คนนั้นคือรปภ.ที่ทำหน้าที่อยู่หน้าประตูบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป รปภ.คนนั้นยืนตรงอยู่หน้าประตูบริษัทฟางซื่อ ตัวตรงไม่ขยับเลยสักนิด ดูแล้วมีความรู้สึกน่าเกรงขามอย่างหนึ่งที่พูดไม่ออก และในขณะเดียวกันก็ทำให้เย่ชิงหยู่รู้สึกเห็นใจ
ที่เธอเห็นใจไม่ใช่รปภ. แต่คือฟางเหยียนที่กำลังจะมาทำงานที่นี่ ต่อไปเขาก็จำต้องยืนนิ่งขยับไม่ได้อย่างนี้ เหมือนกับท่อนไม้ ไม่พูดไม่จาสักคำใน 8 ชม.งั้นหรอ?
ถ้าหากว่าเป็นอย่างนี้จริงๆ ก็ลำบากแย่เลย!
ฟางเหยียนผอมขนาดนั้น ดูแล้วก็เหมือนกับคนขาดสารอาหาร แล้วจะแบกรับความลำบากแบบนี้ได้ยังไงกัน
ในขณะที่เย่ชิงหยู่กำลังเหม่ออยู่ ก็มีน้ำเสียงทรงพลังดังมาจากข้างใน “คุณเย่ครับ”
เย่ชิงหยู่สะดุ้งเล็กน้อย มองไปยังที่มาของเสียงนั้น เป็น เซียวเจิ้นเที่ยนนี่เอง
ด้านหลังเซียวเจิ้นเที่ยนมีคนใส่เสื้อดำแว่นดำตามหลังอยู่สองคน สองคนนั้นแค่มองก็รู้ว่าเป็นบอดี้การ์ดที่ได้รับการฝึกฝนมา
ในตอนนี้เห็นเซียวเจิ้นเที่ยน เย่ชิงหยู่ก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
การตายของเซียวเหวินปิงมีผลต่อเซียวเจิ้นเที่ยนอย่างมาก บนใบหน้าของเขายังดูออกถึงความเหนื่อยล้า ดูแล้วก็ยังมีความเศร้าโศกเล็กน้อย แต่สิ่งนี้ดูแล้วจะไม่มีผลต่อตำแหน่งในใจของเย่ชิงหยู่และผู้คนในเมืองจินโจวที่มีต่อเขา ยังไงซะชื่อเสียงของเขาในเมืองจินโจวก็ดังมากจริงๆ ดังเข้าไปถึงในจิตใจของผู้คนทั้งหลาย ดังนั้นไม่ว่าใครที่เจอเขา ก็จะให้เคารพมากอย่างถึงที่สุด
วันนี้มาเจอกับเขาที่ฟางซื่อกรุ๊ป ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเขามาคุยธุรกิจกับตระกูลฟาง เย่ชิงหยู่รีบโค้งตัวทำความเคารพอย่างประหม่า พูดอย่างเคารพว่า “ท่านเซียว สวัสดีค่ะ!”
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเซียวเจิ้นเที่ยนต้องมาทักทายเธอ ถ้าตามปกติแล้ว เซียวเจิ้นเที่ยนไม่จำเป็นต้องสนใจเย่ชิงหยู่ เพราะว่าธุรกิจเล็กๆอย่างของเย่ชิงหยู่ เซียวเจิ้นเที่ยนไม่วางไว้ในสายตาด้วยซ้ำ
เซียวเจิ้นเที่ยนเมื่อก่อนอยู่อย่างสูงส่ง เอื้อมไม่ถึง แม้แต่พ่อของตัวเธอเองยังเข้าหาคนๆนี้ได้ยาก แต่วันนี้เขากลับทักทายตัวเธอเองก่อน ทำเอาเธอตกใจกลัวเหมือนกัน
เซียวเจิ้นเที่ยนมองดูเย่ชิงหยู่ที่ตัวสั่น พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไม่ทราบว่าคุณเย่มาที่นี่ มีเรื่องอะไรงั้นหรอครับ?”
ได้ยินเซียวเจิ้นเที่ยนถามอย่างนี้ เย่ชิงหยู่ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องตอบเซียวเจิ้นเที่ยน แต่เพราะอำนาจของตระกูลเซียว เธอทำได้เพียงตอบว่า “ฉันแค่มาเจอคุณชายฟางเท่านั้นค่ะ ตอนนี้ฉันเจอปัญหานิดหน่อย อยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณชายฟางค่ะ”
เซียวเจิ้นเที่ยนตอบรับคำหนึ่งแล้วก็ถามอย่างดูถูกว่า “เธอเจอปัญหาอะไรละ? ขอความช่วยเหลือถึงกับขอมายันฟางซื่อกรุ๊ปเชียว? คุณเย่รู้มั้ยครับว่านี่คือฟางซื่อกรุ๊ปของบ้านไหน?”
เย่ชิงหยู่ฟังความหมายแฝงออก นั่นก็คือดูถูกฐานะของเย่ชิงหยู่ จริงๆแล้วเย่ชิงหยู่เองก็มีความเจียมตัวอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเซียวเจิ้นเที่ยนพูดอย่างนี้ เธอก็ยิ่งรู้สึกอับอายกว่าเดิม ทำได้แค่พยักหน้าตอบรับ “ฉันรู้ค่ะ ตระกูลฟางของเจียงตู”
เซียวเจิ้นเที่ยนยิ้มเยาะ สายตามองจ้องไปที่เย่ชิงหยู่ พูดว่า “ในเมื่อรู้ งั้นคุณเย่ไม่มีความเจียมตัวสักหน่อยหรอครับ? ฟางซื่อกรุ๊ปคือสถานที่อะไร? เป็นที่ที่ใครจะมาก็ได้งั้นหรอ? แล้วคุณชายฟางเป็นคนที่ใครอยากเจอก็ได้เจองั้นหรอ?”
คำพูดของเซียวเจิ้นเที่ยนหนักแน่นทุกคำ ดวงตาแดงก่ำ ดูท่าทางเหมือนกับอยากจะกลืนเย่ชิงหยู่ไปทั้งอย่างนั้น ดูจากท่าทางแล้วเซียวเจิ้นเที่ยนนั้นเหยียบเย่ชิงหยู่จนจมไปเลย
ฟางซื่อกรุ๊ปมีคนไม่น้อยที่เห็นภาพนี้ต่างก็คาดเดาว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องทำให้เซียวเจิ้นเทียนไม่พอใจแน่นอน
แต่ว่าไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยพูด เพราะว่าการลงมือของเซียวเจิ้นเที่ยนนั้นมีชื่อโด่งดังไปทั่วจินโจว เมื่อเห็นเซียวเจิ้นเที่ยน คนส่วนมากยังต้องเดินอ้อมเลย
เย่ชิงหยู่ตกใจจนพูดไม่ออก เซียวเจิ้นเที่ยนยกมือมาวางไว้บนแขนของเย่ชิงหยู่ การกระทำนี้ทำเอาเย่ชิงหยู่ตกใจ เธอเงยหน้ามองไปที่เซียวเจิ้นเที่ยน เขาทำสีหน้าอย่างเป็นผู้อาวุโสกว่า พูดอย่างมีนัยแอบแฝง “ฉันรู้ส่าเด็กอย่างเธอทำอะไรก็ไม่ง่าย แต่ว่า ที่ฉันพูดกับเธอก็คือ คุณชายฟางคนนี้เธอน่าจะไม่ได้เจอ”
“เพราะ เพราะอะไรคะ?” เย่ชิงหยู่ถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
เซียวเจิ้นเที่ยนยิ้มเยาะ “เพราะว่าวันนี้ คุณชายตระกูลฟางถูกฉันนัดไว้แล้ว!”
เมื่อได้ยินคำนี้ เย่ชิงหยู่ก็หนักใจขึ้นมาในทันที ถ้าหากว่าถูกตระกูลเซียวนัดไว้แล้วจริงๆ งั้นตัวเองก็คงไม่ได้เจอคุณชายฟางแล้วจริงๆ เธอก็ว่า ตัวเองคงไม่โชคดีอยู่ตลอดหรอก
ประธานหยางยังให้เธอมาลองดู คนฐานะอย่างเธอ จะมีบุญได้เจอกับคุณชายตระกูลฟางได้ยังไงกัน
“คุณเย่ เรื่องบางอย่างก็ต้องใช้เพียงแค่กำลังของตัวเองเท่านั้น จริงๆแล้วเรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องรบกวนตระกูลฟาง อย่างตระกูลเซียวของเราก็ยินดีช่วยเหลือคนหนุ่มสาวอย่างคุณเย่ คุณมีเรื่องอะไรที่อยากให้ช่วยบอกผมก็ได้!”
เมื่อได้ยินเซียวเจิ้นเที่ยนพูดอย่างนั้น เย่ชิงหยู่ก็เบิกตาโพลงทันที นี่มันเรื่องจริงหรอเนี่ย?
เซียวเจิ้นเที่ยนออกปากพูดว่าจะช่วยเหลือตัวเธอ?
ตระกูลเซียวเป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองจินโจว เป็นตระกูลที่ทำได้ทุกอย่าง ถ้าหากว่าตระกูลเซียวยินดีช่วยเหลือ งั้นปัญหาเรื่องภาพออกแบบจะต้องจัดการได้แน่นอน
แต่ว่า ทำไมตระกูลเซียวต้องช่วยเหลือเธอละ?
หรือว่าอย่างที่เซียวเจิ้นเที่ยนพูดว่าเพื่อช่วยเหลือคนหนุ่มสาวงั้นหรอ?
“ทำไมครับ? คุณเย่ หรือว่าไม่เต็มใจเชื่อผมงั้นหรอ?” เซียวเจิ้นเที่ยนถาม
จากนั้นก็พูดว่า “จริงๆแล้วผมเคารพท่านพ่ออย่างมาก ในตอนนั้นเขาเป็นคนที่มีอำนาจมากในเมืองจินโจว เพียงแค่เขาคนเดียวก็สามารถทำให้ตระกูลเย่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ความสามารถเก่งที่สุดที่เคยเจอ วันนี้คุณเย่ยังสามารถร่วมธุรกิจกับหวงหยวนฉาวท่านหวงของซีหนานกรุ๊ป ดูแล้วคุณเย่ก็เป็นคนที่มีความสามารถ ไม่ทำให้ผิดหวังที่เป็นลูกสาวของเย่เทียน พ่อที่มีความสามารถก็จะมีลูกที่เก่งจริงๆด้วย”
“คิดดูสิ คนหนุ่มสาวที่มีอนาคตขนาดนี้ ใครจะไม่อยากให้เธอได้พัฒนาตัวเองอย่างดีละ”
คำพูดของเซียวเจิ้นเที่ยนเข้าไปสู่จิตใจของเย่ชิงหยู่ เธอกลืนน้ำลาย เซียวเจิ้นเทียนคนนี้ก็ไม่ได้ชั่วร้าย บ้าอำนาจอย่างที่ลือกันนี่ จริงๆแล้วมีมนุษยธรรมดี
เย่ชิงหยู่ยังไม่ได้พูดอะไร เซียวเจิ้นเที่ยนก็พูดต่อ “หรือว่าคุณเย่ยังโกรธเกลียดผมในเรื่องครั้งก่อนที่พวกเราไปบ้านตระกูลจางงั้นหรอครับ?”
ครั้งก่อน หมายถึงตอนที่เย่ชิงหยู่จัดงานวันเกิด แล้วเซียวเจิ้นเที่ยนพาคนไปจับตัวฟางเหยียน
เย่ชิงหยู่พูดอย่างกล้าๆกลัวๆภายใต้คำพูดข่มของเซียวเจิ้นเที่ยนว่า “เปล่าคะ ท่านเซียว จริงๆแล้วฉันแค่มาพาคุณชายตระกูลฟาง หวังว่าพวกเขาจะให้ความเห็นเรื่องภาพออกแบบ บริษัทพวกเราเกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อย ต้องการความช่วยเหลือค่ะ! ถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือ ดูแล้วสัญญาของพวกเรากับซีหนานกรุ๊ปก็คงจะจบเพียงเท่านี้แล้ว!”
“โอ๊ะ?” เซียวเจิ้นเที่ยนแกล้งทำเป็นตกใจ แต่จริงๆแล้วแอบสะใจอยู่ เขามองเย่ชิงหยู่แล้วถามว่า “งั้นต้องการความช่วยเหลืออะไรละ? ออกแบบภาพออกแบบของเธอหรอ?”
เย่ชิงหยู่พยักหน้าตอบรับ “ใช่ค่ะ ท่านเซียว”
เซียวเจิ้นเที่ยนหัวเราะเสียงดังออกมา แล้วก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง พูดดุเย่ชิงหยู่ว่า “ไร้เดียงสา! เธอคิดว่านี่คือเรื่องเล่นหรอ? นี่คือธุรกิจ เธอเอาแบบภาพเก่ามา ขอให้คนช่วยเหลือ นี่คือการไม่ให้เกียรติผู้อื่น”
“คุณเย่ ผมขอพูดแทนคุณชายของฟางซื่อกรุ๊ปว่าเชิญคุณออกไปซะ!” เซียวเจิ้นเที่ยนเหมือนกับสัตว์ร้ายตัวหนึ่ง ตะโกนใส่เย่ชิงหยู่ ทำเอาเย่ชิงหยู่ตกใจหน้าถอดสี
“ใครบอกจะว่าแทนฉันกันนะ?” น้ำเสียงเย็นชาหนึ่งดังขึ้น และยังมีเสียงเท้าเดินตึกตักแทรกเข้ามาด้วย