คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 648 ตัวตนโผล่ได้ตลอดเวลา

ตอนที่ 648 ตัวตนโผล่ได้ตลอดเวลา

บรรดาพนักงานของวีนัสกรุ๊ปต่างรู้ว่าเอียนประธานฝ่ายการเงินสนิทกับประธานใหญ่มาก

ถัดมาก็คือโจเซฟ ประธานฝ่ายเทคโนโลยี

อีกทั้งสาเหตุที่นีลมองประธานใหญ่เป็นไอดอลก็เพราะโจเซฟเป็นคนที่ประธานใหญ่ขุดมาด้วยตัวเอง

แม้แต่ประธานสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามก็ยังถูกเชิญมารับตำแหน่งฝ่ายไอทีของบริษัทได้ ต้องสุดยอดขนาดไหน

ส่วนเขาที่เคยเป็นประธานฝ่ายขายของโซนยุโรป เอียนต่างหากที่ถือเป็นหัวหน้าใหญ่สายตรงของเขา

นีลไม่มีเวลาสนใจฟู่อวิ๋นเซินแล้ว รับโทรศัพท์ทันที “ประธานเอียน”

“นีล เมื่อวานคุณทำอะไรไว้” แต่ไหนแต่ไรมาเอียนเป็นคนตำหนิตรงๆ “ผมให้คุณไปรับตำแหน่งประธานโซนเอเชียแปซิฟิก เป็นเพราะท่านประธานใหญ่ไว้วางใจและยอมรับในความสามารถของคุณ แล้วคุณไปทำตัวอวดดีทำไมไม่ทราบ”

นีลตกใจ ไม่มีเวลาคิดว่าเอียนรู้ได้อย่างไร เขาอ้าปากพูด “ประธานเอียน ผม ผมก็แค่…”

“เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณมันปากเก่ง อวดดีให้น้อยๆ หน่อย” เอียนกำชับอีกครั้ง “ยังไงอีกหน่อยคุณก็เป็นประธานโซนเอเชียแปซิฟิกแล้ว อยู่ร่วมกันกับลูกน้องให้ดีๆ เข้าใจไหม”

“ท่านประธานใหญ่พูดแล้วว่า ถ้ากำไรของโซนเอเชียแปซิฟิกกล้าตกแม้แต่จุดเดียวในไตรมาสหน้า คุณจบแน่”

นีลตกใจเหงื่อแตกท่วมตัว “ผมจะตั้งใจทำงานแน่นอนครับ จะพยายามเข้าใจลูกน้อง ฝากประธานเอียนไปบอกท่านประธานใหญ่ด้วยว่า ผมเป็นแฟนคลับตัวยงของเขาตลอดไปครับ!”

เอียนสำลัก “เดี๋ยวประชุมสรุปไตรมาสสัปดาห์หน้าคุณไปพูดกับเขาเองแล้วกัน”

พอได้ยินแบบนี้นีลก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก “ท่านประธานใหญ่จะมาด้วยตัวเองจริงเหรอครับ”

ประธานใหญ่ของวีนัสกรุ๊ปไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน การปกปิดความลับภายในก็สูงมาก เพราะช่วงสองสามปีแรกของวีนัสกรุ๊ปเริ่มต้นด้วยความยากลำบาก

อิทธิพลท้องถิ่นของยุโรปจำนวนไม่น้อยที่กดดันเล่นงานพวกเขา

และก็เคยมีผู้บริหารระดับสูงหลายคนที่ถูกลอบฆ่า

แต่ตราบใดที่ประธานใหญ่อยู่ วีนัสกรุ๊ปก็ไม่มีทางล้ม

กี่ครั้งแล้วที่วีนัสกรุ๊ปต้องตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ พวกเขาล้วนได้ประธานใหญ่ที่พาฝ่าวิกฤติไปได้

ตอนนี้วีนัสกรุ๊ปกลายเป็นเครือบริษัทอันดับหนึ่งของโลกแล้ว หากสี่ตระกูลมหาเศรษฐีของยุโรปคิดจะแตะต้องก็ต้องคิดให้ดีก่อนว่ามีความสามารถถึงหรือไม่

นีลดีใจมาก อีกไม่นานเขาก็จะได้เจอไอดอลของเขาแล้ว

พอจบการสนทนาทางโทรศัพท์นีลก็หันไปหาฟู่อวิ๋นเซิน เลิกทำเสแสร้ง “คุณฟู่ ผมพูดตรงๆ เลยแล้วกัน ผมไม่ชอบใจที่อยู่ๆ คุณก็โผล่มา”

“แต่ความสามารถของคุณได้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าคุณบริหารบริษัทเก่ง ไม่สู้ลองพิจารณาตำแหน่งประธานฝ่ายขายหน่อยเป็นไง”

ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว ตบบ่าของนีล “อืม ตั้งใจทำงาน อย่าปล่อยให้โซนเอเชียแปซิฟิกถูกโซนยุโรปกดได้ ไม่อย่างนั้นพอผมกลับมาผมจะโกรธมาก”

กว่าเขาจะโยนงานออกไปได้ไม่ใช่ง่ายๆ มีเหรอจะกลับไปอีก

นีลมองฟู่อวิ๋นเซินเดินออกไปอย่างอึ้งๆ สมองหยุดทำงานในเวลานี้

ฟู่อวิ๋นเซินเดินไปถึงประตูแล้วหยุดลง

เขาหันไปยิ้มมุมปากแล้วพูดให้กำลังใจ “สู้ๆ นะนีล”

นีล “…”

ไอ้!

ทำไมฟู่อวิ๋นเซินทำให้เขารู้สึกเหมือนพวกนายทุนไร้หัวใจที่เร่งให้เขาทำงาน

นีลทำเสียงฮึดฮัด

อย่างไรเสียเขาก็ได้แต่บ่นอยู่ในใจ สุดท้ายทุกอย่างก็ต้องเอาวีนัสกรุ๊ปเป็นหลัก

นีลนั่งลง เริ่มตั้งใจจัดเรียงเอกสาร

ไม่นานก็มีสายโทรเข้ามา

เป็นเบอร์ของโซนยุโรป

นีลกดรับด้วยความรู้สึกแอบหงุดหงิด “มีอะไร”

“นีล ยินดีด้วยที่ได้เลื่อนตำแหน่ง” ปลายสายคือโยเซฟประธานโซนยุโรป “พอคุณไปแบบนี้ศักยภาพของโซนยุโรปก็ลดฮวบฮาบเลยนะ”

“เกรงว่าประธานโยเซฟจะไม่ได้ต้องการผมแล้วหรือเปล่า” นีลประชด “คุณน่าจะรู้สึกว่าพอผมไปแบบนี้ก็เอาผลงานเข้าตัวไม่ได้อีก”

“นีล พูดอะไรแบบนั้น” ดูเหมือนโยเซฟจะหัวเราะ “ผมจะได้เลื่อนเป็นซีโอโอแล้วนะ ยังจะต้องเอาผลงานอะไรจากคุณอีก”

ซีโอโอคือประธานฝ่ายปฏิบัติการ ตำแหน่งเทียบเท่าประธานฝ่ายเทคโนโลยี

ประธานฝ่ายปฏิบัติการรับหน้าที่กำกับดูแลการทำงานของพนักงานและการดำเนินงานตามปกติภายในบริษัท สามารถรายงานต่อประธานใหญ่ได้โดยตรง

ประธานฝ่ายปฏิบัติการของวีนัสกรุ๊ปถึงวัยที่ต้องเกษียณแล้ว จะเกษียณในอาทิตย์หน้า

จึงต้องเลือกประธานฝ่ายปฏิบัติการคนใหม่ โดยประธานใหญ่จะแต่งตั้งด้วยตัวเอง

โยเซฟคือตัวเก็งที่จะได้รับเลือก

พอนีลคิดว่าประธานฝ่ายปฏิบัติการสามารถไปเจอประธานใหญ่ได้ทุกวันเขาก็โกรธมาก

เขาแสยะยิ้ม “งานประชุมสรุปผลงานไตรมาสยังไม่เริ่มคุณก็ฝันถึงตำแหน่งประธานฝ่ายปฏิบัติการแล้วเหรอ คุณก็ต้องความสามารถถึงด้วยนะ”

เขาไม่รอให้โยเซฟพูดอะไรอีก กดวางสาย

ทางด้านยุโรป

โยเซฟมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายใส่ สีหน้าแย่ลง

ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ยักไหล่ “โยเซฟ ฉันบอกแล้วว่านีลเดินคนละทางกับพวกเรา เขาหลับหูหลับตาศรัทธาในตัวประธานใหญ่”

“ประธานใหญ่ให้เขาไปซ้าย เขาไม่มีทางไปขวา ถ้าร่วมมือกับเขา อีกเดี๋ยวเขาก็เอาความลับไปบอกประธานใหญ่”

“ก็แค่โซนเอเชียแปซิฟิก ผมไม่แคร์หรอก” โยเซฟสีหน้าเย็นชา “พวกเรารีบเตรียมตัวให้พร้อมก่อนงานประชุมสรุปผลงานไตรมาสดีกว่า”

สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่แค่ตำแหน่งประธานฝ่ายปฏิบัติการ

ตำแหน่งประธานใหญ่ต่างหากคือเป้าหมายของเขา

โยเซฟถามต่อ “ติดต่อคุณคีลไปหรือยัง”

“ติดต่อแล้ว” เธอมองข้อมูลบนไอแพด “คุณคีลจะให้ความร่วมมือกับพวกเรา”

คีล ลอเรนท์

รองประธานธนาคารลอเรนท์ในยุโรป

โยเซฟยื่นข้อเสนอเป็นหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของวีนัสกรุ๊ปเพื่อแลกกับการให้คีลช่วย

ไม่อย่างนั้นสมาชิกตระกูลลอเรนท์ที่เห็นแก่เงินไม่มีทางสนใจเขา

แต่การเสียผลประโยชน์แค่นี้เล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับทั้งเครือบริษัทวีนัสกรุ๊ป

โยเซฟค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เตรียมแผนการต่อ

อีกด้านหนึ่ง

ฟู่อวิ๋นเซินมอบหมายงานเสร็จก็ลงจากตึก

บรรดาพนักงานยืนอยู่ในห้องโถงใหญ่ ขอบตาแดง รู้สึกอาลัยอาวรณ์

“ประธานฟู่!”

“ประธานฟู่จะไปแล้วจริงเหรอครับ”

“แค่ประธานฟู่พูดออกมาพวกเราก็พร้อมจะตามไปด้วย ใช่ว่าจะต้องอยู่แค่ที่นี่”

“อืม ตั้งใจทำงาน ผมไม่ได้ไปไหน” สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินอ่อนโยน เขายิ้ม “เจอกันอาทิตย์หน้านะทุกคน”

พวกพนักงานอึ้งไปชั่วขณะ

อาทิตย์หน้าเจอกันที่ไหน

ฟู่อวิ๋นเซินออกจากตึกสำนักงาน

เขาไม่ได้แปลงโฉม และไม่ได้แต่งตัวอย่างอื่นเป็นพิเศษ

กอปรกับหน้าตาที่ดีมาก คนข้างทางแค่เห็นก็จำได้

พากันซุบซิบ

“ถูกไล่ออกจากวีนัสกรุ๊ปแล้วจริงด้วย ไม่รู้ว่าไปก่อเรื่องอะไรไว้”

“อุตส่าห์สร้างชื่อให้คนจีนทั้งที ตอนนี้ต้องยกให้คนต่างชาติแล้ว จริงๆ เลย”

สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินเรื่อยเปื่อย ไม่ได้สนใจ

มีคนเรียกเขาริมถนน “คุณชายครับ”

พอฟู่อวิ๋นเซินถูกเรียกแบบนี้ก็หยุดชะงัก

เขาหันไปยิ้ม “เรียกฉันว่าอะไรนะ”

หัวหน้าคนคุ้มกันตกใจ “คุณฟู่”

“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินตอบ ไม่ได้สนใจเซ่าอวิ๋น เดินตรงออกไป

เซ่าอวิ๋นอึ้ง เขาเข้าไปจับแขนของฟู่อวิ๋นเซิน “เจ้าเจ็ด!”

สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินเย็นชาเล็กน้อย เขาหันไปจับข้อมือเซ่าอวิ๋น “ดูเหมือนผมจะเคยพูดแล้วว่า นั่นจะเป็นครั้งสุดท้าย อย่าบีบให้ผมต้องลงมือ”

เขาไม่อยากให้ฟู่หลิวอิ๋งเสียใจ

“เจ้าเจ็ด พ่อก็กำลังตามสืบว่าคนที่ฆ่าหลิวอิ๋งคือใคร” เซ่าอวิ๋นกลืนน้ำลาย รู้สึกเกร็ง “แกไม่ยอมรับพ่อ แต่พ่อยอมรับ แต่แกจะไปเมืองแห่งโลก ตัวคนเดียวบุกเข้าไปไม่ง่ายหรอกนะ”

หยุดเล็กน้อย เขาพูดเสียงเบา “พ่อให้ความช่วยเหลือแกได้”

แม้จะเป็นเขาที่นั่งตำแหน่งหัวหน้าตระกูลแล้วก็ยังคงมีข้อจำกัดหลายอย่าง

ไม่ใช่แค่ข้อจำกัดที่มาจากภายในตระกูลอวี้ ยังมีที่มาจากสำนักผู้วิเศษกับตระกูลเรนเกลด้วย

เมืองแห่งโลกซับซ้อนเกินไป

มีแค่ผู้วิเศษที่ไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบ

แต่พวกเขาก็ทำตัวเสมอเทพไม่ได้

มือข้างหนึ่งของฟู่อวิ๋นเซินล้วงกระเป๋า ดวงตาสีอำพันเหม่อลอย

เขาเงียบไปสักพัก จากนั้นก็เปิดรูปในโทรศัพท์มือถือยื่นให้เซ่าอวิ๋นดู “เคยเห็นไหม”

เซ่าอวิ๋นรับมา สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “นี่ก็คือพวกคนที่ฆ่าหลิวอิ๋งเหรอ”

ฟู่อวิ๋นเซินตอบอืมอย่างเย็นชา

“พ่อไม่เคยเห็นสัญลักษณ์นี้หรอก” เซ่าอวิ๋นขมวดคิ้วแน่น “ไม่รู้ว่าคนที่นี่ให้นิยามว่ายังไง แต่ในเมืองแห่งโลกความหมายของหัวกะโหลกไม่ดีเท่าไร แสดงถึงความตาย ห้ามนำมาใช้ สีดำก็หมายถึงจุดจบ”

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าเล็กน้อย “สำนักผู้วิเศษก็ใช้ไม่ได้เหรอ”

“ไม่ใช่ไม่ได้ แต่ไม่มีทาง” เซ่าอวิ๋นส่ายหน้า “ผู้วิเศษยี่สิบสองคนคือศรัทธาของเมืองแห่งโลก ถ้าใช้สัญลักษณ์นี้พวกชาวเมืองทั่วไปจะคิดยังไง”

แววตาของฟู่อวิ๋นเซินเริ่มขรึมลง

ใครกันแน่ที่ฆ่าฟู่หลิวอิ๋ง

“แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้” เซ่าอวิ๋นพึมพำ “ผู้วิเศษยี่สิบสองคนใช่ว่าจะจิตใจดีกันหมด จากบันทึกของตระกูล ผู้วิเศษเดวิลกับผู้วิเศษจักรพรรดิเคยถูกผู้วิเศษคนอื่นร่วมกันต่อต้าน”

ซีนายไม่ได้มีตำแหน่งผู้นำตระกูล จึงไม่รู้เรื่องบางอย่าง

เซ่าอวิ๋นรู้มากกว่า

เขาพูดต่อ “ได้ยินว่าผู้วิเศษเดวิลปั่นหัวผู้วิเศษอีกสองสามคนให้ทำสงครามกับผู้วิเศษคนอื่น ก่อให้เกิดความวุ่นวาย สุดท้ายก็ถูกปราบ”

“สีที่เป็นตัวแทนของผู้วิเศษเดวิลก็เลยเป็นสีดำ และก็เกี่ยวกับความตายด้วยนิดหน่อย แต่ผู้วิเศษ…”

ผู้วิเศษคือเทพที่สูงส่ง จะลงไม้ลงมือกับคนทั่วไปได้อย่างไร

“เจ้าเจ็ด พ่อจะสืบ” เซ่าอวิ๋นจดจำสัญลักษณ์ไว้ “ต้องสืบแน่นอน”

ฟู่อวิ๋นเซินยิ้ม เจือด้วยความเย็นชา “คิดว่าจะสืบได้เหรอ ขนาดปกป้องเธอยังทำไม่ได้”

เซ่าอวิ๋นมือสั่น ก้มหน้าลง

เขาทำได้เพียงโกรธแค้นตัวเองที่ไร้ความสามารถมายี่สิบปี ถูกตระกูลอวี้ควบคุมไว้ เป็นเหมือนหุ่นเชิด

ฟู่อวิ๋นเซินดึงโทรศัพท์มือถือของตัวเองกลับมา ไม่พูดอะไรอีก หันตัวเดินออก

เซ่าอวิ๋นยืนเงียบอยู่ที่เดิม ไม่ได้ตามไป

หัวหน้าคนคุ้มกันมองเซ่าอวิ๋น “ท่านหัวหน้าตระกูล พวกเราต้องกลับไปไหมครับ”

เซ่าอวิ๋นส่ายหน้า “อยู่ที่นี่ก่อน มีข่าวจากทางสำนักผู้วิเศษบ้างไหม”

“ไม่มีครับ” หัวหน้าคนคุ้มกันพูด “สำนักผู้วิเศษไม่ได้สนใจครับ”

เซ่าอวิ๋นพยักหน้า

ก็จริง

หน่วยอัศวินจอกศักดิ์สิทธิ์มีหนึ่งแสนคน อัศวินจอกศักดิ์สิทธิ์ตายไปคนเดียวเป็นเรื่องธรรมดามาก

ผู้วิเศษไม่มีเวลาสนใจเรื่องพวกนี้

ในเวลาไม่กี่วัน ข่าวเรื่องการเปลี่ยนแปลงภายในวีนัสกรุ๊ปก็ลือกันไปทั่วโซนเอเชียแปซิฟิกแล้ว

แม้แต่ในร้านอาหารก็เปิดข่าวนี้

“รายงานข่าว เครือบริษัทอันดับหนึ่งของโลกวีนัสกรุ๊ปกำลังจะมีงานประชุมสรุปผลงานไตรมาสในสัปดาห์หน้า และจะเป็นครั้งแรกที่ประธานใหญ่จะเผยโฉมหน้าต่อหน้าสาธารณชน”

“โฉมหน้าของประธานใหญ่คนนี้จะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม ผู้สื่อข่าวของเราจะเกาะติดและนำเสนอข่าวที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องครับ”

ภายในร้านฮั่นเก๋อ

“คนพวกนี้! คนล้มแล้วชอบซ้ำเติม!” หลายวันนี้ผู้เฒ่าจงได้ยินคนดูถูกฟู่อวิ๋นเซินอยู่ไม่น้อย เขาโมโหมาก ตบโต๊ะอย่างแรง “หลานฟู่ ไม่ต้องเสียใจ เสียตำแหน่งประธานไปก็ช่าง เดี๋ยวตากับจื่อจินเลี้ยงแกเอง”

ฟู่อวิ๋นเซินกระแอมเบาๆ “ขอบคุณครับคุณตา”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขาแล้วอ่านข่าวของเมืองแห่งโลกต่อ

ผู้ชายคนนี้เปลี่ยนคำเรียกได้คล่องปากเสียจริง

ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว “คุณตาครับ อาทิตย์หน้าเชิญไปที่ประเทศเจหน่อยสิครับ”

“ไปทำไมเหรอ” ผู้เฒ่าจงมองเขาด้วยความสงสัย “แกจะพาตาไประเบิดสำนักงานใหญ่วีนัสกรุ๊ปเหรอ หรือตัดคอประธานใหญ่กันล่ะ”

อิ๋งจื่อจิน “…”

เธอจำต้องสงสัยว่าคุณตาของเธอหัวรุนแรงขึ้นหลังจากคุยทางไกลกับเวินทิงหลานไปหลายครั้งหรือเปล่า

“ไม่ใช่ครับ อยากเชิญไปร่วมงานประชุมสรุปผลงานไตรมาส จากนั้นก็มีงานเลี้ยงต่อ” ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น “ทำไมผมต้องระเบิดบริษัทตัวเองด้วยล่ะครับ”

ผู้เฒ่าจงอึ้ง คิดตามไม่ทัน

มีเสียงพูดประชดดังขึ้น

“เอ๊ะ นี่มันประธานฟู่ของเราไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ต้องอาศัยกินบุญเก่าถึงจะเข้าฮั่นเก๋อได้หรือเปล่า”

“ประธานฟู่อะไรเล่า ไม่ใช่แล้ว ใช่ไหมคุณชายเจ็ด”

นี่คือพวกคุณชายที่พูดจาประชดประชันฟู่อวิ๋นเซินอยู่นานหลังจากผู้เฒ่าฟู่เสียไป

พวกเขาเดินเข้ามาในฮั่นเก๋อ สีหน้าอวดดี

ช่วงนี้หลังจากที่พวกเขารู้ว่าฟู่อวิ๋นเซินลงจากตำแหน่ง ในที่สุดก็กลับมาทำตัวอวดเบ่งได้อีกแล้ว

“คุณชายเจ็ด เอาแบบนี้ เรียกฉันว่าพี่สิ เดี๋ยวฉันเลี้ยงฮั่นเก๋อ” คุณชายคนหนึ่งทำเสียงจึ๊ “มันก็ดีกว่าเกาะคนแก่กับผู้หญิงหรือเปล่า”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า กำลังจะขยับมือแต่ถูกฟู่อวิ๋นเซินห้ามไว้

มืออีกข้างของเขากดโทรศัพท์มือถืออย่างไม่รีบร้อน “งั้นก็บังเอิญจริงๆ พวกนายไปได้แล้ว”

พวกคุณชายอึ้ง

มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้น

ผู้จัดการของฮั่นเก๋อรีบเดินเข้ามาท่าทางตะลึงก่อนจากนั้นก็โค้งตัวให้ด้วยความนอบน้อม “บอสคะ ทำตามที่บอสสั่งแล้วค่ะ หัวหน้าเชฟเตรียมเมนูเสร็จแล้ว วันนี้ฮั่นเก๋อไม่เปิดรับคนนอกค่ะ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset