ตอนที่ 791 แพ้อย่างน่าเวทนา
หินผู้วิเศษที่ไชโลห์พยายามทำแทบตายกลับถูกประเมินได้แค่ระดับซีที่ต่ำสุด
หลานสาวของเธอออมมือให้ กลับได้ระดับเอ
งั้นถ้าไม่ออมมือ คุณภาพกับระดับจะสูงขนาดไหน
“หินผู้วิเศษที่ทำออกมากันได้จนถึงตอนนี้ คุณภาพที่ดีที่สุดสามารถช่วยยืดอายุขัยได้ถึงสามร้อยปี” นอร์ตันทำเสียงจึ๊ “แปดสิบปีไม่ถือเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอเหรอ ถึงได้บอกว่าเธอออมมือไงล่ะ”
ซีนาย “…”
เธอไม่ค่อยเข้าใจพวกศาสตร์เหนือธรรมชาติ
แม้จะเป็นเทคโนโลยีดัดแปลงพันธุกรรมในตอนนี้ก็ยังอยู่เหนือวิชาเล่นแร่แปรธาตุไม่ได้
แต่ขณะเดียวกันเพราะความที่เหนือธรรมชาติ ข้อจำกัดของวิชาเล่นแร่แปรธาตุก็มีเยอะมากเช่นกัน
ใช่ว่าหินผู้วิเศษจะใช้ได้กับทุกคน
คราวนี้เกิดความเงียบขึ้นภายในสนามแข่ง
ไม่ว่าจะเป็นชาวเมืองที่ชมอยู่ในสนามหรือรับชมผ่านทางถ่ายทอดสดต่างก็ตะลึงจนพูดไม่ออก
[โอ้โห ที่แท้อิ๋งจื่อจินก็เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุด้วยเหรอ]
[ใครมาประคองฉันที จะเป็นลม]
[ตอนแรกใครบอกนะว่าคุณหนูใหญ่ใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุไม่เป็น ไม่สู้รีบยอมแพ้ดีกว่า ไม่ทราบว่าตอนนี้ใบหน้าปวดแสบปวดร้อนไหม]
พ่อบ้านดีใจมาก “คุณนายใหญ่ดูสิครับ คุณหนูใหญ่เก่งที่สุด!”
ซู่เวิ่นกลับขมวดคิ้ว “กลัวจะดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย กลัวว่า…”
ลูเอลก็ถูกจับตามองเพราะความโดดเด่นสะดุดตาเกินไป
เธอไม่อยากให้ลูกสาวของเธอดำเนินรอยตามลูเอล
“คุณป้าวางใจได้ครับ” ฟู่อวิ๋นเซินที่อยู่ข้างๆ มีสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน “นี่ไม่ใช่ความสามารถที่แท้จริงของเยาเยา อีกทั้งจะมัวแต่หลบๆ ซ่อนๆ ไปตลอดก็ไม่ได้”
ซู่เวิ่นเงียบไปสักพักแล้วถอนหายใจ “ป้ารู้ แต่ป้าก็ทำใจให้สบายๆ ไม่ได้สักที”
“ท่านเขยครับ ป้ายเชียร์ที่ผมอุตส่าห์ทำไว้ให้ท่านเขยถูกคุณหนูใหญ่ยึดไปหมดเลยครับ” พ่อบ้านเสียใจ “ป้ายเชียร์ที่ผมนั่งทำทั้งวัน เดิมทีแค่อยากให้คุณหนูใหญ่ได้เห็นหน่อย ปรากฏว่าเธอไม่ยอมคืนเลยครับ”
“หืม?” ฟู่อวิ๋นเซินชักสนใจ “ป้ายอะไรครับ”
สาวน้อยของเขาถึงได้เก็บยึดเอาไปคนเดียวแบบนี้
พ่อบ้านเลยเอารูปให้ดู
ฟู่อวิ๋นเซินอ่านป้ายเชียร์สิบกว่าอันจบก็เลิกคิ้ว พูดอย่างใจเย็น “อีกสองวันยังมีการแข่งอีกสองสนาม สองวันนี้พ่อบ้านทำใหม่ได้นี่ครับ”
พ่อบ้านดวงตาเปล่งประกาย “นั่นสิครับ ผมจะไปทำเดี๋ยวนี้!”
“อืม ครั้งนี้ไม่ต้องให้เธอดูแล้ว เอามาให้ผมเลยนะครับ” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินโค้งมน “ทำเซอร์ไพรส์เธอหน่อย”
พ่อบ้านพยักหน้าเห็นด้วย
เริ่มสั่งซื้อวัสดุในเว็บดับบลิว
ครั้งนี้เขาจะวาดอันใหญ่
ส่วนทางด้านไชโลห์สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
เธอจ้องผลตรวจที่ออกมา ควบคุมตัวเองไม่ได้ “เป็นไปไม่ได้!”
นี่มันหินผู้วิเศษเชียวนะ!
สสารที่นักเล่นแร่แปรธาตุเก้าสิบเปอร์ซ็นต์ทำออกมาไม่ได้ แล้วอิ๋งจื่อจินมีสิทธิ์อะไรทำได้
เธอเคยเห็นหินผู้วิเศษที่คุณภาพสมบูรณ์แบบแค่ครั้งเดียวในมือของผู้วิเศษนักมายากล
ไชโลห์ปากสั่นฟันกระทบกัน แม้แต่ร่างกายก็สั่นด้วย
เธอมั่นใจการแข่งขันวิชาเล่นแร่แปรธาตุมากที่สุด แต่ตอนนี้เธอกลับแพ้แล้วงั้นเหรอ
อิ๋งจื่อจินบดขยี้เธอได้
ผ่านไปสักพัก ในที่สุดนักเล่นแร่แปรธาตุก็ตามวิญญาณของตัวเองที่หลุดลอยไปกลับมาได้
เขาขยี้ตา เมื่อแน่ใจว่าเป็นระดับ ‘เอ’ ไม่มีผิด เขาก็แทบหยุดหายใจ
นี่คือหินผู้วิเศษที่คุณภาพสมบูรณ์แบบ
อัจฉริยะ ต้องเป็นอัจฉริยะด้านเล่นแร่แปรธาตุแน่ๆ!
นักเล่นแร่แปรธาตุมีท่าทีให้เกียรติอิ๋งจื่อจินขึ้นมาก ใช้ภาษาสุภาพ “ไม่ทราบว่าคุณหนูใหญ่ไปเรียนวิชาเล่นแร่แปรธาตุมาจากอาจารย์ท่านไหนเหรอครับ”
นักเล่นแร่แปรธาตุที่ทำหินผู้วิเศษระดับนี้ได้จะต้องเป็นถึงปรมาจารย์แน่นอน
“มหาวิทยาลัยนอร์ตันค่ะ” อิ๋งจื่อจินพูดชื่อนอร์ตันออกมารับหน้าแบบไม่กังวลใจแม้แต่น้อย พูดโกหกหน้าตาเฉย “ฉันเคยเรียนที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันระยะหนึ่ง นักเล่นแร่แปรธาตุของที่นั่นทำหินผู้วิเศษได้ทุกคนค่ะ”
“ฉันเป็นนักศึกษากลุ่มที่ห่วยสุดแล้ว ฝีมือไม่เอาไหน ขายหน้าจริงๆ ค่ะ”
นักเล่นแร่แปรธาตุ “?”
หะ…ห่วยเหรอ
ซีนายหันไป “ทำเป็นทุกคนเลยเหรอ”
นอร์ตันค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ โมโหจนหัวเราะ “ใช่ เป็นทุกคน”
เขาล่ะยอมใจ
ซีนายชื่นชมจากใจจริง “งั้นก็สุดยอดมากเลยนะ”
นอร์ตันเหลือบมองเธอ น้ำเสียงยังคงเรียบเฉย “แน่นอน ให้มันรู้ไปสิว่าใครก่อตั้ง นั่งให้ดีล่ะ”
“มหาวิทยาลัยนอร์ตันเหรอครับ” นักเล่นแร่แปรธาตุไม่เคยได้ยิน แต่ก็ตั้งใจจำไว้ อดชื่นชมไม่ได้ “พรสวรรค์ด้านการเล่นแร่แปรธาตุของคุณอิ๋งสูงส่งมากครับ ถ้าอีกหน่อยสนใจ มาที่คณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ได้นะครับ พวกเรามาร่วมวิจัยด้วยกัน”
“มีบางอย่างที่อยากขอคำชี้แนะจากคุณอิ๋งด้วยครับ”
นักเล่นแร่แปรธาตุที่สนใจแค่วิชาเล่นแร่แปรธาตุได้ลืมไชโลห์ไปสนิทแล้ว
อิ๋งจื่อจินก็ไม่ปฏิเสธ พยักหน้าเล็กน้อย “เกรงใจเกินไปแล้วค่ะ”
เธอเองก็กำลังคิดอยู่ว่าจะดึงตัวนักเล่นแร่แปรธาตุพวกนี้ไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันดีไหม
แบบนี้รองอธิการบดีจะได้ไม่มาเซ้าซี้เธอแล้ว
เป็นทางออกที่ดี
ชาวเมืองก็เริ่มสนใจมหาวิทยาลัยนอร์ตัน
[มีใครให้ความรู้เรื่องมหาวิทยาลัยนอร์ตันได้ไหม]
[อ๋อๆ ฉันรู้ มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของเจ็ดทวีปสี่มหาสมุทร!]
[สุดยอดเลย มหาวิทยาลัยนี้สอนวิชาเล่นแร่แปรธาตุด้วยเหรอ ฟังดูเหมือนจะเก่งกว่าสำนักวิจัยอีกนะ ตอนนี้ออกจากเมืองไปสมัครเรียนยังทันไหม]
ไชโลห์หน้าซีดยิ่งกว่าเดิม
เธอเคยได้ยินซาโรห์พูดถึงมหาวิทยาลัยนอร์ตัน บอกว่าที่นั่นเป็นมหาวิทยาลัยที่ผู้วิเศษอัศวินรถม้าก่อตั้ง
อิ๋งจื่อจินยังเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนอร์ตันด้วยเหรอ
งั้นคะแนนโหวตของผู้วิเศษอัศวินรถม้าไม่เท่ากับเป็นของอิ๋งจื่อจินเหรอ
ในที่สุดไชโลห์ก็พบว่าเธอรู้จักอิ๋งจื่อจินน้อยเกินไป
เธอเงยหน้ามองอิ๋งจื่อจินที่นั่งพักสายตาอยู่ แววตาของเธอค่อยๆ หม่นลง
[ไม่ไหวแล้ว ขำไชโลห์เป็นบ้า บอกว่าตัวเองไม่ถนัดเรื่องเครื่องกลเลยขอยอมแพ้ ปรากฏว่าวิชาเล่นแร่แปรธาตุก็สู้ไม่ได้เหมือนกัน]
[เทพอิ๋งคงอยากบอกว่า ฉันแค่มางีบพักผ่อน ถือโอกาสลงแข่งหน่อยก็ได้ (ยิ้ม)]
[แบบนี้เรียกอะไร แบบนี้เรียกบูมเมอแรง ตีกลับมาฟาดหน้าตัวเองโดยเฉพาะ]
แค่ในเวลาสั้นๆ ไม่กี่วินาที คะแนนโหวตของไชโลห์บนเว็บดับบลิวได้ลดลงไปสิบเปอร์เซ็นต์ในชั่วพริบตา
จากเดิมที่เป็นหกสิบห้าเปอร์เซ็นต่อสามสิบห้าเปอร์เซ็นต์ได้กลายเป็นห้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ต่อสี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์
อีกทั้งยังคงลดลงจนตอนนี้ใกล้จะเสมอกันแล้ว
อันที่จริงชาวเมืองก็ไม่ได้รู้เกี่ยวกับไชโลห์มากนัก สาเหตุที่สนับสนุนเธอเป็นเพราะเธอมีผู้วิเศษหนุนหลัง
ผู้ตัดสินปาดเหงื่อ ประกาศผลด้วยความจนปัญญา “การแข่งขันสนามที่สอง คุณอิ๋งชนะครับ”
คะแนนกลายเป็นสองต่อศูนย์
มีการแข่งขันทั้งหมดห้าสนาม
แผนของไชโลห์คือชนะที่สี่ต่อหนึ่ง
แน่นอนว่าสี่คะแนนคือเธอ
ไชโลห์ตัวเย็นเฉียบ
ตอนนี้เธอได้ ‘ไข่’ มากินสองใบแล้ว อีกสามสนามที่เหลือเธอจะชนะได้จริงๆ เหรอ
ใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุได้ วิชารักษาทางการแพทย์ก็คงไม่ด้อยไปกว่ากัน
ไชโลห์เงยหน้า เห็นสายตาที่ตะลึงงันของชาวเมือง
ดุจหนามที่ทิ่มแทงด้านหลังของเธอ
เธอทนอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว ผลักโต๊ะออกแล้วออกจากสนามโดยเร็วที่สุด
ราวกับหนีอะไรบางอย่าง สภาพน่าเวทนา
อิ๋งจื่อจินพักผ่อนรอบสองเสร็จก็ค่อยๆ บิดขี้เกียจ ลุกกลับไปที่ห้องรับแขก
พ่อบ้านสั่งคนรับใช้บอกชาวเมืองให้แยกย้าย
มีคนอยากเข้ามาดูต่อแต่ถูกพ่อบ้านขวางไว้ ทำได้เพียงออกไปด้วยความเสียดาย
ภายในห้องรับแขก
ฟู่อวิ๋นเซินยืนขึ้น ยื่นกล่องเครื่องประดับที่แสนประณีตให้ “เป็นของขวัญเด็กน้อย เหนื่อยแย่เลยนะ”
อิ๋งจื่อจินรับมา ทันใดนั้นก็พูดขึ้น “ฉันได้ยินที่คุณคุยกับพ่อบ้านแล้ว”
ฟู่อวิ๋นเซินค่อยๆ เหลือบตาขึ้น “หืม?”
“ทางที่ดีล้มเลิกความคิดที่จะชูป้ายเชียร์ฉัน” อิ๋งจื่อจินเท้าศีรษะ เลิกคิ้วพลางพูด “ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่มีเด็กน้อยอีก”
สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินชะงัก “…”
ผิดแผน
จอมยุทธ์หูดีเกินไป
…
ด้านนอกสนามแข่ง
นอร์ตันวางซีนายลง “ฉันจะไปสำนักผู้วิเศษหน่อย กลับเองได้หรือเปล่า”
“ได้สิ บอกแล้วว่าฉันไม่ใช่เด็ก” ซีนายสวมหมวกกันแดด “ไปสำนักผู้วิเศษทำไมเหรอ”
“ดูละคร” นอร์ตันลูบคาง “ดูจักรพรรดินีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ”
ซีนาย “…”
ที่แท้ผู้วิเศษก็ชอบทำเรื่องไร้สาระแบบนี้ ทัศนคติเธอที่มีต่อผู้วิเศษแหลกสลายหมดแล้ว
“เด็กดี” นอร์ตันลูบศีรษะเธอ ยิ้มพลางพูด “กินข้าวให้ตรงเวลา ฉันจะถ่ายคลิปมาให้เธอดู จะได้สนุกไปด้วยกัน”
เขายัดขวดยาให้เธอสองสามขวดแล้วถึงออกไป
การแข่งขันถ่ายทอดสดอยู่ตลอด ซาโรห์ย่อมได้ดู
ตอนที่เธอเห็นอิ๋งจื่อจินคะแนนนำสองต่อศูนย์ เธอบีบที่วางแขนบนบัลลังก์จนหัก
ความโกรธที่อยู่ในทรวงอกทะยานขึ้นถึงขีดสุดเมื่อไชโลห์กลับมา
ซาโรห์มองไชโลห์ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น พูดเสียงเย็นชา “โง่งี่เง่า!”
ไชโลห์ตัวสั่น “ทะ ท่านจักรพรรดินีคะ ฉันเองก็ไม่รู้ว่ายัยนั่นจะ…”
“ฉันไม่อยากฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น” ซาโรห์ยังคงเย็นชา “สามสนามที่เหลือ ไม่ว่าเธอจะใช้วิธีไหนก็ห้ามผิดพลาดอีก”
ไชโลห์ไม่กล้าเถียง “ค่ะท่านจักรพรรดินี”
เธอหน้าซีดออกจากสำนักผู้วิเศษ กำมือแน่น
ใช่ คงต้องทำทุกวิถีทางแล้ว
ไชโลห์สีหน้าบึ้งตึง หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาติดต่อคน “จัดการหักแขนหักขายัยนั่นก่อนที่การแข่งขันสนามที่สามจะเริ่มขึ้น”
ถ้าไม่มีมือไม่มีขา เธอก็อยากจะรอดูว่าอิ๋งจื่อจินจะแข่งรักษาคนกับแข่งต่อสู้กับเธอยังไง