกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะอาวุธเหล่านี้เมื่อประกอบเสร็จในตอนท้ายจะยกให้เธอ
อาวุธที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันทำขึ้น บางครั้งก็ยังแย่งซื้อในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคไม่ได้
“หัวหน้าของแต่ละทีมออกมาประกอบ ให้เวลาสิบนาทีค่ะ” ฉินหลิงอวี๋เป่าผม “มีใครแย้งอะไรไหมคะ”
หัวหน้าทีมก็เพิ่งจับสลากเลือกก่อนหน้านี้
หัวหน้าทีมหนึ่งคือฮวน เฮอร์เชล หัวหน้าทีมสองคือเวินทิงหลาน
ชาวเน็ตตะลึงมาก
[โอ้โห สุดยอดๆ ในขณะที่มหา’ลัยอื่นกำลังเรียนทฤษฎี แต่มหาวิทยาลัยนอร์ตันเริ่มให้ประกอบอาวุธแล้วเหรอ!]
[ขนลุกซู่ รายการนี้สร้างความตื่นเต้นเกินไปแล้ว เดิมทีคิดว่าจะเหมือนไอเอสซีที่ให้ตอบคำถาม แต่นี่มาถึงก็ให้ประกอบปืนเลย]
[เอ่อคือ ขอถามเสียงสั่นหน่อยนะ มหาวิทยาลัยนอร์ตันเรียนอะไรกันแน่ เด็กๆ ดูพวกนี้ได้ตกใจกันหมด ไม่ใช่มหาวิทยาลัยปกติทั่วไปเหรอ]
“ขอแย้งครับ” นักศึกษาชายของทีมหนึ่งยกมือขึ้น พูดอย่างอ่อนโยน “นักศึกษาเวินเป็นนักศึกษาคณะเครื่องกลของมหาวิทยาลัยเรา อาวุธแบบนี้ศาสตราจารย์ให้พวกเขาประกอบหลายครั้งแล้วตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย”
“คุณชายฮวนไม่ได้อยู่คณะเครื่องกล ก็แค่มีความรู้เรื่องเครื่องกลอยู่บ้าง ให้พวกเขาสองคนแข่งกันไม่สนุกหรอกครับ อยากให้เปลี่ยนเป็นคนอื่นในกลุ่มมาแทนครับ”
ให้ฮวนแข่งกับเวินทิงหลานในสิ่งที่เขาไม่ถนัด นี่ไม่เท่ากับเหยียบย่ำฮวนต่อหน้าอะเดลเหรอ
รายการนี้ของประเทศจีนวางใจไม่ได้เลยจริงๆ
แน่จริงมาเล่นไพ่ทาโรต์กันไหมล่ะ
ทางตระกูลเฮอร์เชลก็มีเสนอเรื่องนี้มาทางทีมงาน
แต่ไพ่ทาโรต์ก็ไม่มีอะไรให้แข่ง ทำได้แค่เอามาเป็นสีสันในรายการ
เวินทิงหลานมองฮวน สีหน้าเริ่มเย็นชาลง
เขาอยู่กลุ่มเดียวกับอิ๋งจื่อจิน
ฮวนคิดอะไรอยู่ไม่ต้องบอกก็รู้
ถึงแม้ฮวนจะไม่ใช่นักศึกษาของคณะเครื่องกล แต่เป็นคนท้องถิ่นที่เข้ามหาวิทยาลัยนอร์ตัน เรื่องประกอบปืนเป็นความรู้ขั้นพื้นฐานที่สุดอยู่แล้ว
“น้องชายอัจฉริยะขนาดนี้ พี่สาวย่อมไม่ด้อยไปกว่ากัน” เวลานี้ฮวนได้เงยหน้าขึ้น ยิ้มพลางพูด “ยังไงซะก็กลุ่มเดียวกัน ใครออกมาก็ไม่ต่าง คุณอิ๋ง ไม่ถือสาใช่ไหมครับ”
ขณะพูดเขาก็เอามือดันกล่องชิ้นส่วนไปตรงหน้าอิ๋งจื่อจินทั้งหมด