บทที่ 19 รองผู้นำตะวันตกเฉียงเหนือ เทียนหลัง
ที่แท้ก็มาเพราะฟางเหยียน จางฉี่เหาคลายความกังวลที่อยู่ในใจอย่างไม่รู้ตัว
สำหรับฟางเหยียน เขาไม่มีความรู้สึกใดๆ จะมี หรือไม่มีก็ไม่ต่างกัน ทางที่ดีไม่มีจะเป็นอันดีที่สุด “ใช่ ตระกูลเรามีคนชื่อฟางเหยียนอยู่จริงๆ เป็นหลานเขยของผมเอง ท่านเซียว เขาก่อเรื่องอะไรเอาไว้ใช่ไหม?”
เซียวเจิ้นเที่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ที่หามาได้ ก่อนลากเก้าอี้อีกใบ ให้กับคนที่มากับเขาด้วยได้นั่งลง
ทุกคนถึงได้เพ่งสายตาไปที่ขายวัยกลางคนผู้นั้น ชายผู้นั้นอยู่ในเครื่องแบบทหาร ดูไม่ธรรมดา แค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่าเขาเป็นผู้มีอิทธิพล
เซียวเจิ้นเที่ยนจี้ไปยังชายที่อยู่ข้างกาย เพื่อทำการแนะนำ “นี่เป็นน้องชายของฉัน รองผู้นำกองทหารสาขาภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ดาวสามดวง”
คำพูดเหล่านั้นดังกึกก้องในแก้วหูของทุกคน ดาวสามดวง รองผู้นำกองทหารสาขาภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นการมีอยู่ที่สุดยอดจริงๆ หลายคนต่างรู้ดีว่าที่ตระกูลเซียวสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคงในเมืองจินโจว เป็นเพราะมีเส้นสายที่ใหญ่โต แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีอำนาจมากถึงขนาดนี้ รองผู้นำกองทหารสามดาวแห่งประเทศหวางั้นเหรอ
โดยทั่วไปแล้วระดับสามดาว จะอยู่ในเมืองหลวง เมืองเล็กๆ อย่างจินโจวไม่มีทางมีอยู่แน่
เย่ชิงหยู่ที่อยู่อีกด้าน จับต้องชายคนนั้นด้วยความประหลาดใจ สลับกับเซียวเจิ้นเที่ยน
เธอไม่สามารถทนอยู่ได้พลันโทรหาฟางเหยียนอีกครั้ง แต่ปลายสายก็ยังคงปิดเครื่องอยู่อย่างนั้น
เขาทำอะไรกันแน่?
ทำไมถึงได้มีนายพลมาหาเขาถึงที่แบบนี้ได้?
คำถามผุดขึ้นมากมายในหัวของเย่ชิงหยู่!
เซียวเหวินห่าวกวาดสายตาไปโดยรอบด้วยความภาคภูมิ ก่อนที่จะเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งครัด “ฟางเหยียน เมื่อห้าปีก่อนเข้ารับใช้ชาติที่กองทหารภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เขาทำผิดกฎระเบียบของกองทัพ และได้หลบหนีไปในระหว่างถูกคุมขัง ตอนนี้ ผมเป็นตัวแทนจากกองทหารภาคตะวันตกเฉียงเหนือในการจับกุมเขากลับไปเพื่อลงโทษ”
“หากตระกูลจางตั้งใจปกปิด ผมจะลงโทษตามกฎหมาย!”
เมื่อได้ยินคำว่าลงโทษตามกฎหมาย จางฉี่เหาตกใจจนหน้าเสีย
นักโทษหลบหนี แถมยังเป็นนักโทษหลบหนีของกองทัพอีก การปกปิดเรื่องแบบนี้มีโทษถึงจำคุกเชียวนะ
จางฉี่เหาเป็นคนเข้าใจง่าย เขารู้ดีว่านั้นหมายความว่ายังไง
เมื่อเย่ชิงหยู่ได้ยินแบบนั้น เสมือนกับดาวระเบิดหลายลูก ที่ระเบิดอยู่ภายในหัวของเธอ
ฟางเหยียนผิดวินัยทหาร!
เขาจะผิดวินัยทหารได้อย่างไร?
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ชิงหยู่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” จางเจียวเจียวกล่าวถามด้วยความวิตกอยู่ที่ข้างหูของเย่ชิงหยู่
เย่ชิงหยู่ดึงสติกลับคืนมาด้วยความอื้ออึง พร้อมส่ายหน้า “ไม่ ไม่รู้ หนูไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาผิดวินัยทหารอะไรนั่น!”
“แกดูสิ เขาบุกมาถึงที่ขนาดนี้แล้ว จะไม่จริงได้ยังไง?”
“ฟางเหยียนล่ะ? ติดต่อให้เขากลับมาเดี๋ยวนี้ มาพูดให้รู้เรื่อง”
เย่ชิงหยู่ส่ายหน้า “ปิดเครื่อง!”
ปิดเครื่อง ทักโทษหลบหนี!
แถมยังบุกมาถึงบ้านในเวลานี้อีก!
หรือว่าฟางเหยียนจะเป็นนักโทษหลบหนีจริงๆ
หากไม่ใช่อย่างนั้น วันที่สำคัญแบบนี้ ทำไมเขาถึงไม่ปรากฏตัวเสียล่ะ?
จางไห่เฟิงดีอกดีใจ เมื่อนึกถึงทีท่าโอหังของจางไห่เฟิงเมื่อหลายวันก่อน เมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้มันก็จะถูกจับกุมแล้ว บางอาจจะถูกยิงตาย หรืออาจจะต้องอยู่ในตารางไปตลอดชีวิตออกมาไม่ได้ เขาก็ยิ่งดีใจมากขึ้นกว่าเก่า
หากไม่มีฟางเหยียน คอยดูว่าเย่ชิงหยู่จะต่อกรยังไงคนเดียวไหว?
“จางฉี่เหา ผมถามคุณ?” เซียวเหวินห่าวคำรามอย่างไร้ความอดทน
จางฉี่เหาตัวแข็งทื่อ พลันเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา “ท่านเซียว เรื่องที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผมเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะเป็นหลานเขยของผม แต่ตระกูลจางของเราไม่มีส่วนรู้เห็นเลยแม้แต่น้อย”
ในเวลานี้ การตัดความสัมพันธ์ให้ชัดเจนสำคัญที่สุด
“ชิงหยู่ ฟางเหยียนล่ะ? ฟางเหยียนอยู่ไหน?” เขาเอ่ยถามพลางจับจ้องไปทางเย่ชิงหยู่
เซียวเหวินห่าว และเซียวเจิ้นเที่ยนหันไปทางเย่ชิงหยู่พร้อมเพรียงกัน เย่ชิงหยู่ลนลาน พูดอะไรไม่ออก
แต่ เธอไม่อยากจะเชื่อว่าฟางเหยียนเป็นนักโทษหลบหนี
จางไห่เฟิงตะโกนขึ้นเสียงดัง “เย่ชิงหยู่ ท่านนายพลเซียวถามคำถามเธอ เธอหูหนวกหรือยังไง? เธอจะทำให้เราซวยไปด้วยหรือยังไง?”
“ฉันรู้สึกว่านายฟางเหยียนนี่ผิดปกติมาตั้งนานแล้ว แต่เธอจะอยู่กับมันให้ได้ แถมยังบอกว่าเขาเป็นสามีเธออีก เธอขาดเขาไม่ได้ เป็นยังไงล่ะ เขาเป็นนักโทษหลบหนี ฉันว่ามันตั้งใจจะทำร้ายเราเห็นๆ”
“นั่นสิ นั้นสิ นายฟางเหยียนจะมากเกินไปแล้ว ทำเรื่องแบบนั้นเอาไว้ยังจะกล้ากลับมาอีก”
เย่ชิงหยู่เผชิญหน้ากับคำถามมากมาย เธอไม่สามารถทนอยู่ได้ หญิงสาวส่ายหน้า “ไม่ ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อว่าฟางเหยียนจะเป็นนักโทษหลบหนี คุณมีหลักฐานอะไร?”
ฟางเหยียนนำพาปาฏิหาริย์มากมายมาให้กับเธอ เขาจะเป็นนักโทษหลบหนีไปได้ยังไงกัน?
ไม่ เย่ชิงหยู่รับไม่ได้!
เมื่อจางไห่เฟิงได้ยินอย่างนั้น เขาโมโหขึ้นมา พลันราดน้ำมันเข้ากองไฟ “หลักฐานงั้นเหรอ ยังต้องมีหลักฐานอะไรอีก? ท่านนายพลมาเยือนด้วยตัวเอง ยังจะปลอมได้ยังไง?”
จางฉี่เหาเองก็กล่าวสมทบ “เย่ชิงหยู่ มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะช่วยนักโทษคนนั้นปิดบังอยู่อีกหรือ? แกอยากจะให้เราซวยไปด้วยทั้งหมดนี่ใช่ไหม แกถึงจะพอใจ?”
“ชิงหยู่ แกพูดออกไปเร็วเข้า!” จางเจียวเจียวที่อยู่อีกด้านเหงื่อแตกพรากแทนเย่ชิงหยู่
เซียวเหวินห่าวผุดลุกขึ้น ส่งเสียงคำรามใส่เย่ชิงหยู่ “เธอคิดจะฝ่าฝืนกฎหมายใช่ไหม?”
เขาหันไปตะโกนใส่ข้างนอก “เข้ามา!”
เมื่อเสียงออกคำสั่งดังขึ้น ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างนิ่งเงียบ
หากแต่ ผ่านไปหลายสิบวินาที ไร้เสียงการตอบรับจากข้างนอกแม้แต่น้อย แต่กลับมีเสียงคำรามแปลกๆ เสมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างอยู่บนหลังคาบ้านของตระกูลจาง
ในเวลานี้เอง ชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามาข้างใน
ตะโกนเสียงดังลั่น “นายท่าน มีเฮลิคอปเตอร์ทหารห้าลำบนอากาศ และรถถังมากกว่าร้อยคันจอดอยู่ที่หน้าประตู”
ประโยคนี้เสมือนกับระเบิด ทุกคนในเหตุการณ์เงียบกริบ!
หลายคนที่อยากรู้อยากเห็น ต่างมุ่งไปที่หน้าประตู พริบตา ก็อึ้งไปกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
ผู้ที่ลงมาจากรถถังมากกว่าหนึ่งร้อยคันนั้นเต็มไปด้วยกายกำยำพลังเหลือล้น ต่างก็เป็นทหารหนุ่มที่มีสีหน้าเคร่งขรึม แต่ละนายนั้นสวมด้วยเครื่องแบบที่น่าภาคภูมิ จำนวนคนราวๆ 5พันกว่านาย ยืนอยู่อย่างนั้น ราวกับกำแพงเหล็กที่ไม่สามารถทำลายได้!
เมื่ออยู่หน้ารถถัง พวกเขาไร้ปฏิกิริยาใดๆ เสมือนกับว่ารออะไรบางอย่าง
ในเวลานี้เองมีบางคนที่แหงนหน้ามองฟ้า เฮลิคอปเตอร์ทั้งห้าลำบนท้องฟ้าบินอยู่เหนือตระกูลจางในตำแหน่งห้าแฉก จู่ๆ ภายบนเฮลิคอปเตอร์ก็มีป้ายร่วงหล่นลงมา ภายในประดับไปด้วยอักษร :สำนักเจ็ดพิฆาตรวมตัวกันที่จินโจว! เพื่อร่วมอวยพรในวันเกิดของคุณนาย!
เซียวเจิ้นเที่ยนมองไปที่ฉากตรงหน้าอย่างตะลึง ก่อนที่จะเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจความหมาย “แกเป็นคนจัดเตรียมงั้นเหรอ?”
เซียวเหวินห่าวส่ายหน้ารัว “ไม่ใช่ ฉันยังไม่มีสิทธิ์ในการสั่งกองกำลังทหารในตะวันตกเฉียงเหนือ ที่มากไปกว่านั้น พวกนี้มาจากศึกสงคราม!”
“แล้วจะเป็นใครไปได้?” เซียวเจิ้นเที่ยนมีลางร้าย
เซียวเหวินห่าวส่ายหน้า เขาไม่กล้าพูด และไม่รู้จะพูดยังไงดี สำนักเจ็ดพิฆาต เป็นกองทัพที่ลึกลับของประเทศหวา ไม่ใช่คนระดับเขาที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยได้
อำนาจเช่นนี้ มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถทำได้ นั่นก็คือคนในตำนานของกองทัพ! ชายที่ถูกขานว่าเป็นเทพแห่งสงคราม!
ในเวลานี้เอง ชายร่างกำยำคนหนึ่งเดินไปหยุดอยู่ที่หน้ารถถัง ก่อนตะโกนเสียงดังลั่น “รองผู้นำเทียนหลังแห่งสำนักเจ็ดพิฆาตในกองทหารภาคตะวันตกเฉียงเหนือ รวบรวมกองกำลังเสร็จสิ้น รอท่านจอมพลโผ้จวินออกคำสั่ง!”
ในเวลาเดียวกัน ชายอีกหลายคนที่มีรูปร่างคล้ายกันนั้นก้าวออกมา ร่างท้วมกำยำแข็งแกร่ง
ต่างตะโกนขึ้นตามๆ กัน “พลโทแห่งสำนักเจ็ดพิฆาตในกองทหารภาคตะวันออกเฉียงใต้เทียนเต๋อ รวบรวมกองกำลังเสร็จสิ้น รอท่านจอมพลโผ้จวินออกคำสั่ง!”
“พลโทแห่งสำนักเจ็ดพิฆาตในกองทหารภาคเหนือเทียนกาง รวบรวมกองกำลังเสร็จสิ้น รอท่านจอมพลโผ้จวินออกคำสั่ง!”
“พลโทแห่งสำนักเจ็ดพิฆาตในกองทหารภาคตะวันออกเทียนฝู่ รวบรวมกองกำลังเสร็จสิ้น รอท่านจอมพลโผ้จวินออกคำสั่ง!”
“พลโทแห่งสำนักเจ็ดพิฆาตในกองทหารภาคตะวันตก เทียนซิง รวบรวมกองกำลังเสร็จสิ้น รอท่านจอมพลโผ้จวินออกคำสั่ง!”
สถานการณ์เงียบจนน่าหวาดหวั่น ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจ
คนที่อยู่ตรงหน้า ต่างก็เป็นการมีอยู่ที่สะเทือนฟ้าดิน แต่วันนี้ กลับรวมตัวกัน นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ หรือว่าจะพลิกเมืองจินโจวหรือยังไง?
จอมพลโผ้จวิน จอมพลโผ้จวินเป็นใครกันแน่?
เซียวเหวินห่าวเหงื่อแตกพราก ขนลุกซู่ไปทั้งตัว!
ธงอันเดิมถูกเก็บขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ พร้อมกับธงอันใหม่ที่ค่อยๆร่วงหล่นลง
ในเวลาเดียวกัน เหล่าทหารที่ถือปืนยืนอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ ตะโกนขึ้นพร้อมกัน “จอมพลโผ้จวิน! จอมพลโผ้จวิน! จอมพลโผ้จวิน!”
เสียงที่ก้องกังวลนั้น มีพลังอำนาจราวกับตะโกนสั่งสายน้ำและภูเขา! ในตอนนี้ เสียงก้องกังวลห้อมล้อมตระกูลจาง
ที่สุด เฮลิคอปเตอร์ลงสู่พื้นดิน ชายผู้หนึ่งที่ค่อนข้างผอม สีหน้าขาวซีดเดินลงมาจากเฮลิคอปเตอร์