คู่แข่งของฉันถังแตก ตอนที่ 4.2

บทที่ 4 (2)

จี้หรานรำคาญอีกฝ่ายมาโดยตลอด แต่ก็ไม่เคยเกิดเรื่องราวใหญ่โตจนถึงขึ้นต้องชกต่อยกัน เพราะเข้ากันไม่ได้เขาจึงตัดหางปล่อยวัด ไม่คบค้ากับหมอนี่อีก
รอจนทั้งสองคนดื่มหมดสามแก้ว เยว่เหวินเหวินก็ใช้มือเกี่ยวแขนจี้หรานทันที “เสี่ยวหรานหราน ไปกันเถอะ เราไปโยกย้ายกันตรงด้านหน้าดีกว่า!”
เยว่เหวินเหวินชอบเต้นมาก ทุกครั้งที่มาจะต้องเลื้อยไปหน้าเวทีเพื่อประชันลีลาการเต้นกับสาวๆ เสมอ ซึ่งจี้หรานไม่เอาด้วยแน่นอน
“นายไปสนุกคนเดียวเถอะ”
“เยว่เหวินเหวิน นายไปสิ” กู้เจ๋อที่นั่งอยู่อีกด้านลุกขึ้น “เว้นที่นั่งตรงนั้นไว้ ฉันจะไปดื่มกับจี้หราน”
เยว่เหวินเหวินรู้ว่ากู้เจ๋อเป็นคนเจ้าเล่ห์แค่ไหน “เขาจะไปเต้นกับฉัน นายดื่มให้อร่อยเถอะ”
“ไม่ได้ยินเขาบอกว่าไม่ไปหรือไง” กู้เจ๋อเดินมาหยุดตรงหน้าพวกเขา “ฉันมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับจี้หรานพอดี อีกอย่างจี้หรานก็ไม่เคยเต้นอยู่แล้วนี่… โอ๊ะ หรือเขายังไม่สร่างเมาตั้งแต่วันนั้นก็เลยยังดื่มมากไม่ค่อยได้”
POP เต็มไปด้วยพวกชอบนินทากระจายข่าว ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรคนที่นี่จึงรู้กันหมด
จี้หรานที่ไม่ชอบฟังคำเหน็บแนมจึงโบกมือให้เยว่เหวินเหวิน “นายไปเถอะ เว้นที่นั่งให้เขาด้วย กู้เจ๋อ คืนนี้นายไม่ต้องเรียกคนขับรถล่ะ”
กู้เจ๋อ “ทำไม”
“ฉันจะให้ 120[1]ส่งนายกลับบ้าน” จี้หรานยิ้มเยาะ
กู้เจ๋อที่ไม่ได้มีเจตนาดีตั้งแต่แรกได้ยินดังนั้นก็ยิ้มเย็น พอนั่งลงก็ยกมือเรียกบริกรให้ยกแก้วมาหลายสิบใบ
เหล้านอกสองชนิดที่ผสมเข้าด้วยกันถูกรินจนเต็มแก้วทุกใบ
“ดื่มทีละแก้วคงน่าเบื่อ” กู้เจ๋อเอ่ย “เรามาดื่มทีละสิบแก้วเลยดีไหม”
เยว่เหวินเหวินเห็นดังนั้นจะยังมีอารมณ์เต้นสนุกอยู่อีกได้อย่างไร เขารีบหาที่ว่างแล้วนั่งลงไปอีกครั้ง วันนี้กู้เจ๋อเบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตหรือไงกันถึงต้องมายั่วโมโหจี้หรานไม่เลิกราแบบนี้
จี้หรานใช้ถ้วยครอบลูกเต๋า “ได้”
“เดี๋ยวก่อน เล่นแค่สองคนคงไม่สนุก เอาแบบนี้ ถ้าฉันแพ้ให้ลิลลี่ดื่ม” ลิลลี่คือสาวสวยที่กู้เจ๋อพามาด้วย
กู้เจ๋อหัวเราะพลางมองไปด้านหลังจี้หราน “ถ้านายแพ้ ให้บอสใหญ่ฉินเป็นคนดื่ม”
จี้หรานชะงักแล้วรีบโพล่งออกมาทันที “เราดื่มสองคนก็พอ จะเอาคนอื่นมายุ่งทำไม…”
“ได้” เสียงฉินหม่านกลับลอยผ่านหน้าเขาไป
“ดี!” เมื่อแผนชั่วสำเร็จ กู้เจ๋อก็กวักมือเรียกลิลลี่ให้มานั่งข้างๆ
หญิงสาวเกี่ยวแขนกู้เจ๋อ ริมฝีปากเกือบแนบชิดกับแก้มชายหนุ่ม “คุณแย่มาก… ทำไมต้องให้ฉันดื่มด้วย!”
“ไม่ต้องกังวลที่รัก ผมไม่ทำให้คุณต้องดื่มหรอก” กู้เจ๋อหัวเราะเจ้าเล่ห์ ทันใดนั้นก็โยนลูกเต๋าลงไปบนโต๊ะ ใช้ถ้วย กวาดไปรอบๆ จนลูกเต๋าทั้งหมดเข้ามาอยู่ข้างใน
กู้เจ๋อเขย่าลูกเต๋าในถ้วยกลางอากาศอย่างชำนาญ มีลูกไม้อะไรก็งัดออกมาใช้จนหมด จากนั้นก็กระแทกลงบนโต๊ะด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความภูมิใจ
จุดประสงค์จริงๆ ของกู้เจ๋อในวันนี้ไม่ใช่การดื่มกับจี้หราน
แต่ก็ไม่ใช่การหาเรื่องจี้หรานด้วยเช่นกัน
เทียบกับจี้หรานแล้วเขาเกลียดคุณชายผู้สูงส่งของตระกูลฉินมากกว่า นอกจากตระกูลฉินจะแย่งลูกค้ารายใหญ่ในธุรกิจของตระกูลเขามาโดยตลอดแล้ว ตอนเรียนฉินหม่านยังเคยรายงานความผิดของเขา จนทำให้แม้แต่ใบรับรองการจบการศึกษาเขายังต้องควักเงินจ่าย แถมยังโดนพ่อทุบตีไปตั้งหลายครั้ง
กู้เจ๋อคิดมาตลอดว่าจะได้โอกาสแก้แค้นเมื่อไหร่ ไม่น่าเชื่อเลยว่าอีกฝ่ายจะเดินมาหาถึงที่เอง
จี้หรานขมวดคิ้ว ตอนที่เขากำลังจะปฏิเสธก็ได้ยินเสียงคนข้างหลังเอ่ยเบาๆ “เล่นเลย ฉันจะดื่มแทนนายเอง”
หมอนี่ป่วยหรือไง คิดจะดื่มแทนเขา? เหอะ ไม่รู้หรือไงว่าเหล้านอกสองชนิดนี้พอผสมกันแล้วมันแรงแค่ไหน
“หุบปากแล้วนั่งเฉยๆ” จี้หรานหยิบถ้วยขึ้นมาเขย่าอย่างลวกๆ ก่อนคว่ำลงบนโต๊ะ “ใครขอให้นายดื่มแทนฉัน”
“ฉันกลัวว่าพอนายเมาแล้วจะเที่ยวเอาเงินไปซื้อใครมั่วๆ อีก” ฉินหม่านยิ้มนิดๆ “นายเป็นลูกค้ารายใหญ่ของฉัน จะปล่อยให้คนอื่นแย่งไปไม่ได้”
จี้หรานเอือมระอา “นายนี่ทุ่มเทกับงานดีจริงๆ จะให้ฉันมอบโล่ให้นายเลยไหม”
“สิ้นเปลืองเปล่าๆ” ฉินหม่านเอ่ยต่อ “คิดเป็นเงินมาให้ฉันแทนก็พอ”
“…”
“จี้หราน นายโอเคไหม” เสียงรอบข้างดังจอแจ กู้เจ๋อไม่ได้ยินที่พวกเขาคุยกัน เห็นจี้หรานเงียบไปก็ยิ้มเยาะ “คงไม่ใช่ว่ากลัวแล้วหรอกนะ”
จี้หรานหันกลับไป “หนึ่งห้า”
ทั้งสองคนมีลูกเต๋าสิบลูก ถ้าในลูกเต๋าสิบลูกนั้นมีแต้มหนึ่งห้าลูก นั่นหมายความว่าจี้หรานชนะ
กู้เจ๋อไม่นึกว่าจี้หรานจะบอกแต้มที่เยอะขนาดนี้ตั้งแต่ครั้งแรก เมื่อมองลูกเต๋าของตัวเองและพบว่าไม่มีแต้มหนึ่งแม้แต่ลูกเดียว จึงเปิดถ้วยออกโดยไม่ต้องคิด
“จี้หราน นี่นายเล่นเกมลูกเต๋าได้ห่วยขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ ถ้านายบอกเราจะได้เปลี่ยนไปเล่นเกมอื่น เป่ายิ้งฉุบก็ได้ แบบนี้คนอื่นคงคิดว่าฉันรังแกนาย… ดูสิ ฉันไม่มีแต้มหนึ่งเลย”
เอ่ยจบก็มองคนที่อยู่ด้านหลังจี้หรานพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “เอ้า บอสใหญ่ฉิน ดื่มสิ”
การประลองเกมครั้งนี้น่าตื่นเต้นมากจนไม่มีใครเดินออกจากโต๊ะ แม้แต่บริกรที่คอยเติมเหล้าก็แอบยืนอยู่ฟังข้างๆ อย่างตั้งใจ
ฉินหม่านถามคนตรงหน้าโดยไม่ได้ปรายตามองกู้เจ๋อแม้แต่นิดเดียว “ให้ฉันดื่มไหม”
“ดื่มกับผีสิ” จี้หรานใช้นิ้วสะกิดนิดเดียวถ้วยที่อยู่ตรงหน้าก็กลิ้งลงไป
ลูกเต๋าทั้งห้าลูกที่อยู่ในนั้นออกแต้มสีแดงจุดเดียวทั้งหมด หนึ่งห้าจริงๆ
“กู้เจ๋อ โตขนาดนี้นายยังจะให้ผู้หญิงดื่มเหล้าแทนอีกเหรอ รีบดื่มเองให้หมดซะ” จี้หรานเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสะใจ “ฉันบอกแล้วไงว่าจะเรียก 120 ให้ไปส่งนาย วันนี้ก็นั่งรถกลับดีๆ ล่ะ เข้าใจไหม”
________________________________________

คู่แข่งของฉันถังแตก

คู่แข่งของฉันถังแตก

คู่แข่งของฉันถังแตก
Score 4.9
Status: Ongoing
อ่านคู่แข่งของฉันถังแตก เรื่องย่อ เขาคนนี้ ‘จี้หราน’ เกิดมาในตระกูลสูงส่ง มั่งคั่งร่ำรวย มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือตั้งแต่ไหนแต่ไร แถมยังหน้าตาดี มีความสามารถ เรื่องชกต่อยยิ่งไม่เป็นรองใคร ชีวิตดีๆ แบบนี้ของเขาควรจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเช้าวันหนึ่ง เขาดันตื่นขึ้นมาบนเตียงพร้อมกับ ‘หลักฐาน’ ตรงหน้า...กางเกงในสีแดงกับบ๊อกเซอร์สีดำ ส่วนคนที่อยู่บนเตียงกับเขานั้น เวรเอ๊ย ผู้ชายหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เป็นที่ชื่นชมใฝ่ฝันของใครๆ มากมาย แต่สำหรับเขาแล้ว หมอนี่คือศัตรูตัวฉกาจ ฟาดฟันกันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งในชีวิต เอาเถอะ ตอนแรกเขาเห็นแก่ที่หมอนี่ตกอับ จากคุณชายสูงส่งกลายเป็นคนล้มละลายหนี้สินรุงรัง เลยจะรีบย่องหนีไปตั้งหลักเงียบๆ แต่อีกฝ่ายกลับกล้าเอ่ยปากทวงสัญญาที่เขาหลุดปากออกไปตอนเมาว่าจะ ‘เปย์’ และ ‘เลี้ยงดู’ “เมื่อคืนนายพูดว่าจะ ‘เปย์’ ฉันไม่ใช่หรือไง ทำไม พอนอนกับฉันแล้วก็คิดจะเบี้ยวงั้นเหรอ” ประโยคนี้ทำเอาจี้หรานอยากลงมือฆ่าคนถ้าไม่กลัวผิดกฎหมาย แม่งเอ๊ย ได้เลย ฉินหม่าน! ได้! ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะ ‘เปย์’ และ ‘เลี้ยงดู’ หมอนี่อย่างที่พูดไว้ แต่จำไว้ว่าเงินทั้งหมดที่เสียไป เขาจะใช้เพื่อซื้อตัวฉินหม่าน เทพบุตรในฝันที่เลื่องลือคนนี้มาเหยียดหยาม เหยียบย่ำ ซ้ำเติม จะทำทุกอย่างเพื่อให้หมอนี่อยู่ในจุดที่ทุกข์ทรมานและน่าสมเพชที่สุด คอยดู! .............................................................................................. จี้หรานโกรธจนต้องหัวเราะออกมา “ฉันนอนกับนายหรือนายนอนกับฉันไม่ทราบ” ฉินหม่านเคาะมวนบุหรี่พลางเงยหน้าขึ้นถาม “แล้วนายรู้สึกดีไหมล่ะ” จี้หรานชะงัก เขาเคลื่อนสายตาตามคำพูดของฉินหม่านไปยังส่วนล่างของอีกฝ่ายที่อยู่ใต้ผ้าห่มโดยไม่รู้ตัว “ฉันเนี่ยนะรู้สึกดี?” จี้หรานขำพรืด “นายฝันอยู่หรือไง ไม้จิ้มฟันอันนั้นของนายน่ะเหรอ ยัดร่องฟันยังไม่เต็มด้วยซ้ำ” ฉินหม่านยิ้ม “งั้นนายก็มาลองอีกรอบสิ ขอดูหน่อยว่าร่องฟันนายจะใหญ่แค่ไหน” .............................................................................................. “ไสหัวไปซะ ฉันไม่ได้รู้สึกดีโว้ย!” เขาตะคอก ฉินหม่านได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า ดับบุหรี่แล้วเปิดผ้าห่มออก “นายรอก่อน” เพราะฉินหม่านไม่ได้สวมเสื้อผ้า จี้หรานจึงหยิบบ๊อกเซอร์บนพื้นขึ้นมาแล้วโยนไปให้ “ให้รออะไร จะต่อยกันหรือไง ถ้าจะต่อยกันนายก็สวมเสื้อผ้าให้ดีๆ ไม่งั้นพอรถพยาบาลมาคงทุเรศสายตาน่าดูถ้าถูกหามออกไปในสภาพล่อนจ้อนแบบนั้น” ฉินหม่านสวมเสื้อผ้าตามที่เขาขอ “ฉันไม่ต่อย ฉันเป็นมืออาชีพมากพอ ไม่ต่อยเสี่ยเลี้ยงหรอก ฉันก็แค่จะไปถามห้องข้างๆ หน่อย” จี้หรานไม่เข้าใจ “ถามอะไร” ฉินหม่านหัวเราะในลำคอ “ถามว่าเมื่อคืนพวกเขาได้ยินเสียงนายร้องหรือเปล่า” “…” .............................................................................................. แม่งเอ๊ย ทำไมวะ ทั้งที่เขาตั้งใจจะทำให้ฉินหม่านกลายเป็นคนที่น่าสมเพชจนทนดูไม่ได้ แต่ไปๆ มาๆ ทำไมหมอนี่ถึงทำให้เขารู้สึกเหมือนจะกระอักเลือดได้ทุกครั้งที่คุยกัน ทำไมเขาถึงรู้สึกว่า ‘น่าสมเพช’ คำนี้ช่างเหมาะกับเขาในตอนนี้มากกว่าใครๆ ล่ะนี่ โว้ยยยยย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset