คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 592 ปะทะกันเอง

ตอนที่ 592 ปะทะกันเอง

คำพูดสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ราวกับแค่จะไปดื่มชา ไม่ใช่จัดการตระกูลมหาเศรษฐีเก่าแก่ของยุโรป

คณะผู้อาวุโสมองลูกกระสุนพวกนั้นที่กลายเป็นผุยผงก็ตะลึงอีกครั้ง มีเหรอที่จะยังคิดตามไม่ทันอีก

นี่มันจอมยุทธ์!

อีกอย่าง ไม่ใช่จอมยุทธ์ธรรมดา ต้องเป็นระดับปรมาจารย์จอมยุทธ์ขึ้นไปแน่นอน

ตระกูลแพชช์ก็เคยสงสัยว่าเดวิลเป็นจอมยุทธ์ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางฆ่าผู้อาวุโสตายได้อย่างสบายๆ ขนาดนั้น

เพราะหลังเกิดเรื่องพวกเขาได้ตรวจดูสภาพบาดแผลของผู้อาวุโสคนนี้ พบว่าชีพจรหัวใจฉีกขาด แต่ภายนอกไม่มีร่องรอยบาดแผลอะไร

หากไม่ได้ถูกอาวุธที่ยิงด้วยเลเซอร์ก็มีแค่จอมยุทธ์เท่านั้นที่ทำได้

ด้วยเหตุนี้ตระกูลแพชช์ถึงได้ซื้ออาวุธที่ระดับสูงกว่ามาไว้ป้องกันจอมยุทธ์

กระสุนปืนใหญ่นัดเมื่อกี้สามารถฆ่าปรมาจารย์จอมยุทธ์ได้แน่

แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้

หรือว่าเหนือปรมาจารย์จอมยุทธ์ขึ้นไปยังมีจอมยุทธ์ที่เก่งกว่าอีกเหรอ

งั้นจะสู้อย่างไร!

ผู้อาวุโสใหญ่ถอยหลังหนึ่งก้าว ตวาดเสียง “เพิ่มแรงอัดกระสุน!”

ปังๆๆ!

ลูกกระสุนดุจห่าฝน แต่กลับทำอะไรฟู่อวิ๋นเซินที่มีกำลังภายในป้องกันตัวไม่ได้แม้แต่น้อย

เขาไม่ได้เดินเข้าทางประตู แค่อาศัยกำลังภายในเหยียบอิฐปีนขึ้นกำแพงคฤหาสน์ที่สูงเกือบร้อยเมตร

ในที่สุดเวลานี้คณะผู้อาวุโสก็ตื่นกลัวถึงขีดสุดแล้ว

มองฟู่อวิ๋นเซินที่เริ่มเข้ามาใกล้ ผู้อาวุโสใหญ่ยืนไม่มั่นคง ล้มลงไปบนพื้น

“ชู่ว ไม่ต้องกลัวขนาดนั้น” ฟู่อวิ๋นเซินยิ้ม “ผมยังต้องให้ท่านผู้อาวุโสนำทาง”

เขาหันไป ตวัดมือข้างหนึ่ง

ใช้กำลังภายในสกัดจุดลมปราณของผู้อาวุโสอีกหกคน เพื่อไม่ให้พวกเขาขยับ

ผู้อาวุโสใหญ่หน้าซีด มือข้างหนึ่งของฟู่อวิ๋นเซินกระชากเขาให้ลุกขึ้น บังคับเดินเข้าไปในคฤหาสน์

ตระกูลแพชช์เป็นผู้นำของสี่ตระกูลมหาเศรษฐีของยุโรป คฤหาสน์ย่อมใหญ่มาก ไม่ต่างจากเมืองขนาดเล็กที่มีประชากรสองสามแสนคน

เสียงเอะอะนอกคฤหาสน์ย่อมไม่มีผลต่อภายในคฤหาสน์แม้แต่น้อย

อย่างไรเสียคฤหาสน์ของตระกูลแพชช์ก็อยู่บริเวณชานเมือง มีเสียงปืนใหญ่ดังทุกวันอยู่แล้ว

ถ้าวันไหนสงบเงียบ คนในตระกูลแพชช์กลับจะรู้สึกว่าแปลก

ยิ่งไปกว่านั้น มีคณะผู้อาวุโสกับอาวุธยิงระยะไกลตั้งมากขนาดนั้น ใครจะมาโจมตีตระกูลแพชช์ได้

แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อพวกสมาชิกสายตรงที่อยู่ตรงใจกลางคฤหาสน์ก็ไม่ได้หมายความว่าอิทธิพลอื่นที่จับตาดูตระกูลแพชช์อยู่จะไม่เห็น

ในเวลาเดียวกับที่ผู้อาวุโสใหญ่สั่งให้ปืนทุกกระบอกเล็งไปที่ฟู่อวิ๋นเซิน ตระกูลลอเรนท์ก็ได้รับแจ้งข่าว

ข่าวนี้ส่งไปถึงซีซาร์โดยตรง

“จึ๊ เดวิลมันบ้าไปแล้วจริงๆ หรือว่า…” ดวงตาสีฟ้าของซีซาร์หรี่ลง “ถูกชิงเมียไปจริงๆ”

เขาเป็นถึงนายแห่งตระกูลลอเรนท์ ประวัติศาสตร์ตั้งกี่ช่วงก็ล้วนมีชื่อเขาอยู่

แต่กลับเป็นคนโสด

มันยุติธรรมแล้วเหรอ

จ็อบ “…”

นี่มันใช่ประเด็นสำคัญเหรอ

จ็อบพูดอ้อมๆ “นายท่านครับ พวกเราเอาไงดีครับ”

“ดูไปก่อน แต่ทีมทหารรับจ้างออกปฏิบัติการได้แล้ว” ซีซาร์ลูบคาง “บอสบอกว่าเย็นนี้จะติดต่อฉัน มีของขวัญจะให้ จ็อบ นายเดาซิว่าบอสจะ…”

พอพูดถึงตรงนี้อยู่ๆ ซีซาร์ก็เอะใจ

สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “แย่แล้ว บอสไปที่ตระกูลแพชช์คนเดียว!”

จ็อบได้ยินแบบนี้ก็มีสีหน้าตะลึง “คนเดียวเหรอครับ”

พูดตามตรง ต่อให้เป็นผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลลอเรนท์ก็ไม่กล้าบุกเข้าตระกูลแพชช์คนเดียวเป็นอันขาด

ที่ตระกูลลอเรนท์ไม่ได้เล่นงานตระกูลแพชช์โดยตรงก็เพราะเมื่อลงมือจะต้องสูญเสียไม่น้อยแน่นอน

ซีซาร์ยืนขึ้นทันที “ทีมทหารรับจ้างทั้งหมดออกปฏิบัติการ”

เขานึกไม่ถึงว่าของขวัญที่อิ๋งจื่อจินบอกจะให้เขาก็คือตระกูลแพชช์

จ็อบลังเล “นายท่านครับ ใช้ข้ออ้างอะไรดีครับ”

สี่ตระกูลมหาเศรษฐีแห่งยุโรปรักษาสมดุลมาตลอด อีกสามตระกูลไม่มีทางทนเห็นตระกูลแพชช์ถูกตระกูลลอเรนท์กลืนกินได้

สถานการณ์ในยุโรปซับซ้อนเกินไป ฟางเส้นเดียวอาจสะเทือนกันไปทั้งหมด

นี่ก็เป็นสาเหตุที่ตระกูลลอเรนท์ปล่อยตระกูลแพชช์มาจนถึงตอนนี้

“ข้ออ้างเหรอ” ซีซาร์เหลือบมองจ็อบ ทำเสียงจึ๊ “บอกว่าฉันชอบเงิน อยากแย่งงานเดวิล ไม่อยากให้เขาฮุบเงินคนเดียว เข้าใจไหม”

จ็อบ “…”

หลังจากอิ๋งจื่อจินอ่านหนังสือในห้องสมุดจบก็เป็นเวลาหกโมงครึ่งแล้ว

งานเลี้ยงเริ่มตอนหนึ่งทุ่ม

พวกคนรับใช้เดินวุ่น กำลังเตรียมอาหาร

เรเวนรออยู่นอกห้องสมุดอยู่นาน พอเห็นอิ๋งจื่อจินออกมาก็จัดชุดสูทให้ดี “คุณอิ๋งใช่ไหมครับ นายใหญ่ให้ผมมาพาคุณไปที่ห้องจัดเลี้ยงครับ”

เขาเห็นอิ๋งจื่อจินไม่มีท่าทีระแวงจึงไม่ปิดบังจุดประสงค์ของตัวเอง พาเธอไปยังสวนที่ไม่มีคนแล้วหยุดลง

เรเวนหันมา ความต้องการชัดเจนมาก

เขากวักมือเรียก เริ่มหงุดหงิด “ยังไม่เข้ามาอีก ต้องให้ฉันรับใช้เธอเหรอ”

อิ๋งจื่อจินหันไป สายตาเย็นชา “ทางที่ดีอย่ามาแตะต้องฉัน”

“เอาล่ะ เลิกเสแสร้งเถอะ” เรเวนแสยะยิ้ม “ทำตัวเป็นสาวบริสุทธิ์ไปได้ พวกคนในวงการบันเทิงมีบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วยเหรอ”

“ชีวิตส่วนตัวเละเทะกันทั้งนั้น ฉันถูกใจเธอ ถือเป็นเกียรติของเธอ ที่นี่ไม่มีคน เสแสร้งให้ใครดูน่ะ”

อิ๋งจื่อจินฟังแล้วก็ง่วง หาวออกมา

เรเวนยิ้ม “แต่พูดตามตรงนะ ฉันเบื่อพวกดาราผู้หญิงแล้ว บอสสาวอย่างเธอฉันยังไม่เคยได้ลิ้มลอง จะต้องสนุกกว่าแน่”

เขาไม่ได้เก็บคำพูดของอิ๋งจื่อจินมาใส่ใจแม้แต่น้อย ยื่นมือออกไปจะจับแขนของเธอ

แต่มือของเรเวนยังไม่ทันแตะถูกเสื้อผ้าของอิ๋งจื่อจิน อยู่ๆ มือของเขาก็สั่น

วินาทีถัดมาได้ยินเสียงเขาร้องทุรนทุราย

เขาเอามือจับตรงหัวใจ ล้มลงคล้ายกำลังชัก

สีหน้าซีดลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หมดสติไป

อิ๋งจื่อจินไม่มองเขา หยิบชุดดำตัวยาวในกระเป๋าเป้ออกมา

ตรงนี้ห่างจากห้องจัดเลี้ยงไม่ไกล เรเวนร้องดังขนาดนี้ย่อมรู้ถึงหูเจอร์แมน

เขารีบร้อนมาที่นี่ก็เห็นเรเวนที่หมดสติอยู่บนพื้น สีหน้าเปลี่ยนไปมาก

“วางใจได้ เขาไม่ตาย ก็แค่ต่อไปทำเรื่องแบบนั้นไม่ได้อีก และก็แค่มีทายาทสืบทอดให้ตระกูลแพชช์ของพวกคุณไม่ได้” อิ๋งจื่อจินสวมชุดอย่างใจเย็น “แต่ไหนแต่ไรมาฉันไม่ฆ่าคนส่งเดช มันบาป มีกรรมติดตัว ไม่จำเป็น”

เจอร์แมนฟังแล้วก็โมโห “คุณ…!”

แต่วินาทีถัดมาเขาก็พูดไม่ออกแล้ว

เพราะเวลานี้อิ๋งจื่อจินสวมชุดเสร็จแล้ว การแต่งตัวแบบนี้ทำให้เขารู้สึกคุ้นมาก

ชุดคลุมตัวยาวสีดำที่มีหมวกติดอยู่

ไม่เผยให้เห็นใบหน้าแม้แต่น้อย แยกไม่ออกว่าชายหรือหญิง

ทำให้นึกถึงเมื่อปีที่แล้วที่ตระกูลเบวินเชิญนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งมารักษานายใหญ่เบวิน ทหารรับจ้างระดับเอสของโลกใต้ดินถูกนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งกำราบได้ด้วยการตวัดมือเดียว

ปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดเข้ากัน สมองของเจอร์แมนก็ฉุกคิดขึ้นได้ เขาพูดออกไป “คุณ…คุณก็คือนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง!”

“ถูกต้อง” อิ๋งจื่อจินเปลี่ยนเสียง เป็นเสียงโทนกลางที่แยกไม่ออกว่าชายหรือหญิง “แต่ไม่มีรางวัลให้นะ”

สีหน้าของเจอร์แมนซีดลงในชั่วพริบตา “ปะ…เป็นไปไม่ได้!”

นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งจะอยู่ในประเทศจีนได้อย่างไร

แถมยังเป็นผู้หญิงด้วย

พวกเขาเคยฟันธงกันว่านักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งจะต้องเป็นตาแก่ที่ไม่รู้ว่ามีชีวิตอยู่มานานแค่ไหนแล้วแน่นอน

เจอร์แมนไม่มีเวลาคิดว่ามันเรื่องอะไรกัน ความกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อนบดบังสติของเขาทั้งหมด

นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งเชียวนะ!

น่ากลัวที่สุดในบรรดานักล่าอันดับหนึ่งของทุกชาร์ต

เจอร์แมนหันตัวเตรียมวิ่งหนี แต่ก็ไม่สำเร็จ

แต่คนที่ขวางเขาไม่ใช่อิ๋งจื่อจิน

อิ๋งจื่อจินเงยหน้าขึ้น แววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

กลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่ง

อย่างน้อยก็แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนที่เธอเคยเจอตอนนี้

ฟู่อวิ๋นเซินโยนผู้อาวุโสใหญ่ไปด้านข้าง จากนั้นก็เอามือจับบ่าเจอร์แมนแล้วหันไปมองอิ๋งจื่อจิน

เมื่อครู่เขาได้ยินเสียงตะโกนของเจอร์แมน

นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง

นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งปรากฏตัวที่นี่ แถมยังเป็นเวลานี้ ฟู่อวิ๋นเซินก็นึกได้แค่ว่าเกี่ยวข้องกับภารกิจบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

เขาเองก็รู้ว่าพวกทหารรับจ้างของโลกใต้ดินอยากให้นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งมาฆ่าเขา

นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะได้เจอกันในสถานการณ์แบบนี้

“ตกลงกันหน่อย คนนี้ผมขอ” ฟู่อวิ๋นเซินไม่ปล่อยเจอร์แมน พูดเสียงราบเรียบ “ไม่ติดอะไรใช่ไหม”

อิ๋งจื่อจินใจเย็น “ไม่ตกลง หลบไป”

โทรศัพท์มือถือของเธอถูกคนของตระกูลแพชช์ยึดไป จึงไม่รู้เรื่องบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเค และก็ไม่ได้รับภารกิจ

แต่ฆ่าก่อนแล้วค่อยไปกดรับภารกิจก็เหมือนกัน

ใครล่ะจะปฏิเสธเงิน

เจอร์แมนเป็นนายใหญ่ตระกูลแพชช์ ค่าหัวไม่ต่ำ อย่างน้อยก็ห้าร้อยล้านดอลลาร์แล้ว

ไหนจะพวกผู้อาวุโสอีก ค่าหัวรวมกันก็ได้หลายพันล้านดอลลาร์

“งั้นก็น่าเสียดายจริงๆ” ฟู่อวิ๋นเซินจัดการทำให้เจอร์แมนสลบ มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า “ผมไม่มีทางยกเขาให้คุณ”

จะเอาเงินไปซื้อลูกอมให้เด็กน้อย

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าช้าๆ “น่าเสียดายที่คุณก็ค่าหัวสองพันล้านดอลลาร์”

รับมือกับนักล่าที่อยู่อันดับหนึ่งเหมือนกัน อิ๋งจื่อจินไม่มีทางออมมือ

แต่ยาพิษพวกนี้ทำอะไรเดวิลไม่ได้

“แค่ยาพิษ ทำอะไรผมไม่ได้” ฟู่อวิ๋นเซินเดินออกไป “เป็นนักปรุงยาพิษ คุณไม่มีความสามารถอื่นแล้วเหรอ”

เขารู้มานานแล้วว่าเลือดของเขาสามารถช่วยจอมยุทธ์ฟื้นฟูแก่นแท้ของร่างกายได้

ส่วนตัวเขา พิษสารพัดก็ทำอะไรไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ฟู่อวิ๋นเซินจึงเคยไปตรวจร่างกายโดยเฉพาะ แต่ผลออกมาก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ

ถึงขนาดที่ว่ากรุ๊ปเลือดของเขาก็เป็นแค่กรุ๊ปโอธรรมดา ไม่ใช่กรุ๊ปเลือดหายากอะไร

สายตาของอิ๋งจื่อจินเย็นชา

เพิ่งเจอกันอิ๋งจื่อจินก็สังเกตเห็นแล้วว่าเดวิลมีความสามารถที่แข็งแกร่งขนาดไหน

ฟู่อวิ๋นเซินยกมือจับข้อมือของอิ๋งจื่อจินด้วยความเร็วดุจฟ้าผ่า

ชั่วขณะที่สัมผัสเขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ

นี่เป็นมือของผู้หญิง

สัมผัสอ่อนนุ่มไม่ธรรมดา

แถมยังคุ้นเคย

สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินชะงัก ค่อยๆ ก้มมอง

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset