ฟางเหยียนหยุดเดิน ใช้สายตาเหยียดหยามมองไปที่เซียวเจิ้นเที่ยน แล้วกล่าวอย่างเลือดเย็น “ขอโทษนะ มันสายไปแล้ว!”
“แกคิดว่าฉันเป็นใคร?ที่แกคิดอยากจะบอกก็บอก ไม่อยากบอกก็ไม่บอก?อย่าไร้เดียงสาไปหน่อยเลย ฉันให้โอกาสแกแค่สองครั้งเท่านั้น ตอนนี้แกใช้โอกาสนั่นไปหมดแล้ว ต่อให้ตอนนี้แกบอกฉัน คนของตระกูลเซียวทั้งหมด ก็ต้องตายอยู่ดี!”
เมื่อพูดจบ ฟางเหยียนเดินออกจากห้องโถงของตระกูลเซียวอย่างรวดเร็ว เซียวเจิ้นเที่ยนเห็นหน้าตาอันเลือดเย็นของฟางเหยียน ก็ชะงักไป เขารีบตะโกนออกไปว่า “ไม่ ไม่!”
นี่มันบ้าอะไรกัน?ทำไมตัวเองพูดยังไร้ประโยชน์!เซียวเจิ้นเที่ยนรับรู้ได้ถึงความสิ้นหวัง
เขาไม่ได้ล้อเล่น แต่เอาจริง ตระกูลเซียวจะล่มสลายแล้ว ทั้งหมดจะตายในห้องโถงของตัวเอง
เมื่อก่อนในการต่อสู้ ฟางเหยียนก็ต้องการข้อมูลของอีกฝ่าย แต่คนพวกนั้นคิดว่าเพียงแค่ไม่พูดออกมาฟางเหยียนก็จะไม่มีทางฆ่าพวกเขา ใช้ข้อมูลมาเป็นยันต์ป้องกันตัวสุดท้ายให้ตัวเอง ดังนั้นจึงจงใจไม่พูดออกมา ต่อมาทุกคนถูกฆ่าตาย ฟางเหยียนไม่เหลือใครไว้สักคน
เขาไม่ชอบคนที่หลงตัวเอง การทำให้เขาเสียเวลาเป็นการไม่เคารพเขาอย่างที่สุด
เซียวเจิ้นเที่ยนกระทำในความผิดเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องตาย!แล้วยังลากคนทั้งตระกูลของตนลงโลงไปพร้อมๆกันอีกด้วย
“คุณชาย!” หวังชิงชิงเดินไปหาฟางเหยียนอย่างเคร่งเครียด แล้วกล่าว “จะฆ่าพวกเขาจริงๆเหรอ?ความจริง คุณฆ่าแค่เซียวเจิ้นเที่ยนก็ได้นะ คนอื่นเค้าไม่รู้เรื่อง”
เธอก็ไม่รู้ว่าอ้อนวอนฟางเหยียนในตอนนี้เป็นเรื่องที่ถูกหรือผิด แต่สรุปแล้วเธอรู้สึกว่าคุณชายไม่ควรฆ่าทุกคน
“คุณชาย บางทีลุงเย่ของคุณสำคัญกับคุณมาก แต่เขาหวังที่จะเห็นคนที่ปกติคนหนึ่ง ไม่ใช่คนที่ฆ่าคนมั่ววุ่นวายไปเสียหมด คุณฆ่าเซียวเจิ้นเที่ยนเพื่อล้างแค้นได้ แต่คนในครอบครัวของเขาไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรทั้งนั้น”
ทั้งสองเดินมาถึงประตูของคฤหาสน์ตระกูลเซียว ฟางเหยียนหยุดเดินโดยปริยาย
เขาเงยหน้าถอนหายใจยาวๆ กำลังเตรียมที่จะตอบคำถามของหวังชิงชิง
จู่ๆ เกิดปรากฏการณ์ขึ้นบนฟ้า
หวังชิงชิงกำลังจะเอ่ยปาก แต่ฟางเหยียนกลับแสดงท่ายกมือขึ้นขัดคอเธอ
ฟางเหยียนเพ่งมองไปยังปรากฏการณ์บนฟ้าอย่างระมัดระวัง คิดไม่ถึงว่าจะมีเมฆดำปกคลุมท้องฟ้าที่เดิมทีเต็มไปด้วยดาวฤกษ์
ตูม!จู่ๆ เสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นบนฟ้า จู่ๆมีแสงกะพริบฟาดลงมา สว่างไสวไปอีกครึ่งหนึ่งของท้องฟ้า
เดิมทีนอกประตูยังมีเสียงของแมลงร้อง แต่หลังจากที่เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น เสียงแมลงร้องก็หายไป
คฤหาสน์ตระกูลเซียวอยู่ที่ชานเมือง นี่คือคฤหาสน์เป็นแนวสวนสาธารณะ ด้านนอกมีแม่น้ำ และมีสวนหย่อม เดิมทีควรจะเป็นค่ำคืนแห่งความโกลาหล เมื่อเสียงนั้นดังขึ้นกลับกลายเป็นหยุดอย่างกะทันหัน นอกจากนี้ ต้นไม้ใหญ่ด้านนอกจู่ๆก็มีนกบินออกไปหลายตัว
พวกมันพลางร้องพลางตื่นตระหนก ราวกับกำลังหลบหนีการมาเยือนของสิ่งๆหนึ่ง
ปกตินกจะไม่บินในตอนกลางคืน ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ดีในการพักผ่อนของพวกมัน เหตุการณ์ปกติจะไม่มีทางทำให้พวกมันบินออกไปได้ ที่พวกมันบินออกไปตอนกลางคืนมีความเป็นไปได้อย่างเดียว นั่นก็คือมีการมาเยือนของภัยพิบัติตามธรรมชาติและอันตรายระดับสุดขีด
ตรงหน้าไม่มีลางบอกเหตุในการมาของภัยพิบัติ ปรากฏการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า มีกลิ่นอายแห่งความตายกำลังบีบใกล้เข้ามา
กลิ่นอายความตายนั้น แม้แต่สัตว์ยังต้องหนี นี่มันคืออะไรกันแน่?
ฟางเหยียนเงยหน้ามองดูท้องฟ้า เมื่อกี๊ยังมีดวงดาวเต็มไปหมด ตอนนี้มองไม่เห็นดาวฤกษ์แม้แต่ดวงเดียว
นี่ต้องเป็นยอดฝีมือระดับไหนกันที่ปล่อยพลังออกมาได้?
ในขณะที่ฟางเหยียนกำลังขมวดคิ้ว เสียงอันเกรงขาม และทรงพลังอย่างมากดังสนั่นทั่วปฐพี “อภัยได้พึงให้อภัย!” เจ็ดคำนี้ ทุกๆคำที่พูดออกมาดังราวกับเสียงฟ้าผ่า!
เสียงนี้ดังกระหึ่ม เมื่อได้ยินเสียงเหมือนกับเสียงคำรามร้องเรียกของวัว ได้ยินก็รู้ว่าผู้เฒ่าเป็นผู้เปล่งเสียงออกมา
เสียงใกล้แต่ตัวอยู่ไกล เสียงพันไมล์!ใช่ นี่คือเสียงพันไมล์ในตำนาน
ในซีรีย์กำลังภายในเคยกล่าวไว้ว่า นี่คือกำลังภายในจากจิตใจ ยอดฝีมือใช้มันในการสื่อสาร คือใช้กำลังภายในที่อยู่ข้างในเปล่งเสียงออกมา เสียงดังสนั่น เข้าไปในโสตประสาทของคน เพียงแค่ผู้พูดไม่อยู่ในระยะใกล้ อาจจะอยู่ห่างไกลกว่าพันลี้ หรืออาจจะอยู่ในพื้นที่อันใกล้ สัญชาตญาณบอกฟางเหยียนว่า นี่คือยอดฝีมือลับ
ได้ยินเสียงพูดอันน่ากลัว ปรากฏการณ์ด้านนอก ทำให้หวังชิงชิงจับแขนของฟางเหยียนอย่างเคร่งเครียด เงยหน้ามองไปรอบๆ แล้วถาม “คุณชาย นี่เป็นเสียงคนพูดหรือเปล่า?”
ฟางเหยียนพยักหน้าเบาๆ แล้วกล่าว “คุณกลับไปก่อน!”
“หา?” หวังชิงชิงมองฟางเหยียนอย่างแข็งทื่อ แล้วกล่าว “คุณชาย ฉัน…”
“กลับไป เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ” ฟางเหยียนไม่ได้ปรึกษา แต่กำลังออกคำสั่ง
เห็นหน้าตาของฟางเหยียน เธอทำได้เพียงส่งเสียงอ๋อ แล้วเดินไปอย่างไม่เต็มใจ ในขณะเดียวกันนี้ มีสิ่งหนึ่งลอยมาจากที่ไกลๆ อย่างรวดเร็ว ฟางเหยียนโต้ตอบอย่างรวดเร็ว ยกมือขึ้นแล้วคว้าหวังชิงชิงมา สิ่งนั้นข้ามผ่านทั้งสองคนไป บินไปที่คฤหาสน์โดยตรง
“ปัง!” ได้ยินเพียงเสียงดังสนั่น กำแพงของคฤหาสน์เป็นรูโหว่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่บินมานั้นคืออะไร พลังรุนแรงกว่ากระสุนมหาศาล
หวังชิงชิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้สึกเพียงมีกลิ่นอายแห่งความตายตรงมาที่ตน ถ้าเมื่อกี๊ไม่ใช่เพราะคุณชาย บางทีเธออาจตายแล้วก็เป็นได้ เธอเงยหน้ามองฟางเหยียนอย่างเคร่งเครียด ฟางเหยียนกอดเธออย่างแน่น
การกระทำนี้ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้มา คุณชายกำลังเป็นห่วงเธอ เมื่อกี๊เขาช่วยชีวิตตน!
เมื่อนึกถึงจุดนี้ ใบหน้าของหวังชิงชิงปรากฏเป็นรอยยิ้มขึ้น
แต่นี่เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น ฟางเหยียนลากเธออีกครั้ง จากนั้นเปิดประตูรถลินคอล์น แล้วกล่าว “กลับไป!สองคำ แน่วแน่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้!”
ตอนที่เขาพูดนั้น ถึงขั้นไม่มองหน้าหวังชิงชิงแม้แต่น้อย เพียงแต่สังเกตพฤติการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายนอก
มีการมาเยือนของบุคคลนิรนาม แล้วเขาจะปล่อยวางได้อย่างไรกัน?
หวังชิงชิงนั่งอยู่ในรถ มองไปด้านนอกผ่านกระจก มองเห็นหน้าของฟางเหยียนพอดี ใบหน้าอันตอบขาวนวล เป็นคนรักการต่อสู้จริงเหรอ?เมื่อกี๊คนนั้นพูดแล้ว ว่าเขามาจากกองทัพ กองทัพเป็นสถานที่ที่ต่อสู้กันไม่ใช่เหรอ
คุณชายเป็นทหาร และเป็นผู้ทำสงคราม!
เธอไม่รู้จริงๆว่าคุณชายเผชิญกับอะไรบ้างตอนทำสงคราม แต่ต้องเป็นความทรงจำที่ไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้ ถ้าไม่ใช่ แล้วเขาจะอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไรกัน เขามีตำแหน่งที่ทำให้ทุกคนอิจฉา แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาทุ่มเทไปเท่าไหร่ ในใจของชายคนนี้จะต้องไม่เหมือนคนอื่นแน่นอน เธออยากจะเปิดออกดูจริงๆ
“รีบออกรถ!” ฟางเหยียนสั่งคนขับรถ หวังชิงชิงประทับใจขึ้นอีกขึ้น
ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณชายทำในตอนนี้ ก็เพื่อปกป้องตัวเอง!
ความเป็นห่วงของฟางเหยียน ถือว่าเธอเกิดมาชาตินี้ไม่เสียชาติเกิดแล้ว อย่างน้อยก็เคยมีความรู้สึกที่ถูกคนอื่นปกป้องมาแล้ว และยังมีถึงสองครั้ง!