ตอนที่ 615 ฟู่อวิ๋นเซิน ‘คำพูดของฉันไม่มีใครในศาลสถิตยุติธรรมฟังแล้วเหรอ’
คนคุ้มกันสองคนเดินขึ้นหน้า เข้าไปจับหลิงฉงโหลวไว้ทันที
เจียงหรานสีหน้าเปลี่ยน “พ่อ!”
หลิงฉงโหลวกลับใจเย็น ไม่แสดงอาการตื่นตระหนก “ไม่ทราบว่าผมซ่องสุมอาวุธตั้งแต่เมื่อไรเหรอครับ”
“บอกแล้วไงครับว่านี่คือหลักฐาน” ชายวัยกลางคนยื่นกระดาษพวกนั้นเข้าไปใกล้ “เจ้าของคลังเก็บของนี้ไม่ใช่คุณเหรอครับ”
บนกระดาษเป็นรูปถ่าย
ในรูปมีระเบิด ปืน กระสุน กองอยู่เต็มพื้นที่
หลิงฉงโหลวดูแล้วก็ขมวดคิ้ว “ผมเป็นเจ้าของคลังแห่งนี้จริงครับ”
“งั้นก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ” ชายวัยกลางคนแสยะยิ้ม “ศาลสถิตยุติธรรมตรวจสอบอาวุธที่คุณซ่องสุมพวกนี้หมดแล้ว”
น้ำเสียงของเจียงฮว่าผิงเย็นชา “คลังเก็บของถูกทิ้งร้างมานานแล้ว พวกคุณเอาอะไรมาตัดสินว่าฉงโหลวเป็นคนขนอาวุธพวกนี้เข้าไป”
“ก็เพราะถูกทิ้งร้างมานาน ถ้าไม่มีจดหมายนิรนามฉบับนั้น พวกเราคงไม่ค้นพบจนถึงตอนนี้” ชายวัยกลางคนพูด “ส่วนเอาอะไรมาตัดสินว่าเป็นของหลิงฉงโหลวหรือไม่ นี่ก็คือปัญหาครับ”
“พวกเราเลยแค่มาจับเขา ไม่ได้จะฆ่าทิ้ง”
ชายวัยกลางคนพูดเสียงแข็ง “เอาตัวไป พรุ่งนี้สอบสวนแบบเปิด”
“เสี่ยวฮว่า” หลิงฉงโหลวบอกเจียงฮว่าผิงว่าอย่าบุ่มบ่าม “ผมจะตามพวกเขาไปก่อน”
แววตาของเจียงฮว่าผิงเย็นชา “ค่ะ ฉันจะไปหาหลักฐาน”
หลิงเหมียนซีเดินเข้ามาในเวลานี้ “อาอิ๋ง กล้องวงจรปิดถูกทำลาย ในห้องควบคุมก็ไม่มีภาพบันทึกของคลังเก็บของนี้”
อิ๋งจื่อจินหรี่ตาลงเล็กน้อย
ไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดก็ใช้คอมพิวเตอร์กู้กลับมาไม่ได้
เรื่องชักจะยุ่งยาก
หลิงตงชิงเดินเข้ามา ยิ้มพลางพูด “น้องสะใภ้สี่ ทำไมฉงโหลวถึงได้คิดอะไรตื้นๆ แบบนี้นะ หาวิธีกำจัดตระกูลเฉียวทั้งที กลับจะซ่องสุมอาวุธให้ได้ แบบนี้ไม่จบเห่เหรอ”
เจียงหรานกัดฟันพูด “ฝีมือแก”
“ใช่ ฉันเอง” หลิงตงชิงยอมรับหน้าตาเฉย “แต่พวกเธอไม่มีหลักฐาน ถ้าพวกเธออัดเสียงไว้ ฉันก็จะบอกว่าตอนนี้พวกเธอบังคับให้ฉันพูด ดูซิว่าศาลสถิตยุติธรรมจะเชื่อไหม”
เจียงฮว่าผิงมองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา
“น้องสะใภ้สี่ นายก็อีกคน คุณชายน้อย ใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ให้ดีเถอะ” หลิงตงชิงยิ้ม “รอสอบสวนเสร็จ พวกเธอก็ต้องไสหัวออกจากบ้านตระกูลหลิงแล้ว”
หลิงฉงโหลวเข้าศาลสถิตยุติธรรมยังคิดว่าจะได้ออกมาในสภาพสมบูรณ์อีกเหรอ
เจียงหรานกำหมัดแน่น ตวาดเสียงด้วยความโมโห “หลิงตงชิง ฉันจะฆ่าแก”
“ฆ่าฉันเหรอ งั้นก็ต้องมีความสามารถนั้นก่อนนะ” หลิงตงชิงพูดดูถูก “อ้อ จริงสิ พรุ่งนี้ฉันไปดูการสอบสวนกับพวกเธอด้วยก็ได้ ไม่แน่นั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่พ่อลูกได้เจอหน้ากัน”
เขาหัวเราะเสียงดังเดินออกไป อารมณ์ดีมาก
เจียงหรานโมโห จะไล่ตามออกไป
แต่มีมือข้างหนึ่งจับบ่าของเขาไว้
ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว “สิบเก้าแล้ว ไม่เด็กแล้ว ทำไมยังใช้อารมณ์นำอีก”
เจียงหรานอึ้ง เม้มริมฝีปาก “ผมมันไร้ประโยชน์”
เขาไม่อยากต้องพึ่งพาคนอื่นทุกเรื่อง
“ทำไมจะไม่มีประโยชน์ นายเป็นขาใหญ่ประจำโรงเรียนไม่ใช่เหรอ”
เจียงหราน “…”
ฟู่อวิ๋นเซินปล่อยมือออกจากบ่าของเจียงหราน กวักมือเรียก “เยาเยา”
อิ๋งจื่อจินเดินเข้าไป “ฉันคิดหาวิธีได้แล้ว”
“หืม?” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินโค้งมน “ขอเดาก่อนนะว่าพวกเราคิดเหมือนกันหรือเปล่า”
อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้วเล็กน้อย “ผู้บัญชาการ ศึกนี้ใหญ่หลวง ต้องพึ่งผู้บัญชาการแล้ว”
“ได้ รออยู่ที่นี่นะ” ฟู่อวิ๋นเซินหยิกแก้มเธอ หัวเราะเบาๆ “พี่ชายจะกลับไปหน่อย”
…
ศาลสถิตยุติธรรมยึดอาวุธระยะไกลขนาดใหญ่จากคลังเก็บของไปไว้ในห้องปิดมิดชิดทั้งหมด พร้อมทั้งสั่งให้คนคุ้มกันเฝ้าไว้อย่างเข้มงวด
ไม่มีใครกล้าหละหลวม
จนกระทั่งมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น
คนคุ้มกันที่เฝ้าอยู่หน้าห้องตกใจ พูดด้วยความนอบน้อม “ท่านเงา”
ฟู่อวิ๋นเซินตอบอืม ใช้คางชี้ “ในนี้คืออาวุธหนักที่ยึดมาเหรอ”
“ครับท่านเงา” คนคุ้มกันตอบ “ท่านก้งเฟิ่งสั่งให้พวกเราเฝ้าไว้อย่างเข้มงวด รอจนกว่าจะสอบสวนคนผิดเสร็จค่อยเอาไปทำลายครับ”
“งั้นเหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินไม่แย้งอะไร “ฉันเข้าไปดูหน่อย”
พอได้ยินแบบนี้คนคุ้มกันที่เฝ้าอยู่ก็ลังเล ไม่กล้าขยับ
“ทำไม” น้ำเสียงของฟู่อวิ๋นเซินนุ่มนวล “ตอนนี้คำพูดของฉันใช้ไม่ได้ผลในศาลสถิตยุติธรรมแล้วเหรอ ก็ดี”
สองคำสุดท้ายทำให้พวกคนคุ้มกันใจหายวาบ รีบคุกเข่าลงทันที
“ท่านเงาไว้ชีวิตด้วยครับ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น”
พวกเขากล้าขวางคนอื่น แต่มีเหรอจะกล้าขวางท่านเงา
คนคุ้มกันเปิดประตูให้ฟู่อวิ๋นเซินเข้าไปทันที
ไม่กี่นาทีให้หลังฟู่อวิ๋นเซินก็เดินออกมาแล้วพูดขึ้น “เฝ้าให้ดี ตอนทำลายอย่าให้มีหลุดออกไปล่ะ”
“ครับท่านเงา!”
…
ตอนเย็นที่บ้านตระกูลเฉียว
วันนั้นนายใหญ่เฉียวถูกหลิงฉงโหลวตบไปหลายที จนถึงตอนนี้ตาขวายังบวมอยู่
แต่เนื่องจากอารมณ์ดี เขาจึงดื่มเหล้าไปหนึ่งขวดเต็มๆ
“นายใหญ่เฉียว ขอบคุณมากนะครับ” หลิงตงชิงชนแก้วกับเขา “ครั้งนี้หลิงฉงโหลวจบเห่แน่นอนครับ”
“เล็กน้อยๆ แต่ผมช่วยเอาตำแหน่งนายใหญ่ตระกูลหลิงมาให้คุณก็เพราะมีคำขออื่นอีก” นายใหญ่เฉียวดื่มเหล้า ยิ้มพลางพูด “หลิงเหมียนซียังไม่ได้แต่งงานใช่ไหม”
หลิงตงชิงหรี่ตา “ครับ แต่มีแฟนแล้ว พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายก็เจอหน้ากันแล้วด้วยครับ”
“เฮ้อ” นายใหญ่เฉียวส่ายมือ “ผมรู้ แฟนเธอเป็นคนในโลกปุถุชนไม่ใช่เหรอ ต่อให้เก่งแค่ไหนจะสู้อัจฉริยะของโลกจอมยุทธ์ได้เหรอ”
เขาลดเสียงให้เบาลง “นี่เป็นความคิดของคุณชายใหญ่ตระกูลฝานเชียวนะ ลองคิดดู ถ้าตระกูลหลิงของพวกคุณได้เกี่ยวดองกับตระกูลฝาน ขึ้นสิบอันดับแรกของโลกจอมยุทธ์ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วหรือเปล่า”
หลิงตงชิงหน้าขรึม ไม่พูดอะไร
คณะผู้อาวุโสตระกูลหลิงไม่พอใจในตัวเนี่ยอี้
ถ้าเขาได้เป็นนายใหญ่ตระกูลหลิงก็จะสามารถควบคุมเรื่องใหญ่อย่างการแต่งงานของหลิงเหมียนซีได้
นายใหญ่เฉียวพูดถูก หากมีตระกูลฝาน ตระกูลหลิงก็บินไปได้ไกล
“ครับ!” หลิงตงชิงกัดฟันตอบรับ “ไว้ผมได้ตำแหน่งนายใหญ่เมื่อไร ผมจะเกลี้ยกล่อมคณะผู้อาวุโสให้ยอมยกหลิงเหมียนซีแต่งงานกับตระกูลฝาน”
นายใหญ่เฉียวดวงตาเป็นประกาย “ดีๆ กินเหล้าๆ พรุ่งนี้ก็คือวันตายของหลิงฉงโหลวแล้ว ต้องฉลองหน่อย”
…
วันต่อมา
ฝ่ายตรวจสอบได้มอบคดีให้ฝ่ายสอบสวน
ภายในสถานที่สอบสวน
หลังจากหัวหน้าฝ่ายสอบสวนสรุปที่มาที่ไปของเรื่องแล้วก็พูดขึ้น “หลิงฉงโหลวยังมีอะไรจะพูดอีกไหม”
“หรือมีหลักฐานอะไรที่ยืนยันได้ว่าคุณไม่ได้ซื้ออาวุธพวกนั้นมาหรือเปล่า”
หลิงฉงโหลวตอบ “ไม่มีครับ”
หัวหน้าฝ่ายสอบสวนพยักหน้า “ในเมื่อไม่มี งั้นก็…”
หลิงฉงโหลวพูดต่อ “แต่ผมมีพยานบุคคลครับ”
อิ๋งจื่อจินที่นั่งอยู่ได้ยืนขึ้น
เธอแปลงโฉม แต่งตัวธรรมดา
หัวหน้าฝ่ายสอบสวนถามขึ้นอีกครั้ง “คุณเห็นใครขนอาวุธหนักพวกนั้นเข้าไปในคลังเก็บของ”
“ไม่มีค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “แต่ทางศาลสถิตยุติธรรมตรวจสอบแล้ว แหล่งผลิตอาวุธพวกนั้นคือเว็บบอร์ดเอ็นโอเคค่ะ”
จอมยุทธ์คนอื่นอาจไม่รู้จักเว็บบอร์ดเอ็นโอเค แต่ศาลสถิตยุติธรรมรู้
ฝ่ายในของศาลสถิตยุติธรรมก็มีแอคเคาท์ มีล็อกอินเข้าไปดูบ้างเป็นครั้งคราว
หัวหน้าฝ่ายสอบสวนพยักหน้า “ครับ เชิญพูดต่อ”
“หากต้องการสั่งทำอาวุธมากขนาดนั้นในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคจะต้องใช้ชื่อจริง” อิ๋งจื่อจินพูด “บนอาวุธทุกชิ้นจะมีชื่อผู้ซื้อ ก็แค่สัญลักษณ์ค่อนข้างเล็ก ยากที่จะสังเกตเห็นค่ะ”
“ขอแค่ชื่อที่สลักอยู่บนอาวุธไม่ใช่หลิงฉงโหลวก็แสดงว่าเขาไม่ได้ซื้อค่ะ”
พอได้ยินแบบนี้หัวหน้าฝ่ายสอบสวนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปสั่งคนคุ้มกันที่อยู่ด้านข้าง “ไปตรวจสอบอีกครั้ง ดูว่ามีชื่อหรือเปล่า ตรวจดูให้ละเอียดด้วย”
พวกเขาไม่เคยสั่งอาวุธจำนวนมากขนาดนี้บนเว็บบอร์ดเอ็นโอเค จึงไม่รู้ว่ามีกฎแบบนี้ด้วย
ตรงที่นั่งด้านล่าง
เจียงฮว่าผิงขมวดคิ้ว “เสี่ยวเหมียน มีชื่อจริงเหรอ”
หลิงเหมียนซีคิดแล้วตอบ “อันที่จริงไม่มีหรอกค่ะ แต่หนูคิดว่าอาอิ๋งทำให้มันมีได้”
เจียงหรานยกมือขึ้นทันที “ผมก็คิดแบบนั้น!”
หลิงตงชิงแสยะยิ้ม
ชื่อเหรอ
ล้อเล่นอะไรน่ะ
ใครมันจะบ้าสลักชื่อลงบนอาวุธที่สั่งทำ
ตอนซื้อเขาก็ตรวจดูอย่างละเอียดแล้ว แน่ใจว่าไม่มีตำหนิอะไร
เขารอโอกาสนี้มานานมากแล้ว ในที่สุดหลิงฉงโหลวก็ไปมีเรื่องกับตระกูลเฉียว
เขาร่วมมือกับตระกูลเฉียวก็สามารถทำให้หลิงฉงโหลวลงจากตำแหน่งได้
“เอาล่ะ อย่ามัวเสียเวลาเลยครับ” หลิงตงชิงมองเด็กสาวด้วยสายตาเย็นชา “รู้หรือเปล่าว่าตัวเองกำลังพูดเหลวไหล ให้การเท็จมีโทษเทียบเท่าคนที่ทำความผิด”
เขาหมดความอดทน “ก้งเฟิ่งครับ เว็บบอร์ดเอ็นโอเคไม่มีกฎแบบนี้ ถ้ามี การซื้อขายจะปลอดภัยเหรอครับ ไม่เท่ากับต้องเปิดเผยตัวตนเหรอ”
หัวหน้าฝ่ายสอบสวนพยักหน้า “ที่คุณพูดก็มีเหตุผล”
การซื้อขายอาวุธของทางยุโรป ทั้งสองฝ่ายจะระมัดระวังกันมาก
หลิงตงชิงแสยะยิ้มอีกครั้ง “เธอเป็นพวกเดียวกันกับหลิงฉงโหลว ช่วยกันปิดบัง ท่านระวังถูกหลอกนะครับ”
“จริงหรือเปล่าเดี๋ยวก็รู้” อิ๋งจื่อจินยังคงสุขุม “ร้อนใจแบบนี้คิดอะไรไม่ดีอยู่เหรอคะ”
สีหน้าของหลิงตงชิงแย่ลง “ฉันน่ะเหรอคิดไม่ดี อย่ามาพูดเหลวไหล!”
คิดว่าตัวเองเป็นผู้ดูแลเว็บบอร์ดเอ็นโอเคหรือไง สามารถตั้งกฎได้ตามใจชอบ