ในขณะเดียวกันนี้ มีรถลินคอล์นเพิ่มความยาวคันหนึ่งมาจอดข้างๆฟางเหยียน มีหญิงสาวขายาวสวยคนหนึ่งลงมาจากรถ สาวสวยคนนี้ไม่ใช่ใคร เป็นผู้รับผิดชอบคนนั้นของฟางซื่อกรุ๊ป หวังชิงชิง
“คุณชาย คุณไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ?” หลังจากที่หวังชิงชิงลงจากรถแล้ว อันดับแรกเลยคือมองไปที่ฟางเหยียน แล้วถามอย่างเคร่งเครียด
เย่ชิงหยู่ไม่รอฟางเหยียนตอบ แล้วส่งเสียงออกสองคำ “คุณชาย!”
เธอมองฟางเหยียนด้วยสีหน้าไม่เชื่อ แล้วมองไปที่หวังชิงชิง ทำให้หวังชิงชิงเรียกว่าคุณชายได้นอกจากคุณชายของฟางซื่อกรุ๊ปแล้วยังมีใครอีก?เธอเรียกฟางเหยียนว่าคุณชาย?ถ้าเป็นอย่างนี้ ฟางเหยียนก็คือคุณชายของฟางซื่อกรุ๊ปเหรอ?
เย่ชิงหยู่มองฟางเหยียนอย่างไม่เชื่อแล้วถาม “คุณ คุณคุณคือคุณชายของฟางซื่อกรุ๊ป?”
สายตาของฟางเหยียนที่มองเย่ชิงหยู่ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย แล้วกล่าว “ใช่ ผมคือคุณชายของตระกูลฟาง ฟางเหยียน!”
“ไม่ใช่!” เย่ชิงหยู่งงไปหมดแล้ว เธอส่ายหน้าแล้วถาม “เมื่อกี๊คุณพูดว่าเป็นพลตรีประเทศหวา หรือคุณชายตระกูลฟางกันแน่?”
ไม่ว่าใครก็รับตัวตนแบบนี้ของคนนั้นที่ตัวเองคิดว่ารู้จักดีที่สุดในเวลาอันสั้นได้หรอก ไม่ว่าจะเป็นพลตรีของกองทัพ หรือคุณชายตระกูลฟาง ทั้งสองตัวตนไม่ว่าจะเป็นตัวตนไหนก็บงการทุกสรรพสิ่งได้ แต่ทว่าตัวตนทั้งสองนี้ล้วนเป็นตัวตนของฟางเหยียนเองทั้งนั้น นี่ทำให้เย่ชิงหยู่รับไม่ไหว
ฟางเหยียนขยับเข้าไปใกล้เย่ชิงหยู่ เอื้อมมือไปจับแขนของเธอ แล้วกล่าว “ผมเป็นทั้งสองอย่างนั่นแหละ ผมเป็นพลตรีของประเทศหวา และยังเป็นคุณชายของตระกูลฟาง แต่ ผมคือสามีของคุณ ฟางเหยียนที่เล่นกับคุณมาตั้งแต่เด็ก เจ้าเหยียนของคุณ”
เย่ชิงหยู่มองไปที่หน้าของฟางเหยียนจากระยะไกล เธอสะอื้น และลังเล นี่เป็นครั้งแรกที่เธอคิดว่าฟางเหยียนที่อยู่ตรงหน้าแปลกหน้า แปลกหน้าถึงขั้นที่ตัวเองไม่รู้จัดเลยแม้แต่น้อย เธอไม่กล้าเชื่อ ว่าคนที่นอนข้างๆตัวเองจะมีตัวตนที่น่าตะลึงขนาดนี้ เย่ชิงหยู่ในตอนนี้ รับฟางเหยียนแบบนี้ไม่ไหว
เธอยกมือทั้งสองข้างผลักฟางเหยียนไป ส่ายหน้าแล้วถาม “คุณยังมีเรื่องอะไรโกหกฉันอีก?”
เย่ชิงหยู่รู้สึกเหมือนตัวเองคือลูกแกไร้เดียงสาตัวหนึ่ง ที่ไม่ว่าใครจะเล่นตลกอะไรก็ได้ แม้แต่ตัวตนแท้จริงของสามีตัวเองเธอยังไม่รู้เลย นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวตน ไม่ใช่เรื่องที่เขากระทำ ต่างจากความสัมพันธ์ของพ่อและแม่ของตัวเองโดยสิ้นเชิง
ฟางเหยียนส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่มีแล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกคุณ ความจริง…”
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก คุณไม่มองว่าฉันเป็นภรรยาของคุณตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คุณหลอกฉันมาตลอด” น้ำตาของเย่ชิงหยู่ค่อยๆไหลริน เธอถอยหลังส่ายหน้าอย่างแรง
หลังจากที่ถอยไปหลายก้าวแล้ว จู่ๆเธอก็ส่งเสียงโกรธ ร้องไห้ฮือฮือฮือออกมา หันหลังแล้ววิ่งไป
แสงไฟสาดส่องไปที่เธอ เมื่อมองจากแผ่นหลังของเธอทำให้รู้ได้ว่าเธอกำลังเจ็บปวด ในเวลานี้ เธอรู้สึกเหมือนถูกทิ้งอย่างไม่ไยดีอย่างไรอย่างนั้น แม้แต่ฟางเหยียนที่เธอคิดว่าตนเข้าใจดีที่สุดแล้วยังเป็นคนแปลกหน้า ตัวเองไม่เข้าใจเขาเลยแม้แต่น้อย เขาเป็นสามีของตัวเอง แต่เขากลับไม่บอกอะไรเธอสักอย่าง เขาเคยมองเธอเป็นภรรยาบ้างมั้ย?
ฟางเหยียนยืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน ยืนมองหลังของเธอที่ค่อยๆจากไปภายใต้เสียงไฟของถนน
หวังชิงชิงเห็นเหตุการณ์นี้ ก็มึนงง พลตรีของประเทศหวา?ถ้างั้นตัวตนของคุณชายยังเป็นพลตรีด้วยงั้นเหรอ?
อีกด้านหนึ่งเป็นพลตรี นี่มันยิ่งใหญ่ขนาดไหนกันเนี่ย?หรือที่คุณท่านของตระกูลฟางพูดว่ามีอะไรให้ฟังคุณชาย ที่แท้เขาก็คือพลตรี อายุน้อยขนาดนั้นแล้วได้เป็นพลตรี แล้วใครจะรู้ว่าเขาเจอกับอะไรมาบ้าง?
นอกจากอิจฉาฟางเหยียนแล้ว แววตาของหวังชิงชิงยังปรากฏความน่าสงสารออกมาอีกด้วย เธอยากที่จะเชื่อว่าฟางเหยียนวัยรุ่นที่เดิมทีสะดวกสบายจะเจอกับอะไรมาบ้าง ถึงได้รับตำแหน่งพลตรีประเทศหวา นี่ไม่ใช่ตำแหน่งที่มีความสัมพันธ์ภายในแล้วจะเป็นได้ ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ต้องขยันและทุ่มเทจึงจะได้มันมา
หวังชิงชิงเห็นแววตาเสียใจของฟางเหยียน จึงรู้สึกตัวขึ้นมา เธอกะพริบตา แล้วกล่าวอย่างอึดอัดว่า “ขอโทษค่ะ คุณชาย เป็นความของฉันทั้งหมด!ฉันไม่รู้ว่านายหญิงยังไม่รู้ว่าคุณคือ…”
ฟางเหยียนยกมือขึ้นมาขัดคอหวังชิงชิง แล้วกล่าว “ไม่เป็นไร ไม่ช้าก็เร็วเธอต้องเผชิญหน้ากับมัน ไม่ช้าก็เร็วเท่านั้น”
“งั้น ฉันไปตามกลับมาให้คุณนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรแค่อธิบายให้ชัดเจนก็ไม่มีปัญหาแล้ว” หวังชิงชิงตั้งใจจะไล่ตามไป
แต่ถูกฟางเหยียนห้ามไว้ เขาส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ต้องตามไป ให้เธออยู่เงียบๆคนเดียวไปก่อนก็ดี”
“แต่!” หวังชิงชิงจะพูดต่อ จู่ๆนักรบที่สวมชุดคอมแบทเดินมา ตะเบ๊ะ แล้วถาม “จอมพลโผ้จวิน จะให้ฆ่าทุกคนของตระกูลเซียวทั้งหมดเลยมั้ยครับ?”
ฟางเหยียนเงียบไปชั่วขณะ แล้วกล่าว “ไม่ต้อง แม้ความผิดที่เซียวเจิ้นเที่ยนทำไว้เพียงพอที่จะล้างบางทั้งตระกูลได้ แต่ครอบครัวของพวกเขาไม่รู้อะไรด้วยพาพวกเขาทั้งหมดไปที่ชายแดนภาคเหนือ ให้พวกเขามีชีวิตอย่างคนธรรมดาทั่วไปก็พอแล้ว”
“รับทราบ!” นักรบคอมแบทตะเบ๊ะอีกครั้ง จากนั้นหันหลังแล้วเดินจากไป
หวังชิงชิงที่ใจเหม่อลอยไปตอนนี้เริ่มกลับมามีสติอีกครั้ง เธอคิดว่าฟางเหยียนเป็นคนที่ฆ่าคนไม่เลือกหน้า เมื่อกี๊ตอนอยู่ด้านในเธอยังอ้อนวอนอยู่เลย แต่ ตั้งแต่ไหนแต่ไรฟางเหยียนไม่ได้เป็นพวกฆ่าคนไม่เลือกหน้า
ฟางเหยียนแบบนี้ ทำให้เธอชื่นชมไม่น้อย
เห็นท่าทีของฟางเหยียน ไม่ต้องถามก็รู้ว่าคนที่โผล่มาตอนหลังนั้นก็ถูกเขาจัดการแล้วเช่นกัน
ฟางเหยียนเลือดเย็น แต่ไม่ได้เลือดเย็นจนถึงขั้นไร้ความรู้สึก ตระกูลเซียวเป็นเพียงหุ่นเชิด ทุกคนที่เขาฆ่าล้วนต้องตายอยู่แล้ว ผู้คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรของตระกูลเซียว เขาไม่มีทางฆ่าแน่นอน ที่บอกว่าฆ่าพวกเขา ก็พูดต่อหน้าของเซียวเจิ้นเที่ยนเท่านั้น ทำให้เขาตกใจกลัว จนพูดถึงองค์กรนั้นออกมาก็เท่านั้น
“คุณชาย!” หวังชิงชิงเรียกอย่างระมัดระวัง
ฟางเหยียนอืม แล้วถามหวังชิงชิง “ทำไมเหรอ?”
“ฉันถามอะไรคุณหนึ่งอย่างได้มั้ยคะ?” หวังชิงชิงถามอย่างเกรงใจ
ฟางเหยียนกล่าว “ว่ามา”
“ตัวตนของคุณคือพลตรีของประเทศหวาจริงมั้ยคะ?” ต่อให้ได้ยินเขาพูดออกมาแล้วหนึ่งครั้ง แต่เธอยังอยากถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง
ฟางเหยียนจ้องตาเธอ แล้วกล่าวอย่างไม่คิด “ใช่!” คำเดียว พูดด้วยความมั่นใจ
หวังชิงชิงขมวดคิ้ว แล้วกล่าว “คุณชาย ฉันอยาก…”
ในขณะที่หวังชิงชิงพูดว่าฉันอยากอยู่นั้น จู่ๆมือถือของฟางเหยียนดังขึ้น เขายกมือถือขึ้นมาขัดจังหวะหวังชิงชิง แล้วรับสาย หวังชิงชิงยิ้มอย่างอับอาย เธออยากพูดว่าเธออยากลาออกจากฟางซื่อกรุ๊ปแล้ว แต่กลับถูกคุณชายขัดจังหวะ
หวังชิงชิงต้องกลับไป กลับไปที่ดินแดนตะวันตก เป็นที่ๆเธอเติบโตมา ตระกูลโจวได้ลั่นวาจาออกมาแล้ว เธอต้องกลับไป ต่อให้คุณชายเป็นพลตรีขงกองทัพ แต่ตระกูลโจวกลับลึกลับมากกว่า บางที่เธอพูดว่าชอบฟางเหยียนออกมาไม่ได้ แต่เธออยากจะบอกลาฟางเหยียน แต่การขัดจังหวะของฟางเหยียนในครั้งนี้ กลับขัดจังหวะการบอกลาของเธอ
ฟางเหยียนรับสาย ปลายทางเป็นเสียงร้อนรนของชายคนหนึ่งดังขึ้นมา “จอมพลโผ้จวิน เกิดเรื่องกับรองผู้นำเทียนขุยแล้วครับ!”