คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 649 อิ๋งจื่อจินหนุนหลัง เดี๋ยวพาไปเจอคนใหญ่คนโต

ตอนที่ 649 อิ๋งจื่อจินหนุนหลัง เดี๋ยวพาไปเจอคนใหญ่คนโต

“…”

เกิดความเงียบขึ้นโดยรอบ

อย่าว่าแต่พวกคุณชายที่รอยยิ้มเริ่มแข็งทื่อ ต่อให้เป็นผู้เฒ่าจงก็ตะลึงจนตะเกียบร่วง

มีแค่อิ๋งจื่อจินที่ดื่มน้ำผลไม้อย่างใจเย็น

เธอยกมืออีกข้าง คว้าตะเกียบที่หล่นไว้อย่างง่ายดาย เอาวางกลับตรงที่วางตะเกียบของผู้เฒ่าจง “ระวังหน่อยค่ะคุณตา”

ผู้เฒ่าจงยังคงไม่หายอึ้ง

เจ้าของร้านฮั่นเก๋อเป็นใครกันแน่ นี่ก็เป็นปริศนา

ทั่วทั้งประเทศจีนมีร้านฮั่นเก๋ออยู่สองแห่งคือที่ฮู่เฉิงและตี้ตู

มาตรฐานอาหารและบริการของร้านฮั่นเก๋อไม่ได้ด้อยไปกว่าร้านมิชลินสามดาว ถึงขั้นที่นำหน้าเกินไปไกลกว่าด้วยซ้ำ

ต่อให้เป็นตระกูลมู่หรือตระกูลเนี่ยแห่งตี้ตูไปร้านฮั่นเก๋อก็ต้องจองโต๊ะล่วงหน้า ไม่มีการเจรจาต่อรองทั้งสิ้น

ที่ร้านฮั่นเก๋อไม่มีการใช้อำนาจหรือสิทธิพิเศษใดๆ

มีแต่คนอยากรู้ว่าใครกันที่หน้าใหญ่ได้ขนาดนี้

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น “ไล่คนพวกนี้ออกไป รำคาญ”

พวกคุณชายเหงื่อแตกในทันที “คุณชายเจ็ด เข้าใจผิด นี่เป็นการเข้าใจผิด”

ทำไมฟู่อวิ๋นเซินถึงกลายเป็นเจ้าของร้านฮั่นเก๋อไปได้!

นี่พวกเขาพูดจาแบบนั้นออกมาต่อหน้าเจ้าของร้านเหรอ

สายตาเป็นมิตรของผู้จัดการคล้ายฝ่ามือที่ตบเข้าหน้าบรรดาคุณชายอย่างจัง

พวกเขาเดินออกหน้าซีด เหงื่อออกท่วมชุด

ในเวลานี้เองเหล่าคุณชายถึงตระหนักได้

ต่อให้ฟู่อวิ๋นเซินถูกวีนัสกรุ๊ปปลดจากตำแหน่งก็ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะเทียบได้

บนโต๊ะอาหารยังคงเงียบกริบ

“โอ้โห!” พอเนี่ยเฉาหายตะลึงก็โมโหมาก “คุณชายเจ็ด นายมันจะใจร้ายเกินไปหน่อยแล้ว ตอนนั้นฉันถามนายแล้วนายตอบว่าไง”

“นายบอกว่าร้านฮั่นเก๋อดูที่หน้าตา ถึงได้ให้นายเข้ามา ฉันเกือบเชื่อแล้วนะนั่น!”

หลังจากที่เขารู้ว่าวีนัสกรุ๊ปปลดฟู่อวิ๋นเซินออกจากตำแหน่งประธานโซนเอเชียแปซิฟิกก็รีบมาจากตี้ตูเพื่อปลอบใจ ทิ้งบริษัทตระกูลเนี่ยไว้ข้างหลัง

ใครจะไปรู้ว่าเพื่อนใจร้ายคนนี้ไม่ต้องการการปลอบใจเลยสักนิด

สิ้นเปลืองน้ำใจของเขา

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้นอย่างใจเย็น เหล่มองเนี่ยเฉา “จำเรื่องเมื่อสองปีก่อนแม่นขนาดนี้เลยเหรอ”

“ก็ต้องจำได้แม่นอยู่แล้ว” เนี่ยเฉาหมดคำจะพูด “ใครใช้ให้วันนั้นเป็นวันที่ฉันเจอบอสครั้งแรกล่ะ ใช่ไหมบอส”

ประโยคสุดท้ายหันไปถามอิ๋งจื่อจิน

“อืม ฉันก็จำได้” อิ๋งจื่อจินเท้าคาง เลิกคิ้ว “ฉันไม่มีอำนาจไม่มีอิทธิพล เกิด…”

เธอยังไม่ทันพูดจบทันใดนั้นก็ถูกจับคางไว้ ริมฝีปากมีสัมผัสเย็น

อ่อนนุ่มดุจขนมสายไหม

จากนั้นก็ถูกจูบเบาๆ

รสชาติของการถูกลงโทษ

ฟู่อวิ๋นเซินถอนหายใจอย่างจนปัญญา หัวเราะเบาๆ “เลิกพูด ยอมแล้ว หืม?”

อิ๋งจื่อจินเบือนหน้าหนี “ดูการทำตัวก่อน”

เนี่ยเฉาอยู่ใกล้ อยากเอานิ้วทิ่มตาตัวเอง

“คุณตาครับ” อิ๋งเทียนลี่ว์ทนไม่ไหว “ดูเขาสิครับ กลางวันแสกๆ ไม่มีรักษาภาพพจน์ คุณตาไม่ว่าอะไรหน่อยเหรอครับ”

ตอนนั้นใครกันที่บอกเขาว่าถ้ามีไอ้หนุ่มหน้าเหม็นที่ไหนมาเอาตัวอิ๋งจื่อจินไปจะฟาดให้ขาหัก

ผู้เฒ่าจงหัวเราะ “ทำไม ก็แค่จูบหน่อยเดียว ตาแทบอยากให้พวกเขาแต่งงานกันตอนนี้ ไอ๊หยา แบบนั้นตาก็จะได้อุ้มเหลนแล้ว”

พูดจบเขาก็ปั้นหน้าบึ้ง “แกหุบปากไปเลย แกหาแฟนได้หรือยัง ขายหน้า!”

อิ๋งเทียนลี่ว์ “…”

เขาไม่น่าพูดเลย

ผู้เฒ่าจงนึกเรื่องสำคัญขึ้นได้เรื่องหนึ่ง “หลานฟู่ เมื่อกี้แกบอกว่านั่นบริษัทแกเหรอ”

“บริษัทผมเหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้นอย่างใจเย็น “คุณตา ตอนนี้ผมจนมากเลยครับ มีบริษัทอะไรที่ไหนกัน”

ผู้เฒ่าจงอดสงสารไม่ได้ “ไม่เป็นไรๆ ตาบอกแล้วว่าตาเลี้ยงแกได้”

“คุณตาอย่าไปสนใจเขา เขาก็ชอบแกล้งคนไปเรื่อย” อิ๋งจื่อจินตีมือฟู่อวิ๋นเซิน “เขาก็แค่ไม่อยากดูแลโซนเอเชียแปซิฟิกแล้ว ถ้าไม่ติดว่าจนปัญญาเขาก็เตรียมจะโยนตำแหน่งประธานใหญ่วีนัสกรุ๊ปให้คนอื่นเหมือนกัน”

“…”

เกิดความเงียบบนโต๊ะอาหารอีกครั้ง

อิ๋งเทียนลี่ว์ตะลึง “ประธานใหญ่วีนัสกรุ๊ปเหรอ!”

เนี่ยเฉาร้องเหมือนจะขาดใจอีกครั้ง

เขาจับบ่าฟู่อวิ๋นเซิน พูดเหมือนสติหลุด “นายกลายเป็นประธานใหญ่ได้ยังไง ไม่เห็นบอกฉันเลย”

“เอากีบเท้าของนายออกไป” ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบมองเขา “ฉันไม่ได้ปิดบัง เนี่ยอี้ไม่เคยบอกนายเหรอ”

“พี่ใหญ่ไม่อัดฉันก็ดีมากโขแล้ว” เนี่ยเฉาเกาหัว “จริงสิ พี่ใหญ่ฉันไปไหนแล้ว ไปโลกจอมยุทธ์เหรอ”

แววตาของฟู่อวิ๋นเซินขรึมลง “ช่วงนี้เขตสงครามค่อนข้างวุ่นวาย เขาไปดูที่นั่นแล้ว”

เนี่ยเฉาพึมพำ “แย่ละ ผู้เฒ่าบ้านฉันต้องอกสั่นขวัญแขวนอีกแล้ว”

ทุกครั้งที่เนี่ยอี้ไปเขตสงครามจะกลับมาพร้อมบาดแผล

ผู้เฒ่าเนี่ยสงสารเขา ไม่อยากให้เขาไป

แต่เนี่ยอี้บอกว่านี่เป็นหน้าที่ของเขา ผู้เฒ่าเนี่ยเถียงสู้ไม่ได้ จำต้องปล่อยเลยตามเลย

หลังจากกินข้าวมื้อนี้เสร็จผู้เฒ่าจงก็ลุกขึ้นเงียบๆ

เขาตบบ่าอิ๋งจื่อจินแล้วพูดเสียงเบา “จื่อจิน ไม่ว่าหลานจะไปอยู่ที่ไหนก็เป็นหลานตาเสมอ แต่ไปหลานก็ยังกลับมาบ้านตระกูลจงได้ตลอดนะ”

“ส่วนพี่ชายที่น่าขายหน้า หลานจะกลับมาเยี่ยมเขาบ่อยๆ ก็ได้ ช่วยเขาแนะนำสาวๆ หน่อยก็ดี”

สายตาของอิ๋งจื่อจินจับจ้อง “คุณตา?”

ผู้เฒ่าจงไปรู้อะไรมาอีก

“เฮ้อ คนเราพอแก่ตัวลงก็ชอบกลุ้มใจคิดมาก” ผู้เฒ่าจงเช็ดตา หันหลังให้ “รีบไปจัดการธุระของหลานเถอะ ตายังรออุ้มเหลนอยู่นะ”

อิ๋งจื่อจินหยิบใบตารางเวลาออกมา “ชาที่เตรียมไว้ให้ค่ะ กินตามเวลา พักผ่อนให้เป็นเวลา เล่นเน็ตให้น้อยลง”

“ตารู้แล้ว” ผู้เฒ่าจงผุดรอยยิ้ม “ไปเถอะๆ ต่อไปกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ ก็พอ”

ไม่กี่วันต่อมา ประเทศเจ

งานประชุมสรุปผลงานไตรมาสของวีนัสกรุ๊ปใกล้เริ่มเต็มที วงการธุรกิจระดับโลกต่างจับตามองงานประชุมครั้งนี้

นอกจากประธานใหญ่จะมาปรากฏตัวในงานนี้แล้ว วีนัสกรุ๊ปยังจะประกาศผลงานนวัตกรรมใหม่อีกหลายชิ้นด้วย

อิ๋งจื่อจินช่วยฟู่อวิ๋นเซินทำตาราง เธอพูด “ขี้เกียจจริงนะผู้บัญชาการ”

“ขอบใจนะเยาเยา” ฟู่อวิ๋นเซินลูบหัวเธอ กดรับสาย “ฮัลโหล”

“พี่ โยเซฟอยากจะขึ้นตำแหน่งแล้ว” เอียนหน้าเครียด “ช่วงนี้เขาโยกย้ายทรัพย์สิน แถมยังนัดเจอผู้บริหารระดับสูงหลายคน”

“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินตอบ “เป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็ว”

เอียนอึ้ง “พี่รู้อยู่ก่อนแล้วเหรอ”

“ใช่ รู้นานแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซินยิ้มมุมปาก “มีคนช่วยหาเงินเพิ่มให้ในสถานการณ์การที่ไม่เสียอะไร ไม่ดีเหรอ”

เอียน “…”

บอสของพวกเขาเป็นนายทุนที่ไร้เยื่อใยต่อคนทำงานจริงๆ

เสียแรงที่นีลคนซื่อยังเอาแต่ยกยอปอปั้นได้ทุกวันว่าท่านประธานเจ๋งสุดยอด

“พี่ ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนี้” เอียนขมวดคิ้ว “โยเซฟติดต่อรองประธานธนาคารลอเรนท์ คาดว่าเตรียมจะแช่แข็งเงินพวกเราไว้ ทางด้านธนาคารลอเรนท์ พวกเราคง…”

อิ๋งจื่อจินยังคงเคาะแป้นคอมพิวเตอร์โดยไม่เงยหน้าขึ้น

แต่กลับยื่นอีกมือหนึ่งไป “มือถือ”

ฟู่อวิ๋นเซินหัวเราะเหมือนจนปัญญา แต่ก็ทำตาม “อะ เด็กน้อย”

“สวัสดีเอียน” อิ๋งจื่อจินถือโทรศัพท์ “ฉันอิ๋งจื่อจิน”

เอียนที่อยู่ปลายสายตกใจเกือบช็อก “พะพะพะ…พี่สะใภ้”

“พรุ่งนี้มีเวลามาเจอหรือเปล่า”

“มีครับ แต่ว่า…”

“เก้าโมงตรง จะพาไปพบคนคนหนึ่ง”

อิ๋งจื่อจินพูดจบก็ยื่นโทรศัพท์มือถือคืนฟู่อวิ๋นเซิน

พอหันไปก็เห็นดวงตาดอกท้อโค้งมน กำลังจ้องเธออยู่

อิ๋งจื่อจินมองเขา “มีอะไร”

“เปล่า” ฟู่อวิ๋นเซินเอาหน้าซุกไหล่เธอ มืออีกข้างโอบเอวเธอไว้ หัวเราะเบาๆ “ข้างนอกลือกันว่าพี่ชายแพ้ทางผู้หญิงสงสัยจะจริงนะ”

แววตาของอิ๋งจื่อจินวูบไหว เธอเตือน “อย่าขยับ ไม่เล่น”

“ได้ ไม่ขยับ”

เขาถอยห่างเล็กน้อย ยกสองมือขึ้น พูดเสียงเนือย “พี่ชายจะลงโทษตัวเองด้วยการหันหน้าสำนึกผิดกับกำแพง”

“…”

เช้าวันต่อมา

เอียนทำงานของวันนี้ให้เสร็จโดยเร็วที่สุดแล้วออกจากสำนักงานใหญ่

ตอนเดินออกเขาบังเอิญเจอโยเซฟที่สีหน้าดูมีความสุข

โยเซฟตั้งใจทักทายด้วยท่าทีให้เกียรติ “ประธานเอียน”

เอียนไม่สนใจเขา ข่มความโกรธไว้

เขาไปถึงสถานที่ที่อิ๋งจื่อจินนัด มองเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ด้วยสีหน้าตกตะลึง

อิ๋งจื่อจินสวมหมวกเบสบอล เงยหน้าขึ้น ไม่พูดเวิ่นเว้อ “ขึ้นไป”

สามชั่วโมงต่อมาเฮลิคอปเตอร์ก็จอดที่เมืองฟลอเรนซ์

เอียนจับต้นชนปลายไม่ถูก เดินตามอิ๋งจื่อจินไป

จนกระทั่งมาถึงคฤหาสน์เก่าแก่

“มาคฤหาสน์ตระกูลลอเรนท์ทำไมครับ” เอียนถามเสียงเบา “พี่สะใภ้ อย่าหาว่าผมอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะครับ นี่ไม่เท่ากับว่าผมรนหาที่ตายเหรอครับ”

จุดเดียวที่วีนัสกรุ๊ปกับธนาคารลอเรนท์เหมือนกันก็คือรวยมาก

แต่ก็น้ำไฟไม่ถูกกัน

ทุกครั้งที่เอียนนึกถึงวีนัสกรุ๊ปลงทุนในโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาลสองแสนล้านเพราะต้องการข่มธนาคารลอเรนท์ เลือดก็มาจุกอยู่ที่คอเขาแล้ว

ช่วงนั้นที่วีนัสกรุ๊ปก่อร่างสร้างตัว ตระกูลลอเรนท์ก็เคยวางอำนาจข่มพวกเขา ก็แค่ไม่ได้โหดเหี้ยมเท่าสี่ตระกูลมหาเศรษฐีของยุโรป

แต่ไม่ว่าอย่างไรตระกูลลอเรนท์ก็ไม่ได้เป็นมิตรกับวีนัสกรุ๊ปแน่นอน

แค่บางครั้งร่วมมือกันบ้างเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบ พาเอียนเดินเข้าไป

ราบรื่นไร้อุปสรรค

สุดท้ายก็พามาถึงห้องอาหารที่อยู่บนสวนดาดฟ้า

มือของอิ๋งจื่อจินล้วงกระเป๋าข้างหนึ่ง เธอพูดขึ้น “ซีซาร์ คุยธุรกิจ”

เอียนอึ้ง

เขายังไม่ทันหายตะลึงว่าทำไมอิ๋งจื่อจินถึงพาเขาเข้ามาคฤหาสน์ตระกูลลอเรนท์ได้อย่างง่ายดายก็ได้ยินชื่อนี้

ซีซาร์ไหน

เด็กหนุ่มที่มีผมสีทองอร่ามหันใบหน้าอันหล่อเหลามา รูปหน้าคมชัด คล้ายอพอลโลเทพแห่งดวงอาทิตย์

เขาคุยโทรศัพท์พลางหันมา

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset