เซียวเหอเองก็พูดอย่างจริงใจ“ประธานหวัง ช่วยเชิญคุณชายออกมาเถอะครับ!พวกเราตระกูลเซียวมีความจริงใจที่จะร่วมมือกับคุณชายจริงๆ ขอแค่คุณชายช่วยให้เราผ่านด่านนี้ไปได้ ต่อไปพวกเราตระกูลเซียวจะมอบชีวิตให้คุณชายฟางแน่นอน”
หวังชิงชิงสีหน้าลำบากใจ มองคนตะกูลเซียวอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่
เธอไม่ได้ตอบรับ เซียวฮั่วเองก็ไม่รู้ว่ามาหยุดข้างเธอเมื่อไหร่ กอดขาเธอไว้ น้ำตาไหลอย่างเจ็บปวด พูดขึ้น“ขอร้องล่ะ ประธานหวัง เห็นมั้ยครับว่าบ้านเรากลายเป็นสภาพไหนแล้ว”
มือทั้งสองเขากอดขาหวังชิงแน่น ดูก็รู้ว่าเขาจงใจแต๊ะอั๋ง
หวังชิงชิงดีดตัวออกพูด “เดี๋ยว ปล่อยฉันก่อนได้มั้ย”
เซียวฮั่วกอดหวังชิงชิงแน่น ใช้ใบหน้าแนบขาอ่อนของเธอ พูดว่า “ไม่ ประธานหวัง ถ้าคุณไม่ช่วยตระกูลเซียวของเรา ผมจะไม่ปล่อย”
หวังชิงชิงรู้ทั้งรู้ว่าเขาจงใจ แต่เธอเองก็จนใจ ตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้ากับคนในตระกูลเซียวที่กำลังเดือดดาล เธอเองยังเหงื่อกาฬแตกพลั่ก
คุณชายคนนี้ ตกลงทำบ้าอะไรเนี่ย
เธอพูดอย่างอ่อนแรง“ฉันก็ไม่ได้บอกนี่ว่าคุณชายจะไม่มา เขามาอยู่แล้ว เพียงแต่…”
“ประธานหวัง คุณชายคงไม่หลอกพวกเรามั้ง”จู่ๆเซียวเหอก็ถามอย่างสงสัย
เซียวเจิ้นเทียนไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองหวังชิงชิงด้วยแววตาที่เคลือบแคลง
หวังชิงชิงยังไม่ทันได้เอ่ยปากอธิบาย เซียวเหอก็พูดต่อ “ประธานหวัง พวกเราตระกูลเซียวให้ความจริงใจตลอดมา แต่ทำไมแม้แต่หน้าคุณชายก็ยังพบไม่ได้ ตระกูลเซียวของเรามีปัญหา แต่ก็ไม่ควรปฏิบัติกับเราแบบนี้นี่นา ในเมืองจินโจว พวกเราตระกูลเซียวก็พอมีตัวตนเหมือนกัน!คุณชายรับปากมั่นเหมาะ บอกว่าคืนนี้จะมาจัดการคนๆนั้น แล้วจะคุยเรื่องความร่วมมือกับเราต่อ แต่คุณกลับมาคนเดียว ไม่เห็นแม้แต่หน้าคุณชาย ผมจะไม่สงสัยได้ไง ว่าคุณชายคนนี้มีตัวตนจริงหรือไม่ หรือว่าคุณหลอกพวกเรามาโดยตลอด”
ถามออกไปอย่างเคลือบแคลง นี่ไม่ใช่ท่าทีเมื่อครู่ เปลี่ยนไปคนละคนโดยสิ้นเชิง ท่าทีของตระกูลเซียวเปลี่ยนเป็นสงสัย
หวังชิงชิงมองไปทางเซียวเหออย่างไม่รู้ควรจะทำอย่างไร จากนั้นจึงมองไปทางเซียวเจิ้นเทียนอีก แล้วพูด “ไม่ใช่แบบนั้น พวกคุณฟังฉันนะ”
“ประธานหวัง สิ่งที่พ่อผมพูดคงไม่ใช่ความจริงใช่ไหม ฟางซื่อกรุ๊ปคงไม่ได้ล้อเล่นกับเราตลอดมาใช่มั้ย”ในตอนที่พูด มือของเขายังคงขยับ
ขาทั้งสองพิการ แต่ว่ามือของเขาไม่ได้พิการ ไม่เพียงแต่มือไม่ได้พิการ สมองก็ยิ่งไม่พิการ!
“ประธานหวัง! คุณชายล่ะ”คนไม่น้อยต่างก็ลุกขึ้นยืนถามหวังชิงชิง หวังชิงชิงเป็นคนแข็งแกร่ง แต่ต้องมายืนต่อหน้าคนทั้งตระกูลแบบนี้ เธอก็รู้สึกประหม่าไม่น้อย
เซียวเจิ้นเทียนลุกขึ้นยืน สองตาแดงก่ำถามว่า“ประธานหวัง คุณชายไม่มาแล้วจริงๆใช่มั้ย ที่ผ่านมาไม่มีคุณชายอะไรนั่นหรอกใช่ไหม คุณหลอกพวกเรามาตลอดใช่หรือเปล่า”
คำถามนี้แข็งกร้าวเกินไป ให้ความรู้สึกของการกดดันบังคับ !เมื่อเห็นบารมีของเซียวเจิ้นเทียน ราวกับจะกลืนกินหวังชิงชิงไปเลยทีเดียว
จังหวะของตระกูลเซียวอลหม่านไปหมด ท่าทีทุกคนมีต่อหวังชิงชิงเป็นท่าทีเดียวกัน ความชื่นชอบเมื่อครู่ พอเห็นศพเซียวห้านแล้ว ล้วนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
หวังชิงชิงรีบพูด“ท่านเซียว เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่คิดนะ คุณชายของพวกเรา ที่จริง…”
“ความจริงเป็นยังไง ประธานหวัง”คำพูดของเซียวฮั่วตัดบทหวังชิงชิงอีกครั้ง พวกเขาดูเหมือนตั้งใจให้หวังชิงชิงพูดไม่ออก น้ำท่วมปาก มีแต่คนจี้ถาม เธอเองก็รับมือไม่อยู่!
เซียวเจิ้นเทียนเห็นทีท่าของหวังชิงชิง จึงกล่าวลาอย่างมีมารยาท “ประธานหวัง ที่ผ่านมาผมเซียวเจิ้นเทียนเชื่อฟังประธานหวังทุกอย่าง คุณให้พวกเราทำอะไรพวกเราก็ทำ ที่ผมยอมก้มหัวให้ไม่ใช่ว่าเพราะกลัวตระกูลฟางนะ แต่เป็นเพราะผมเคารพพวกคุณ แต่ตอนนี้คุณชายยังไม่ปรากฏตัวเลย นี่ไม่ได้เรียกว่าหลอกลวงหรือไง พวกเราเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองจินโจว เป็นตระกูลที่มีเกียรติ คุณทำแบบนี้ ไม่เหมาะสมมั้ง”
“ผมมาแล้ว!”ทันใดนั้น เสียงทุ้มต่ำก้องขึ้นในห้องโถงตระกูลเซียว น้ำเสียงเปล่งออกมา ราวกับพกพาพลังที่ไร้รูปร่างมาด้วย เสียงดังเข้าหูคนตระกูลเซียวทุกคน
ทุกคนในตระกูลเซียวมองไปทางเสียง เห็นเพียงแต่ชายหนุ่มที่แต่งตัวธรรมดานั่งอยู่เก้าอี้ของเซียวเจิ้นเทียนประมุขตระกูลเซียว สีหน้าเขาเย้ยหยัน อมยิ้มอย่างลึกลับ
แต่ เขานั่งอย่างน่าเกรงขามอยู่ตรงที่นั่งประมุข ดูเหมือนจอมศักดินาที่มีชีวิตชีวา!
“คุณชาย!”หวังชิงชิงที่ไม่รู้ควรทำอย่างไรถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ และก็เรียกขึ้น
…
เย่ชิงหยู่ไม่ได้ไปบริษัทติดกันมาสามวันแล้ว ไม่กี่วันนี้เธอกำลังคิดวิธีช่วยฟางเหยียน แต่พอถามคนจำนวนไม่น้อย ใครๆก็บอกว่าไม่รู้เรื่องนี้ เธอเคยไปหาหลิ่วเหอฉางเถ้าแก่ของร้านหยกตี้เซิ่งหยวน หลิวเหอฉางบอกเธอ ถ้าคนที่ฟางเหยียนล่วงเกินเป็นคนตระกูลเซียว พวกเขาจะคิดหาทางที่ช่วยเหลือ แต่คนที่เขาล่วงเกินคือคุณชายตระกูลฟาง เรื่องนี้จัดการยาก
เธอโทรหาเฉิงฉู่ เฉิงฉู่ปลอบเธอว่าไม่เป็นไร ให้เธออดทนรอฟางเหยียนกลับมาอย่างใจเย็น
ตอนนี้ เธอเองก็รู้สึกมืดบอดไปหมด ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ฟางเหยียนถูกจับตัวไปสามวันแล้ว สามวันนี้เงียบสงบดี เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เธอนั่งอยู่บนโซฟา สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล ดวงตาสุกใสในตอนต้นแปรเปลี่ยนมาแดงก่ำด้วยเส้นเลือด
สำหรับเธอฟางเหยียนมีความหมายพิเศษ ผู้ชายคนนี้ให้ความรุ้สึกปลอดภัยกับเธอ ตอนนี้มาพบจุดจบแบบนี้ เธอกับจนปัญญา โดนลู่หย่องถิงผู้ร้ายกาจดุจปีศาจพาไปตึกร้าง แล้วโดนเซียวห้านพาไปโรงงานเหล็กร้าง ในตอนที่ต้องเผชิญกับความเป็นความตาย กลับไม่ใช่ฟางเหยียนที่ปรากฏตัวไปช่วยเธอ!
เธอโทรหาหวังชิงชิงอย่างร้อนรนและจนใจ มีเสียงผู้หญิงธรรมดาๆออกมาจากโทรศัพท์อีกฝั่ง:ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง……
นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่เธอโทรหาหวังชิงชิง แต่มีเสียงแบบนี้มาตลอด ยิ่งทำให้เธอท้อใจ เธอแทบจะไปหาหวังชิงชิงที่ฟางซื่อกรุ๊ปเกือบทุกวัน แต่เธอไม่เคยเจอหน้าหวังชิงชิงเลย กลับโดนยามหน้าประตูสองคนไล่ออกมา ทำท่าทีใส่เธออย่างไม่ยี่หร่า
นั่งอยู่ในบ้าน ตอนนี้ฟางเหยียนเป็นอย่างไรเธอแทบไม่รู้ ได้แต่หยิบโทรศัพท์ดู สุดท้ายก็วางลงอย่างรู้ตัว
ในเวลานี้เอง ประตูถูกเปิดออก จางเจียวเจียวกระหืดกระหอบเข้ามา
“ชิงหยู่ คุณตาเธอมา ”ด้านหลังจางเจียวเจียวมีคนแก่หน้าเคร่งขรึม
“คุณตา!”เย่ชิงหยู่ลุกขึ้นยืนจากโซฟา
จางฉี่เหาเดินเข้ามา ถอนหายใจพูด“ตาถามคนด้านบนมา เรื่องนี้ไม่มีใครสนใจ ด้านบนได้รับคนสั่งตาย ทุกเรื่องเกี่ยวกับฟางเหยียนห้ามถาม และห้ามยุ่ง”
เย่ชิงหยูฟังแล้วหัวใจหล่นตุ๊บ ถลึงตาถาม“คุณตาคะ คนข้างบนคือใครเหรอ”
จางฉี่เหาส่ายหน้าจนใจถาม “ต่อให้คนอันดับหนึ่งในเมืองก็ยังไม่รู้ว่าคนข้างบนเป็นใคร ข่าวว่าเป็นคนที่ไม่ต้องผ่านแผนกใดๆก็สามารถถ่ายทอดคำสั่ง ตำแหน่งสูงจนทำให้คนกลัว”
เย่ชิงหยู่ใจด้านไปหมด เธอกลืนก้อนแข็งๆลงคอ ถาม ว่า“เป็นคำสั่งของตระกูลฟางเหรอ”