ตอนที่ 570 อวดดี หนุนหลัง
พวกแพทย์ผิดจรรยาบรรณก็มีการติดต่อกัน ไปมาหาสู่
โลกแพทย์แผนโบราณก็แน่ใจว่าพวกเขาเป็นกลุ่มก้อน มีหัวหน้า
แต่เนื่องจากร่องรอยน้อยมาก แยกแยะไม่ได้ว่าใครเป็นแพทย์ผิดจรรยาบรรณ
นายใหญ่เมิ่งเดาว่า ต่อให้เป็นตระกูลเมิ่งก็มีแพทย์ผิดจรรยาบรรณแน่นอน
เรื่องที่น่าเสียดายคือ สือเฟิ่งอี๋คนทรยศที่ตอนนั้นตระกูลฝูจับกลับมาตายเร็วไปหน่อย จึงไม่ได้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์
และก็เพราะการตายของเธอ ทำให้แพทย์ผิดจรรยาบรรณคนอื่นๆ ระมัดระวังตัวมากขึ้น
ในเวลาปีกว่านี้ ยังไม่มีแพทย์ผิดจรรยาบรรณคนไหนโผล่ออกมา
แบบนี้ยิ่งน่ากลัว
ไม่มีใครรู้ว่าแพทย์ผิดจรรยาบรรณพวกนั้นกำลังวางแผนทำอะไรกันอยู่
“ชิงเสวี่ย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลูก กลับไปพักผ่อนเถอะ” นายใหญ่เมิ่งพูด “พ่อให้พ่อบ้านบอกปัดคนที่มาเชิญลูกไปรักษาแล้ว หลังปีใหม่ลูกค่อยไปรักษาคนแล้วกัน”
เมิ่งชิงเสวี่ยเม้มริมฝีปากเบาๆ “ค่ะคุณพ่อ”
…
พอเกิดเรื่องนี้ ถึงแม้จะยังไม่ได้ข้อสรุป แต่สมาพันธ์โอสถก็รีบไปตามหาตัวอิ๋งจื่อจินที่บ้านตระกูลเยี่ยทันที
เพียงแต่อิ๋งจื่อจินไม่อยู่
เธอพาฝูซีออกไปท่องตี้ตู
ถึงแม้ฝูเฉินจะมีโทรศัพท์มือถือสองจี แต่ก็เป็นครั้งแรกที่เขามาโลกภายนอก ตื่นตาตื่นใจมาก
และที่สำคัญที่สุดคือ เขาสวมชุดตัวยาว ทั้งยังไว้ผมยาว กอปรกับหน้าตาที่ใช้ได้ คนที่ผ่านไปผ่านมาคิดว่าเป็นนักแสดงยังมีคนเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย
กว่าฝูเฉินจะหลุดจากคนพวกนั้นไม่ใช่ง่ายๆ เขาวิ่งตาม “ในที่สุดผมก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่กับท่านปรมาจารย์ถึงต้องแปลงโฉม”
ขณะพูดเขายังถอนหายใจอย่างหนักหน่วง สีหน้าห่อเหี่ยว “คนเราถ้าหน้าตาดีเกินไปก็ทุกข์”
เขาก็ชอบหน้าตาตัวเองเหมือนกัน
ฟู่อวิ๋นเซินเล่นหินหยก เลิกคิ้วเล็กน้อย “ไม่ใช่ เป็นเพราะมีชื่อเสียงเกินไป พบเจอได้ทั่วไป จะสร้างความยุ่งยากได้ง่ายๆ”
ฝูเฉินผายมือออก “พี่ปรมาจารย์ ไม่ถูกนะ จะล้อเล่นก็ร่างบทก่อนไหมล่ะ”
ต่อให้ดังกว่านี้ยังจะพบเจอได้ทั่วไปอีกเหรอ
ฝูเฉินหันไปก็เห็นหน้าจอโฆษณาที่ใหญ่มากฝั่งตรงข้ามถนน
มีเสียง มีภาพ
บนนั้นเป็นรูปฟู่อวิ๋นเซินในชุดสูทเพียงรูปเดียวที่เผยแพร่อย่างเป็นทางการ
ใบหน้าหล่อเหลา สุขุมนุ่มลึก
ไหล่กว้างเอวคอด สองขาสูงยาว
“ต่อไปเราจะมาทำความรู้จักเศรษฐีคนนี้กันนะคะ เขาเป็นประธานโซนเอเชียแปซิฟิกของวีนัสกรุ๊ป ปีนี้อายุยี่สิบสี่ปี…”
ฝูเฉิน “…”
นี่มันพบเจอได้ทั่วไปจริงด้วย!
ฝูเฉินเช็ดเหงื่อ “งั้นท่านปรมาจารย์ล่ะ”
“หืม เธอเหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินสายตาอ่อนโยน หัวเราะเบาๆ “ละลานตา”
“ละลานตาเหรอ ไม่นี่ ผมไม่เห็น…” ฝูเฉินยังไม่ทันพูดจบก็ชะงัก
เพราะเขาอาศัยสายตาที่ดีกว่าคนทั่วไป เห็นเคสโทรศัพท์มือถือของพวกนักเรียนที่เพิ่งเดินผ่านเขาเป็นรูปอิ๋งจื่อจินทั้งนั้น
“…”
โลกข้างนอกมันช่างน่ากลัวเสียจริง
ฝูเฉินอดกระชับเสื้อผ้าตัวเองไม่ได้ “เอ่อคือ พี่ปรมาจารย์ พี่กับท่านปรมาจารย์มีสถานะที่สุดยอดยังไงในโลกปุถุชนเหรอ”
“ฉันเป็นคนเสเพล ท่านปรมาจารย์ของนาย…” ฟู่อวิ๋นเซินไปซื้อชานมด้านข้าง “เธอบอกว่าตัวเองเป็นหมอดูกำมะลอ หรือไม่ก็คนธรรมดา”
ฝูเฉิน “?”
…
เดิมทีอิ๋งจื่อจินไม่ได้คิดจะกลับโลกจอมยุทธ์เร็วขนาดนี้ แต่สมาพันธ์โอสถปิดล้อมบ้านตระกูลเยี่ยไว้ ไม่ให้ใครเข้าออก
เนื่องจากสมาพันธ์โอสถแค่มาสืบเรื่อง ไม่ได้โหดเหี้ยมแบบโลกจอมยุทธ์ จึงไม่เคยบีบบังคับคนในตระกูลเยี่ย
พออิ๋งจื่อจินกลับมา นายใหญ่เยี่ยก็เข้าไปหาทันที กระซิบพูด “คุณอิ๋งครับ กลับมาทำไมครับ คุณไม่ควรกลับมา”
“พวกเขาบอกว่าคุณเป็นแพทย์ผิดจรรยาบรรณ ต้องการเอาตัวคุณกลับไปสอบสวน นี่ไม่ถือเป็นเรื่องตลกเหรอครับ”
ถ้าเป็นแพทย์ผิดจรรยาบรรณ ตระกูลเยี่ยของพวกเขายังจะอยู่รอดอีกเหรอ
แพทย์ผิดจรรยาบรรณคนไหนบ้างที่แค่เอาเข็มจิ้มคนอื่นก็บรรลุเป็นปรมาจารย์จอมยุทธ์ได้แล้ว
แพทย์ผิดจรรยาบรรณคู่ควรเหรอ
หัวหน้าทีมคุ้มกันสองคนก็รู้จักอิ๋งจื่อจิน พวกเขามองหน้ากัน “คุณอิ๋งครับ พวกเราทำตามคำสั่ง จนปัญญาจริงๆ ครับ”
อย่างไรเสียอันตรายจากแพทย์ผิดจรรยาบรรณก็มีมาก ไม่อาจปล่อยข้อสงสัยแม้เพียงเล็กน้อยไปได้
อิ๋งจื่อจินพยักหน้าให้นายใหญ่เยี่ยเบาๆ “ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ”
ยาเม็ดนั้นที่เธอทำไม่มีพิษแม้แต่น้อย
สืบขึ้นมาจริงก็ไม่ได้อะไร
อิ๋งจื่อจินพูด “ไปเถอะ”
พวกคนคุ้มกันมองหน้ากัน ไม่ได้คุมตัวอิ๋งจื่อจินจริงๆ แค่เดินตาม
การประชุมของสมาพันธ์โอสถยังคงดำเนินต่อ
อาจารย์หลี่ก็อยู่ด้วย เขาอดเครียดไม่ได้ พูดเสียงเบา “ผมส่งวีแชทบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังจะมาอีกล่ะครับ”
อิ๋งจื่อจินนั่งลงบนเก้าอี้ว่างที่มีเพียงตัวเดียว สีหน้าสุขุม “มาเที่ยวเล่น”
อาจารย์หลี่ “?”
นายใหญ่เมิ่งหันมองอิ๋งจื่อจินด้วยสายตาสำรวจ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจออิ๋งจื่อจิน
ต้องยอมรับเลยว่า ไม่ว่าจะโลกจอมยุทธ์หรือโลกแพทย์แผนโบราณ ผู้หญิงคนไหนเมื่อมาอยู่ตรงหน้าเธอเป็นต้องหม่นหมองไปหมด
ความงามแบบนี้เดิมทีไม่ควรมีอยู่จริง
ศพของนายใหญ่สวีถูกชันสูตรอยู่ข้างๆ
พวกแพทย์แผนโบราณเห็นศพมาจนชินตาแล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไร
ไม่นานแพทย์ที่รับหน้าที่ชันสูตรศพก็ยื่นเอกสารให้ “ท่านรองประธานครับ ผลชันสูตรออกมาแล้วครับ”
รองประธานสมาพันธ์มองแวบเดียวก็มีสีหน้าขรึมลงทันที
เขาโยนเอกสารลงบนโต๊ะแล้วพูดขึ้น “พวกคุณก็ลองอ่านดูนะ”
เอกสารถูกส่งต่ออย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็กลับมาที่มือของรองประธานสมาพันธ์
ผลชันสูตรบอกว่า นายใหญ่สวีตายเพราะยาเม็ดนั้นของอิ๋งจื่อจินจริงๆ
คราวนี้อาจารย์หลี่ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว เริ่มเป็นห่วง
เขาเชื่อว่าอิ๋งจื่อจินไม่ใช่แพทย์ผิดจรรยาบรรณ
แต่เธอไม่ได้ใช้ยาช่วยชีวิตคน กลับฆ่าคนด้วยซ้ำ นี่ถือเป็นเรื่องผิดมหันต์ในโลกแพทย์แผนโบราณ
หากไม่ถูกพบก็พอจะทำเนียนต่อไปได้ แต่ตอนนี้ถึงขั้นที่ลือกันไปทั่วโลกแพทย์แผนโบราณจนทุกคนรู้กันหมดแล้ว
เป็นเรื่องใหญ่
ต่อให้อิ๋งจื่อจินไม่ใช่แพทย์ผิดจรรยาบรรณ ทำเรื่องแบบนี้ก็จะกลายเป็นเป้าที่ทุกคนอยากรุมประณาม
“เป็นแพทย์ผิดจรรยาบรรณจริงด้วย!” ผู้อาวุโสสี่ลุกพรวด “ท่านรองประธาน ต้องจับตัวไว้นะครับ!”
รองประธานสมาพันธ์ผายมือ มองอิ๋งจื่อจิน “มีอะไรอยากพูดไหม”
“ค่ะ” อิ๋งจื่อจินพูด “พวกคุณสืบผิดแล้ว ฉันไม่ได้วางยาพิษค่ะ”
“ยังจะมาแถอีก จะบอกว่าผลชันสูตรศพมันผิดหรือไง” พอได้ยินแบบนี้ผู้อาวุโสสี่ก็โมโหมาก “บอกชื่ออาจารย์กับพวกคนร่วมสำนักมา เธอยังจะพอมีทางรอด”
ถ้าไม่ใช่เพราะแพทย์ผิดจรรยาบรรณ ครอบครัวของลูกชายเขาที่มีกันสี่คนก็คงไม่มีทางตายอย่างน่าอนาถแบบนั้น
แพทย์ผิดจรรยาบรรณโหดเหี้ยมเกินไป ต้องจัดการให้สิ้นซาก
ทั้งๆ ที่ถูกสามฝ่ายสอบสวน บรรยากาศตึงเครียด อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ ยังคงมีท่าทีสบายๆ
เธอหันไป ไม่ทุกข์ร้อน สีหน้ากึ่งยิ้ม
ผู้อาวุโสสี่ขมวดคิ้ว “ยิ้มอะไร”
อิ๋งจื่อจินนวดขมับช้าๆ “เปล่าค่ะ แค่รู้สึกว่าพวกท่านแก่กันแล้ว ฝีการมือรักษาก้าวหน้าต่อไม่ได้อีก ตอนนี้แม้แต่ชันสูตรศพก็ยังทำเพียงผิวเผิน”
ถ้าอนาคตของโลกแพทย์แผนโบราณต้องพึ่งแค่พวกอัจฉริยะไม่กี่คนอย่างฝูเฉิน คงได้ล่มสลายในอีกไม่ช้า
แต่โลกแพทย์แผนโบราณจะล่มสลายหรือไม่ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ
ก็แค่ครึ่งหนึ่งของโลกแพทย์แผนโบราณเป็นความทุ่มเทของฝูซี เธอยังอยู่ ช่วยได้ก็ช่วย
พอคำพูดนี้ออกมาก็เกิดความเงียบ
ผู้อาวุโสสี่แสยะยิ้ม “อายุยังน้อยแต่กลับอวดดี เธอลองดูบ้างซิว่าพวกคนเก่งๆ ชื่อดังรุ่นเดียวกับเธอ มีใครบ้างอวดดีขนาดนี้ตอนอายุเท่าเธอ”
ยกเว้นเซี่ยเนี่ยน
ไม่เพียงแต่เซี่ยเนี่ยนจะทำตัวอวดดี ยังไม่เห็นอะไรอยู่ในสายตาทั้งนั้นด้วย
แต่นั่นจอมยุทธ์ มีฝีมือการต่อสู้ขั้นสูง ไหนจะยังมีผู้นำตระกูลเซี่ยปกป้องอยู่อีก
แพทย์แผนโบราณอ่อนแอ เทียบกันได้เหรอ
ไปเอาความกล้าแบบนี้มาจากไหน
“หยิบเข็มเงินขึ้นมาแล้วปักไปตามจุดลมปราณที่ฉันบอก” อิ๋งจื่อจินไม่มองผู้อาวุโสสี่ มือเคาะโต๊ะเบาๆ พูดเจ็ดจุดลมปราณเสร็จก็พยักหน้า “ลองดูนะคะว่าเขาตายยังไง”
พอได้ยินแบบนี้แพทย์แผนโบราณที่รับหน้าที่ชันสูตรศพก็อึ้ง
เขาขมวดคิ้วครุ่นคิด ทันใดนั้นดวงตาก็เปล่งประกาย
เจ็ดจุดลมปราณ…
“พอแล้ว!” ผู้อาวุโสสี่โมโหมาก “ไม่เพียงแต่เธอจะมาเถียงข้างๆ คูๆ ยังคิดจะทำลายศพทำลายหลักฐาน ท่านรองประธาน ตอนนี้ยังต้องสอบสวนอีกเหรอครับ”
“ในเมื่อเธอไม่บอกอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังกับแพทย์ผิดจรรยาบรรณคนอื่น งั้นก็ต้องสอบสวนด้วยการทรมาน!”
รองประธานสมาพันธ์พูดขึ้น “งั้นก็…”
เขายังไม่ทันพูดจบ อยู่ๆ แพทย์แผนโบราณที่รับหน้าที่ชันสูตรศพก็เอ่ย “ท่านรองประธานครับ ผู้อาวุโสทุกท่าน เมื่อครู่ผมลองปักเข็มเงินตามจุดลมปราณที่คุณอิ๋งบอก ได้ข้อมูลใหม่ครับ”
“ข้อมูลใหม่อะไร” ผู้อาวุโสสี่ไม่อยากฟัง “หรือจะบอกว่าคนคนนี้ไม่ได้ตายเพราะกินยาเหรอ”
แพทย์แผนโบราณตอบ “ก็ไม่ใช่ครับ แต่…”
“ไม่มีแต่!” ผู้อาวุโสสี่ตบโต๊ะ “ไม่ต้องถ่วงเวลาแล้ว ขืนช้ากว่านี้มีแต่จะสร้างหายนะ”
“หลักการนี้นายใหญ่เมิ่งและคนอื่นๆ น่าจะเข้าใจดี”
นายใหญ่เมิ่งพยักหน้า “ใช่ครับ ขังไว้ก่อนย่อมดีกว่าปล่อยไป”
ตัวแทนตระกูลแพทย์แผนโบราณคนอื่นๆ ปรึกษากัน ต่างเห็นด้วย
รองประธานสมาพันธ์ขมวดคิ้ว “งั้นก็…”
“เกิดเรื่องใหญ่อย่างแพทย์ผิดจรรยาบรรณทำไมถึงไม่เชิญฉันมาหารือล่ะ” มีเสียงดังขึ้น ชวนตกใจ “หรือว่า ฉันไม่ได้ออกมานาน เลยไม่มีสิทธิ์มีเสียงในโลกแพทย์แผนโบราณแล้ว”
ฝูเฉินประคองฝูซีเดินเข้ามาจากด้านนอก