เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น สะเทือนฟ้าดิน ดึงดูดผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด
ตามสายตาของเซียวเจิ้นเที่ยน มีคนกลุ่มหนึ่งมองมาทางนี้ เห็นเพียงวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งกับสาวสวยนั่งตรงข้ามกัน ผู้ชายดูธรรมดาใบหน้าไม่มีเลือดฝาด ท่าทางขี้โรค
ผู้หญิงคนนั้น ดูสุขภาพดี สวยมาก เพียงแต่ถูกเซียวเจิ้นเที่ยนทำให้ตกใจ หน้าจึงซีดไป และมีความหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่ไม่ได้กระทบความสวยของหญิงสาวแต่อย่างใด
ฟางเหยียน คือผู้ชายคนนั้นเหรอ? ได้ยินเสียงของผู้นำตระกูลของตระกูลเซียว ราวกับมีกลิ่นอายของพลังที่จะกลืนกินชายคนนี้ไปเลย หรือชายผู้นี้ไปทำอะไรให้ผู้นำตระกูลของตระกูลเซียวแล้วนั้นเหรอ? เขากล้าดียังไง ถึงได้ไปหาเรื่องผู้นำตระกูลของตระกูลเซียว
เมื่อนึกถึงที่เขาหาเรื่องเซียวเจิ้นเทียนคนแบบนี้จนออกโรงเอง แสดงว่าฝีมือของเขาก็ไม่ใช่เล่นๆ คนที่มีปัญญา จะชอบชายคนนี้ เพราะมีสาวสวยแบบนั้นข้างกาย ถ้าไม่มีความสามารถ ก็คงไม่กล้าหาเรื่องตระกูลเซียว ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีทางมีแฟนสวยแบบนั้นแน่นอน คนพวกนั้นที่ดูเหตุการณ์ไปเรื่อย ต่างรู้สึกว่าชายคนนี้ต้องแย่แล้วแน่ๆ
ช่วงนี้ตระกูลเซียวพบเจอกับเรื่องที่ไม่ราบรื่นมามากมาย จะต้องเอาความโกรธแค้นทั้งหมดมาลงที่ชายคนนี้แน่นอน จบเห่แล้ว ไม่มีใครตายไม่จบแน่ เมื่อนึกถึงจุดนี้ คนที่ทานข้าวอยู่ต่างเดือดเนื้อร้อนใจ กลัวว่าตัวเองจะติดร่างแหไปด้วย
“ท่านเซียว มาเสียที” ฟางเหยียนตอบกลับไปอย่างนิ่งๆ น้ำเสียงสงบ ไม่มีความเคารพแต่อย่างใด และไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย การตอบของคนนี้ ได้เปลี่ยนความคิดของคนรอบข้างใหม่ เหมือนเขาจะรู้ว่าเซียวเจิ้นเที่ยนต้องมา
ไม่เพียงแค่นี้ เขายังคีบอาหารอย่างเฉยเมยอีกด้วย ตอนตอบก็ไม่แม้แต่จะมองเซียวเจิ้นเที่ยน
ความโกรธแค้นของเซียวเจิ้นเที่ยนมากขึ้นไปอีก เขาจับไม้เท้าในมือแน่นขึ้น แล้วส่งเสียงอย่างเกรี้ยวกราดออกมา “อวดดี!”
เจ้าของร้านเห็นท่าทีทำลายล้างของเซียวเจิ้นเที่ยน ก็ตกใจจนฉี่ราดกางเกง กล่าวอย่างลังเล “ท่านเซียว ร้านอาหารของเราเป็นเพียงร้านเล็กๆ คุณข้ามาแบบนั้น ร้านของเราก็…”
“เพี่ยะ!” ได้ยินเพียงเสียงอันทรงพลังดังขึ้น เงินปึ๊งหนึ่งหล่นลงกับพื้น หล่นลงมาจากในมือของการ์ดคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายเซียวเจิ้นเที่ยน เซียวเจิ้นเที่ยนชี้ไปที่กองเงินแล้วกล่าว “นี่ของแก เอาไป แล้วไสหัวไปซะ!”
เมื่อเจ้าของร้านเห็นเงินบนพื้น ก็เพียงพอหนึ่งเดือนของร้านอาหารเล็กๆแบบนี้ของตนแล้ว เขาจึงรีบพยักหน้าตอบรับ คลานเข้าไปเก็บแล้ววิ่งออกไปด้านนอก
ชายใส่แว่นดำมองไปรอบๆร้าน แล้วส่งเสียงดัง “ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ไสหัวออกไปซะ”
เมื่อสั่งการ ผู้ที่เฝ้าดูเหตุการณ์ล้วนพยายามทุกวิถีทางเพื่อรีบวิ่งออกไป
ไม่นาน ร้านอาหารนี้ก็ไร้ผู้คน เหลือเพียงคนที่เซียวเจิ้นเทียนพามากับฟางเหยียน แล้วก็เย่ชิงหยู่
ฟางเหยียนมองไปยังเย่ชิงหยู่ที่ตกใจจนหน้าซีด แล้วยกมือไปจับมือน้อยๆของเธอไว้ แล้วกล่าว “ไม่เป็นไรนะ มีผมอยู่”
เมื่อพูดจบ ฟางเหยียนวางตะเกียบในมือของตัวเอง ดื่มชาลงไป ยืนขึ้นจากเก้าอี้อย่างไม่รีบร้อน
เย่ชิงหยู่จับฟางเหยียนอย่างเคร่งเครียด แล้วกล่าว “ฟางเหยียน พวกมันเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ในมือพวกมันมีปืน คนจำนวนมากที่อยู่ด้านนอกก็มีปืน เราแจ้งตำรวจเถอะนะ!”
เย่ชิงหยู่เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาทั่วไป นอกจากครั้งที่แล้วที่ถูกลักพาตัวไป แล้วเธอจะเคยเห็นฉากแบบนี้ได้ไงกัน ยิ่งไปกว่านั้น คนที่อยู่ตรงหน้ายังเป็นเซียวเจิ้นเที่ยนที่น่าเคารพน่าหวาดกลัวของผู้คนเมืองจินโจวอีกด้วย อำนาจดูแข็งแกร่งกว่าเซียวห้านไม่รู้กี่เท่า แล้วใครจะไม่กลัว!
ฟางเหยียนยิ้มให้เย่ชิงหยู่ ยกมือขึ้นมาที่หน้าของเธอแล้วกล่าว “สบายใจได้ ที่นี่ไม่มีใครทำร้ายคุณได้ พวกมันแค่คิด แต่ไม่กล้า ผมเคยพูดแล้ว ใครก็ทำร้ายคุณไม่ได้ ไม่ว่าใครก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น”
เย่ชิงหยู่ไม่ค่อยเข้าใจคำพูดในตอนนี้ของฟางเหยียนว่าหมายความว่าอย่างไร เธอขมวดคิ้วแล้วกล่าว “ฉันรู้ว่าคุณดีกับฉัน แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว เราแจ้งตำรวจเถอะนะ! พวกมันมาหาเรื่องคุณ”
“ไร้ประโยชน์!” ฟางเหยียนส่ายหน้า จากนั้นก็หันหน้าไปมองเซียวเจิ้นเที่ยน
เซียวเจิ้นเที่ยนก้าวมาข้างหน้า สายตาทั้งคู่จ้องไปที่ฟางเหยียนอย่างไม่ละสายตา ดูแคลนอย่างบ้าเลือด แล้วพูดเสียงดัง “แจ้งตำรวจ! แกคิดว่าแจ้งตำรวจแล้วมีประโยชน์มั้ย? ฉันละอยากจะรู้ว่าใครมันกล้ายุ่งเรื่องตระกูลเซียวของฉัน!”
เย่ชิงหยู่ชะงักอีกครั้ง ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มแล้ว เขาพูดถูก ว่าแจ้งความไร้ประโยชน์ ตระกูลเซียวเป็นอย่างไร พวกเขาทำอะไรก็ตกลงกับเบื้องบนไว้แล้ว ก่อนที่เขาจะมา จะต้องบอกกล่าวกับเบื้องบนไว้แล้วแน่นอน
“ท่านเซียว เราไม่เคยทำผิดต่อคุณ คุณคิดจะทำอะไร?” เย่ชิงหยู่ถามอย่างอกสั่นขวัญหาย
พวกเขาไม่เคยทำผิดต่อคนของตระกูลเซียวจริง ที่เซียวห้านถูกจับไป ก็เพราะเธอหาเรื่องใส่ตัว
เย่ชิงหยู่ไม่รู้ ว่าเซียวห้านถูกฟางเหยียนฆ่าตายแล้ว เธอคิดว่าเซียวห้านถูกจับไปไว้ที่โรงพักมาโดยตลอด
เซียวเจิ้นเที่ยนเคาะไม้เท้าที่อยู่ในมืออย่างรุนแรงลงที่พื้น แล้วตวาด “เย่ชิงหยู่ แกคิดว่าแกมีสิทธิ์ทำผิดต่อฉันมั้ย? แกไสหัวไปจะดีที่สุด วันนี้ฉันไม่ได้มาหาแก”
ฟางเหยียนเงยหน้ามองไปที่สายตาของเซียวเจิ้นเที่ยน แล้วกล่าว “แกมาหาฉันก็มาหาฉันสิ อย่าพูดแบบนั้นกับภรรยาของฉัน ฉันไม่ชอบให้ใครพูดแบบนั้นกับภรรยาของฉันมาก”
โอหัง อวดดี หลงตัวเอง ดูถูกคนอื่น ฟางเหยียนใช้นิสัยที่เหิมเกริมเหล่านี้ออกมา ในสายตาเขา ราวกับว่าเซียวเจิ้นเที่ยนไม่ได้เป็นคนใหญ่คนโตอะไร ท่าทีของเขา ดูเผด็จการมากกว่าเซียวเจิ้นเที่ยนเสียอีก
“เหอะ!” สายตาคมของเซียวเจิ้นเที่ยนจ้องไปที่ฟางเหยียน แล้วกล่าว “แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?”
“ฉันว่า แกรู้ดีนะว่าฉันเป็นใคร!” ฟางเหยียนใช้สายตาแข็งกร้าวสบตากับเซียวเจิ้นเที่ยน
ความจริงนี่เป็นครั้งที่สองที่เซียวเจิ้นเที่ยนเจอฟางเหยียน ครั้งแรกคือในงานวันเกิดของเย่ชิงหยู่ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ไอ้นี่เชื่อมั่นตัวเองตลอดกาล ฆ่าก็ฆ่าไม่ตาย ทำลายก็ทำลายไม่ได้
ครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เพราะส่งคนสะกดรอยเขา แน่ใจแล้วว่ารอบๆกายเขาไม่มีใครปกป้อง เขาก็ไม่กล้าลงมืออย่างผลีผลาม
ความมั่นใจของไอ้นี่มากกว่าที่เซียวเจิ้นเที่ยนคิดไว้ ภายใต้การล้อมของคนมากขนาดนี้นึกไม่ถึงว่ายังมีท่าทีเหมือนราชาได้ ทำให้คนเปลี่ยนมุมมองใหม่ได้จริงๆ
เซียงเจิ้นเที่ยนยืดอกมองฟางเหยียน แล้วกล่าว “บังอาจ!”
“มีเรื่องอะไร? ว่ามา! ครึกโครมกับฉันขนาดนี้ ฉันรู้สึกรับไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่!” ฟางเหยียนกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน
เย่ชิงหยู่เห็นความใจเย็นของฟางเหยียน ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว น่าจะมีแค่ฟางเหยียนที่มีความกล้าอย่างนี้
เซียวเจิ้นเที่ยนหลับตาลง กำลังสบตาอยู่กับฟางเหยียน เป็นการต่อสู้กันผ่านสายตา เขาคิดจะใช้สายตาทำให้ฟางเหยียนกลัว
แต่ฟางเหยียนจะกลัวแค่สายตาได้อย่างไรกัน?
เซียวเจิ้นเที่ยนเห็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงได้โบกมือ แล้วหยุดใช้สายตา กล่าวว่า “ไปกับฉัน! แกทำผิดกับคนที่ไม่ควรจะทำผิดด้วย ไปกับฉันแต่โดยดี ฉันไม่มีทางทำร้ายคนที่อยู่รอบข้างแกไม่ว่าคนไหน อย่าคาดหวังกับคนที่คอยคุ้มครองแกอยู่อย่างลับๆ พวกมันไม่อยู่กัน”
เมื่อเซียวเจิ้นเที่ยนพูดจบ ชายชุดดำได้เดินมา ในมือของคนพวกนั้นถือปืนไว้ เมื่อเห็นก็รู้แล้วว่าเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว แม้เย่ชิงหยู่จะกลัว แต่เธออยู่ในอันตราย รีบลากแขนของฟางเหยียน แล้วขวางไว้ด้านหน้าเขา ส่ายหน้าแล้วกล่าว “ท่านเซียว คุณหมายความว่าไง? อะไรคือฟางเหยียนทำผิดกับคนที่ไม่ควรทำผิดด้วย”
เซียวเจิ้นเทียนดูแคลน แล้วกล่าว “มันรู้เรื่องนี้ดีที่สุด”
ฟางเหยียนเปิดปาก ยิ้มดูแคลนออกมา มองไปที่ตาของเซียวเจิ้นเที่ยนแล้วถาม “แกหมายถึงคุณชายของตระกูลฟาง?”