ตอนที่ 792 ตัวตนเทพอิ๋งทั้งนั้น กลัวไหมล่ะ
ถ้าเกิดอุบัติเหตุกับอิ๋งจื่อจิน แบบนั้นก็ไม่มีทางลงแข่งได้อีก
อีกทั้งสำนักผู้วิเศษก็เอนเอียงมาทางเธอ ไม่มีทางยืดการคัดเลือกหัวหน้าตระกูลออกไป
หากเป็นแบบนั้น เมื่อรวมกับคะแนนโหวตที่บรรดาผู้วิเศษลงให้เธอ คนที่ชนะก็มีแค่เธอคนเดียว
ไชโลห์ใช้ชีวิตอยู่ในสำนักผู้วิเศษมาตั้งแต่เด็ก เดิมทีก็ไม่ได้มีเยื่อใยอะไรให้ตระกูลเรนเกล
อย่าว่าแต่อิ๋งจื่อจินเป็นลูกสาวของลูเอลกับซู่เวิ่น ต่อให้เป็นลูเอลพี่ชายแท้ๆ ของเธอ หากขัดขวางผลประโยชน์ เธอก็ลงมือได้เหมือนกัน
ในบรรดาผู้วิเศษสามคน ถึงแม้ปกติไชโลห์จะได้คลุกคลีกับซาโรห์บ่อยที่สุด แต่ในความเป็นจริงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผู้วิเศษหอคอยดีกว่า
ในมือผู้วิเศษหอคอยมีคนคุ้มกันอยู่กลุ่มหนึ่งที่ฝีมืออยู่เหนือสี่หน่วยอัศวินไปไกลมาก
เธอมีสิทธิ์เรียกใช้ฉุกเฉินได้หนึ่งครั้ง
เดิมทีกะใช้หลังจากที่ขึ้นตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเรนเกลเพื่อวางอำนาจข่มทั้งตระกูล
แต่ตอนนี้อิ๋งจื่อจินบีบให้เธอจำต้องใช้ก่อน
สีหน้าของไชโลห์ขรึมลงกว่าเดิม
“ได้ครับคุณไชโลห์” หัวหน้าคนคุ้มกันที่อยู่ปลายสายตอบรับ “น้อมรับคำสั่งของคุณไชโลห์ครับ”
เมื่อจบการสนทนาหัวหน้าคนคุ้มกันก็รีบเอาเรื่องนี้ไปรายงานผู้วิเศษหอคอยทันที
หอคอยฟังจบก็หัวเราะ “ลูกศิษย์ของฉัน อย่างอื่นเรียนได้ไม่ดี แต่เรื่องความโหดเหี้ยมกับความไร้เยื่อใยทำได้ดีทีเดียว ใช้ได้ๆ น่าชื่นชม”
หัวหน้าคนคุ้มกันถามด้วยความนอบน้อม “ถ้าอย่างนั้นพวกเราเอาไงดีครับท่านหอคอย”
“ทำตามที่เธอต้องการแล้วกัน ปล่อยเธอสนุกตามใจ” หอคอยยิ้ม “อีกระยะหนึ่งเธอก็จะรู้ว่า ในเมืองแห่งโลก แม้แต่สำนักผู้วิเศษก็เป็นแค่สิ่งประดับ”
หัวหน้าตระกูลเรนเกลอย่างนั้นเหรอ
จะบีบก็ตายคลายก็รอดได้ทุกเมื่อ ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลยสักนิด
…
ภายในสำนักผู้วิเศษ
ซาโรห์เริ่มย้อนดูภาพบันทึกการแข่งขันในวันนี้
หินผู้วิเศษระดับเอที่สมบูรณ์แบบก้อนนี้ทำให้เธออยากกำจัดอิ๋งจื่อจินด้วยตัวเอง
เพียงเพราะเรื่องอย่างยืดอายุขัยของมนุษย์ เดิมทีก็ไม่ใช่เรื่องที่คนที่นอกเหนือจากผู้วิเศษกับนักเล่นแร่แปรธาตุที่ผู้วิเศษกำหนดจะเข้ามายุ่งได้
แต่อิ๋งจื่อจินกลับทำหินผู้วิเศษออกมาได้อย่างง่ายดาย แถมคุณภาพยังสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าหินผู้วิเศษที่นักเล่นแร่แปรธาตุของคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ทำ
นี่เป็นเรื่องที่ซาโรห์ยอมไม่ได้
แต่คำว่า ‘มหาวิทยาลัยนอร์ตัน’ ทำให้เธอจำต้องกดความคิดนี้ลงไป
เวลาแบบนี้เธอไม่มีทางขัดแย้งใดๆ กับนอร์ตัน
วันหน้าถ้าสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สองเกิดขึ้น ผู้วิเศษอัศวินรถม้าจะเป็นกำลังสำคัญที่สุดที่ช่วยพวกเขาต่อกรกับผู้วิเศษเดวิลได้
แชะ
เสียงดังชัดเจน เป็นเสียงกดชัตเตอร์
ซาโรห์เงยหน้าขึ้นทันที เห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงประตูถือกล้องถ่ายรูปรุ่นล่าสุดในเว็บดับบลิว กำลังเล็งถ่ายมาที่ใบหน้าของเธอ
ถ่ายสีหน้าของเธอไว้อย่างชัดเจน
ซาโรห์สีหน้าเปลี่ยน “นอร์ตัน คุณทำอะไรน่ะ”
“เปล่า” นอร์ตันไม่ทุกข์ร้อน ยังคงถ่ายต่อ “รู้สึกว่าสีหน้าคุณในตอนนี้มันน่าสนใจดี ไม่ถ่ายเก็บไว้เสียดายแย่”
ซาโรห์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นอร์ตัน!”
นอร์ตันสีหน้าเรียบเฉย “ผมไม่ได้หูหนวก มีธุระอะไร”
“รู้จักเธอหรือเปล่า” ซาโรห์ชูรูปถ่ายในมือ สายตาเฉียบคม “นี่เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่คุณก่อตั้งข้างนอก”
“งั้นเหรอ ถ้าคุณไม่บอกผมคงไม่มีเวลาสนใจเรื่องพวกนี้” นอร์ตันหันไป ยิ้มพลางพูด “แต่ในเมื่อคุณพูดถึงแล้ว งั้นในตอนสุดท้ายผมคงต้องโหวตให้เธอแล้วล่ะ นึกไม่ถึงว่ามหาวิทยาลัยผมมีคนเก่งขนาดนี้ด้วย”
“คนอย่างผมขี้เกียจดูแลมหาวิทยาลัย คุณว่าถ้าผมโหวตให้เธอวันหน้าเธอจะช่วยผมดูแลมหาวิทยาลัยไหม”
ซาโรห์เกือบหายใจไม่ทัน
เธอกำมือแน่นอีกครั้ง พูดเสียงเย็นชา “คุณอยากได้คนดูแลมหาวิทยาลัย ฉันส่งคนไปช่วยดูให้ได้ คุณจะโหวตให้เธอเพราะเรื่องแค่นี้เหรอ”
“ไม่ได้หรอก” นอร์ตันพูด “ตามนี้ จำไว้นะ อย่ารบกวนผมบ่อยนัก”
เขาหันตัวเดินออก ทิ้งด้านหลังให้ซาโรห์ดูต่างหน้า
ซาโรห์สูดลมหายใจเข้าลึก นวดขมับ พยายามข่มความโกรธ
ก็แค่อัศวินรถม้าคนเดียว ไม่จำเป็นต้องกังวลขนาดนั้น
ไม่กี่นาทีต่อมาคนดูแลก็ทำความเคารพอยู่ด้านนอก “ท่านจักรพรรดินีครับ ผลการตรวจสอบของศาลตัดสินออกมาแล้วครับ”
ซาโรห์เอ่ยปากทันที “เอาเข้ามาดู”
เธอรับผลตรวจจากมือคนดูแล คิ้วขมวดแน่นกว่าเดิม “แน่ใจว่าเป็นยาพิษเอสยี่สิบสามเหรอ”
“ครับท่านจักรพรรดินี” คนดูแลเช็ดเหงื่อ “ศาลตัดสินเทียบกับยาพิษทั้งหมดแล้ว สุดท้ายยืนยันว่าเป็นเอสยี่สิบสามครับ”
“เข้าใจแล้ว” ซาโรห์ส่ายมือ “ออกไปก่อน”
คนดูแลรีบถอยออกไป
ซาโรห์กำคฑาในมือ ลุกออกไปห้องนักมายากล
นักมายากลกำลังปรุงยาชนิดใหม่อยู่ในห้องทดลองของตัวเอง ถูกโยนเอกสารฉบับหนึ่งใส่หน้า
หลอดสารเคมีล้มลง นักมายากลโมโหมาก “ทำอะไรน่ะซาโรห์”
“ยังจะมาถามอีกว่าฉันทำอะไร” ซาโรห์มองเขาด้วยสายตาเย็นชา “จะวางยานักโทษทำไมไม่บอกฉันก่อน”
“วางยานักโทษเหรอ เป็นไปไม่ได้!” นักมายากลตกใจสุดขีด “ช่วงหลายวันมานี้ผมปรุงยาอยู่ที่นี่ตลอด”
ในใจก็กำลังครุ่นคิด
แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนอัลไคด์ผู้วิเศษดวงดาวมาขอยาตัวใหม่หลายชนิดไปจากเขา
หรือว่าจะทำอะไรกันอีกแล้ว
“คุณอ่านดูให้ดีๆ ยาพิษเอสยี่สิบสาม” ซาโรห์ชี้เอกสาร “นี่มันยาพิษที่คุณคิดค้น ใครยังจะทำออกมาได้อีกนอกจากคุณ”
นักมายากลรับมาดู “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เอสยี่สิบสามเป็นยาพิษตั้งแต่เมื่อไรแล้ว ยี่สิบกว่าปีก่อน ถูกโละทิ้งไปนานแล้ว”
“ยิ่งไปกว่านั้น เอสยี่สิบสามนอกจากมีความเป็นพิษสูง ทรมานคนได้ดี แต่มันไม่มีความหลบซ่อนเลยสักนิด ทำไมผมต้องใช้มันด้วย”
“ไม่ใช่คุณจริงเหรอ” ซาโรห์ขมวดคิ้ว “งั้นจะเป็นใคร”
นักมายากลก็ตอบไม่ได้ เขาตัดสินใจทันที “ผมจะไปที่ศาลตัดสินเดี๋ยวนี้!”
…
ศาลตัดสิน
คุณนายผู้เฒ่าอวี้ฟื้นขึ้นมากลางคันหลายครั้ง แต่แล้วก็เจ็บปวดจนสลบไปอีกอย่างรวดเร็ว
หากสำนักผู้วิเศษไม่มีคำสั่ง เจ้าหน้าที่ศาลก็ทำอะไรไม่ได้
นักมายากลสาวเท้าไปยืนตรงหน้าคุณนายผู้เฒ่าอวี้แล้วเริ่มตรวจสอบ
จากนั้นก็หยิบยาถอนพิษของเอสยี่สิบสามออกมาป้อนคุณนายผู้เฒ่าอวี้
แต่พอกินยาถอนพิษเสร็จ แม้คุณนายผู้เฒ่าอวี้จะฟื้นขึ้นมาทันที แต่ก็ร้องเหมือนจะขาดใจ เจ็บปวดลงไปนอนดิ้นบนพื้น
นักมายากลสีหน้าเปลี่ยน “เป็นไปไม่ได้!”
นี่เป็นยาพิษเอสยี่สิบสามจริง แต่ทำไมยาถอนพิษไม่ได้ผล
พิษที่เขาทำเอง แต่กลับถอนไม่ได้อย่างนั้นเหรอ
ทันใดนั้นได้มีความคิดหนึ่งปรากฏในสมอง นักมายากลอดตัวสั่นไม่ได้
ซาโรห์ชักหมดความอดทน “มันเรื่องอะไรกันแน่”
“ซาโรห์ คุณฟังผมพูดก่อน” นักมายากลกลืนน้ำลาย “เว็บบอร์ดเอ็นโอเคที่ซิวก่อตั้งมีชาร์ตจัดอันดับนักปรุงยาพิษ เมื่อหลายศตวรรษก่อนผมไปเที่ยวป้วนเปี้ยนอยู่ในยุโรปเลยติดอันดับสองของชาร์ต”
ซาโรห์ฟังแล้วก็หัวเราะ “คุณกำลังล้อฉันเล่นเหรอ”
นักมายากลที่พลังพิเศษคือปรุงยา แต่อยู่อันดับสองของชาร์ตนักปรุงยาพิษอย่างนั้นเหรอ
“ใช่ ผมอยู่แค่อันดับสอง” นักมายากลเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก “ผมเคยประลองกับนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งแค่ครั้งเดียว ผมไม่เคยได้ยินวิธีปรุงยาพิษของเขามาก่อน”
“ผมสงสัยว่าเขาจะเหมือนเทพพยากรณ์ที่มาจากจักรวาลอื่น”
นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งลึกลับมาก ไม่มีใครรู้โฉมหน้าที่แท้จริงของเขา
ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้ให้อัลไคด์บุกเข้าโลกแพทย์แผนโบราณ หาคนปลอมเป็นนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งเพื่อล่อให้เจ้าตัวออกมา
แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
“คุณจะบอกว่ามีความเป็นได้ที่จะเป็นฝีมือของนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งงั้นเหรอ” ซาโรห์ขมวดคิ้วอีกครั้ง “ทำไมล่ะ”
“ซาโรห์ พวกนักปรุงยาพิษนิสัยพิลึกกันทั้งนั้น คบยากยิ่งกว่าอัศวินรถม้าอีก” นักมายากลพูด “พวกเขาทำอะไรไม่เคยต้องการเหตุผลหรอกนะ”
ซาโรห์เงียบไปชั่วขณะแล้วพูดขึ้น “งั้นก็หาทางหาตัวเขาให้เจอ ทางที่ดีเชิญเขามาเข้าสำนักผู้วิเศษ”
นักมายากลยิ้มเศร้า “เกรงว่าจะหาตัวไม่ง่ายน่ะสิ”
“งั้นคุณปกป้องชีวิตผู้หญิงคนนี้ไว้” ซาโรห์กวาดตามองคุณนายผู้เฒ่าอวี้ “ลองดูว่าจะสืบได้ความอะไรหรือเปล่า”
นักมายากลพยักหน้า
เขาเองก็อยากเห็นเหมือนกัน โฉมหน้าแท้จริงของนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง
…
สองวันต่อมา เวลาเย็น
ตระกูลเรนเกลจัดงานเลี้ยงในบ้านอีกครั้ง
พ่อบ้านก็แอบเอาป้ายเชียร์ที่ทำเสร็จแล้วยื่นให้ฟู่อวิ๋นเซิน
ฟู่อวิ๋นเซินหลุบตาลง ค่อยๆ เก็บไว้
ไปชูข้างเวทีไม่ได้ งั้นก็ชูให้เธอในห้องนอนแล้วกัน
ซู่เวิ่นนั่งหัวโต๊ะ ยิ้มต้อนรับ “เพื่อนของเยาเยางั้นก็คือครอบครัวเดียวกัน ทุกคนตามสบายนะจ๊ะ อยากกินอะไรก็บอกได้”
พ่อบ้านพยักหน้าต่อเนื่อง ใบหน้ายิ้มแย้ม
เพื่อนของคุณหนูใหญ่ก็ต้องดีที่สุดแน่นอน!
ฉินหลิงเยี่ยนยกมือ “มีบะหมี่ถ้วยไหมครับ”
“มีจ้ะ แต่บะหมี่ถ้วยเหรอ” ซู่เวิ่นลังเล แต่สุดท้ายก็รับปาก “พ่อบ้าน ให้ในครัวทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาหน่อย”
ฉินหลิงอวี๋หัวจะปวด
เธอไม่อยากยอมรับเลยว่านี่พี่ชายเธอ
ทันใดนั้นหูของเธอก็ขยับ จับเสียงบางอย่างได้
ดังอยู่ตลอด
เสียงนี้เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ซู่เวิ่นก็ได้ยินแล้ว
เธอวางตะเกียบลง กำลังจะลุกขึ้น “ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ไปดูหน่อยดีกว่า”
มีมือข้างหนึ่งกดบ่าเธอไว้