บทที่ 2 นาย ไม่คู่ควรกับเย่ชิงหยู่
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นไม่กล้าเอ่ยปากใด ๆ ทั้งหมดล้วนตกใจจนหน้าซีด
สถานการณ์แบบนี้ เคยเห็นแค่ในทีวี มันน่ากลัวมาก
“ตุ๊บ!” ฟางเหยียนปล่อยมือ เซียวฮั่วหลุดจากมือของเขาตกลงไปกองอยู่กับพื้น แล้วไออย่างหนัก
“แกจำไว้ให้ดี ที่นี่คือบ้านตระกูลเย่ และจะเป็นแบบนั้นตลอดไป กลับไปบอกพ่อของแก ฉันกลับมาแล้ว” พอฟางเหยียนพูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินจากไป
หลังจากที่ฟางเหยียนค่อย ๆ เดินออกไปไกลจากบ้านใหญ่ตระกูลเย่แล้ว ก็มีเสียงร้องโวยวายอย่างเจ็บปวดดังออกมาจากบ้านใหญ่ตระกูลเย่
ขาทั้งสองข้างของเซียวฮั่วได้ถูกตัดไปแล้ว นี่เป็นของขวัญชิ้นใหญ่ชิ้นแรกที่ฟางเหยียนมอบให้กับตระกูลเซียว
“โผ้จวิน ตอนนี้จะไปไหนดีครับ?” บนมือของเทียนขุยยังมีรอยเลือดเปื้อนอยู่ นั่นเป็นเลือดที่กระเด็นออกมาจากขาทั้งสองข้างของเซียวฮั่วที่ถูกตัดไปเมื่อสักครู่
“ตระกูลจาง” ฟางเหยียนตอบอย่างเย็นชา
ไม่นานรถก็ขับมาถึงหน้าบ้านตระกูลจาง
เทียนขุยมองใบหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึกของฟางเหยียน ลังเลอยู่ครึ่งค่อนวัน ถึงได้กล่าวขึ้น: “โผ้จวิน หวงหยวนฉาวเศรษฐีอันดับหนึ่งของทางภาคตะวันออกเฉียงใต้มาจินโจวเพื่อหาบริษัทคู่ค้า ได้ยินว่าท่านมาที่นี่ อยากจะเชิญท่านทานอาหารร่วมกัน ท่าน…”
“ฉันไม่ว่าง!” ฟางเหยียนขัดจังหวะเทียนขุย
เทียนขุยเม้มริมฝีปาก ไม่พูดอะไรอีก
หลังจากที่ฟางเหยียนได้ลงรถไปแล้ว เทียนขุยก็ได้ขับรถจากไป
หลังจากที่ตระกูลเย่ตกต่ำลง ภรรยาและลูกสาวของเย่เทียนก็ได้กลับบ้านพ่อแม่ของจางเจียวเจียว
ที่เมืองจินโจวตระกูลจางก็พอจะนับได้ว่าเป็นตระกูลชั้นสอง แน่นอน ทุกอย่างล้วนเพราะการช่วยเหลือจากตระกูลเย่
เขาไม่รู้ว่าแม่ลูกคู่นี้ต้องเจอกับอะไรมาบ้าง ฐานะทางครอบครัวตกต่ำลง ร่วงจากสวรรค์ลงสู่เหวในชั่วพริบตา พวกเขาคงพบเจอกับความลำบากมาไม่น้อย วันนี้เขากลับมาแล้ว เขาจะไม่ให้ใครมาทำร้ายพวกเธอได้อีก
เย่ชิงหยู่ ภรรยาของเขา ภรรยาที่เติบโตมาด้วยกันในวัยเด็ก
ขณะที่เขากำลังจะเคาะประตูนั้น มีเสียงคนสนทนากันดังออกมาจากข้างใน
“ชิงหยู่ เรื่องในวันนี้ลุงใหญ่ตัดสินใจให้เธอเอง สามวันให้หลัง ไปที่โรงแรมนานาชาติเทียนเยว่แล้วหมั้นกับหย่องถิงซะ” เป็นจางซื่อตงลุงใหญ่ของเย่ชิงหยู่
“ใช่ ชิงหยู่ หย่องถิงไม่ดีตรงไหน ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย อายุยังไม่ถึงสามสิบก็มีบริษัทเป็นของตัวเองตั้งสามบริษัท สินทรัพย์หลักร้อยล้าน” คนที่พูดคือจางเจียวเจียวแม่ของเย่ชิงหยู่
“ชิงหยู่ พี่หย่องถิงเป็นเหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาวในใจของสาว ๆ เชียวนะ แต่งกับเขาเธอจะต้องมีความสุขมากแน่ ๆ ” เฉินหย่าเพื่อนสนิทของเย่ชิงหยู่คอยสนับสนุนอยู่ข้าง ๆ
“คุณตาคะ คุณแม่คะ หนูกับฟางเหยียนได้แต่งงานกันแล้ว ถ้าหากคุณพ่อที่อยู่ในยมโลกทราบเข้า ท่านคงไม่สนับสนุนให้หนูทำแบบนี้แน่” เย่ชิงหยู่พูดอย่างมีทิฐิ ตั้งแต่ตอนที่ฟางเหยียนยังไม่ได้เข้าร่วมกองทัพ เย่เทียนก็ได้จัดงานแต่ให้กับทั้งสองคนแล้ว
“เด็กคนนี้ ฟางเหยียนไปหลบอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้นขึ้นกับครอบครัวของเรา ถ้าเกิดเขารู้ เขาจะไม่กลับมาเหรอ? เมื่อกี้หย่องถิงก็ได้พูดแล้ว เป็นทหารก็เล่นโทรศัพท์ได้ ถ้าหากเขาเห็นว่าที่นี่เป็นบ้าน เขาจะไม่ถามไม่ใส่ใจได้ยังไง”
จางซื่อตงพูดเสริมอย่างมีเหตุมี: “แม่ของเธอพูดถูก ฟางเหยียนก็แค่คนไร้ความสามารถ ขี้ขลาดตาขาว เขาจะต้องรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลเย่ แล้วหนีไปไกล ๆ อย่างแน่นอน คนที่ไม่มีประโยชน์เลี้ยงเสียข้าวสุกแบบนี้ จะฝากความหวังอะไรกับมันได้?”
“ใช่ ชิงหยู่ตอบรับพี่หย่องถิงเถอะ ฟางเหยียนคิ้วโจรตาหนูแบบนั้น ดูแล้วก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร”
ฟางเหยียนกำหมัดแน่น หากเขาเป็นเพียงแค่ทหารธรรมดา เขาคงกลับมาตั้งนานแล้ว แต่ว่าตัวเขาอยู่ในสนามรบ เขาต้องเผชิญหน้ากับทหารต่างชาติที่น่าเกรงขามอยู่ตลอดเวลา เพราะเหตุนี้ถึงทำให้เขาได้รับรู้เมื่อเรื่องผ่านไปแล้วครึ่งปี
เขามาช้าไป ฟางเหยียนไม่โทษพวกเขาที่จะเข้าใจผิด
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาเคาะประตู หญิงวัยกลางคนสวมชุดกระโปรงผ้าโปร่งสีดำ บุคลิกของเธอมีแววของผู้ดีมีสกุลเดินมาเปิดประตู
เมื่อหญิงวัยกลางคนพบเห็นใบหน้านั้น เธอตะลึงอยู่ครึ่งค่อนวันถึงได้รู้สึกตัว
“นายคือฟางเหยียน?”
รอยยิ้มที่เห็นได้อยากปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฟางเหยียน เขากล่าว: “ผมเองครับ คุณน้าจาง”
“นาย… นายกลับมาตั้งแต่ตอนไหน?” ใบหน้าของจางเจียวเจียวมีแววดีใจและประหลาดใจปรากฏขึ้นมาเล็กน้อย
“พึ่งจะถึงครับ!”
“ฟางเหยียน…” ใบหนาของจางเจียวเจียวพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เขากังวลเรื่องเมื่อสักครู่นี้
“คุณน้าจางครับ ผมเข้าไปได้ไหมครับ?” ฟางเหยียนถามตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม
จางเจียวเจียวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทว่า ฟางเหยียนได้เข้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในบ้าน มีลุงใหญ่ของเย่ชิงหยู่ และยังมีชายแปลกหน้าอีกคน ข้าง ๆ ของเย่ชิงหยู่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ เป็นเฉินหย่าเพื่อนสนิทของเธอนั่นเอง
“ฟาง… ฟางเหยียน!” เย่ชิงหยู่จำฟางเหยียนได้ตั้งแต่แรกเห็น มันเป็นเหมือนกับความฝัน ทำให้เธอยังไม่ทันตั้งตัว
ฟางเหยียนจ้องมองเย่ชิงหยู่ เธอยังงดงามเหมือนเดิม ชุดกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำทำให้สัดส่วนที่สมบูรณ์แบบของเธอปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ถุงน่องสีดำคู่นั้นทำให้เธอดูเซ็กซี่เป็นพิเศษ เวลาหกปี ทำให้เธอเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม
“เธอ เธอสบายดีไหม?” ฟางเหยียนถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ร้อนไม่หนาว
เย่ชิงหยู่ถอนหายใจเบา ๆ กล่าว: “คุณกลับมาทำไม?”
ทันทีที่สิ้นเสียง เย่ชิงหยู่เริ่มน้ำตาคลอ มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ ในแต่ละวันนั้น เธอผ่านมาได้ยังไง เธอเคยจินตนาการอยู่บ่อยครั้ง ถ้าหากฟางเหยียนอยู่ข้างกายเธอ ก็คงจะดีมาก คุณพ่อตายไปแล้ว ฟางเหยียนเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของเธอ แต่ทว่าตั้งแต่จนจบก็ยังไม่มีร่องรอยของฟางเหยียนเลย
“ขอโทษ ผมกลับมาช้าไป ทำให้พวกคุณต้องได้รับความไม่เป็นธรรม” ฟางเหยียนกล่าวพร้อมสะอื้นเล็กน้อย ในห้าปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดกับคนอื่นด้วยน้ำเสียงแบบนี้
ห้าปีที่รับราชการทหาร สู้รบไม่หยุด เขาได้กลายเป็นคนที่ไม่ยิ้มแย้ม ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกไปแล้ว
“ขอโทษ ฉัน อยากเข้าห้องน้ำหน่อย”
เย่ชิงหยู่มือปิดไปหน้า ลุกขึ้นและเดินออกไป เธอไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับฟางเหยียนด้วยอารมณ์แบบไหน
จางเจียวเจียวให้ฟางเหยียนนั่งลง!
ทันทีที่เขานั่งลง ลู่หย่องถิงหัวเราะเยาะกล่าว: “ที่แท้ก็คือฟางเหยียนที่อยู่ฟรีกินฟรีในบ้านตระกูลเย่คนนั้นนี่เอง”
“ใช่ค่ะ พี่หย่องถิง เขาก็คือฟางเหยียนที่ไม่มีประโยชน์คนนั้น” เฉินหย่ากล่าวสนับสนุน ในความทรงจำของเฉินหย่า ฟางเหยียนก็คือคนไร้ประโยชน์ที่ทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ
เพื่อให้ได้เย่ชิงหยู่มาครอง ลู่หย่องถิงเสียกำลังและเวลาไปมากมาย อีกนิดเดียวก็จะสำเร็จอยู่แล้ว กลับมีฟางเหยียนเข้ามาแทรกแซง
“อ้อใช่แล้ว มีคำพูดบางอย่าง ที่ฉันจะต้องบอกกับนายให้ชัดเจน สามวันให้หลัง ฉันจะหมั้นกับชิงหยู่ที่โรงแรมนานาชาติเทียนเยว่ ที่นายกลับมาเอาตอนนี้ ฉันรู้แล้วว่าเพราะอะไร”
พูดจบ ลู่หย่องถิงก็หยิบเช็คเงินสดจำนวนหนึ่งล้านขึ้นมาและกล่าวว่า: “นี่เป็นเช็คจำนวนหนึ่งล้าน เพียงพอให้นายใช้เป็นเวลานาน ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอยู่ที่เมืองจินโจว นายคงรู้นะว่าต้องทำยังไง”
ลุงใหญ่จางซื่อตงตะลึง กล่าว: “ฟางเหยียน ที่แท้แกรีบมาเพื่อสิ่งนี้เองเหรอ? แก แกนี่มันหน้าด้านไร้ยางอายจริงๆ”
ในสายตาของพวกเขา ฟางเหยียนกลับมาในเวลานี้ ก็เพื่อเงินแค่นั้นเอง
“แต่ก็ดีเหมือนกัน ได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของแก ทำให้ชิงหยู่ตายใจ”
ฟางเหยียนหายเข้าใจลึก ๆ ครั้งหนึ่ง กวาดสายมองคนในห้องนี้รอบหนึ่ง ส่ายหัวอย่างละอายใจ เขาหยิบเช็คใบนั้นขึ้นมาจากโต๊ะ
ทันทีที่เห็นฟางเหยียนหยิบเช็คขึ้นมา บนใบหน้าของลู่หย่องถิงปรากฏแววได้ใจขึ้นมามากกว่าเดิม คิดจะแข่งกับเขา ฟางเหยียนยังอ่อนหัดเกินไป
ฉากนี้โดนเย่ชิงหยู่ที่อยู่ข้างๆ เห็นเข้าพอดี ในใจของเธอเย็นเฉียบขึ้นมาทันที ในขณะที่เธอโดนผู้คนมากมายหัวเราะเยาะ เธอวังว่าฟางเหยียนจะเป็นเช่นดั่งวีรบุรุษปรากฏตัวออกมาปกป้องเธอ แต่ตอนนี้ ในใจของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวัง
ฟางเหยียน มาเพื่อเงินจริง ๆ เหรอ?
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง เธอก็ควรที่จะตายใจได้แล้ว บางทีนี่อาจเป็นตัวตนที่แท้จริงของฟางเหยียน
แต่ในนั้นเอง ฟางเหยียนนำเช็คในมือฉีกเป็นสองท่อน ท่าทางของเขาทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมึนงง
ฟางเหยียนยิ้มที่มุมปาก พูดทีละคำอย่างช้า ๆ : “นาย ไม่คู่ควรกับเย่ชิงหยู่”