คำพูดของเธอชัดเจนมาก เพิ่งจะแต่งเข้ามาก็เบ่งอำนาจแล้ว
ฟางเหยียนไม่สนใจเรื่องการสืบทอดวงศ์ตระกูลแม้แต่น้อย เพราะตำแหน่งของเขาต่างหากที่ทำให้ตระกูลประจบประแจงเขา
“คุณอยากพูดอะไรพูดมาตรงๆดีกว่า!” ฟางเหยียนกล่าวตรงไปตรงมา
ตงฟางหยุนเอ๋อร์ก็ตรงไปตรงมา หลังจากที่หยิบแก้วชาขึ้นมาดื่มแล้ว ก็พยักหน้าแล้วกล่าว “ได้!งั้นฉันจะพูดตรงๆแล้วนะ ที่ฉันแต่งเข้าตระกูลฟางก็เพื่อเป็นนายหญิงคนต่อไปของตระกูลฟาง เดิมทีคำพูดแบบนี้ฉันไม่ควรจะพูดกับคุณในตอนนี้ แต่ฉันกลัวว่าต่อไปจะไม่ได้เจอคุณอีกแล้ว ดังนั้นฉันจึงบอกคุณตอนนี้ ฉันหวังว่าคุณจะล้มเลิกการเป็นผู้สืบทอดของตระกูลฟาง”
ที่แท้ก็เป็นคนตรงๆนี่เอง พูดตรงๆไม่อ้อมค้อม เป็นคุณหนูมานาน จนพูดจาไม่แยกแยะอะไรแล้ว
ฟางเหยียนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
เมื่อเห็นท่าทีของฟางเหยียน ตงฟางหยุนเอ๋อร์จึงพูดต่อไปอีกว่า “คุณคิดดูนะ คุณออกไปจากตระกูลฟางนานขนาดนั้นแล้ว ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลสักเท่าไหร่ คนที่ควรรู้จักก็ไม่รู้จัก ถ้าให้คุณรับช่วงต่อตระกูลฟาง คนที่อยู่ด้านนอกอาจจะยากที่จะอธิบายตัวตนของคุณ แต่ฟางเหมี่ยวไม่เหมือนกัน เขาเติบโตที่นี่ คุ้นเคยกับทุกอย่างที่นี่ และคนนอกก็ยอมรับในตัวตนนี้ของเขา ดังนั้น ฉันคิดว่าคุณไม่เหมาะกับตำแหน่งผู้นำตระกูล!แน่นอน เพียงแค่คุณยอมทิ้งตำแหน่ง อนาคตไม่ว่าคุณจะทำอะไร พวกเราจะสนับสนุนคุณอย่างเต็มที่ ไม่เพียงแค่ตระกูลฟางของคุณที่สนับสนุน ตระกูลตงฟางของฉันก็จะสนับสนุนอย่างสุดความสามารถเช่นกัน!”
ฟางเหยียนดูแคลน จ้องไปที่ตงฟางหยุนเอ๋อร์อย่างไม่ละสายตา นี่เป็นผู้หญิงยังไงกันแน่นะ?แต่งงานวันแรกก็พูดแบบนี้กับตนแล้ว ไม่เข้าใจเหตุผลจริงๆ
เขาถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้ แล้วกล่าว “เกรงว่าสิ่งที่ผมจะทำ พวกคุณช่วยไม่ได้นะสิ!”
เมื่อตงฟางหยุนเอ๋อร์ได้ยินประโยคนี้ ก็ชะงักไป แล้วกล่าว “มีเรื่องอะไรที่ตระกูลตงฟางของฉันและตระกูลฟางทำไม่ได้?ที่ประเทศหวานี้ มีเรื่องอะไรที่พวกเราทำไม่ได้บ้าง?”
ใช่ ในโลกของเธอ ไม่มีเรื่องอะไรที่ตระกูลฟางและตระกูลตงฟางทำไม่ได้!แต่เธอเป็นกบในกะลา แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าโลกภายนอกนั้นกว้างใหญ่ขนาดไหนกัน?
ฟางเหยียนส่ายหน้า แล้วกล่าว “เรื่องที่พวกคุณทำไม่ได้มีถมเถไป อย่าใช้สายตากบในกะลาของคุณมองโลกนี้สิ!อำนาจของพวกคุณก็แค่นิดหน่อยในโลกนี้เท่านั้น”
เมื่อพูดจบฟางเหยียนก็ลุกขึ้น แล้วกล่าว “ขอตัว!”
พูดพลาง เขาก็หันหลังไป ตงฟางหยุนเอ๋อร์หน้าบึ้ง แล้วรีบเดินตามไป จับไหล่ของฟางเหยียน จากด้านหลังของเขา ฟางเหยียนถูกจับจนต้องหยุดลง เขาหันไปมองตงฟางหยุนเอ๋อร์
ตงฟางหยุนเอ๋อร์จับมือของเขา แล้วกล่าวด้วยความตั้งใจว่า “คุณยังไม่ตอบคำถามฉันเลย คุณไม่เป็นผู้สืบทอดวงศ์ตระกูล ได้มั้ย?ให้ฟางเหมี่ยวเป็น เขาเหมาะสมกับการเป็นผู้นำตระกูลนี้มากกว่าคุณ”
แววตาของฟางเหยียนเป็นประกาย แล้วมองยังที่หญิงสาวที่แข็งกร้าวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เดิมทีเขาก็ไม่สนใจตำแหน่งผู้นำของตระกูลฟางอยู่แล้ว ฟางจินหยวนคุกเข่าอ้อนวอนเขาก็แล้ว เขายังไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย แล้วตงฟางหยุนเอ๋อร์ยังกลัวว่าตนจะไปแย่งอีก
ฟางเหยียนไม่พูดพร่ำกับหญิงสาวคนนี้อีก คิดแค่อยากจะออกไปให้เร็วที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงได้สะบัดมือของเธอ เดินไปข้างหน้าอย่างเย็นชา แค่ตำแหน่งผู้นำของตระกูลฟาง เขาจะไปอยากได้ทำไมกัน
ตอนนี้สำหรับเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหาองค์กรนั้นที่อยู่เบื้องหลัง
หลังจากที่เขาเดินไปได้สี่ห้าก้าว ทันใดนั้นตงฟางหยุนเอ๋อร์ก็วิ่งมจากด้านหลัง มาอยู่ที่ด้านหน้าของเขา กางสองแขนออกขวางเขาไว้ เธอกัดฟัน แล้วกล่าวอย่างยืนหยัดว่า “คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลยนะ!คุณต้องตอบคำถามของฉันก่อนแล้วถึงจะไปได้!อย่าเป็นผู้นำของตระกูลฟาง ให้ฟางเหมี่ยวเป็น ได้มั้ย?”
ฟางเหยียนยังคงไม่พูดอะไร เขาไม่อยากตอบคำถามที่น่าเบื่อขาดนั้น และไม่อยากให้เกียรติหญิงสาวคนนี้ด้วย ด้วยเหตุนี้เขาจึงเดินออกจากข้างๆกายของเธอ แต่ จู่ๆตงฟางหยุนเอ๋อร์ก็ทำกิริยาที่ฟางเหยียนไม่ทันได้ระวังตัว
เธอกอดฟางเหยียนไว้แน่น ตัวของเธอแนบชิดกับฟางเหยียน ร่างกายของเธอมีกลิ่นอายของความหอม แว็บเดียว กลิ่นนั้นก็ได้เข้าไปในจมูกของฟางเหยียน
ตงฟางหยุนเอ๋อร์กอดฟางเหยียนไว้แน่น ทั้งคู่ความสูงประมาณกัน เพราะเธอสูงหนึ่งเมตรเจ็ดสิบ ดูไม่เตี้ยไม่กว่าฟางเหยียนเลย เธอมองไปที่ฟางเหยียนแล้วกล่าว “คุณคิดว่าการที่ไม่พูดอะไร แล้วฉันจะดูไม่ออกถึงความทะเยอทะยานที่โฉดชั่วของคุณเหรอ?คุณจ้องตำแหน่งผู้นำตระกูลมานานแล้วใช่มั้ย?ก็นะ ตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงตู ผู้นำตระกูลของตระกูลชั้นนำของประเทศหวา ใครไม่อยากเป็นบ้างล่ะ แต่ คุณคิดว่าคุณมีความสามารถที่จะเป็นได้มั้ย?”
“ขอโทษนะ กรุณาออกไปด้วยครับ!” ฟางเหยียนยกมือขึ้นไปจับแขนของตงฟางหยุนเอ๋อร์ ตงฟางหยุนเอ๋อร์กลับจับแขนของฟางเหยียนไว้แน่น แล้วกล่าว “ไม่ ฉันไม่ปล่อย คุณสัญญากับฉัน แล้วฉันถึงจะปล่อยคุณไป ไม่งั้น อย่าคิดจะได้ไป”
ฟางเหยียนชะงัก มองไปที่ตงฟางหยุนเอ๋อร์แล้วถาม “คุณคิดว่าแค่คุณ จะขวางผมไว้ได้เหรอ?”
ตงฟางหยุนเอ๋อร์สบตากับฟางเหยียน เธอยิ้ม แล้วกล่าว “ฉันขวางไม่ได้ แต่แค่ฉันตะโกน คนด้านนอกก็จะรู้ ถึงตอนนั้นคุณก็จะกลายเป็นคนที่รังแกพี่สะใภ้ คุณไม่อยากถูกตราหน้าแบบนี้หรอกนะ?”
“เหอะๆ!” ฟางเหยียนยกมือขึ้นผลักตงฟางหยุนเอ๋อร์ ตงฟางหยุนเอ๋อร์ถอยหลังไปหลายก้าว เธอขมวดคิ้ว เดิมทียืนอยู่ แต่ตอนนี้นั่งลงกับพื้นไปแล้ว
จากนั้น เธอยกมือขึ้นมาปลดกระดุมลับสองเม็ดที่อยู่บนชุด ตั้งใจจะให้เห็นเนื้อหนัง แล้วเธอยังตั้งใจยกมือเสยผมของตัวเอง ให้เหมือนกับผ่านการขัดขืนมา เธอค่อยๆยิ้มก่อน จากนั้นตะโกนใส่ฟางเหยียนด้วยสีหน้าหวาดกลัว “คุณคิดจะทำอะไร?คุณจะทำอะไรฉัน คุณทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน”
ตงฟางหยุนเอ๋อร์พลางตะโกน พลางถอยหลังไป ทำท่าทีหวาดกลัวอย่างที่สุด
ฟางเหยียนหน้าถอดสี ผู้หญิงคนนี้ ฝีมือการแสดงดีนะ!
ขณะเดียวกัน ด้านนอกได้ยินเสียงจากข้างใน ผู้หญิงผมสีทองหลายคนที่ออกไปเมื่อกี๊วิ่งเข้ามา เมื่อเห็นท่าทางของตงฟางหยุนเอ๋อร์ ทุกคนก็รู้ได้อย่างไม่ต้องพูดว่าเมื่อกี๊เกิดอะไรขึ้น
หนึ่งในผู้หญิงเหล่านั้นพยุงตงฟางหยุนเอ๋อร์ขึ้นมา ยกมือขึ้นมาจัดชุดให้เธอ จากนั้นก็มองไปที่ฟางเหยียนอย่างโมโห แล้วใช้ภาษาจีนที่ไม่คล่องแคล่วพูดออกมา “นี่ คุณทำอะไรอะ?คุณทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกัน?เธอเป็นพี่สะใภ้ของคุณนะ คุณทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน?!”
“ใช่ ดูท่าทางคุณก็เรียบร้อยดีนะ ทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ได้!”
“เมื่อกี๊ตอนที่เขาเข้ามา ฉันก็เห็นว่าสายตาของเขาแปลกๆแล้วล่ะ ดูแล้วไม่ได้เป็นคนดีอะไร”