ตอนที่ 654 ความร่วมมือระดับโลก หมั้นหมาย
การถ่ายทอดสดทั่วโลกยังคงดำเนินต่อ ไม่ได้หยุด
บรรดาสื่อก็รู้สึกเหนือความคาดหมายมาก แต่ก็ไม่มีทางปล่อยประเด็นร้อนนี้ไป
พวกช่างภาพเล็งกล้องไปที่โยเซฟกับฟู่อวิ๋นเซินที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่ กดชัตเตอร์กันรัวๆ
อีกเดี๋ยวข่าวนี้จะฮือฮาไปทั้งโลก
ชาวเน็ตที่รับชมถ่ายทอดสดอยู่ทั่วทุกมุมโลกต่างยังงงอยู่
[? เกิดอะไรขึ้น!]
[คนที่ชื่อโยเซฟนี่เป็นใคร คิดจะทำอะไร]
[ฝรั่งคนนี้คือประธานโซนยุโรปของวีนัสกรุ๊ป เขาคิดจะก่อกบฏชิงบัลลังก์เหรอ]
[ถุย คิดว่าแน่เหรอ!]
การปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งนี้ ฟู่อวิ๋นเซินได้ใจคนในประเทศจีนจำนวนไม่น้อยไปครอง
ประธานใหญ่เครือบริษัทอันดับหนึ่งของโลกเป็นคนจีนเหมือนพวกเขา
ทำให้พวกเขารู้สึกภาคภูมิใจมาก
ในที่สุดก็ไม่ต้องถูกคนยุโรปเหยียดอีกแล้ว
ผู้เฒ่าจงเครียดขึ้นมาทันที สีหน้าเปลี่ยนไปมาก “ธนาคารลอเรนท์แช่แข็งทรัพย์สินเหรอ!”
เขาบริหารจงซื่อกรุ๊ปมาตลอด ย่อมรู้ว่าผลกระทบจากการที่เครือบริษัทถูกแช่แข็งทรัพย์สินมีมากขนาดไหน
มีธนาคารลอเรนท์คุมอยู่ ไม่ถึงหนึ่งวัน บริษัทของวีนัสกรุ๊ปที่อยู่ทั่วโลกจะต้องติดขัดไปต่อไม่ได้แน่นอน
“ไม่เป็นไรค่ะคุณตา” อิ๋งจื่อจินใจเย็นมาก “ยังไม่เชื่อในตัวเขาอีกเหรอคะ”
“เชื่อกับผีสิ” ผู้เฒ่าจงโมโหมองบน “ดูหมอนี่ซิ แสร้งทำตัวไม่เอาไหนมาตั้งยี่สิบกว่าปี ทั่วทั้งฮู่เฉิงมีใครดูออกที่ไหน”
“ตาเคยบอกแล้ว เหมือนปู่มันไม่มีผิด ชอบหลอกคน แล้วจะให้เชื่อได้ยังไง ตายอมเชื่อว่าแม่หมูปีนขึ้นต้นไม้ได้ดีกว่า”
อิ๋งจื่อจิน “…”
เธอเถียงไม่ออก
“คุณตาครับ” อิ๋งเทียนลี่ว์กระแอม “คุณตาไม่เชื่อเขา แต่ก็ต้องเชื่อจื่อจินนะครับ”
“ก็จริง” ผู้เฒ่าจงพึมพำ “เฮ้อ ก็แค่ตาแก่แล้ว หัวใจแบกรับไม่ค่อยไหว มีแต่เรื่องให้น่าตกใจ”
อยู่ๆ ก็ถูกวีนัสกรุ๊ปปลดจากตำแหน่ง ต่อมากลายเป็นประธานใหญ่เฉย
ตอนนี้ยังมีคนจะมายึดตำแหน่งประธานใหญ่อีก
อิ๋งจื่อจินเงยหน้า มองซีซาร์กลับไปอยู่บนเวทีอีกครั้ง เลิกคิ้วขึ้น
โยเซฟโค้งตัวให้ซีซาร์ รับเอกสารฉบับหนึ่งมาจากมือผู้ช่วยแล้วยื่นให้
เขายิ้มพลางพูด “คุณซีซาร์ครับ ผมขอมอบหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของวีนัสกรุ๊ปให้ตามสัญญาครับ”
ซีซาร์เหลือบมอง เขารับมา “สิบเปอร์เซ็นต์เหรอ ใช้ได้ ใจกว้างมาก ผมชอบ”
พอเห็นแบบนี้บรรดาแขกเหรื่อที่อยู่ล่างเวทีก็ตะลึงมาก เริ่มพากันซุบซิบ
“ตั้งสิบเปอร์เซ็นต์ มิน่าตระกูลลอเรนท์ถึงลงมือ”
“ตระกูลลอเรนท์เห็นแก่เงิน ฉันจำได้ มีข่าวลือบอกว่าคุณซีซาร์ต้องนอนบนกองทองเท่านั้น”
ฉันว่าแบบนี้ก็ดีนะ เดิมทีวีนัสกรุ๊ปก็เริ่มบุกเบิกที่ยุโรปของเรา ให้คนยุโรปเป็นประธานใหญ่ดีกว่า”
“ให้ตายเหอะ! ไอ้คนทรยศ!” นีลโมโหร้องโวยวาย “โยเซฟ แกมันหน้าด้าน เก่งนักก็มานี่ ฉันจะอัดแกเอาให้แม่จำแกไม่ได้เลย!”
“มาดิ! วันนี้แกต้องตาย!”
เอียนรั้งนีลไว้ “หุบปาก หุบปาก! บอสยังไม่พูดอะไร คุณจะโวยวายทำไม”
เขาไม่เคยเจอแฟนคลับหัวร้อนเท่านี้มาก่อน
“แน่นอนครับ” โยเซฟไม่สนใจนีล เขากำลังดีใจ “วันหน้าวีนัสกรุ๊ปจะให้เกียรติตระกูลลอเรนท์ก่อนแน่นอนครับ คุณซีซาร์โปรดเชื่อมั่นในความสามารถของผม”
โซนยุโรปเจริญก้าวหน้าจนมีขนาดใหญ่แบบทุกวันนี้ได้ ผลงานของโยเซฟย่อมมีอยู่ไม่น้อย
เขาถึงได้ซื้อตัวผู้บริหารระดับสูงหลายคนได้สำเร็จภายใต้สถานการณ์ที่ประธานใหญ่ไม่เคยเผยโฉมหน้ามานาน
“อืม ผมเป็นนักธุรกิจ” ซีซาร์ยิ้ม “แต่ชอบคุยธุรกิจกับคนฉลาดเท่านั้น ในสายตาของผม คุณไม่ใช่คนฉลาด”
โยเซฟอึ้ง ไม่เข้าใจ “คุณซีซาร์ คุณ…”
ซีซาร์ไม่มองเขา หันไปสั่ง “คีล”
รองประธานธนาคารลอเรนท์ คีล ลอเรนท์ ลุกขึ้น “นายท่าน”
ซีซาร์พูด “เรื่องที่มอบหมายให้จัดการไปถึงไหนแล้ว”
คีลตอบด้วยความนอบน้อม “เรียนนายท่าน ทำตามความต้องการของนายท่านแล้วค่ะ แช่แข็งทรัพย์สินที่โยเซฟ บังเกอร์ โยกย้ายเอาไว้แล้ว พร้อมทั้งโอนเข้าไปที่บัญชีรวมของวีนัสกรุ๊ปค่ะ”
“ส่วนทรัพย์สินอื่นที่ออกไปแล้วก็ตามกลับมาได้ทั้งหมด นี่คือรายการ เชิญนายท่านตรวจดูค่ะ”
พอคำพูดนี้ออกมา อย่าว่าแต่คนอื่นเลย แม้แต่โยเซฟเองก็สมองตื้อไปหมด
เขารู้สึกเหมือนถูกคนต่อยแสกหน้า ยืนแทบไม่อยู่ หน้าซีดลงในทันที
ไหนว่าจะแช่แข็งทรัพย์สินของวีนัสกรุ๊ปไง
ทำไมกลายเป็นเขาที่โดนแทนล่ะ!
โดยเฉพาะชาวเน็ตที่ชมถ่ายทอดสด
[? นี่เล่นอะไรกัน]
[แย่ละ หักมุมอะไรกันเนี่ย ฉันตามไม่ทันแล้ว]
[ถึงจะไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการที่ฉันรู้สึกว่าโยเซฟโคตรโง่]
“อืม ใช้ได้” ซีซาร์ชม จากนั้นก็หันไป “อะ ให้”
ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว พูดเสียงยานคาง “ขอบใจนะ”
โยเซฟจ้องตาค้าง เอกสารโอนหุ้นที่เขาให้ซีซาร์กลับไปอยู่ในมือฟู่อวิ๋นเซินแล้ว
สมองของเขาหยุดทำงานอย่างสิ้นเชิง
นี่มันเรื่องอะไรกัน
มันเรื่องอะไรกันแน่!
โยเซฟยืนตัวแข็งอยู่บนเวที รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวตลกที่น่าสมเพช
ใบหน้าของเขาแดงก่ำ อับอายอยากแทรกแผ่นดินหนี
“ไม่ต้องขอบคุณ” ซีซาร์ยักไหล่ “แพ้แล้วก็ต้องยอมรับ ใครใช้ให้ผมต้องเรียกคุณว่าพี่ใหญ่ล่ะ”
เสียงของเขาดังผ่านไมโครโฟน ได้ยินกันทั้งงาน
บรรดาแขกเหรื่อช็อกกันอีกครั้ง
โยเซฟมองฟู่อวิ๋นเซินด้วยความตะลึง หน้าซีดลงในทันที พูดเสียงสั่น “เป็นไปไม่ได้! นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
วีนัสกรุ๊ปกับตระกูลลอเรนท์มีความสัมพันธ์กึ่งศัตรูมาตลอด เรื่องเดียวที่เห็นพ้องกันคือโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาล
ถ้าฟู่อวิ๋นเซินกับซีซาร์เรียกกันเป็นพี่น้อง วีนัสกรุ๊ปยังจะถูกกดในช่วงที่กำลังพัฒนาได้อีกเหรอ!
“นับแต่นี้เป็นต้นไป ตระกูลลอเรนท์จะมีพาร์ทเนอร์แค่บริษัทเดียว” ซีซาร์มองกล้อง “วีนัสกรุ๊ปจะเป็นพาร์ทเนอร์ของตระกูลลอเรนท์”
ฟู่อวิ๋นเซินหันหน้าเล็กน้อย มองอิ๋งจื่อจินที่อยู่ตรงที่นั่งแขกวีไอพี
สายตาของเขาอ่อนโยน มีประกายอ่อนๆ
มองอยู่สักพักเขาก็ละสายตาแล้วพูดขึ้น “วีนัสกรุ๊ปจะเริ่มโปรเจ็กต์ความร่วมมือกับตระกูลลอเรนท์อย่างเป็นทางการ แล้วจะประกาศทางเว็บไซต์อีกทีครับ”
“!”
บทสนทนาของทั้งสองคนทำเอาช็อกกันทั้งวงการธุรกิจระดับโลก
[ความร่วมมือระดับโลก! ความร่วมมือระดับโลกเชียวนะ!]
[ตระกูลอันดับหนึ่งของโลกกับเครือบริษัทอันดับหนึ่งของโลกร่วมมือกัน ใครยังจะสู้ได้อีก!]
นายใหญ่ตระกูลเทเลอร์ที่นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์สีหน้าเปลี่ยน “สองคนนี้!”
เนื่องจากตระกูลเทเลอร์เป็นศัตรูทางธุรกิจกับวีนัสกรุ๊ปมาตลอด ย่อมไม่มีทางไปงานประชุมสรุปผลงานไตรมาส
แต่สองยักษ์ใหญ่วงการธุรกิจรวมตัวกัน พวกเขาย่อมให้ความสนใจ
แต่ตระกูลเทเลอร์ไม่คาดคิดว่า ตระกูลลอเรนท์จะจับมือเป็นพันธมิตรกับวีนัสกรุ๊ป!
เป็นแบบนี้แล้วพวกเขายังจะสู้อีกฝ่ายได้อีกเหรอ
พอตระกูลแพชช์ล้มลง เดิมทีสี่ตระกูลมหาเศรษฐีแห่งยุโรปก็เหลือแต่ชื่อแล้ว
นายใหญ่แมนสันเป็นพวกบ้าคลั่งการแข่งรถ ช่วงหลายปีมานี้ไม่สนใจวงการธุรกิจเท่าไรแล้ว
ส่วนตระกูลเบวิน เนื่องจากนายใหญ่เบวินเพิ่งถอนพิษได้ไม่นาน จึงไม่มีอารมณ์เข้าร่วมสงครามพวกนี้
เหลือแค่ตระกูลเทเลอร์
นายใหญ่เทเลอร์ควมคุมอารมณ์โมโหของตัวเองไม่ได้ เขาทุบโต๊ะ “ให้ตายเถอะ!”
เขาครุ่นคิดหน้าเครียดอยู่สักพักแล้วเรียกพ่อบ้านมากระซิบสั่ง
…
ภายในงานประชุม
นีลภูมิใจมาก “ประธานเอียน บอสเก่งจริงๆ กล่อมตระกูลลอเรนท์ได้”
“ไม่ใช่บอส” เอียนผายมือ “คุณนายบอสต่างหาก”
นีล “?”
โยเซฟถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอาตัวออกไป
เขาสะเทือนใจอย่างรุนแรง ตะลึงตาค้าง ไม่มีดิ้นขัดขืนแม้แต่น้อย
ละครชิงบัลลังก์ที่จบแบบหักมุมได้ปิดฉากลง
สองขาของพิธีกรอ่อนแรง เดินขึ้นไปอย่างทุลักทุเล “ลำดับถัดไปงานเต้นรำจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการครับ เชิญประธานใหญ่ฟู่ครับ”
ซีซาร์ลูบคาง “ผมจะจับด้วย”
เขาประกาศหาแฟนไม่ได้ งั้นหาคู่เต้นรำก็น่าจะได้หรือเปล่า
“ได้” ฟู่อวิ๋นเซินพูด “นายก่อน”
ซีซาร์กลัวอิ๋งจื่อจิน กระแอมหนึ่งที “ให้ผู้ที่อาวุโสก่อนดีกว่า”
ฟู่อวิ๋นเซินกวาดตามอง นิ้วเรียวยาวยื่นออกไป
“ช้าก่อน!”
มีเสียงพูดดังขึ้น ขัดจังหวะงานเต้นรำ
“ตามความต้องการของท่านประธานาธิบดี การเต้นรำเปิดฟลอร์ยกให้ชายหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานจะดีกว่า” คนพูดคือพ่อบ้านราชวงศ์คนข้างกายประธานาธิบดีเจมส์ เขายิ้ม “อย่างไรเสียเจ้าหญิงของพวกเราก็ไม่ค่อยชอบให้คู่หมั้นถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิงอื่น พระองค์จะไม่พอพระทัยครับ”
[คู่หมั้นของเจ้าหญิงประเทศเจ ใครกัน!]
[ยังจะเป็นใครได้ ก็ประธานใหญ่ฟู่ไง ว้าว หนุ่มสูงหล่อรวยกับสาวขาวรวยสวยผนึกกำลังกัน อิจฉาจัง]
[วันนี้ยังจะได้ดูพิธีแต่งงานด้วยเหรอ ดีใจ!]
มือของฟู่อวิ๋นเซินชะงัก เหลือบตาขึ้น หันไปมองเจมส์
“คุณฟู่ ตอนนั้นพวกเราตกลงกันแล้วนะครับ” เจมส์พยักหน้าให้เขา “วันนี้ทุกคนอยู่กันหมด ก็สะดวกพอดี คุณฟู่กับแคทเธอรีนหมั้นหมายกันเลยแล้วกัน”
