หวังชิงชิงหันไปพยักหน้าให้กับทุกๆคนอย่างเรียบง่าย จากนั้นจึงพูดขึ้น“ท่านเซียว เกรงใจเกินไปแล้ว”
เซียวเจิ้นเทียนหัวเราะ“ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเกรงใจ คุณเป็นแขกวีไอพีของผม”
“ประธานหวัง คุณชายล่ะครับ ทำไมไม่มาด้วยกันล่ะ”เซียวเหอเดินขึ้นหน้ามาขยิบตาให้หวังชิงชิงแล้วถาม
หวังชิงชิงขานรับอ๋อขึ้นทีหนึ่ง พูดขึ้น“เดี๋ยวคุณชายก็มาค่ะ พวกคุณวางใจเถอะ ในเมื่อรับคำว่าจะมา เขาต้องมาแน่นอน จะว่าไป วันนี้ยังมีเรื่องสำคัญเรื่องอื่นที่ต้องคุยกับท่านเซียวอีก”
พอเซียวเจิ้นเทียนได้ยินคำพูดดังนี้ แววตาก็ประกายด้วยความหวัง ความกังวลกระปริบกระปรายเมื่อครู่หายไปบัดดล
จากคำพูดที่ไม่ธรรมดาของหวังชิงชิง ฟังออกว่าเขาเป็นสตรีที่เพียบพร้อมด้วยรูปสมบัติและสติปัญญา ผู้หญิงแบบนี้ ผู้ชายธรรมดาคงจีบไม่ติด ในเวลานี้ เซียวฮั่วรู้สึกอิจฉาคุณชายแห่งตระกูลฟางเสียแล้ว เขาอยากจะรุดหน้าไปทำความรู้จัก แต่พอคิดถึงคำพูดของคุณปู่ เขาก็เริ่มเกิดความคิดของตัวเองขึ้น และได้แต่แอบมองหวังชิงชิงอยู่เงียบๆ
“ประธานหวัง เชิญข้างในก่อน!”เซียวเจิ้นเทียนชี้เข้าบ้านอย่างกริ่งเกรง
หวังชิงชิงโบกปัดมือ “ไม่ต้องหรอกค่ะ!”
พอพูดจบ เธอจึงหันไปมองห่อของขวัญห่อใหญ่อีกรอบ และพูดขึ้นอย่างสงสัย“ท่านเซียว ฉันสงสัยเหลือเกินว่าในห่อของขวัญนั้นจะคืออะไร คุณหนูตั้งใจขนาดนี้ ฉันเองก็อยากเปิดหูเปิดตา ว่าเธอให้ของขวัญอะไรมา”
เซียวเจิ้นเทียนหัวเราะเสียงดังฮ่าๆ “เมื่อครู่ถ้าไม่ใช่เพราะคุณมา ผมคงเปิดกล่องไปแล้วล่ะ ในเมื่อประธานหวังเอ่ยปาก งั้นผมก็จะเปิดดูแล้วกันว่าในนั้นคืออะไร”
พูดพลาง เซียวเจิ้นเทียนยกมือแกะกล่องไม้นั้น พอเปิดชั้นกล่องไม้ด้านนอกออก ด้านในยังมีกล่องไม้วิจิตรหุ้มไว้อีกชั้น กล่องนี้เล็กลงมาก น่าจะจุคนได้เพียงคนเดียวเท่านั้น
เซียวเจิ้นเทียนไม่ได้มีความลังเลใจใดๆ เขาเปิดกล่องไม้กล่องที่สองออกต่อหน้าทุกคน
ในจังหวะที่กล่องไม้ถูกเปิดออก ทุกคนก็ต่างส่องเข้าไปข้างในว่าของที่อยู่ในกล่องคืออะไร เดิมทีสีหน้าของเซียวเจิ้นเทียนมีรอยยิ้มอยู่ แต่พอเปิดกล่องออกแล้ว รอยยิ้มของเขาก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที สิ่งที่มีแทนที่คือความนิ่งงัน มือของเขาสั่นเทา ใบหน้าสั่นเทิ้ม ทั้งตัวสั่นสะท้าน!
เขาสั่นไปหมด ร่างของเซียวเจิ้นเทียนเซไปด้านหลัง เซียวเหอจึงรีบเข้าพยุงกายเซียวเจิ้นเทียน แล้วร้องออกไปอย่างตระหนก“พ่อ พ่อ!”
หลายคนยังไม่เห็นว่าด้านในคืออะไร เห็นเพียงแต่การเปลี่ยนไปทางสีหน้าของเซียวเจิ้นเทียน ต่างก็อดเดินขึ้นหน้าไม่ได้ พอเห็นต่างก็ร้องเสียงหลงราวกับหมูถูกเชือด ตระกูลเซียวทั้งตระกูล วุ่นวายอลหม่านขึ้นมา
ในกล่องนี้ไม่ใช่ของขวัญอะไรหรอก หากแต่เป็นศพ ในตอนที่เซียวเจิ้นเทียนเปิดกล่องออก และเห็นใบหน้าสีเขียวคล้ำ ใบหน้าสีเขียวคล้ำนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือเซียวห้านผู้ที่ส่งของขวัญมานั่นเอง เป็นศพของเซียวห้าน ภาพแบบนี้ ทำให้ความตื่นเต้นที่ได้เจอหวังชิงชิง แต่ความสบายอารมณ์ที่ได้รับของขวัญจากเซียวห้าน มลายหายไปสิ้น สิ่งที่มาแทนที่คือ ความหวาดกลัวและความสิ้นหวังอย่างลึกซึ้ง
เดิมทีควรจะเป็นช่วงที่ควรดีใจ แต่พอเห็นศพ ก็ทำให้บ้านทั้งบ้านอึมครึมราวกับมีหมอกปกคลุม คนทั้งบ้าน ในเวลานี้ ต่างร้องไห้ระงมขึ้น เสียงกรีดร้องเสียดหู
หวังชิงชิงย่อมเห็นศพที่อยู่ด้านใน แต่ว่าเธอสุขุมกว่ามาก นอกจากหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย เธอไม่ได้แสดงความตระหนกอะไร เติบโตมาจากครอบครัวเช่นนี้ เธอไม่เกรงกลัวศพอีกต่อไป
เพียงแต่เห็นตระกูลเซียวสิ้นหวังขนาดนี้ ทำให้เธอสงสัย ตกลงนี่เป็นศพใคร!
เซียวเจิ้นเทียนล้มตัวลงในอ้อมแขนของเซียวเหอ น้ำตาร่วงพรั่งพรู แต่ในใจต้องเข้มแข็ง แต่ก็ไม่สามารถทำใจให้ได้ว่าพอเห็นศพแล้วจะไม่ล่มสลาย เซียวเหอเอง ก็น้ำตาไหลเช่นกัน
ศพถูกนำออกว่าต่อหน้าทุกคน เธอตายแล้ว ดูท่าน่าจะตายมาได้สองสามวัน ศพแข็งทื่อแล้ว และก็เริ่มมีน้ำเหลือง สิ่งที่น่าเกลียดที่สุดคือ บนมือเธอนิ้วหายไปหกนิ้ว
เซียวเจิ้นเทียนดูศพเซียวห้าน ในใจปริ่มเลือดหยด !นี่เป็นการท้าทายตระกูลเซียวใช่ไหม นี่กำลังทรมานตระกูลเซียวใช่ไหรือไม่ เขาไม่รู้ว่าก่อนตายเซียวห้านโดนทรมานแค่ไหน แต่ตอนตายเธอคงได้ตายอย่างสงบ
คนๆนี้น่าจะไม่ได้ฆ่าเซียวห้านแบบง่ายๆ เขากำลังข่มขวัญตระกูลเซียว และกำลังโจมตีตระกูลเซียวอย่างดุเดือด “ใคร ใครเป็นคนทำ ใครที่ต่อกรกับตระกูลเซียว แน่จริงก้าวออกมา ก้าวออกมา!”เซียวเจิ้นเทียนค่อยๆปรับอารมณ์กลับ จากนั้นจึงคำรามก้องด้วยความชิงชังไปในอากาศที่ว่างเปล่า
เสียงคำรามนี้ทำเอาตระกูลเซียวสั่นสะเทือน พอเสียงคำรามออกไป เขาจึงปรับสภาพปกติ เขาจ้องมองหวังชิงชิง ในตอนนี้ เขาดูแก่ลงไปมากโข
เมื่อเห็นแววตาเซียวเจิ้นเทียน หวังชิงชิงต่อให้สุขุมแค่ไหนก็ยังรู้สึกอึดอัด เธอก้มหน้าพูด “ท่านเซียว ขอโทษนะคะ ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ถ้าฉันรู้ คงไม่…”
เซียวเจิ้นเทียนยกมือขึ้นห้ามหวังชิงชิงพูดต่อ เขาถอนหายใจออกมายาว พูดขึ้น :“ประธานหวัง คุณก็เห็นเหตุการณ์แล้ว ก็ขอไม่ปิดบัง ตระกูลเซียวของเราเป็นอันดับหนึ่งของเมืองจินโจว แต่ช่วงนี้เจอเรื่องไม่น้อย มีพลังบางอย่างกำลังซ้ำเติมตระกูลเซียวของเราอยู่ อันดับแรกคือโจมตีธุรกิจ แลัวก็โจมตีคน มันฆ่าคนตระกูลเซียวไปสองคนแล้ว แม้ว่าชื่อเสียงของเราจะเป็นอันดับหนึ่งของเมืองจินโจว แต่ตอนนี้ถูกทำลายเรีาบแล้ว”
ในตอนที่พูด เขาค่อยๆหันไปมองหวังชิงชิง หวังชิงชิงเห็นเซียวเจิ้นเทียนผู้แปลกประหลาด ตนเองก็อดถอยหลังไปไม่ได้ เธอกลัวว่าเซียวเจิ้นเทียนจะเห็นร่องรอยอะไร แล้วจะลงมือสังหารเธอโดยฉับพลัน
แต่จู่ๆเซียวเจิ้นเทียนก็แสดงอาการที่น่าตกใจ เขาคุกเข่าลงตรงหน้าหวังชิงชิง ตอนนี้ไม่ใช่แค่หวังชิงชิงที่ตกใจ คนทั้งตระกูลเซียวเองก็ตกใจไม่น้อย
ประมุขแห่งตระกูลเซียว คุกเข่าให้ผู้หญิงต่อหน้าทุกคน นี่คือต้องละทิ้งอัตตาจนสิ้นถึงจะทำแบบนี้ได้ เซียวเจิ้นเทียนเป็นประมุขของตระกูลหมายเลขหนึ่งแห่งเมืองจินโจว จะต้องจนใจแค่ไหนถึงได้ยอมคุกเข่าแบบนี้
“ท่านเซียว นี่คืออะไรกัน”หวังชิงชิงยกมือประคองแขนเซียวเจิ้นเทียน
เซียวเหอก็พูดออกไปอย่างตกใจ “พ่อครับ ทำอะไรน่ะ”
เซียวเจิ้นเทียนโบกมือปัดห้ามทั้งคู่ มองหน้าหวังชิงชิงอย่างจริงจังแล้วพูดขึ้น “ไม่ ประธานหวัง คุณฟังผมก่อน ตอนนี้ผมต้องการความช่วยเหลือด่วนจากคุณชาย ประธานหวัง พาคุณชายมาเถอะ ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณชายฟาง ผมต้องการให้คนที่วางหมากอยู่เบื้องหลังตระกูลเซียว ชดใช้อย่างสาสม!ผมต้องให้มันชดใช้อย่างสาสม”