บทที่ 26 ตบหน้าตัวเองเสียงดัง
ฟางเหยียนยิ้มเยาะ “ก็คุณบอกเองนี่นาว่าจะสั่งสอนเขาไม่ใช่หรือไง? แบบนี้สะใจกว่าทำร้ายร่างกายเขาเยอะเลยใช่ไหมล่ะ?”
เย่ชิงหยู่รีบแก้ตัว “ช่างเถอะ เขาไม่ได้ตั้งใจ แต่ลงโทษนิดหน่อยก็พอแล้ว”
“ก็ได้ เห้ย โจวซื่อเฉียง ไสหัวไปซะ!” ฟางเหยียนตะโกนใส่โจวซื่อเฉียง
“ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ” โจวซื่อเฉียงราวกับว่าได้รับคำสั่งจากเบื้องบน พลันพยักหน้ารัว ลุกขึ้นจากพื้นทันที
เหล่ารอบรอบข้างเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นอีกละรอก
“เฮ้อ ลุกขึ้นแล้ว! เมื่อกี้ฉันคิดว่าเขาเป็นใบ้ซะอีก?”
“ดูสิ เขาเข้าไปที่ซีหนานกรุ๊ป เป็นพื้นที่ของเศรษฐีอันดับหนึ่งตะวันตกเฉียงใต้อย่างหวงหยวนฉาวนี่เอง!”
“แล้วคนเมื่อตะกี้เป็นใคร? เด็ดขาดชะมัดเลย สั่งให้เขาลุกขึ้นก็ลุกขึ้นเลย ไม่อยากจะเชื่อ”
ฟางเหยียนไม่แยแสคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้น พลางลากเย่ชิงหยู่เดินออกไป
——
ตระกูลจาง
“เพี๊ยะ!” จางฉี่เหาตบโต๊ะด้วยความโกรธ คำรามเสียงดัง “แกว่ายังไงนะ? เย่ชิงหยู่ถูกไล่ออกมา?”
“ครับ คุณปู่ เธอขี่จักรยานไฟฟ้าไปกับฟางเหยียนครับ ไม่ถูกไล่ออกมาสิแปลก ผมเห็นพวกเธอถูกไล่ออกมากับตาเลย”
“โง่ โง่สิ้นดี เซ็นสัญญาที่สำคัญขนาดนี้ ทำไมถึงได้ขี่จักรยานไฟฟ้าไป นางเย่ชิงหยู่ จะบ้าตาย” จางฉี่เหากล่าว พลางทุบโต๊ะไม่หยุด
คนที่ทำธุรกิจคนไหนบ้านที่ไม่รู้ ว่าการขับรถหรูไปเซ็นสัญญาก็เท่ากับสำเร็จแล้วครึ่งหนึ่ง
แต่เย่ชิงหยู่ขี่จักรยานไฟฟ้าไป โง่สิ้นดี
“คุณปู่ ผมว่านางเย่ชิงหยู่หลงตัวเอง ไม่วางใครไว้ในสายตา เธอคิดว่าการที่ท่านหวงยอมเซ็นสัญญากับเธอแล้ว เธอก็เลยไม่ให้เกียรติท่านหวง ขี่จักรยานไฟฟ้าไปเซ็นสัญญา นี่เป็นการตบหน้าท่านหวงชัดๆ เลย เงินทุนก้อนโตของท่านหวง อย่างน้อยๆ ก็ต้องลงทุนให้กับคนที่ไว้วางใจได้ คราวนี้ สัญญาฉบับนี้ถูกเย่ชิงหยู่ทำลายสิ้น”
“ท่านพ่อ ไม่ได้เซ็นสัญญา ก็เท่ากับว่าตระกูลจางจบเห่กัน!”
“โง่! โง่จริงๆ” จางฉี่เหากัดฟันแน่น แทบอยากจะฉีกเย่ชิงหยู่เป็นชิ้นๆ
ปัญหาที่ตระกูลจางเผชิญในตอนนี้คือความอยู่รอด หากไม่ได้เซ็นสัญญา นั่นก็เท่ากับว่าตระกูลจางตายแหง
“ไห่เฟิง โทรหาเย่ชิงหยู่เดี๋ยวนี้ สั่งให้เธอกลับมาพบฉันเดี๋ยวนี้” จางฉี่เหาออกคำสั่ง
จางไห่เฟิงควักโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาเย่ชิงหยู่ทันที
ในตอนนี้เย่ชิงหยู่โอบเอวของฟางเหยียน เพื่อซึมซับความรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นหัวใจจากฟางเหยียน
“รอเดี๋ยว ฟางเหยียน นายจอดรถก่อน!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นหางเหยียนจอดรถทันที เย่ชิงหยู่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
เมื่อกดรับสาย น้ำเสียงที่ได้ใจของจางไห่เฟิงก็แล่นผ่านมาทันที “เย่ชิงหยู่ คุณปู่สั่งให้เธอกลับมา ตอนนี้เขาโกรธมาก”
ในความคิดของเขา เย่ชิงหยู่ต้องแอบร้องห่มร้องไห้อยู่ที่มุมไหนสักแห่ง
“ได้ ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้” เย่ชิงหยู่ตัดสายทิ้ง
“มีอะไร?” ฟางเหยียนกล่าวถาม
เย่ชิงหยู่ตอบ “ไม่รู้เหมือนกัน จางไห่เฟิงโทรศัพท์มา เขาบอกว่าคุณตาโกรธมาก ประหลาด”
ฟางเหยียนพยักหน้าอย่างใช้ความคิด ก่อนปลอบใจ “ไม่เป็นไร!”
เย่ชิงหยู่พยักหน้า ไม่พูดอะไรอีก
ไม่นาน ทั้งคู่ก็กลับมาถึงบ้านตระกูลจาง
ทั้งคู่เดินไปที่ห้องประชุมทันทีที่จอดรถเสร็จสรรพ
เมื่อเดินเข้าไปในห้องประชุม จางซื่อตง จางซื่อข่าย จางฉี่เหา จางไห่เฟิงและคนอื่นๆ อยู่กันพร้อมหน้า
จางฉี่เหาสีหน้าบูดบึ้ง ทีท่าของเขาทำให้เย่ชิงหยู่หวาดหวั่น
“ชิงหยู่ วันนี้เธอไปเซ็นสัญญายังไง?” จางฉี่เหาน้ำเสียงแข็งกระด้าง ราวกับกำลังสืบสวนผู้ร้าย
ชิงหยู่นิ่งไป ก่อนที่จะตอบคำถาม “หนู หนูขี่จักรยานไฟฟ้าไป!”
“บ้าสิ้นดี!” จางฉี่เหาตบโต๊ะเสียงดัง โกรธจนตัวสั่นระริก
“หวงหยวนเฉาเป็นใครแกไม่รู้หรือไง? เขาเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของตะวันตกเฉียงใต้ เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงของประเทศ การที่เขาลงทุนให้กับตงข่ายกรุ๊ปของเรา เป็นบุญที่สั่งสมมาหลายชาติภพของเรา แต่แก กลับขี่จักรยานไฟฟ้าไปเซ็นสัญญา นี่เป็นการตบหน้าตงข่ายกรุ๊ปชัดๆ? ตบหน้าตงข่ายกรุ๊ปยังไม่หนักหนา เท่ากับการที่แกไม่ให้เกียรติคุณหวงหยวนฮาว”
เย่ชิงหยู่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย “ถ้างั้นจะให้หนูไปยังไง? หนูไม่มีรถสักหน่อย?”
เย่ชิงหยู่ไม่มีรถ มีเพียงแค่จักรยานไฟฟ้าคันเดียวเท่านั้น
ส่วนคนนี้นั่งอยู่ในที่นี้ ทุกคนต่างมีรถกันทั้งนั้น
จางฉี่เหากล่าว “แล้วพี่ชายแกไม่มีหรือไง? อาใหญ่แกไม่มีหรือไง? อารองแกไม่มีหรือไง? หากแกให้พวกเขาไปด้วย ก็ไม่ต้องมีจุดจบแบบนี้?”
เย่ชิงหยู่งงหนักเข้าไปใหญ่ เธอกล่าวถามอย่างประหลาดใจ “จุดจบอะไร? คุณตา”
“จุดจบอะไร? ยังจะสร้างภาพอยู่อีก?” จางฉี่เหาลุกขึ้นยืน เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แกคิดว่าเรื่องที่แกถูกผู้จัดการของซีหนานกรุ๊ปไล่ออกมาฉันไม่รู้หรือไง? ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันเห็นกับตาตัวเองทั้งหมด”
“เย่ชิงหยู่ อย่าหาว่าฉันว่าแกเลยนะ การเซ็นสัญญา เรื่องที่สำคัญขนาดนี้ แกทำแบบนี้ ไม่ถูกไล่ออกมาสิแปลก”
จางไห่เฟิงพูดออกมาแบบนี้ เย่ชิงหยู่ก็เดาได้ทันทีว่าต้องเป็นฝีมือของจางไห่เฟิงที่สร้างปัญญาขึ้นมาแน่
เธอตอกกลับประโยคของจางไห่เฟิง “ใช่ ฉันถูกไล่ออกมา แต่ ใครบอกแกว่าฉันไม่ได้เซ็นสัญญา?”
ใบหน้าที่ได้ใจของจางไห่เฟิงนิ่งค้างอยู่กับที่ แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ตกตะลึง
“แกเซ็นสัญญาแล้วอย่างนั้นเหรอ? เป็นไปได้ยังไง” จางไห่เฟิงไม่ยอมเชื่อ เขาเห็นกับตาว่าเย่ชิงหยู่และฟางเหยียนถูกไล่ออกมา
เย่ชิงหยู่นำสัญญาที่ถูกเซ็นเรียบร้อยออกมา “ฉันต้องเซ็นอยู่แล้วสิ!”
เมื่อจางฉี่เหาได้ยินคำพูดของเย่ชิงหยู่ ดวงตาของเขาเบิกกว้างทันที
“อะไรกัน!” เย่ชิงหยู่วางหนังสือสัญญาเอาไว้ตรงหน้าจางฉี่เหา “ดูเอาเองแล้วกัน นี่ไม่ใช่หนังสือสัญญาแล้วอะไรล่ะ?”
จางฉี่เหาตะโกนเสียงดัง “แว่นตา เอาแว่นตามาให้ฉัน”
จางซื่อข่ายหยิบแว่นตาออกมาให้กับจางฉี่เหา เขาพลิกอ่านหนังสือสัญญาทีหน้าละ อย่างละเอียด
จางไห่เฟิงมองดูตราประทับบนหน้ากระดาษ พร้อมส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ เย่ชิงหยู่ถูกไล่ออกมาแล้วแท้ๆ นี่ต้องเป็นหนังสือสัญญาของปลอมแน่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่!”
“ของปลอม? จางไห่เฟิง แกนี่ไร้ยางอายจริงๆ แต่ละวันไม่ทำอะไร แถมยังสร้างเรื่องไปทั่ว คุณตา หนูว่าคนไม่เอาไหนอย่างจางไห่เฟิง ไม่คู่ควรที่จะมีรถ ไม่ควรได้รับโอกาสใดๆ ทั้งนั้น” ฟางเหยียนกล่าวต่อจางฉี่เหาและจางไห่เฟิงอย่างเย็นชา
“ฟางเหยียน เรื่องของตระกูลจางเกี่ยวอะไรกับแกด้วย? อย่าลืมนะ ว่าแกนามสกุลฟาง” จางซื่อตงถลึงตาโตด้วยความโกรธ
ฟางเหยียนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เรื่องของตระกูลจางของพวกแกไม่เกี่ยวอะไรกับผมอยู่แล้ว แต่นี่เป็นเรื่องของภรรยาผม จางไห่เฟิงใส่ร้ายภรรยาผม เรื่องของภรรยาผมก็คือเรื่องของผม ทีหลังจะพูดอะไรช่วยดูให้ดีก่อน อย่าสร้างเรื่องไปทั่ว จากวันนี้เป็นต้นไป หากใครกล้าใส่ร้ายภรรยาผม ผมจะทำให้พวกคุณไม่มีจุดยืน”
“ชิงหยู่ เราไปกันเถอะ!” จบประโยค ฟางเหยียนก็จูงมือเย่ชิงหยู่เดินออกจากห้องประชุมไป
หน้าห้อง เย่ชิงหยู่จุดฝีเท้า “คุณตา หากท่านไม่เชื่อใจหนู จะไปถามประธานหยางที่ซีหนานกรุ๊ปเอาเองก็ได้ เลิกเชื่อทุกคำของพี่ชายพูดเถอะค่ะ พี่ชายต้องการอะไร ท่านรู้ดีที่สุด ไม่ใช่หรือคะ?”
จบประโยค ทั้งคู่เดินออกไปทันที เหลือเพียงแค่ตระกูลจางที่ต่างอ้าปากค้างไปตามๆ กัน