บทที่ 36 ต่งยู่
ร่างของเขาบังหน้าเย่ชิงหยู่ไว้ครึ่งหนึ่ง ตอนนี้เขาไม่มีทางยอมให้ใครพูดเรื่องบ้านเย่ต่อหน้าเย่ชิงหยู่เด็ดขาด
และยิ่งไม่ยอมให้ใครคิดจะรังแกเย่ชิงหยู่ด้วย!
“แหมแหมแหม เก่งนี่ เลี้ยงหมาไว้ดีมากเลยนะ ไม่เลวเลย รู้จักคุ้มครองเจ้าของซะด้วย” หลิวเหยาเหยาประชดเข้าใส่ฟางเหยียน เธอดูถูกฟางเหยียน ไม่เคยมองหน้าเขาเต็มตาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว
“เอาล่ะ ชิงหยู่ พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะ” เฉินหย่าวิ่งเข้ามาไกล่เกลี่ย
เธอเองก็พึ่งถึง พอเห็นฉากนี้เข้าเลยรีบเข้ามาห้ามทัพ ที่จริงเธอกำลังข่วยหลิวเหยาเหยา ฐานะของฟางเหยียน ตอนนี้เธอเองก็คาดเดาไม่ได้ ยังไงซะก็ไม่ใช่คนที่ใครจะกล้าแหยมได้หรอก
หลิวเหยาเหยาแค่นเสียงหึพลางว่า “เดี๋ยวดูฉันจัดการนายละกัน”
“พี่เหยา ถ้าไงผมเรียกคนมาเก็บไอ้ฟางเหยียนนี่ไหม?” หลัวหยางเอียงคอถามหลิวเหยาเหยา
หลิวเหยาเหยาตอบว่า “ไม่ต้อง คนกระจอกแบบนี้ฉันไม่เห็นอยู่ในสายตาหรอก”
พูดจบเธอก็เดินเข้าไปในโรงแรมนานาชาติเทียนเยว่
ตอนนี้ในโรงแรมได้ประดับไฟไว้หมดแล้ว และมีคนมาไม่น้อย
หลังเฉินหย่าดึงเย่ชิงหยู่เข้าไปในโรงแรมแล้ว เธอหันไปมองฟางเหยียนโดยไม่รู้ตัว ทุกครั้งที่เธอมองฟางเหยียน ก็จะพบว่าฟางเหยียนจ้องมองเธออยู่ เธอหัวเราะอย่างเก้อเขินพลางว่า
“ฟางเหยียน เรื่องวันนั้นขอโทษด้วยนะ ฉัน…”
“เฉินหย่า เธอออกมากับผมครู่หนึ่งได้ไหม?” ฟางเหยียนตัดบทถามโพล่งเลย
“หา!” ยังไม่ทันได้สติ ฟางเหยียนก็ดึงแขนเธอลากไปทางห้องน้ำ
“พวกเธอทำอะไรกันน่ะ?” เย่ชิงหยู่เห็นฟางเหยียนลากเพื่อนรักไปทางห้องน้ำต่อหน้าต่อตาเธอ ก็ปวดหัวมาก เรื่องแบบนี้เป็นใครก็รับไม่ได้หรอก แถมนี่ยังมีคนมากมายมองดูอีก
นายฟางเหยียนนี่จัดการเรื่องอะไรไม่ดีเลย รู้อย่างนี้ไม่พาเขามาด้วยดีกว่า
เธอโกรธจนกระทืบเท้าอยู่กับที่
ฟางเหยียนลกเฉินหย่าไปที่หน้าห้องน้ำถึงปล่อยมือ เฉินหย่ายืนพิงกำแพง ส่วนฟางเหยียนอยู่ใกล้เธอมาก ที่จริงเฉินหย่าเองก็หน้าตาดีเหมือนดาราเลย แถมยังหุ่นดีอีก
เธอตื่นเต้นมาก มองฟางเหยียนอย่างหวั่นๆ ไม่กล้าพูดแม้สักคำ
ฟางเหยียนหัวเราะพลางว่า “ผมว่า คุณน่าจะรู้ว่าควรทำยังไงแล้วใช่ไหม?”
“รู้ค่ะ รู้” เฉินหย่าตกใจจนสีหน้าซีดเผือด
“รู้ก็ดีแล้ว”
ตอนนี้เองมือถือของฟางเหยียนดังขึ้น เขาหยิบมือถือออกมารับสายก็จากไป
ทิ้งเฉินหย่ายืนหอบหายใจอยู่ที่เดิม
“อ้าว ทำไมมายืนอยู่นี่คนเดียวล่ะ? หมาตัวนั้นของเธอไปไหนกับเฉินหย่าล่ะ?” พอเห็นเย่ชิงหยู่ยืนอยู่คนเดียว หลิวเหยาเหยาก็เข้ามากระแทกแดกดันเย่ชิงหยู่ต่อทันที
เย่ชิงหยู่ยิ้มเย็นว่า “เกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ?”
หลิวเหยาเหยายกมือขึ้นลูบกระโปรงของเย่ชิงหยู่พลางหัวเราะว่า “กระโปรงของเธอนี่ฉันก็มี ฉันซื้อมาสองแสนแปด ของเธอนี่เท่าไหร่ล่ะ? ของปลอมล่ะสิ?”
หลัวหยางหัวเราะร่วนว่า “ยังต้องถามอีกหรอก อย่าว่าสองแสนแปดเลย ตอนนี้ในกระเป๋าหล่อนน่ะมีถึงสองหมื่นแปดนะ ผมจะเรียกหล่อนว่าแม่เลย”
คำพูดทำสีหน้าเย่ชิงหยู่ร้อนผ่าว กระโปรงเธอตัวนี้เป็นของปลอมจริงๆ แต่ก็ซื้อมาราคาเก้าร้อย ทั้งตัวเธอไม่มีเงินสองหมื่นแปดจริงๆ
เธอไม่คิดจะตอแยกับหลิวเหยาเหยาอีก เลยหมุนตัวจะเดินไป แต่กลับโดนหลิวเหยาเหยากระชากดึงจับไว้
พอกระชาก จี้สร้อยบนคอเย่ชิงหยู่ก็เผยออกมา
“อ้าว อัญมณีเลือดทอง” หลิวเหยาเหยาร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ
เสียงเรียกนี้ดึงดูดความสนใจคนไม่น้อย ทุกคนต่างพุ่งเป้าสายตาไปที่อัญมณีเลือดทองที่คอเย่ซินหยู่
เย่ชิงหยู่สีหน้ากระอักกระอ่วน รีบเก็บอัญมณีเลือดทองที่ฟางเหยียนให้ยัดใส่เข้าเสื้อ
พูดกับหลิวเหยาเหยาว่า “เธออย่ามายุ่งกับฉัน วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์ตอแยกับเธอ ฉันไม่อยากยุ่งกับเธอด้วย”
“เหอะเหอะ เธอไม่มีอารมณ์ ฉันมีนี่” หลิวเหยาเหยาหาเรื่องต่อ
“เย่ชิงหยู่ เธอรู้ที่มาของอัญมณีเลือดทองบนคอเธอไหมหะ? เธอรู้ราคาของมันไหม?”
เย่ชิงหยู่ไม่ค่อยรู้เรื่องอัญมณีเท่าไหร่นัก เธอรู้แต่ว่ามันแพงมาก แทบจะเรียกว่าล้ำค่าเลยทีเดียว เหมือนกับหยกสกุลเหอสมัยจ้านกว๋อ หยกสกุลเหอนี่เป็นอัญมณีล้ำค่าที่สามารถแลกเมืองสิบเมืองได้เลยทีเดียว
“อัญมณีเลือดทองนี่หายากมาก ว่ากันว่าทั่วโลกมีแค่สามชิ้น หนึ่งชิ้นโดนราชินีประเทศYเอาไปเมื่อสมัยศตวรรษที่เก้าสิบเอาไป อีกชิ้นที่พิพิธภัณฑ์ของโลก คนรวยระดับโลกซื้อไปด้วยเงินหนึ่งร้อยล้านยูโรเพื่อฉลองวันเกิดให้กับภรรยา ยังมีอีกชิ้น ว่ากันมาถูกฝังอยู่ในสุสานของพระนางซูสีไทเฮา หลายปีก่อนมีจอมโจรสุสานคนหนึ่งเอามาขายให้พ่อฉัน และพ่อฉันส่งต่อให้ฉัน ดังนั้นที่คอเธอชิ้นนี้น่ะของปลอม”
พูดจบ หลิวเหยาเหยาหยิบอัญมณีเลือดทองที่คอออกมา สีทองสุกอร่ามท่ามกลางแสงไฟ
นี่ก็ดึงดูดสายตาคนรอบข้างอีก คนไม่น้อยล้อมวงเข้ามาดูอัญมณีเลือดทอง
“ใช่ ใช่ นี่สิถึงเป็นอัญมณีเลือดทองของจริง เด่นสะดุดตามากจริงๆ”
“ว้าว แสงอร่ามมากเลย”
คนไม่น้อยร้องอุทานออกมา หลิวเหยาเหยาในตอนนี้กลายเป็นเจ้าหญิงท่ามกลางผู้คน ส่วนเย่ชิงหยู่อับอายขายหน้าประชาชีเหมือนลูกเป็ดขี้เหร่ อัญมณีเลือดทองบนตัวเธอ เธอเองก็ไม่รู้ว่าจริงหรือปลอม นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่ฟางเหยียนให้เธอ
ฟางเหยียนมอบมรกตที่มีราคาห้าสิบล้านให้คุณแม่เป็นของขวัญวันเกิด ที่ให้ตัวเธอมานี่ไม่น่าจะราคาถูก
แต่ฟางเหยียนมีเงินเกินห้าสิบล้านหรอ?
ถึงแม้ว่าเพื่อนเขาจะใจป้ำให้เงินเขามากมาย เป็นใครก็ไม่มีทางให้เงินเพื่อนห้าสิบล้านหรอก!
เขามีบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตหลิวเหอฉาง หลิวเหอฉางมอบอัญมณีราคาห้าสิบล้านให้เขาเป็นการตอบแทน
ต่อให้ใครมีเงิน ก็คงไม่คิดจะให้ของขวัญเลอค่าแบบนี้มั้ง!
ตอนนี้ อัญมณีเลือดทองที่เธอใส่เหมือนกับของหลิวเหยาเหยา หลิวเหยาเหยาก็พูดซะมันดูอลังการมาก ของตัวเธอเองก็ต้องเป็นของปลอมอยู่แล้ว ต่อให้ฟางเหยียนเก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางหาอัญมณีที่มีแค่สามชิ้นในโลกมาได้หรอก
เธอก้มหน้าลงต่ำพลางว่า “ขอโทษ ฉันไม่ได้อยากทะเลาะกับเธอหรอกนะ”
พูดจบก็ทำท่าจะเดินไปแต่หลัวหยางกับหมาประจบตัวหนึ่งรีบมาขวางทางเธอไว้
หลิวเหยาเหยาหัวเราะว่า “เหอะ ไม่อยากทะเลาะกับฉัน เธอหาของปลอมมาห้อยคอก็ว่าแย่แล้ว
ทำไมต้องเป็นอัญมณีเลือดทองด้วยล่ะ? อัญมณีนี้มีอีกชื่อว่าหยกกุ้ยเฟย เธอไม่คิดว่าตัวเองกำลังเหยียดหยามอัญมณีนี้หรอ?”
“ใครบอกว่าที่คอเธอน่ะของจริง?” ผู้หญิงผมสั้นคนหนึ่งก้าวออกมา
เธออยู่ในชุดผู้ชาย แต่กลับปกปิดความงามตามธรรมชาติที่แผ่ซ่านออกมาไม่ได้เลย
ว่ากันว่าไก่งามเพราะคน คนงามเพราะแต่ง แต่ตัวเธอกลับไม่ต้องแต่งอะไรเลย
ทุกคนมองผู้หญิงคนนี้อย่างแปลกใจ เธอกอดอกพลางว่า “อัญมณีเลือดทองที่คอเธอน่ะของปลอม ของจริงไม่สะท้อนแสงแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นของปลอมที่ทำเลียนแบบ ในท้องตลาดน่ะมีเยอะ ถ้าฉันเดาไม่ผิด ของเธอน่ะ ราคาตลาดก็ประมาณสองแสน”