“ซ่งฉาวอู่!” เฉินถิงเย่ว์ตะคอกชื่อของซ่งฉาวอู่อย่างดัง
ซ่งฉาวอู่ลำบากใจ เฉินถิงเย่ว์คือคณบดีโรงพยาบาลเขต ตำแหน่งระดับสูง มีความสัมพันธ์มากมายในระดับสูงที่สุด แต่ฟางเหยียนมาจากกองทัพ เป็นสายเลือดอันได้รับความชอบธรรมคนเดียวของประเทศหวา ตำแหน่งสะท้านฟ้าดิน
เขาไม่มีทางออก ทำได้เพียงส่งเสียง “ลงมือ!”
เห็นกองกำลังระดับภูมิภาคเข้ามา เฉินถิงเย่ว์ตะคอกซ่งฉาวอู่อย่างเกรี้ยวกราด “ซ่งฉาวอู่ คุณไม่รักตัวกลัวตายใช่มั้ย วันนี้ถ้าคุณแตะต้องตัวผมแม้แต่น้อย ผมไม่มีทางปล่อยคุณไว้แน่”
ซ่งฉาวอู่กัดฟัน เขารู้ดีว่าอันไหนสำคัญกว่ากัน คำสั่งของฟางเหยียนคือพระราชโองการ ตำแหน่งของเขาสิถึงสูงศักดิ์มีอำนาจแท้จริง
คนซวยจะเป็นเขาไม่ได้ เฉินถิงเย่ว์นี่มั่วมากจริงๆ
เมื่อนึกถึงจุดนี้ เขาโบกมือเรียกสองคนมา แล้วกดเฉินถิงเย่ว์ไว้อย่างแน่น
หลังจากที่ถูกกดไว้แล้ว เฉินถิงเย่ว์ตะคอกออกมาด้วยหน้าดำคร่ำเครียด “ได้ ได้ คอยดูก็แล้วกัน”
ฟางเหยียนขี้เกียจสนใจเขา แล้วใช้สายตาเมื่อกี๊จ้องมองไปที่หญิงสาวคนนั้นแล้วถาม “บอกความจริง กับผมมา!”
หญิงสาวมองคณบดีอย่างตกใจจนคลั่ง จากนั้นมองฟางเหยียนอย่างตัวสั่น จากสายตาของเธอทำให้รู้ว่า เธอกำลังหวาดผวาคณบดีอยู่ แต่เธอก็ไม่โง่ คนที่อยู่ตรงหน้าเธอนี้ราวกับจะแข็งแกร่งกว่าคณบดีเสียอีก
ด้วยเหตุนี้เธอสะอึกสะอื้น เตรียมที่จะพูด แต่เฉินถิงเยว่กลับส่งเสียงอย่างโหดเหี้ยม “ผมหวังว่าคุณจะพูดความจริง!”
หญิงสาวตัวสั่นขึ้นอีกครั้ง ดูออกชัดเจน ว่ามีลับลมคมนัยจริงๆ! ฟางเหยียนชักตาใส่เฉินถิงเย่ว์ จากนั้นได้ยินหญิงสาวพูดอย่างติดๆขัดๆว่า “เมื่อ เมื่อกี๊ที่ฉันพูดเป็นความจริงทั้งหมดค่ะ! ”
“นี่!” ฟางเหยียนกดแขนของหญิงสาวไว้แน่น แต่แค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น แล้วเขาก็ปล่อยแขนของหญิงสาวออก แล้วกล่าว “ผมหวังว่าคุณไม่โกหกผม ถ้าผมรู้ว่าคุณโกหก จุดจบของคุณจะทุกข์กว่าการตกงานนะ”
เมื่อพูดจบ เขาหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดโทรออก พูดกับปลายสายว่า “เฉินถิงเยว่คณบดีของโรงพยาบาลเขตหนานหลิง ภายในห้านาที ผมหวังว่าจะเห็นหนังสือพ้นจากตำแหน่งของเขา!”
เมื่อเฉินถิงเย่ว์ได้ยินประโยคนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แล้วหัวเราะฮ่าฮ่าฮ่าขึ้นมา แล้วกล่าว “แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ถ่ายหนังอยู่เหรอ?แค่กริ๊งเดียวแล้วจะไล่ฉันพ้นจากตำแหน่ง?แกรู้มั้ยว่าฉันเคยได้รับความดีความชอบมาแล้ว?เด็กน้อย ฉันอยู่มาถึงขนาดนี้ได้ แกคิดว่าตัวตนและตำแหน่งของแกจะบีบฉันได้งั้นเหรอ?แค่วัยวุฒิฉันก็มีมากกว่าแกแล้ว แกให้ความสำคัญตัวเองเกินไปหรือเปล่า!” เขาเพิ่งพูดจบ มือถือก็ดังขึ้น
เขาหยิบมือถือขึ้นมาดู ขมวดคิ้ว จากนั้นเงยหน้ามองฟางเหยียน เขาส่ายหน้า พูดกับตัวเองว่า “ไม่ เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปได้ยังไง!เกี่ยวข้องกับมันได้ยังไงกัน”
“เฉินถิงเยว่ คุณพ้นจากตำแหน่งแล้ว” ปลายสายส่งเสียงทางการอย่างเลือดเย็นออกมา
เฉินถิงเย่ว์เบิ่งตาโตแล้วกล่าว “อะไรนะ?คุณไม่ได้พูดผิดใช่มั้ย?”
“ตู๊ดๆๆ!” ปลายสายวางสายไป เฉินถิงเย่ว์อยู่ในอาการงงงวย
“แก เป็นไปได้ยังไง?ทำไมแค่กริ๊งเดียวก็โทรไปถึงระดับสูงสุดได้?” เฉินถิงเย่ว์ถามอย่างประหลาดใจ นี่คือโทรศัพท์จากระดับสูงสุด สามารถแต่งตั้งและเลิกจ้างทุกๆตำแหน่ง เมื่อสายนี้โทรเข้ามา ไม่มีทางเล่นตลกกันแน่นอน
ซ่งฉาวอู่เคร่งเครียด ดีที่เขายังไม่ขัดแย้งใดๆกับฟางเหยียน ถ้าขัดแย้งแล้วละก็ คนที่จะพ้นจากตำแหน่งก็คือเขาเอง เขารู้สึกไม่คุ้มค่าแทนเฉินถิงเย่ว์ ใกล้จะเกษียณแล้วแท้ๆๆ ไม่เกษียณดีๆแล้วไปใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข ต้องทำจนเป็นเรื่องจนได้ ใกล้จะถึงฝั่งแล้วแท้ๆแต่กลับพังทลายลงเสียก่อน
“พาผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องใด ออกไป!” ฟางเหยียนกล่าวประโยคนี้ออกมาอย่างเลือดเย็น ซ่งฉาวอู่รีบพาคนอื่นออกไปอย่างเชื่อฟัง
หลังจากที่เห็นเฉินถิงเย่ว์ถูกพาออกไปแล้ว ฟางเหยียนได้มองไปยังหญิงสาวที่ตกใจกลัว เขาถามอย่างสงบ “ตอนนี้ พูดได้แล้วใช่มั้ย?”
หญิงสาวไม่ได้โง่ ดูออกถึงยศถาบรรดาศักดิ์ของคนนี้ เธอรีบพยักหน้าแล้วกล่าว “ได้ค่ะ ได้ค่ะ!”
“ความจริงแล้วนี่เป็นคำสั่งของคณบดีค่ะ ตอนที่คนนั้นมาถึงโรงพยาบาลของเรา พวกเราทำตามคำสั่งของจอมพลซ่งให้เขาแช่ในน้ำของยาทุกวัน ไม่ให้เขากินยาตัวอื่น ตอนนั้นทุกคนของโรงพยาบาลล้วนไม่เชื่อว่าใช้ยาอาบแล้วจะทำให้กระดูกเชื่อมกันได้ หนึ่งในนั้นมีคณบดีเฉินด้วยค่ะ แล้วก็อาจารย์ที่ปรึกษาของฉันหวังเต๋อฉาย!แต่ผ่านไป ร่างกายของคนนั้นค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลง กระดูกที่แตกสลายของเขาฟื้นฟูได้จริงๆ เพราะกระดูกที่แตกไม่มีทางหายเชื่อมกลับไปได้ เพราะของที่แตก จะฟื้นกลับมาเองได้อย่างไรกัน?ตัวอย่างเช่นสิ่งของของตัวเอง โยนออกไป มันก็ไม่สามารถกลับมาได้ด้วยตัวเองหรอกนะ!แต่เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว ตอนนั้นคณบดีเฉินและหวังเต๋อฉายรู้สึกแปลกใจ จึงได้ทำการวิจัยคนๆนี้ ตอนทำการวิจัยพบว่า ของเหลวในร่างกายของเขามียาตัวหนึ่งไหลเวียนอยู่ เป็นผลของตัวยาและยาน้ำ ด้วยเหตุนี้เองพวกเขาจึงศึกษาร่างกายของคนนี้อย่างบ้าคลั่ง เจาะเลือดเขา แล้วยังให้เขากินยาเพื่อให้สลบไป เพราะพวกเขากลัวว่าถ้าเขาตื่นขึ้นมา แบบนี้ พวกเขาก็จะสูญเสียโอกาสความสำเร็จที่ได้จากการวิจัยอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ไป พวกเขาบอกว่า ถ้าสามารถวิจัยออกมาได้ สกัดยาที่ออกฤทธิ์พิเศษออกมา และจะเกิดการสั่นสะเทือนของวงการแพทย์ เมื่อเป็นแบบนี้ หลังจากที่เหล่านักกีฬาได้รับบาดเจ็บก็จะได้ไม่ต้องวางมือด้านกีฬาอีกต่อไป”
“ต่อมา ต่อมา…”
หญิงสาวเริ่มพูดไม่ออก ก้มหน้าลง หลังจากที่น้ำตาของเธอไหลออกมาแล้ว จึงได้ตั้งสติใหม่อีกครั้ง แล้วกล่าว “วันนี้ช่วงบ่าย พวกเขาเตรียมจะเอายาให้เขากินอีกครั้ง แล้วยังจะเจาะเลือดเพื่อไปตรวจ แต่ตอนที่เจาะเลือดไปได้ครึ่งทาง จู่ๆคนนั้นก็ตื่นขึ้นมา คนนั้นถามเขาว่าพวกเขากำลังทำอะไร พวกเขาไม่พูด เพียงแค่กดคนนั้นไว้อย่างรุนแรง แล้วยังหาเชือกมาเพื่อมัดเขา ต่อมา ต่อมาร่างกายของคนนั้นได้ระเบิดสิ่งที่น่ากลัวออกมา ทำให้หมอหวังเต๋อฉายหลุดออกไป ต่อมาคนนั้นก็บ้าคลั่งขึ้นมาทันใด แววตาทั้งสองแดงก่ำ แล้วฆ่าพวกเขาทั้งสาม!”
เมื่อฟังคำพูดของหญิงสาวจบ ฟางเหยียนสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วกล่าว “ความโลภของคนเรามันช่างมากเสียเหลือเกิน!นี่เป็นหมอที่ดี และคณบดีที่ดีของโรงพยาบาลเขตหนานหลิงนะเนี่ย!แล้วยังเป็นคนที่ผ่านสงครามมาแล้วด้วย ไม่คิดถึงคนไข้ คิดแต่จะประสบคามสำเร็จ!”
“ทำผิด ก็ต้องยอมรับผิด!” ฟางเหยียนพูดประโยคนี้ออกมาอย่างลึกซึ้ง
เขาไม่คาดคิดว่าโรงพยาบาลเขตแห่งหนึ่ง สถานที่ที่ช่วยชีวิตคนเพื่อความสำเร็จ เอาวีรบุรุษของกองทัพคนหนึ่งมาวิจัย คนแบบนี้ มีชีวิตอยู่แล้วมีค่าอะไร!