ตอนที่ 795 ลุกไม่ขึ้น ผู้วิเศษมาแล้ว
“…”
เสียงทุกอย่างหยุดลงในเวลานี้ แม้แต่ข้อความในห้องถ่ายทอดสดก็ไม่มี
บรรยากาศในสนามเงียบมาก
รอบเวทีประลองติดกล้องไว้หลายตัว ถ่ายเห็นชัดแม้กระทั่งรูขุมขนบนใบหน้าของไชโลห์
แต่ยังคงไม่มีใครเห็นชัดว่าไชโลห์ถูกโจมตีกระเด็นออกไปอย่างไร
อิ๋งจื่อจินยืนอยู่ที่เดิม ถึงขั้นที่ไม่ได้ขยับด้วยซ้ำ ท่ายืนสบายๆ ไม่ทุกข์ร้อน
เธอหาวหวอด ดวงตาหงส์ขมุกขมัว บุคลิกท่าทางสง่างาม
เจียงหรานสีหน้าไร้ความรู้สึก
เดี๋ยวนี้ทุกครั้งที่เขานึกถึงตอนให้คำมั่นว่าจะทะเลาะวิวาทกับอิ๋งจื่อจินตอนที่เธอเข้าห้องสิบเก้าครั้งแรก เขาก็อยากจะย้อนเวลากลับไปเด็ดหัวตัวเองจริงๆ
เขาไปเอาความกล้าแบบนั้นมาจากไหนกันแน่!
“คุณหนูใหญ่สุดยอดเลย!” พ่อบ้านที่อยู่บนชั้นสองหวดมือด้วยความดีใจ “สู้ๆ ครับคุณหนูใหญ่!”
ซู่เวิ่นทนดูไม่ไหว
เธอไม่รู้ว่าช่วงนี้พ่อบ้านไปเอาความฮึกเหิมมาจากไหน
อิ๋งจื่อจินพูดต่อ “ลุกขึ้น”
คำๆ นี้เมื่อเข้าหูไชโลห์ก็คือการหยามเหยียดอย่างสิ้นเชิง
สองมือของเธอยันพื้น กินยาหนึ่งเม็ดอย่างทุลักทุเล กัดฟันแสยะยิ้ม “ลุกเหรอ ฉันต้องลุกอยู่แล้ว ไม่ต้องให้แกมาสั่งหรอก!”
ไชโลห์มียารักษาบาดแผลติดตัวมามากมาย ล้วนเป็นยาที่นักมายากลทำด้วยตัวเอง ไม่มีขายในเว็บดับบลิว
กินลงไปหนึ่งเม็ด บาดแผลทั้งหมดจะหายไปอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้นไม่กี่วินาที
บรรดาผู้ชมฮือฮาขึ้นมาทันที
[โอ้โห แบบนี้โกงหรือเปล่า]
[กติกาก็ไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าห้ามใช้ยา แล้วจะเป็นการโกงได้ยังไง]
[แย่ละ คราวนี้อิ๋งจื่อจินตายแน่]
ยาที่นักมายากลทำออกมา ทั่วทั้งโลกมีใครสู้ได้เหรอ
แต่ต่อมาภาพที่ชาวเมืองได้เห็นคือแบบนี้
ไชโลห์ยืนขึ้น ถูกโจมตีกระเด็น พอยืนอีกก็ถูกโจมตีกระเด็นอีก
กระแทกสลับไปมาระหว่างพื้นกับแนวป้องกัน เกิดเสียงดัง “ตึงๆ”
ทุกคน “…”
นี่เล่นเดาะบอลอยู่เหรอ!
“ตึง!”
ไม่รู้ว่าไชโลห์กระแทกพื้นไปกี่ครั้ง เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล
ครั้งนี้เธอไม่ได้ลุกขึ้นมาทันที
เธอทรุดกองอยู่บนพื้น สีหน้าซีดเซียวเหมือนกระดาษ สมองแทบหยุดทำงาน
เห็นๆ อยู่ว่าอิ๋งจื่อจินมาจากประเทศจีน ไม่เคยผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม ต่อให้มีวรยุทธ์ก็ไม่มีทางแข็งแกร่งได้ขนาดนี้
วรยุทธ์ของจอมยุทธ์เพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น นี่เป็นหลักการที่เป็นที่ยอมรับกันในสำนักผู้วิเศษ
ไชโลห์หายใจลำบาก เหงื่อไหลไม่หยุด
อิ๋งจื่อจินไม่สนใจ เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
เธอหันไปมองทางฟู่อวิ๋นเซินตามสัญชาตญาณของร่างกาย
แต่เธอกลับเห็นป้ายเชียร์ที่มีอักษรสีม่วงน้ำเงินอยู่ตรงช่องหน้าต่าง
บนนั้นมีข้อความว่า
[คุณหนูใหญ่ พวกเราบ้าเพื่อคุณหนู คลั่งเพื่อคุณหนู ทุ่มเทเพื่อคุณหนูอย่างเต็มที่]
“…”
สีหน้าของอิ๋งจื่อจินช็อกเล็กน้อย แม้แต่เท้ายังชะงัก
ในเวลานี้เองดวงตาของไชโลห์ฉายแววอาฆาต
โอกาสดี!
เธอกินยาเม็ดสุดท้าย อาศัยจังหวะที่อิ๋งจื่อจินเสียสมาธิพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง
“ตูม!”
“โอ๊ย!”
มีเสียงร้อง ไชโลห์กระเด็นออกไปอีกครั้ง
“เปร๊าะ”
คราวนี้เป็นกระดูกซี่โครงหัก
แค่ได้ยินเสียงยังเจ็บแทน
อิ๋งจื่อจินค่อยๆ ดึงศอกกลับ หันไปมองทางชั้นสองอีกครั้ง
ป้ายเชียร์ยังไม่ถูกเอาลง
เธอกุมขมับ สายตาเย็นชา ขยับปากพูดโดยไม่เปล่งเสียง
สั้นๆ ฟู่อวิ๋นเซินก็เข้าใจ
“คุณจบเห่แล้ว”
ฟู่อวิ๋นเซินถึงได้ก้มหน้ามองข้อความบนป้าย ขมวดคิ้ว
มิน่าล่ะ
สาวน้อยของเขาถึงรับไม่ได้
ฟู่อวิ๋นเซินกำมือวางตรงริมฝีปากแล้วหัวเราะเบาๆ คราวนี้เขาหยิบไอแพดออกมาเขียนข้อความแล้วชูขึ้น
[คุณหนูใหญ่ ผมผิดไปแล้ว]
ป้ายเชียร์อันนั้นถูกวางไว้ด้านข้าง พ่อบ้านที่กำลังตื่นเต้นดีใจเหลือบเห็นพอดี
“ท่านเขย ผมผิดไปแล้วครับ ผิดมหันต์เลย” เขาตกใจหน้าถอดสี ขาดก็แค่คุกเข่าลง “นี่มันป้ายที่ผมต้องชู ไอ๊หยา หยิบสลับกันแล้ว”
“หืม?” ฟู่อวิ๋นเซินเอาไอแพดลง เหลือบตาขึ้น “ไม่เป็นไรครับ ผมว่ามันโอเค นานๆ จะได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของเธอ มีรางวัลให้ครับ”
พ่อบ้าน “?”
[จึ๊ ไชโลห์ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ฉวยโอกาสโจมตีตอนอิ๋งจื่อจินเผลอก็ยังทำอะไรไม่ได้]
[ว่าแต่เมื่อกี้เทพอิ๋งเห็นอะไรเหรอ ฉันเหมือนเห็น ‘ความท้อแท้’ บนใบหน้าเธอ]
[ไม่รู้สิ เป็นมุมที่กล้องถ่ายไม่ถึง]
ไม่ใช่แค่ชาวเน็ตที่ชมผ่านไลฟ์สดจะงง ชาวเมืองที่ชมอยู่ในสนามก็ไม่เห็นอะไรเหมือนกัน
ครั้งนี้ไชโลห์ลุกไม่ขึ้นแล้วจริงๆ
ยารักษาที่เธอพกมาก็กินหมดแล้ว เยียวยาบาดแผลไม่ได้อีก
ในขณะที่ไชโลห์กำลังพยายามยกมือ ทันใดนั้นก็มีเสียง “เปร๊าะ” มีเท้าเหยียบข้อมือเธอ
เสียงกระดูกหักอีกครั้ง
ไชโลห์ร้องเหมือนจะขาดใจ “โอ๊ย!”
แต่ยังไม่จบ
เท้านั้นเคลื่อนออกไปเหยียบบนมือซ้ายของเธอ
สองมือกระดูกหักทั้งคู่
สองขาก็ขยับไม่ได้
ตอนนี้บรรยากาศเงียบหนักกว่าเดิม
เจียงหรานอดกระชับเสื้อผ้าไม่ได้ ตัวเริ่มหนาวสั่น
“นายก็ติดตามบอสฉันมานานแล้วหรือเปล่า” ซีซาร์ทำท่าทางเหมือนคนมีประสบการณ์เหนือกว่า “แค่นี้ก็ตกใจกลัวแล้วเหรอ นายยังไม่เคยเจอเธอตอนโหดขั้นสุดเลยด้วยซ้ำ”
เจียงหรานช็อก “นี่ยังไม่โหดพออีกเหรอ”
“ไม่นะ” ซีซาร์ยักไหล่ ยิ้มพลางพูด “เชื่อฉัน นายไม่อยากเห็นเธอตอนโหดขึ้นมาจริงๆ หรอก”
บนเวทีประลอง แนวป้องกันเริ่มเห็นรอยชำรุด
“เข้าใจหรือยัง” อิ๋งจื่อจินหลุบตาลง ยิ้มเล็กน้อย “นี่ต่างหากหักแขนหักขา แบบนี้เธอพอใจไหม”
ไชโลห์เงยหน้าด้วยความยากลำบาก เลือดไหลออกตามมุมปาก “อิ๋งจื่อจิน แก แก…”
ยังไม่ทันพูดจบก็มีกลิ่นคาวเลือดตีขึ้นมาจากลำคอ “อูแหวะ” ไชโลห์กระอักเลือด
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ไชโลห์หมดสติไป
ภาพเหตุการณ์นี้ก็ได้ถูกกล้องถ่ายออกอากาศสดเช่นกัน
ภายในสำนักผู้วิเศษ ซาโรห์หรี่ตาลงทันที แรงอาฆาตแผ่ซ่าน
ไม่ใช่เพราะไชโลห์พ่ายแพ้ย่อยยับ แต่เป็นเพราะกระบวนท่าก่อนหน้านี้ของอิ๋งจื่อจินทำให้เธอนึกถึงคืนนั้น
แต่ใบหน้าต่างกันอย่างสิ้นเชิง
นั่นจอมยุทธ์ที่วรยุทธ์สูงมาก อายุก็ต้องมากตามแน่นอน
ซาโรห์ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ
เธอคิดมากแล้ว
“การแข่งขันจบลง ถึงเวลาแล้ว” ซาโรห์จับคฑายืนขึ้น “ไปที่ตระกูลเรนเกล”
“สภาพเธอเป็นแบบนั้นแล้วคุณยังจะเลือกเธออีกเหรอ” หอคอยเหล่มองสภาพน่าเวทนาของไชโลห์ ยิ้มพลางพูด “ไม่กลัวชาวเมืองโกรธหรือไง ดูให้ดีนะว่าเปอร์เซ็นต์สนับสนุนคุณหนูใหญ่บนเว็บดับบลิวสูงขนาดไหน”
“สูญเสียศรัทธาจากชาวเมืองไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพวกเรา”
ตอนที่ไชโลห์ถูกอิ๋งจื่อจินโจมตีครั้งแรก เปอร์เซ็นต์ที่สนับสนุนไชโลห์ได้ลดลงเหลือหนึ่งเปอร์เซ็นต์
ที่ยังเหลือหนึ่งเปอร์เซ็นต์เป็นเพราะพวกคนดูแลของสำนักผู้วิเศษกับลูกน้องของไชโลห์ทำการลงทะเบียนบัญชีในเว็บดับบลิวเพื่อโหวตให้เธอโดยเฉพาะ
อีกทั้งกระดานเดิมพันในเว็บดับบลิวก็ขาดทุนสูงมาก
กระดานเดิมพันได้กำหนดอัตราไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มการแข่งขันคัดเลือกหัวหน้าตระกูล เปลี่ยนแปลงไม่ได้ อัตราเดิมพันฝั่งอิ๋งจื่อจินก็ต่ำที่สุดอยู่ที่สี่สิบจุดสี่
ซึ่งก็หมายความว่า ลงหนึ่งพันจะได้เงินชนะสี่หมื่นสี่ร้อย
เนื่องจากไชโลห์เป็นคนของสำนักผู้วิเศษ ชาวเมืองส่วนใหญ่ก็เลยลงข้างไชโลห์
ก่อนหน้านี้เลื่อมใสมากเท่าไร ตอนนี้ก็แค้นมากเท่านั้น
[โมโหๆ ถ้ารู้ว่าไชโลห์จะห่วยขนาดนี้ ฉันเอาเงินไปทิ้งดีกว่ามาลงฝั่งเธอ]
[ฮี่ๆๆ ลงข้างคุณหนูใหญ่ไป ลงไปแค่หมื่นเดียว แต่กำไรหลายเท่าเลยล่ะ]
[พวกเธอโง่หรือเปล่า ลงตามตลาดประมูลลอเรนท์สิ พวกเขาคลั่งเงินขนาดนั้นมีเหรอจะปล่อยให้เงินตัวเองสูญเปล่า]
[กราบขอบพระคุณ ตามคุณซีซาร์ได้เงินมากินขนมนิดหน่อยแค่ร้อยล้าน]
หอคอยอ่านคอมเมนต์ในโซนเดิมพัน ทำเสียงจึ๊ “ซาโรห์ ผมต้องขอพูดเลยนะว่าคุณหนูใหญ่คนนี้ไม่ธรรมดา เธอมีเสน่ห์ ทำให้คนหันมาเชื่อใจเธอได้”
“ติดตรงที่เธอไม่ใช่ผู้วิเศษ ซาโรห์ สถานะของคุณสั่นคลอนแล้วนะ”
แม้แต่ผู้วิเศษก็ยังต้องสะสมบารมีเพื่อครองใจชาวเมือง แต่อิ๋งจื่อจินกลับได้มาครอบครองอย่างง่ายดาย
“ฉันย่อมรู้ว่ามันส่งผลต่อจิตใจของชาวเมือง แต่ฉันก็ได้คาดการณ์ผลลัพธ์ในกรณีเลวร้ายที่สุดไว้แล้ว” ซาโรห์พูดเสียงเย็นชา “ผลักดันตระกูลใหม่ขึ้นมามันยุ่งยากเกินไป ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเรนเกลต้องเป็นไชโลห์เท่านั้น”
เธอต้องควบคุมตระกูลเรนเกลผ่านทางไชโลห์
“เอาเถอะๆ” หอคอยลูบแขนเสื้อ “งั้นผมจะตามคุณไปด้วย ผมต้องลงคะแนนให้ลูกศิษย์ตัวเองอยู่แล้ว แม้เธอจะหมดสภาพไปแล้วก็ตาม”
ซาโรห์หันตัวเดินออก “บอกให้นักมายากลกับนักบวชหญิงมาด้วย”
…
ทางด้านสนามแข่งคัดเลือกของตระกูลเรนเกล
เมื่อผู้ตัดสินยืนยันว่าไชโลห์ลุกขึ้นมาไม่ได้แล้ว ชาวเมืองทุกคนที่อยู่ในสนามต่างยืนขึ้น เริ่มส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ
“เทพอิ๋ง!”
“คุณหนูใหญ่!”
สรุปคะแนนล่าสุด
สี่ต่อศูนย์!
“คุณนายใหญ่ครับ คุณหนูใหญ่สุดยอดไปเลยครับ” พ่อบ้านปรบมือรัวๆ “นี่ถ้าวันหน้ามีคุณหนูน้อยหรือคุณชายน้อยกับท่านเขยจะต้องเก่งพิสดารไปอีกแน่ครับ”
ซู่เวิ่น “…พ่อบ้านไม่ต้องพูดกับฉันแล้ว”
ในขณะที่ชาวเมืองกำลังโห่ร้องด้วยความดีใจอยู่นั้น อยู่ๆ ก็มีเสียงตวาด
ไม่ดังมาก แต่กลับเข้าหูทุกคน
สะเทือนแก้วหู เป็นคำสั่ง
“เงียบ!”
ผู้วิเศษจักรพรรดินีมาแล้ว