ท่าทางของฟางเหยียนก็ยังทำให้โลกวุ่นวายเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ พูดอย่างไม่ใส่ใจ: “เธอวางใจเถอะ ฉันบอกว่าเป็นของตระกูลเย่ก็เป็นของตระกูลเย่ ไม่มีใครกล้ามาขอกับฉันถึงที่หรอก”
ฟางเหยียนไม่ได้จ่ายเงิน ของสิ่งนี้เป็นของตระกูลเย่ ทำไมเขาต้องจ่ายเงินด้วย ถ้าหากเอาสิ่งของที่เป็นของบ้านตัวเองกลับมายังต้องจ่ายเงิน นี่จะเรียกว่าอะไร? ต่อให้เขาจะจ่ายเงินจริงๆ อีกฝ่ายจะกล้ารับเหรอ? ต่อให้อีกฝ่ายจะมีความกล้าหาญหนึ่งร้อยเท่า เขาก็ไม่กล้ารับ
เย่ชิงหยู่มองดูฟางเหยียนที่ยโสโอหังอย่างยิ่ง ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพูดแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าเขาไปเอาความกล้ามาจากที่ไหน ช่างเถอะ ไม่สนใจเขาแล้ว เย่ชิงหยู่กอดอกแล้วถอนหายใจยาว
หลังจากที่กลับมาจากที่บ้านใหญ่ตระกูลเย่ อารมณ์ของเธอก็ดีขึ้นมาก บางทีอาจจะเป็นความประหลาดใจที่ฟางเหยียนมอบให้
หลังจากที่กลับมาที่บ้านสองห้องนอน เย่ชิงหยู่ก็ไปอาบน้ำ ในห้องน้ำ ในหัวของเธอเอาแต่คิดถึงพฤติกรรมแปลกๆของฟางเหยียน ทำไมเขาถึงได้กุญแจของบ้านใหญ่ตระกูลเย่มา ทำไมเขาสามารถที่จะจัดการเรื่องราวต่างๆได้อย่างเหมาะสม
สิ่งที่เซียวห้านพูดก็สะท้อนเข้ามาในหัวสมองของเธออีกครั้ง ตัวตนของฟางเหยียนเรียบง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
เขาเป็นทหารที่เพิ่งออกมาจากกองทัพ ทำไมเขาถึงมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้? ช่วงนี้เกิดเรื่องมากมายที่ทำให้เธอคิดไม่ออก บางทีอาจจะเป็นอย่างที่ฟางเหยียนพูด รอเมื่อถึงโอกาสที่เหมาะสมแล้ว ถึงจะบอกเธอ
ตอนที่ออกมา เธอสวมชุดนอนหนึ่งชุดที่พิเศษมาก เป็นผ้าตาข่าย แทบจะสามารถมองเห็นผิวหนังด้านในได้ เธอเดินผ่านตรงหน้าของฟางเหยียนอย่างไม่ใส่ใจ โดยไม่มองฟางเหยียน และเดินตรงเข้าไปข้างในห้องนอน
ฟางเหยียนนั่งอยู่บนโซฟาครู่หนึ่ง ถึงค่อยลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้อง
พอมาถึงที่ห้อง เขาก็พบว่าที่นอนที่ปู่กับพื้นของตัวเองหายไปแล้ว นี่หมายความว่าอะไร? เย่ชิงหยู่บอกใบ้ให้ฟางเหยียนไปนอนบนเตียงเหรอ? ฟางเหยียนกลืนน้ำลายลงไปเบาๆ ในใจก็เต้นตุ้มๆต่อมๆ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาก็เป็นผู้ชายที่จิตใจกำลังฮึกเหิม อยู่ในสนามรบมาเป็นเวลาหลายปี นอกจากการเข่นฆ่าอย่างเลือดเย็นในสนาม ความจริงเขาก็เคยมีความคิดแบบผู้ชายธรรมดา สำหรับผู้หญิงคนอื่นเขาอาจจะไม่มีความสนใจ แต่ว่าตอนที่อยู่ตรงหน้าเย่ชิงหยู่ เขาก็ลังเล
ตอนนี้ เย่ชิงหยู่ก็นอนอยู่ตรงหน้าเขา โดยที่ไม่ห่มผ้าห่ม ก็นอนลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มองดูร่างที่แทบจะสมบูรณ์แบบ ฟางเหยียนก็ใจเต้นจริงๆ
เย่ชิงหยู่นอนอยู่บนเตียง ในใจก็เต้นตุ้มๆต่อมๆ ความจริงเธอไม่ได้ผล็อยหลับไป วันนี้สวมใส่แบบนี้ก็มีการเตรียมการไว้ แม้ว่าฟางเหยียนจะไม่ได้ตอบคำถามของตัวเอง แต่ว่าจากการกระทำของฟางเหยียนสามารถมองเห็น ความคิดภายในจิตใจของเขาได้
เหมือนอย่างที่จางเจียวเจียวกล่าวไว้ พวกเขาไม่ควรนอนแยกเตียงกันไปตลอด พวกเราเป็นสามีภรรยากัน! นอนแยกเตียงกันไปตลอดแบบนี้ ไม่ให้เกียรติกับฟางเหยียด ในเมื่อฟางเหยียนไม่ได้เป็นริเริ่มก่อน ถ้าอย่างนั้นตัวเองก็จะเป็นคนริเริ่มก่อน
แต่ว่าตัวเองริเริ่มแล้ว ฟางเหยียดกลับยืนเหม่อลอยอยู่ที่หน้าประตู
นี่เป็นเพราะอะไร? หรือว่าตัวเองสวมใส่แบบนี้แล้วก็ยังไม่สามารถดึงดูดความสนใจของฟางเหยียนได้เหรอ?
สิ่งที่เธอทำก็ชัดเจนเพียงพอแล้ว ฟางเหยียนคนนี้เป็นคนโง่เหรอ?
ไม่สนใจแล้ว คนโง่ ถึงเวลาที่ตัวเองควรพูดแล้ว ดังนั้นเธอจึงพลิกตัวอย่างเบาๆ ยกต้นขาออกมาข้างหนึ่ง ถามว่า : “นายกำลังทำอะไรอยู่? ทำไมยังไม่นอน”
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ชิงหยู่ ฟางเหยียนนิ่งอึ้งไป เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า: “เอ่อ ที่นอนของฉันล่ะ?”
เย่ชิงหยู่พูดไม่ออกเล็กน้อย ฟางเหยียนคนนี้เมื่อเวลาทำเรื่องอื่นมีความหนักแน่นมั่นคงเป็นอย่างมาก แต่ว่าพอถึงเวลาแบบนี้กลับเอียงอายเหมือนกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอตบที่ข้างๆของตัวเองอย่างช่วยไม่ได้: “นอนที่นี่!”
“พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ควรที่จะนอนเตียงเดียวกันเหรอ?”
หลังจากที่พูดจบ ใบหน้าของเย่ชิงหยู่ก็แดงเหมือนแอปเปิล เธอทิ้งศักดิ์ศรีของผู้หญิงจริงๆ ถึงได้พูดแบบนี้ออกมา
ฟางเหยียนพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ลังเลอีกต่อไป ก้าวเดินเข้าไปถึงที่ข้างๆของเย่ชิงหยู่แล้วนอนลงไป
ทันทีที่นอนลงไป เย่ชิงหยู่ก็จิตใจกระสับกระส่ายขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอนอนบนเตียงเดียวกันกับผู้ชายคนหนึ่ง พวกเขาเข้าใกล้กันมากขนาดนี้ เธอสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่มาจากร่างกายของฟางเหยียน
แม้ว่าเธอจะไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้ แต่ก็ได้เคยทำความเข้าใจมาบ้าง เมื่อสถานการณ์ที่ชายหญิงอยู่ในห้องเดียวกันตามลำพัง ยังนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ระหว่างพวกเขาต้องมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะผู้ชายจะเป็นแบบนั้นมากกว่ากัน
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ตัวของเย่ชิงหยู่เองก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย
แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล เกิดอะไรขึ้นกับฟางเหยียน? ทำไมหลังจากที่นอนลงไปก็นิ่งไม่ขยับ? หรือว่านอนหลับไปแล้วเหรอ?
แต่ว่าตัวเองเป็นผู้หญิงนะ แล้วจะเอ่ยปากพูดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร
เย่ชิงหยู่นะเย่ชิงหยู่ เธอริเริ่มมาถึงขนาดนี้แล้ว คงจะไม่ใช่ว่ายังต้องไปริเริ่มทำเรื่องอื่นด้วยนะ?
โธ่เอ๊ย ถ้าหากเป็นแบบนี้จริงๆ ตัวเองก็เป็นผู้หญิงที่ล้มเหลวมากเกินไปแล้ว นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน กลับไม่สามารถดึงดูดความสนใจของฟางเหยียนได้ ยังต้องเริ่มทำอะไรให้เขาก่อน ถ้าอย่างนั้นตัวเองก็น่าละอายเกินไปแล้ว!
ไม่! เย่ชิงหยู่ไม่มีทางไปทำอะไรอีก เธอไม่มีทางก้าวข้ามเรื่องที่ผู้หญิงคนหนึ่งควรทำอีก
ตอนที่จิตใจของเธอเต็มไปด้วยความสับสน จู่ๆร่างกายของฟางเหยียนก็ขยับเล็กน้อย เธอก็เริ่มระมัดระวังขึ้นมาทันที หรือว่าฟางเหยียนกำลังจะกระทำแล้วเหรอ?
ผู้ชายอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีทางที่จะควบคุมตัวเองไว้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเองก็บอกใบ้ได้ชัดเจนมากขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้ เขากำลังจะเริ่มทำเรื่องอะไรบางอย่างที่ผู้ชายทำกันอย่างแน่นอน
เย่ชิงหยู่แทบจะกลั้นหายใจ เธอมีความคาดหวังเล็กน้อย แต่ก็หวาดกลัว
ผ่านไปอีกประมาณหนึ่งนาที เสียงพลิกตัวของฟางเหยียนก็หายไปอย่างกะทันหัน ก็เหมือนกับจบลงอย่างกะทันหัน
เย่ชิงหยู่ก็มึนงงเล็กน้อย เธอหันหน้ามองไปแวบหนึ่ง ฟางเหยียนแทบจะขดตัวอยู่บนเตียง โดยหันหลังให้กับเธอ นี่กำลังทำอะไร? มีความจำเป็นต้องทำเช่นนี้มั้ย? หรือว่าตัวเองก็ไม่มีเสน่ห์มากขนาดนั้นเลยเหรอ?
เย่ชิงหยู่ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ และคนทั้งคนก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ไม่อยู่
ในที่สุด เธอก็ไอเบาๆ และเรียกว่า: “เฮ้ ฟางเหยียน! นายนอนหลับไปแล้วหรือยัง?”
สุดท้ายก็เป็นตัวเองที่อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูด แต่เพียงแค่ถามว่าเขานอนแล้วหรือยัง สิ่งนี้ก็ไม่น่าจะถือว่าเป็นเรื่องน่าอายมากเกินไป ทั้งสองคนนอนอยู่ด้วยกัน พูดคุยกันน่าจะเป็นเรื่องปกติ
“ยังไม่นอน!” เสียงของฟางเหยียนดังมาจากความมืดมิด กำลังแข็งแกร่งและกระปรี้กระเปร่า
หัวใจของเย่ชิงหยู่เต้นตุ้มๆไม่หยุด เธอตอบอืมแล้วก็ไม่ได้พูดอีก ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
กระอักกระอ่วนมาก ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน กลับไม่ได้ทำอะไร แม้แต่ร่างของเย่ชิงหยู่ฟางเหยียนก็ไม่ได้แตะต้องด้วยซ้ำ เย่ชิงหยู่สงสัยเสน่ห์ของตัวเองมาก หรือว่าเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่สามารถดึงดูดผู้ชายมากเหรอ?
เธอคิดว่ารูปร่างของตัวเองดีมาก วันนี้ก็ทำการบ้านมาหมดแล้ว แต่ทำไมฟางเหยียนถึงได้ไม่เคลื่อนไหว?
“ฟางเหยียน หรือว่า หรือว่านายก็ไม่ชอบฉันเลยเหรอ?” เย่ชิงหยู่รวบรวมพลังถึงได้พูดคำนี้ออกมา นี่เป็นการบอกใบ้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ถ้าฟางเหยียนไม่เข้าใจอีก ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นผู้ชายจริงๆ
ทันใดนั้น ฟางเหยียนได้กระทำอย่างหนึ่ง เขาพลิกตัวตรงขึ้นมาบนร่างกายของเย่ชิงหยู่อย่างกะทันหัน