ตอนที่ 618 อิ๋งจื่อจิน ‘ฉันว่าตระกูลฝานไม่ต้องใช้แพทย์แผนโบราณแล้ว’
“…”
พอคำพูดนี้ออกมาก็เกิดความเงียบขึ้นภายในห้อง
หลิงฉงโหลวกับเจียงฮว่าผิงมองหน้ากัน ต่างตะลึง
ทำให้ตระกูลหลิงติดสิบอันดับแรกของโลกจอมยุทธ์เหรอ
ตอนนี้ตระกูลหลิงไม่ใช่แม้แต่ตระกูลใหญ่ แล้วจะติดสิบอันดับแรกได้อย่างไร
อิ๋งจื่อจินโทรติดแล้ว
ปลายสายคือฝูซี “อาจารย์”
อิ๋งจื่อจินพูด “มีเรื่องนิดหน่อย อยากให้เธอสั่งแพทย์แผนโบราณห้าสิบคนมาที่ตระกูลหลิงในโลกจอมยุทธ์”
“จะเป็นของตระกูลฝูหรือสำนักเทียนอีก็ได้ ตระกูลหลิงมีอาหารกับที่พักให้ เงินเดือนจ่ายตามราคาท้องตลาด”
แน่นอนว่าแพทย์แผนโบราณไม่มีทางทำงานให้ฟรีๆ ก็ต้องการเงินเดือนเหมือนกัน
แต่ตระกูลของโลกจอมยุทธ์หากต้องการเชิญแพทย์แผนโบราณของตระกูลฝู เมิ่ง อัน หรือสำนักเทียนอี มีแค่เงินก็ยังไม่พอ
ยังต้องมีสถานะสูงและมีอิทธิพล
ด้วยเหตุนี้ตระกูลขนาดกลางของโลกจอมยุทธ์จึงไม่เคยเข้าถึงแพทย์แผนโบราณของสี่อิทธิพลใหญ่นี้
“ตระกูลหลิงเหรอคะ” ฝูซีคิด “ได้ค่ะอาจารย์ ฉันจะให้ฝูเฉินนำไป ก็พอดี เขาก็ควรไปฝึกฝนในโลกจอมยุทธ์ได้แล้ว”
วันๆ เอาแต่นอนแถมยังบอกว่ากำลังภายในเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาด เธอเห็นแล้วก็อยากเตะ
“ลุงหลิงคะ แพทย์แผนโบราณห้าสิบคนพอไหมคะ” อิ๋งจื่อจินกดตัดสาย พยักหน้า “ถ้าไม่พอหนูจะให้หมอโอสถจากสมาพันธ์โอสถมาด้วยดีไหมคะ”
พอได้ยินแบบนี้ ต่อให้เป็นหลิงฉงโหลวก็มึนตึ้บ ตะลึงอย่างสิ้นเชิง “…แค่นี้ ไม่พอเหรอ”
ตระกูลฝานอยู่อันดับเจ็ดของโลกจอมยุทธ์ มีแพทย์แผนโบราณในตระกูลรวมกันทั้งหมดหลายร้อยคน
แต่แพทย์แผนโบราณที่มาจากอิทธิพลอันดับต้นๆ ของโลกแพทย์แผนโบราณก็มีไม่เกินสามสิบคนแน่นอน
ตอนนี้อิ๋งจื่อจินเรียกมาให้ห้าสิบคนอย่างง่ายดาย
ท่าทางประหนึ่งว่ายกโลกแพทย์แผนโบราณมาตั้งที่นี่ก็ยังได้
“ไม่พอเหรอคะ” อิ๋งจื่อจินค้นเบอร์โทรของผู้อาวุโสใหญ่สมาพันธ์โอสถ กำลังจะกดโทร
“ไม่ใช่ๆ” หลิงฉงโหลวห้ามไว้ได้ทันเวลา สูดลมหายใจเข้าลึก “ลุงหมายความว่า พอแล้ว อีกอย่าง มันมากไปหน่อยหรือเปล่า”
ใกล้จะเทียบเท่าตระกูลหลิน เซี่ย เย่ว์ แล้ว
อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “ไม่เยอะหรอกค่ะ ตระกูลใหญ่ ต้องเอาให้สมเกียรติ”
หลิงฉงโหลวพูดไม่ออก ดวงตาร้อนผ่าว
เวลานี้เขาถึงตระหนักได้อย่างแท้จริงว่าอิ๋งจื่อจินมีสถานะที่สูงขนาดไหนในโลกแพทย์แผนโบราณ
“จื่อจิน หนูช่วยตระกูลหลิงไว้ได้มากเหลือเกิน” หลิงฉงโหลวครุ่นคิดอยู่สักพักก็พูดขึ้น “ถ้าหนูต้องการอะไร ตระกูลหลิงจะทำให้แน่นอน”
อิ๋งจื่อจินคิดแล้วตอบ “หนูไม่ได้ขาดเหลืออะไร แต่มีอยู่เรื่องหนึ่ง”
หลิงฉงโหลวสีหน้าจริงจัง “ว่ามาได้ ขอแค่เป็นเรื่องที่ลุงทำได้”
“ลุงหลิงช่วยขังเขาไว้สักระยะแล้วกันค่ะ” อิ๋งจื่อจินชี้เจียงหรานที่อยู่ข้างๆ “น่ารำคาญ”
หลิงฉงโหลวตอบทันที “ได้ ไม่มีปัญหา”
เจียงหราน “?”
ทำไมคนที่ซวยมักเป็นเขาเสมอ
ตอนนี้มีแพทย์แผนโบราณแล้ว หลิงฉงโหลวจึงไปเตรียมเงินกับหนังสือสัญญา
เจียงฮว่าผิงเดินเข้าไปหาฟู่อวิ๋นเซิน เธอเองก็โล่งใจ “ถ้าหลิวอิ๋งได้เห็นพวกเธอในวันนี้ ประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ คงมีความสุขมาก”
“ผมก็อยากให้แม่มีความสุขทุกวันครับ” ฟู่อวิ๋นเซินเงียบไปชั่วครู่แล้วยิ้ม “ถ้าอีกหน่อยผมไม่กลับโลกจอมยุทธ์นาน รบกวนป้าเจียงช่วยไปกวาดสุสานแทนผมด้วยนะครับ แม่อยู่คนเดียวโดดเดี่ยวเกินไป”
“แน่นอน เธอไม่พูดป้าก็จะไปอยู่แล้ว” เจียงฮว่าผิงพูด “ไม่รู้ว่าตอนนั้นหลิวอิ๋งไปที่ไหนมา และก็ไม่รู้ว่า…”
เจียงฮว่าผิงไม่พูดต่อ ได้แต่ถอนหายใจ
ก็ไม่รู้ว่าฟู่หลิวอิ๋งไปท้องกับใครจนมีฟู่อวิ๋นเซิน
ฟู่อวิ๋นเซินไม่พูด ดวงตาดอกท้อฉายแววเย็นชา
ถึงแม้เขาจะแน่ใจแล้วว่าฟู่หลิวอิ๋งเคยไปที่ไหนมา
แต่ปัญหาในตอนนี้คือ หาทางเข้าสถานที่แห่งนั้นไม่เจอ เข้าไปไม่ได้
ฟู่อวิ๋นเซินพูด “ผมจะแก้แค้นให้แม่ ไม่ว่าใครจะเป็นคนทำก็ตาม”
นี่คือสิ่งที่ค้ำจุนเขาอยู่ ไม่มีทางเปลี่ยน
…
วันที่สาม
ตระกูลหลิงเรียกประชุมอีกครั้ง
“บอกรายละเอียดไปแล้วเมื่อวานซืน” ผู้อาวุโสใหญ่เคาะโต๊ะ พูดขึ้น “แพทย์แผนโบราณสำคัญมาก คณะผู้อาวุโสตัดสินใจแล้วว่าจะถอดฉงโหลวออกจากตำแหน่งนายใหญ่เพื่อทุกคนในตระกูลหลิง”
“ตามลำดับ ตำแหน่งนายใหญ่จะต้องเป็นของหลิงเฉวียน มีใครคัดค้านอะไรไหม”
หลิงเฉวียนดีใจมาก พูดขึ้นทันที “ขอบคุณครับผู้อาวุโสใหญ่ ผมจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ผมจะพาตระกูลหลิงเจริญก้าวหน้า!”
ผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้า หันไปพูด “ฉงโหลว นายล่ะ”
“ขอคัดค้านครับ” หลิงฉงโหลวพูด “แพทย์แผนโบราณ…”
เขายังไม่ทันพูดจบก็ถูกหลิงเฉวียนขัดจังหวะ “ใช่ แพทย์แผนโบราณ เพราะนายกับลูกตัวดีของนายทำให้ตระกูลหลิงเชิญแพทย์แผนโบราณมาไม่ได้ นายยังจะคัดค้านอีกเหรอ คู่ควรเหรอ”
“เก่งนักก็ทำให้ตระกูลฝานยกเลิกคำสั่งให้ได้ก่อน ทำให้แพทย์แผนโบราณกลับมา”
หลิงเฉวียนทำหน้าเย็นชาใส่
เขาหมั่นไส้หลิงฉงโหลวมานานแล้ว
แต่เขาไม่มีทางบุ่มบ่ามแบบหลิงตงชิง
ครั้งนี้คณะผู้อาวุโสยกตำแหน่งนายใหญ่ให้เขาเอง
ในที่สุดก็ทำให้หลิงฉงโหลวไสหัวลงไปได้แล้ว เขายังต้องขอบคุณตระกูลฝานด้วย
หลิงฉงโหลวแสยะยิ้ม “ใครบอกว่าแพทย์แผนโบราณจะไม่กลับมาแล้ว เรื่องที่ผมจะบอกคือ ผมเพิ่งเซ็นสัญญากับแพทย์แผนโบราณจำนวนห้าสิบคนไป”
“ฉงโหลว” คนที่พูดคือผู้อาวุโสใหญ่ เขาขมวดคิ้ว “อย่าพูดเพราะอารมณ์ ถ้านายบอกว่าห้าคนพวกเราก็ยังพอจะเชื่อ”
ห้าสิบคนเหรอ
จะเป็นไปได้ยังไง
“ผู้อาวุโสใหญ่!”
ในเวลานี้เองมีคนคุ้มกันวิ่งมาจากข้างนอกด้วยความรีบร้อน
เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงดีใจแบบที่ปกปิดไม่มิด “ด้านนอกมีแพทย์แผนโบราณมากันหลายสิบคนเลยครับ! บอกว่าจะมาประจำอยู่ที่ตระกูลหลิงครับ!”
คำพูดนี้ทำให้คนที่อยู่ในห้องประชุมต่างตะลึง
หลิงเฉวียนรู้สึกเหลือเชื่อ “หลายสิบคนเหรอ”
ผู้อาวุโสใหญ่อึ้งอยู่ครึ่งนาทีเต็มๆ เขาลุกขึ้นทันที “เร็วเข้า รีบเชิญเข้ามา!”
เขาเดินนำออกไปก่อน ไปต้อนรับที่ห้องโถงด้านหน้า
หลิงเฉวียนกัดฟันกรอด เขาก็ตามออกไปด้วย
เมื่อเขาไปถึงที่ห้องโถงหน้าถึงได้พบว่าหลิงฉงโหลวพูดจริง
มีแพทย์แผนโบราณห้าสิบคนจริงๆ ไม่ขาดแม้แต่คนเดียว
อีกทั้งบนชุดของแพทย์แผนโบราณเหล่านี้ยังมีอักษร ‘ฝู’ หรือไม่ก็ ‘เทียน’ หมดทุกคน
ตระกูลฝู!
สำนักเทียนอี!
ผู้อาวุโสใหญ่ตาลาย
นี่คือแพทย์แผนโบราณที่ตระกูลหลิงเชิญมาได้งั้นเหรอ!
“นายใหญ่หลิง ยินดีที่ได้พบครับ ผมคือฝูเฉิน” ฝูเฉินก้าวมาด้านหน้าจับมือหลิงฉงโหลว “ผมไม่ต้องการอะไรมาก ขอแค่เตียงดีๆ รบกวนขอเตียงนุ่มๆ ให้ผมหน่อยนะครับ ผมอยากนอนสบายๆ”
หลิงฉงโหลว “…แน่นอนครับ”
ผู้อาวุโสใหญ่ตะลึงอีกครั้ง “คะ คุณคือคุณชายฝูเฉินเหรอครับ”
“ใช่ครับ” ฝูเฉินโบกพัด ตกใจ “ผมไม่เหมือนเหรอครับ”
เจียงหรานมองฝูเฉินที่ใส่ทองเส้นใหญ่กับแว่นกันแดด “…”
โคตรจะไม่เหมือน
แถมเหมือนนักเลงยิ่งกว่าเขาอีก
ฝูเฉินโบกมือ “พวกคุณแบ่งงานกันไปนะ ผมจะไปพักผ่อนแล้ว”
ผู้อาวุโสใหญ่เหงื่อแตกท่วมศีรษะ ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรต่อ
มือของเขาสั่นไปหมด เพราะตื่นเต้นเหลือเกิน
หลิงเฉวียนพูด “ผู้อาวุโสใหญ่ งั้นตำแหน่งนายใหญ่ของผม…”
ผู้อาวุโสใหญ่สูดลมหายใจไปหลายทีถึงพอสงบสติอารมณ์ได้ “ในเมื่อฉงโหลวเชิญแพทย์แผนโบราณมาได้แล้ว งั้นก็ให้เขาเป็นนายใหญ่ต่อไป”
ครั้งนี้ตระกูลหลิงจะเปลี่ยนนายใหญ่อีกไม่ได้เด็ดขาด
สถานะของหลิงฉงโหลวมั่นคงแล้ว
แม้ผู้อาวุโสใหญ่จะไม่รู้ว่าหลิงฉงโหลวเชิญแพทย์แผนโบราณของตระกูลฝูกับสำนักเทียนอีมาได้อย่างไรก็ตาม
หลิงฉงโหลวขยิบตาให้เจียงหราน
เจียงหรานเดินตามฝูเฉิน พาเขาไปที่ห้อง
ฝูเฉินเก็บพัด “จริงสิ คุณอิ๋งล่ะ”
เจียงหรานนึก “อ๋อ พ่ออิ๋งบอกเบื่อเลยไปประลองที่สหพันธ์จอมยุทธ์แล้ว”
“…”
…
อีกด้านหนึ่ง
สหพันธ์จอมยุทธ์
อิ๋งจื่อจินสู้สนามสุดท้ายเสร็จ
เธอไม่ได้ถอดหน้ากาก ไปลงชื่อปลอมที่โต๊ะทำงานแล้วออกจากสนามประลอง
คนดูแลมองผลบนกระดาษ ร้องซี้ด “คุณผู้หญิงคนนี้สู้เก่งจริงๆ ลงแข่งห้าสนาม ชนะต่อเนื่องทั้งหมด”
จอมยุทธ์หญิงมีเพียงหนึ่งในห้าของจอมยุทธ์ชาย อีกทั้งฝีมือโดยเฉลี่ยก็ด้อยกว่าผู้ชาย
จอมยุทธ์หญิงที่มาขึ้นประลองก็มีแค่ไม่เท่าไร
แต่เซี่ยเนี่ยนเป็นกรณียกเว้น
อีกทั้งเซี่ยเนี่ยนขึ้นประลองก็โหดเหี้ยมมาก เก้าสิบเปอร์เซ็นต์คือทำอีกฝ่ายตาย
แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร อย่างไรเสียเธอก็เข้าร่วมการประลองแบบเสี่ยงชีวิต
ส่วนตอนนี้ก็มีจอมยุทธ์หญิงโผล่มาอีกคน อีกทั้งยังทำผลงานดี ชนะหมดทุกการประลอง
ดูท่าทางจะไม่ได้มาจากตระกูลหลิน เซี่ย หรือเย่ว์
คนดูแลอีกคนหนึ่งถามขึ้น “ต้องรายงานนายน้อยไหม”
“รายงานไปก็ไม่มีประโยชน์” คนดูแลส่ายหน้า “เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เผยโฉมหน้า ชื่อที่เขียนก็เป็นชื่อปลอม”
“คงต้องรอเธอมาร่วมประลองครั้งหน้าค่อยเชิญนายน้อยมาดู”
ทั้งสองคนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเสร็จก็เก็บผลงานของอิ๋งจื่อจินเข้าทะเบียนประวัติ
ด้านนอกสนามประลอง
ฟู่อวิ๋นเซินรออยู่
พอเห็นอิ๋งจื่อจินออกมาเขาก็กวักมือเรียก กอดเธอแล้วลูบศีรษะ “สนุกไหม”
“ไม่ น่าเบื่อ” อิ๋งจื่อจินหาว “อ่อน ไม่มีความท้าทาย สู้กับคุณน่าสนใจกว่า”
“แฟนสาว เบาหน่อย” ฟู่อวิ๋นเซินยกมือ ดวงตาสีอำพันทอประกายวูบไหว ยิ้มพลางพูด “แฟนหนุ่มกลัวจริงๆ นะ”
อิ๋งจื่อจินตบบ่าเขาเป็นเชิงปลอบ “แฟนหนุ่ม ไม่ต้องกลัว คุณก็ขอฉันไม่ให้ทำที่หน้าแล้ว”
เธอก็ยังต้องเก็บใบหน้าไว้ดูเหมือนกัน
“…”
…
บ้านตระกูลฝาน
ครบกำหนดสามวันแล้ว แต่ตระกูลหลิงกลับไม่ส่งข่าวมา
ให้พวกแพทย์แผนโบราณไร้สังกัดยุติสัญญากับตระกูลหลิงเป็นเรื่องเล็กน้อยมากสำหรับตระกูลฝาน
ขอแค่ตระกูลหลิงกลายเป็นตระกูลใต้อาณัติของตระกูลฝาน ตระกูลฝานก็จะสู่ขอหลิงเหมียนซีได้สำเร็จ
หลังจากแต่งหลิงเหมียนซีเข้ามาได้แล้วก็จะให้เธอมีลูกให้ตระกูลฝาน
ยิ่งพ่อแม่เป็นจอมยุทธ์ที่มีพรสวรรค์สูงทั้งคู่ ลูกที่ออกมาก็จะมีพรสวรรค์สูงยิ่งกว่า
นายใหญ่ฝานเรียกพ่อบ้านที่วันนั้นถูกส่งให้ไปบ้านตระกูลหลิง “พ่อบ้านได้ถ่ายทอดคำพูดของฉันหรือเปล่า หรือไม่ได้บอกตระกูลหลิงถึงข้อดีข้อเสีย”
พ่อบ้านรีบตอบ “เรียนนายใหญ่ ผมบอกแล้วครับ”
“บอกแล้วแต่ทำไมพวกเขาไม่มีข่าวเลยล่ะ” นายใหญ่ฝานสงสัย “หรือพวกเขาจะรู้จักกับแพทย์แผนโบราณของสำนักเทียนอี”
พ่อบ้านยิ้ม “นายใหญ่ครับ ถ้าตระกูลหลิงรู้จักกับอิทธิพลใหญ่ของแพทย์แผนโบราณ ตระกูลยังจะขนาดเท่านี้อยู่หรือครับ ต่อให้พวกเขาเบียดขึ้นสิบอันดับแรกของโลกจอมยุทธ์ไม่ได้ ก็ต้องกลายเป็นตระกูลใหญ่ได้บ้างอยู่ดี”
“ถูกต้อง” นายใหญ่ฝานพยักหน้าช้าๆ “มีเหตุผล”
แพทย์แผนโบราณที่ฝังเข็มได้ยังสามารถช่วยจอมยุทธ์ปลุกความสามารถที่แฝงอยู่ในร่างกายได้ด้วย
แพทย์แผนโบราณของตระกูลฝู เมิ่ง อัน และสำนักเทียนอีคนละระดับกับแพทย์แผนโบราณทั่วไป
“ไป ไปดูที่บ้านตระกูลหลิงหน่อย” นายใหญ่ฝานขมวดคิ้ว ยืนขึ้น “ดูว่าพวกเขามัวเล่นอะไรอยู่กันแน่ หรือมีแพทย์แผนโบราณไร้สังกัดคนไหนที่ไม่เชื่อฟังตระกูลฝาน อยู่บ้านตระกูลหลิงต่อ”
พ่อบ้านพูดอย่างนอบน้อม “ครับนายใหญ่”
บ้านตระกูลฝานกับบ้านตระกูลหลิงอยู่คนละทาง อีกทั้งโลกจอมยุทธ์ยังกว้างใหญ่มาก
เวลาใกล้พลบค่ำนายใหญ่ฝานถึงได้นั่งรถม้าไปถึงบ้านตระกูลหลิง
บ้านตระกูลหลิงไม่ได้ชุลมุนแบบที่คิดไว้ และก็ไม่ได้มีคนแห่กันออกมาต้อนรับ
คนรับใช้กับคนคุ้มกันก็ทำงานกันอย่างมีระเบียบ
“ตระกูลหลิงหมายความว่าไง” นายใหญ่ฝานหรี่ตามอง “สองวันก่อนก็บอกแล้วว่าถ้าตระกูลหลิงเปลี่ยนนายใหญ่ พวกเราจะช่วยจ้างแพทย์แผนโบราณมาให้”
“ทำไมจนถึงตอนนี้ที่นี่ยังไม่มีความเคลื่อนไหว คิดว่าตัวเองยังจะหาแพทย์แผนโบราณในโลกแพทย์แผนโบราณได้อีกเหรอ”
นายใหญ่ฝานไม่สังเกตเห็นความผิดปกติแม้แต่น้อย
ในโลกจอมยุทธ์ ตระกูลขนาดกลางแบบตระกูลหลิงมีอยู่หลายร้อย
ความแตกต่างระหว่างตระกูลขนาดกลางกับตระกูลขนาดใหญ่มีมาก ไม่ว่าจะเรื่องจำนวนคนหรือความสามารถโดยรวม
ตระกูลหลิงไม่มีแม้แต่คนหนุนหลัง ยังอยากต่อต้านตระกูลฝานอีกเหรอ
หลิงฉงโหลวยิ้มตอบ “ตระกูลฝานของพวกคุณทำให้แพทย์แผนโบราณไปได้ พวกเราก็ย่อมมีหนทางให้แพทย์แผนโบราณกลับมา”
“พวกนายน่ะเหรอ พวกนายเทียบตระกูลฝานได้เหรอ” นายใหญ่ฝานหันไป สายตาตกที่ฝูเฉิน “นี่น่ะเหรอแพทย์แผนโบราณที่พวกนายหามาได้ นายเป็นแพทย์ไร้สังกัดมาจากไหนกันล่ะ ไม่ได้รับคำสั่งของตระกูลฝานหรือไง”
เจียงหรานอึ้ง หันไปถาม “เขาไม่รู้จักนายเหรอ”
ชื่อฝูเฉินก็โด่งดังในโลกจอมยุทธ์เช่นกัน
“ใช่ว่าตระกูลไหนในโลกจอมยุทธ์ก็เจอฉันได้” ฝูเฉินลูบคาง “ภาพเหมือนของฉันก็แพงมาก ใช่ว่าใครจะซื้อได้ ฉันไม่เหมือนเมิ่งชิงเสวี่ยหรอกนะที่คุณชายทุกบ้านจะมีภาพวาดของเธอเก็บไว้”
เจียงหรานพยักหน้า
ก็จริง
“ให้เวลาหนึ่งนาที” นายใหญ่ฝานเหล่มองฝูเฉิน “ไปจากบ้านตระกูลหลิงซะ ถ้าหาตระกูลอยู่ไม่ได้ก็มาตระกูลฝาน ตระกูลฝานจะให้เงินสิบเท่า”
ฝูเฉินชักสีหน้าใส่ ยังไม่ทันตอบก็มีเสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้น
อิ๋งจื่อจินกอดอก ยืนอยู่ตรงประตู หันมาเล็กน้อย “ฉันว่าตระกูลฝานไม่ต้องใช้แพทย์แผนโบราณก็ได้”
