“ไม่นะ!”เสียงร้องอย่างโหยหวนที่เหมือนกัน ตามมาด้วยเสียงกร๊อบ แขนของเขาหักอีกครั้ง เทียนขุยทำเหมือนหักฟืนไม้ก็ไม่ปาน สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ไม่แม้แต่กะพริบตาด้วยซ้ำ
ฉากนี้ สิ่งนี้ทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันตกตะลึง!มือสองข้างนี้ต้องแรงมากขนาดไหนที่สามารถหลั่งพลังออกมาได้!
หลังจากที่หักมือทั้งสองข้างของผู้จัดการไปแล้ว เขาก็นั่งก้นจ้ำเบ้าไปกับพื้น ร้องเรียกอยู่ไม่กี่ครั้ง แล้วก็สลบเหมือดไปด้วยความเจ็บปวด!
ฉากนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตกตะลึงอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูก มีบางคนที่ใจเสาะหน่อยค่อยๆเดินออกจากร้านอาหารฝรั่งไปอย่างเงียบๆ
มันเป็นเรื่องปกติถ้าคนคนหนึ่งจะแขนขาหักเพราะขี่จักรยานยนต์หรือเกิดอุบัติเหตุจากการล้ม ล้วนทำให้คนกลัวได้ทั้งนั้น นับประสาอะไรกับการเข้าหักตรงๆแบบนี้!ช่างเป็นการใช้ความรุนแรงเหลือเกิน!
เทียนขุยมีสีหน้าเรียบเฉย เรื่องพวกนี้สำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยจนชิน จนเป็นเรื่องธรรมดา เขาก้มลงไปเก็บโทรศัพท์มือถือของผู้จัดการ กวาดตามองผู้คนโดยรอบ คนที่มองเห็นสายตาเขาแล้ว มีจำนวนไม่น้อยที่พากันหลบ ไม่กล้าจ้องมอง!
ผ่านไปไม่นาน สายตาของเขาก็ไปตกอยู่บนตัวของพนักงานคนหนึ่งที่ร่างกายสั่นเทา หลังจากนั้นก็เดินไปยังเขา ยื่นโทรศัพท์มือถือไปให้เขา แล้วพูดว่า“ถ่ายไว้นะ อย่าลืมโพสต์ลงโซเชียลล่ะ นี่เป็นคำขอของเขา!”
พูดจบ เขายัดมือถือไปให้พนักงานคนนั้น พนักงานจึงทำได้เพียงแค่รับโทรศัพท์มือถือมาอย่าง มือที่ถือมือถือขึ้นมายังคงสั่นไปหยุด!
“คุกเข่า!”
เทียนขุยมองไปยังชายผมทองด้วยใบหน้าเย็นชา สายตาของเขาเต็มไปด้วยการข่มขู่
ชายผมทองรู้สึกร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างทนไม่ไหว กระเดือกของเขาขยับขึ้นลงอยู่หลายครั้ง เป็นเพราะความหวาดกลัวทำให้เขาเปลี่ยนไป เปลี่ยนเป็นคนที่ไม่เหมือนกับคนก่อนหน้าที่หยิ่งยโสจองหอง แน่นอนว่าเขาผิดหวังในตัวชายผมทองเป็นอย่างมาก ในเมื่อเป็นสิ่งที่เขาร้องขอมา เขาต้องทำให้อู่แล้ว
ชายผมทองไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าเขาเข้าใจความหมาย เขารีบส่ายหัวแล้วพูดไปว่า“ไม่ นายจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้ ฉันคืออาจารย์ต่างชาติ เราเป็นคนที่ได้รับการปกป้อง นายจะทำกับฉันอย่างนี้ไม่ได้!”
“ได้รับการปกป้อง?”เทียนขุยพูดทวนสามคำนั้นหนึ่งรอบ หลังจากนั้นก็พูดว่า“ฉันคิดว่านายน่าจะลืมสิ่งที่ฉันพูดเมื่อกี้แล้วนะ ที่นี่คือประเทศหวา ใครมาถึงที่นี่ ก็ต้องเคารพกฎของประเทศหวา นายได้รับการปกป้อง คนที่นี่ก็ได้รับการปกป้องทุกคนเช่นกัน รถของนายทำผิดกฎจราจร คนอย่างนายก็ผิดกฎเหมือนกัน ก็สมควรจะต้องได้รับการลงโทษ”
ชายผมทองโบกมือ แล้วพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย“ได้ ฉันรู้ว่าควรจะทำยังไงแล้ว ตอนนี้ฉันจะไปย้ายรถคันนั้นของฉันออกไป พอใจหรือยัง?ตอนนี้ฉันจะย้ายรถสมควรตายของฉันคันนั้นออกไป”
ต้นเหตุความขัดแย้งมาจากการย้ายรถของตนเอง ตอนนี้ ขอแค่ตนเองนำรถย้ายออกไป ทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดีไม่ใช่เหรอ?คนตรงหน้าทรงพลังเกินไป ตอนนี้ถ้าเขาขัดขืน แน่นอนว่าสู้เขาไม่ได้แน่ ทำได้เพียงก้มหัว
พอได้ยินประโยคนี้แล้ว เทียนขุยอยากหัวเราะมาก เขาคิดว่าตัวเป็นใคร?ถึงได้ออกคำสั่งกับตนเองได้?อยากทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ?ตลกหน่า ถ้าเปลี่ยนคนละก็ เขาอาจจะตอบตกลงก็ได้ แต่น่าเสียดาย คนที่พบเจอคือเทียนขุย!
สีหน้าของเทียนขุยเคร่งขรึมเขาพูดไปว่า“สายไปแล้ว!นายทำให้ฉันเสียเวลาไปตั้งเยอะ ฉันไม่กลัวเสียเวลาที่จะให้นายคุกเข่า”
“นี่ นายทำเกินไปหรือเปล่า เราถอยให้ก้าวหนึ่งแล้วนะ ยอมย้ายรถให้ นายจะเอายังไงอีก?นายคิดว่าต่อสู้เป็นแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ?”หลงซิ่วซิ่วตะโกนใส่หน้าของเทียนขุย
“คุกเข่าซะ!คลานออกไป ฉันอาจจะไม่ให้นายตายก็ได้”เทียนขุยไม่สนใจหลงซิ่วซิ่วแม้แต่น้อย เขาทำเพียงแค่ยกเท้าขึ้น แล้วอ้าขาออก เป็นสัญลักษณ์ให้เขามุดผ่านไป
ชายผมทองที่เห็นฉากนี้ ทันใดนั้นเขาถึงกับทั้งโกรธและอาย เขาชี้ไปที่เทียนขุย แล้วด่ากราดอย่างโมโห“นายคิดว่าตัวเองเป็นใครห้ะ?นายคิดว่าจัดการไอ้สวะพวกนี้แล้ว ฉันจะกลัวนายอย่างนั้นเหรอ?ไม่ ฉันไม่กลัวนายหรอก ไม่มีทาง”
เขาก็ถูกกระตุ้นให้โกรธเช่นกัน หมอนี่เป็นคนที่ได้คืบจะเอาศอก คุกเข่าต่อหน้าคนแบบนี้ ต่อให้ต้องตายเขาก็ไม่ทำ!
เทียนขุยมองเขาด้วยความโกรธ ดูท่า ถูกหักไปหนึ่งนิ้วจะยังไม่พอ!เขาค่อยๆฉีกยิ้มตรงมุมปาก แล้วพูดขึ้นมาว่า“ก็ได้ ในเมื่อนายไม่คุกเข่า งั้นฉันจะช่วยนายเอง!”
พูดจบ เทียนขุยก็เดินไปข้างหน้า จับหมับที่แขนของเขา ท่าทางการเคลื่อนไหวนี้ทำให้ชายผมทองถึงกับเบิกตากว้าง เขายังไม่ทันได้ขยับท่าทางหรือรู้สึกตัวแม้แต่น้อย ก็ได้ยินเสียงดังกร๊อบ สิ่งที่หักไม่ใช่กระดูกตรงแขนของเขา แต่คือขา
เทียนขุยใช้เข่าของตัวเองพยุงเขาของชายผมทอง ทำให้ขาของเขาหันกลับไปหักอีกทาง ขาของเขาจึงทำได้เพียงแค่โค้งไปด้านหน้า แต่ตอนนี้ขาของเขากลับหักงอไปข้างหลังด้วยลักษณะที่บิดเบี้ยว!
“โอ้ย!”ใบหน้าของชายผมทองบิดเบี้ยวทันทีทันใด ด้วยความเจ็บปวด เทียนขุยเริ่มยกเท้าขึ้นแล้วเตะไปข้างหลังอยากโหดเหี้ยม จากนั้นก็มีเสียงดังกร๊อบขึ้นอีกครั้ง ขาของชายผมทองค่อยๆโค้งงอทรุดลงกับพื้น ในปากของเขามีภาษาอังกฤษที่ไม่รู้พูดอะไรออกมาเยอะแยกมากมาย
หลงซิ่วซิ่วเบิกตากว้าง เธอกรีดร้องด้วยความตกใจ“นี่ ปล่อยเขานะ ฉันจะบอกอะไรให้ ปีเตอร์เขาได้รับการคุ้มครองนะ นายจบเห่แน่ ทั้งชีวิตของนายจบเห่หมดแน่นายรู้ไหม”
เทียนขุยไม่พูดอะไร ทำเหมือนไม่ได้ยินว่าหลงซิ่วซิ่วพูดอะไร!
หลงซิ่วซิ่วอยากจะเดินเข้าไป แต่ก็ไม่กล้า เธอกลัวชายหนุ่มที่เหมือนสัตว์ร้ายตรงหน้าของเธอเป็นอย่างมาก
“พ่อของฉันเป็นหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยนะ นายตายแน่ ตายแน่ๆ!”
นิสัยของเธอเหมือนเหลียงเจิ้งมาก ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็มักจะเอ่ยถึงพ่อของตัวเองเสมอ
เทียนขุยกดชายผมทองให้คุกเข่าลงกับพื้น หลังจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปจ้องมองไปที่หลงซิ่วซิ่ว พลางด่ากราด“ไสหัวไปซะ!ผู้หญิงแบบเธอไม่คู่ควรจะมาพูดกับฉัน ถ้าฉันยังได้ยินเธอพูดอีก ฉันจะฉีกปากของเธอซะ”
เธอดูถูกเทียนขุยเป็นอย่างมาก ท่าทางมองคนอื่นต่ำกว่าเมื่อสักครู่ ทำให้เทียนขุยรู้สึกไม่ชอบ น่าสะอิดสะเอียน คนแบบนี้ ต่อหน้าของเทียนขุย ไม่มีสิทธิ์จะคุยกับเขาด้วยซ้ำ!เทียนขุยเป็นใคร?เขาเป็นถึงพลโทของเขตซีหนาน!
หญิงสาวลบล้างความเย่อหยิ่งของตัวเองเมื่อครู่ แล้วหุบปากอย่างว่าง่าย เธอไม่กล้าสงสัยคำพูดของชายหนุ่มคนนี้ เพราะว่าชายกำยำที่ล้มอยู่ที่พื้นเมื่อครู่ยังไม่ฟื้นขึ้นมาเลย เธอกลัวมาก นี่เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้นเธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น
เทียนขุยปล่อยแขนของชายผมทอง แล้วชักขากลับ คราวนี้ สองขาของชายผมทองถึงไปทรุดคุกเข่าลงกับพื้น ปากของเขายังคงพูดภาษาที่ไม่อาจเข้าใจได้ไม่หยุดหย่อน
เทียนขุยหันกลับไปมองพนักงานที่ยังคงยืนสั่นสะท้าน พลางพูดขึ้นมาว่า“ถ่ายเสร็จหรือยัง ถ้าฉันเห็นว่ามีจุดไหนที่ถ่ายไม่ดี ฉันเอาเรื่องนายแน่ นายน่าจะไม่อยากให้ฉันเอาเรื่องใช่ไหม!”
พนักงานพยักหน้าอย่างงกๆเงิ่นๆ รีบจับโทรศัพท์มือถือแน่นขึ้น บันทึกวิดีโอที่อยู่ตรงหน้าของเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ลุกขึ้นมา!เอาแบบเหมือนหมา”เทียนขุยก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าว แล้วพูดอย่างดุดัน
ชายผมทองยังคงใช้ภาษานกของเขาพูดอะไรเรื่อยเปื่อย แต่เทียนขุยกลับพูดอย่างเรียบเฉยไปว่า“ฉันให้เวลานายสามวินาที ถ้านายไม่คลานเข้ามาแล้วล่ะก็ ฉันฆ่านายแน่!ทำให้แกหายไปจากโลกใบนี้ตลอดกาล”
“หนึ่ง!”เทียนขุยนับเลขอย่างทรงพลัง
เวลานี้เอง มีผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาสวมชุดสูทเต็มยศ สวมแว่นตา ดูไปแล้วท่าทางเหมือนคนอ่อนโยน เขามองประเมินเทียนขุยครู่หนึ่ง พลางพูดขึ้นมาว่า“น้องชาย การกระทำของนายอาจจะไม่ผิด แต่แบบนี้มันทำเกินไปหน่อย ฉันเป็นทนาย เนื่องจากเขามาจากต่างประเทศ ได้รับการคุ้มครองอยู่บ้าง ฉันคิดว่าแค่นี้พอแล้วล่ะ”
เทียนขุยมองไปที่ทายคนหนึ่ง พลางเอ่ยถาม“ความหมายของคุณคือ เขาเป็นคนที่ผมแตะต้องไม่ได้?”