เวินหลานไม่มีกะจิตกะใจฟังเขาพูดไร้สาระ ดังนั้นจึงพูดด้วยความหงุดหงิดออกมาว่า “เข้าเรื่องเลยได้ไหม!”
เวินกวางยิ้มแล้วพูดว่า “ได้ๆ ไม่มีใครเข้าใจผมเท่าพี่แล้ว เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ ผมบอกกับเฮียเตาว่าพี่เป็นพี่สาวของผม แต่เขาไม่เชื่อ พวกเขาบอกว่าให้ผมพาพี่ไปร้องเพลงกับพวกเขาถึงจะยอมเชื่อ แถมยังแบ่งถนนในเขตเหนือให้ผมดูแลอีกบางส่วนด้วย พี่รู้ใช่ไหมว่าเฮียเตาคือใคร เขาเป็นเจ้าพ่อในเขตเหนือ เขามีฉายาว่าดาบเดียว ตอนนั้นเขาใช้ดาบเดียวฆ่าเจ้าพ่อสามคนในเขตเหนือ และสามารถเอาเขตเหนือมาอยู่ในมือของเขาได้ เรื่องราวของเขายังคงเป็นที่พูดถึงอยู่ในตอนนี้ พี่รู้ไหมว่ารอยสักบนแขนของเขามาจากไหน มีปรมาจารย์คนหนึ่งให้เขาสัก แค่เขาสักรอยสักนี้ก็จะสามารถปั่นป่วนเมืองจินโจวได้ ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนั้นมีเรื่องความรักมาทำให้เขาสับสน ไม่แน่ตอนนี้เขาอาจจะเป็นราชาใต้ดินของเมืองจินโจวก็เป็นได้”
ขณะที่เวินกวางกำลังบรรยายไอดอลในดวงใจของเขาที่ชื่อเฮียเตาบุคคลในตำนานของเขตเหนืออยู่นั้น
“เวินกวาง!” เวินหลานฟังจนหงุดหงิด เธอตวาดออกมาว่า “แกเห็นฉันเป็นอะไร แกเห็นฉันเป็นสินค้าที่ใช้ซื้อไอ้เจ้าพ่อนั่นเหรอ”
เวินหลานส่งเสียงหึออกมาอย่างไม่พอใจ เธอเท้าเอวพูดว่า “แกนี่สุดยอดจริงๆ เมื่อก่อนมาขอเงินฉันก็ไม่เท่าไร ตอนนี้มาให้ฉันไปหาเจ้าพ่ออะไรนั่นของแกอีก แกช่วยมีความละอายใจหน่อยได้ไหม” เวินกวางฟังจนงงไปหมด เขาพูดออกมาอย่างลำบากใจว่า “ผมว่าพี่เข้าใจผิดแล้ว ผมให้พี่ไปหาลูกพี่ของผมที่ไหนกันล่ะ ก็แค่ร้องเพลงเอง ผมว่าพี่ควรจะช่วยผม หลังจากนี้ชีวิตของผมจะได้มั่นคง คนที่เป็นพี่สาวคงไม่อยากเห็นผมเป็นไอ้กระจอกในสายตาคนอื่นตลอดไปหรอกใช่ไหม ถ้าเรื่องนี้แดงออกไป พี่ต้องอับอายแน่ๆ”
“ไสหัวไป!” เวินหลานสบถออกมาอย่างโมโห เธอไม่รู้ว่าเฮียเตาอะไรนั่นจะทำอะไร พูดว่าจะชวนไปร้องเพลง ใครไม่รู้บ้างว่าที่นี่เป็นยังไง หลังจากดื่มกินจนเมา ก็เพื่อต้องทำเพื่อสิ่งนั้นไม่ใช่หรือไง
เวินกวางกะจะพูดอะไรออกมา แต่จู่ๆ ก็มีรถยนต์มาจอดข้างเขา
เสียงเมามายของชายคนหนึ่งดังขึ้น “นายเองเหรอเสี่ยวกวาง”
เขาตะโกนออกมา ชายร่างกายกำยำเดินลงมาจากรถห้าคน บนแขนของชายร่างกายกำยำมีรอยสักอยู่ แถมยังมีกลิ่นเหล้าโชยออกมาจากตัวอีกด้วย สีหน้าของพวกเขาแดงก่ำ ดูก็รู้ว่าดื่มมาไม่น้อย คนที่เป็นหัวหน้าดูมีอำนาจไม่เหมือนคนอื่น เขาหัวล้านและร่างกายใหญ่โตบึกบึน ดูก็รู้ว่าเขาเป็นลูกพี่ของคนพวกนี้
เมื่อเห็นชายพวกนี้ เวินกวางตาเป็นประกาย เขาตะโกนเรียกออกมาว่า “เฮียเตา!”
พูดจบเขาก็รีบโค้งตัวลงจนแทบจะหมอบลงบนพื้น
เฮียเตาไม่แม้แต่จะมองเวินกวาง สายตาของเขามองไปที่เวินหลาน เขาจิ๊ปากแล้วพูดว่า “นี่คือนางแบบที่อยู่ในทีวีใช่ไหม เวินหลาน นางแบบเครื่องแต่งกายที่กำลังดังในตอนนี้ใช่ไหม”
ลูกน้องคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้นมาว่า “ใช่แล้วเฮียเตา เธอคือเวินหลาน โอ้โห สวยเซ็กซี่กว่าในทีวีอีก ทั้งหุ่นทั้งหน้าตาช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ”
“ไสหัวไป!” เฮียเตาใช้มือผลักลูกน้องไป
จากนั้นจึงถามขึ้นว่า “เสี่ยวกวางนายรู้จักกันเหรอ”
เวินกวางพยักหน้าหงึกหงัก “ใช่ครับเฮียเตา นี่พี่สาวผมเอง!”
เฮียเตายกนิ้วโป้งขึ้นมาแล้วพูดชมว่า “นายมีพี่สาวสุดสวยจริงๆ นี่ สุดยอดไปเลย”
เวินกวางตาเป็นประกายแล้วพูดว่า “จริงเหรอครับเฮียเตา งั้นที่พี่รับปากผมว่าจะให้ผมดูถนนใจกลางเมืองเป็นเรื่องจริงใช่ไหมครับ”
เฮียเตาพูดอย่างอกผายไหล่ผึ่งว่า “ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ จริงๆ ฉันถูกใจนายมานานแล้ว ฉันรู้ว่านายเป็นคนที่สามารถปั้นได้ อย่าว่าแต่ถนนพวกนั้นเลย ต่อไปถ้าเมืองจินโจวตกอยู่ในมือฉัน เขตเหนือก็จะเป็นของนาย”
เมื่อเวินกวางได้ยินก็รู้สึกเหมือนถูกหวย เขาพูดอย่างตื้นตันว่า “จริงเหรอครับเฮียเตา!”
“จริงสิ ยังไม่รีบแนะนำพี่สาวของนายให้ฉันรู้จักอีก” เฮียเตาเลียปากเหมือนพวกหื่นกาม
เวินกวางรีบพูดขึ้นมาว่า “พี่ นี่คือเฮียเตาที่ผมพูดถึง เป็นเจ้าพ่อในเขตเหนือ”
“โอ้ๆๆ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เฮียเตายกมือขึ้นมาหวังจะจับมือเวินหลาน
แต่เวินหลานกลับกลอกตาใส่เขาและเดินออกไปอย่างเมินเฉย แต่ทว่าตอนที่เธอกำลังจะเดินออกไปกลับโดนลูกน้องของเฮียเตามายืนขวางอยู่ข้างหลังสองคน
มือของเฮียเตายังชะงักอยู่กลางอากาศ เขาชักมือกลับมาอย่างกระอักกระอ่วน “โอ้โห ไม่ให้เกียรติผมขนาดนี้เลยเหรอ”
เวินหลานไม่แม้แต่จะมองเขา เธอพูดกับลูกน้องคนนั้นด้วยหน้านิ่ง “ขอโทษนะ ช่วยหลีกทางให้ฉันด้วย ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาก่อกวน”
เฮียเตาได้ยินก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งของเขาดูจองหองเป็นอย่างมาก
เขาอ้าแขนออกแล้วพูดว่า “เธอกำลังขู่ใครเหรอ แจ้งตำรวจงั้นเหรอ ดึกขนาดนี้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ไหนจะมาสนใจ ผมจะบอกให้นะ ยามราตรีในเมืองจินโจวทุกคนจะต้องทำตามที่ผมพูด”
การที่เขากล้าพูดแบบนี้เพราะสามคุณชายแห่งจินโจวไม่อยู่ ตอนนี้ข่าวที่สามคุณชายแห่งจินโจวหายไปกำลังเป็นที่พูดถึงในสังคมใต้ดิน ทุกคนกำลังรอคอยโอกาสที่จะลงมือ ถ้าสามคุณชายแห่งจินโจวยังไม่กลับมาในสามถึงห้าวันนี้ สังคมใต้ดินอาจจะต้องระส่ำระสายเป็นแน่ แน่นอนว่าคนพวกนี้ไม่กลัวความวุ่นวาย ยิ่งวุ่นวายเท่าไรก็ยิ่งทำให้พวกเขาตั้งตัวได้ดีมากขึ้นเท่านั้น
เฮียเตาเป็นเจ้าพ่อในเขตเหนือ นอกจากสามคุณชายแห่งจินโจว ก็มีเขานี่แหละที่มีลูกน้องเยอะที่สุด
เมื่อได้ยินที่เฮียเตาพูด เวินหลานส่งเสียงหึออกมา “นายคิดว่าฉันจะไม่กล้าแจ้งตำรวจเหรอ”
เฮียเตาหัวเราะคิกคัก “นี่คุณเวินหลาน อย่ามาพูดล้อเล่น เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมมีปัญหาอยากถกเถียงกับคุณสักหน่อย เชิญคุณเข้าไปนั่งในรถผมสักครู่ ไม่รู้คุณเวินหลานจะให้เกียรติผมได้ไหม”
ขณะที่พูด มือของเฮียเตาก็จับแขนของเวินหลานแน่น ส่วนอีกมือหนึ่งชี้ไปที่รถ และทำท่าเหมือนเชื้อเชิญ
“นายจะทำอะไร” เวินหลานสะบัดแขนออก จากนั้นจึงพูดว่า “ฉันจะแจ้งตำรวจ อย่ามาแตะต้องฉัน”
เฮียเตาหัวเราะออกมา จากนั้นเขาก็จับแขนของเธออีก “ผมแตะต้องตัวคุณที่ไหนกันล่ะ นี่ผมกำลังเชิญคุณดีๆ นะ พวกแก คุณเวินหลานตกลงแล้ว พาคุณเวินหลานเข้าไปในรถ”
เมื่อเหล่าลูกน้องได้รับคำสั่งต่างก็เข้ามาจับแขนของเวินหลานและกระชากตัวเธอเข้าไปในรถ
แต่เวินหลานจับประตูรถเอาไว้แน่น “ไม่ พวกนายจะทำอะไร จะจี้คนในที่สาธารณะเหรอ”
พูดได้เพียงแค่นี้ ปากของเธอก็โดนปิดเอาไว้ เวินหลานเป็นแค่ผู้หญิงจะเอาแรงที่ไหนไปสู้กับผู้ชายพวกนั้น ไม่นานเธอจึงโดนลากเข้าไปในรถ