บทที่ 37 เลือดขยับแล้ว
“เฮ้ย เธอเป็นใครน่ะ? อย่ามาพูดจาซี้ซั้วนะ รู้ไหมว่านี่ใคร? นี่เป็นลูกสาวของหลิวต้าหลง ตระกูลหลิวเมืองจินโจว” หลัวหยางปกป้องเจ้านายพัลวัน
ผู้หญิงคนนั้นมองหลิวเหยาเหยาอย่างดูถูกพลางว่า “ฉันไม่สนหรอกว่าหล่อนเป็นใคร แต่หล่อนพูดผิด ฉันก็ต้องแก้สิ พูดผิดแล้วยังไม่ยอมให้คนอื่นแก้หรือไง? เธอพูดเองสิว่า ซื้อหยกนี้มาสองแสนหรือเปล่า?”
หลิวเหยาเหยาแอบตะลึง พูดถูกเผงเลย เธอซื้อหยกนี้มาสองแสนจริงๆ
แต่เมื่อกี้เธอพูดไปแล้วว่าของตัวเองเป็นของจริง ตอนนี้จะมาบอกว่าของปลอม ไม่ใช่ตบหน้าตัวเองหรือไง?
ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เธอไม่มีทางยอมรับหรอก เลยแค่นเสียงหึร้องถามว่า “เธอเป็นใคร?”
สายตาผู้หญิงผมสั้นกวาดมองไปทางทุกคนหนึ่งรอบ ก่อนบอกว่า “ฉัน ต่งยู่ ลูกสาวของต่งโป๋เหวิน”
พอพูดออกมาปุ๊บ มีคนไม่น้อยส่งเสียงฮือฮาขึ้น
“ลูกสาวต่งโป๋เหวิน นี่เป็นลูกสาวของต่งโป๋เหวินราชาโบราณวัตถุแห่งซีหนานหรอ”
ต่งโป๋เหวินเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียงแห่งซีหนาน เป็นตระกูลโบราณสืบทอดมานับพันปีแล้ว
เป็นอันดับท็อปในประเทศหวาเลยทีเดียวเรื่องหยก
“เหอะ เธอจะรู้อะไรล่ะ?” หลิวเหยาเหยาพูดด้วยสีหน้าไม่ดีนัก
ต่งยู่หัวเราะร่วนว่า “พูดเรื่องหยกล่ะก็ ฉันรู้ดีกว่าเธอละกัน ฉันโตมากับหยกเลยนะ อัญมณีเลือดทองนี่มีจุดเด่นอยู่อย่างคือ เลือดมันขยับได้ เพราะเลือดของอัญมณีเลือดทองสามารถขยับได้ ทำให้ราคาแพงลิ่วขนาดนี้ ทั่วโลกมีแค่สามชิ้น ในเมื่อเธอบอกว่าของตัวเองเป็นของจริง งั้นกล้าทดสอบไหมล่ะ?”
ต่งยู่ยกมือขึ้นพลางถามหลิวเหยาเหยา หลิวเหยาเหยาพูดอย่างมีชนักติดหลัง “ฉัน ฉัน ทำไมฉันต้องเชื่อเธอล่ะ?”
“งั้นเธอล่ะ? ของเธอนั่นเอามาทดสอบหน่อยได้ไหม?” ต่งยู่หันมาถามเย่ชิงหยู่
“อ๋า!” เย่ชิงหยู่กุมหน้าอก ถ้าบอกว่าของหลิวเหยาเหยาเป็นของปลอมล่ะก็ งั้นของเธอจะจริงได้ไงล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นของหายากขนาดนั้น ฟางเหยียนจะเอามาได้ยังไง
ในตอนที่เธอคิดจะปฏิเสธ เสียงฟางเหยียนดังขึ้นว่า “ลองได้ครับ!”
ระหว่างที่พูด ฟางเหยียนยกมือขึ้นวางบนไหล่เย่ชิงหยู่ หัวเราะว่า “ไม่เป็นไรหรอก ให้เธอลองเถอะ”
“แต่ว่า…” เย่ชิงหยู่เตรียมจะพูดว่านี่เป็นของปลอม แต่เธอไม่ได้พูดมันออกมา ช่วยไม่ได้ เธอเลยหยิบอัญมณีเลือดทองออกมา
ต่งยู่ถือมันในมือ หยกนี่ดูด้านเล็กน้อย ไม่สว่างเท่าของหลิวเหยาเหยา แต่เลือดด้านในกลับดูสดเหมือนของจริง
เธอหันไปถามหลิวเหยาเหยาอีก “ว่าไง? เธอกล้าไหมล่ะ?”
หลิวเหยาเหยาลังเลเล็กน้อยก่อนว่า “ทำไมฉันจะไม่กล้า”
ระหว่างพูดเธอก็หยิบอัญมณีเลือดทองของตัวเองออกมา ถ้าคนอย่างเธอหลิวเหยาเหยาไม่มีของจริง เย่ชิงหยู่ยิ่งไม่มีทางใหญ่
ถ้าตัวเองไม่กล้า คนทั้งหมดต้องคิดว่าเธอกลัวแน่
“ดี!” ต่งยู่รับคำอย่างสะใจ ตอนนี้เอง ต่งยู่วางหยกทั้งสองอันไว้คนละชามที่มีน้ำใส่ เดิมหยกสองอันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครึ่งนาทีผ่านไป ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแล้ว
เลือดที่อยู่ในอัญมณีเลือดทองของเย่ชิงหยู่ขยับแล้ว!
“อ๊า ขยับแล้วจริงๆ” ทุกคนต่างส่งเสียงฮือฮา ไม่คิดว่าพวกเขาจะได้เห็นอัญมณีเลือดทองของจริง
ต่งยู่เองก็รู้สึกตะลึงเหมือนกัน อัญมณีเลือดทองเป็นของชั้นเลิศในหมู่หยกด้วยกัน แทบจะเรียกว่ามีเงินก็ซื้อไม่ได้ เธอไม่คิดว่า อัญมณีเลือดทองที่เคยบันทึกไว้ในหนังสือจะมีอยู่จริง เลือดข้างในยังขยับได้อีก
เย่ชิงหยู่เองก็ตะลึงเหมือนกกัน เธอคิดไม่ถึงว่าอัญมณีเลือดทองที่ฟางเหยียนให้เธอจะเป็นของจริง
ต่งยู่ส่ายหัวพลางถอนหายใจว่า “อัญมณีเลือดทองที่อยู่กับราชินีประเทศYนั่น เลือดด้านในไม่ขยับนานแล้ว ชิ้นที่อยู่ที่พิพิธภัณฑ์โลกก็เพราะช่วงอายุที่ยาวนานเลยไม่ขยับแล้วเหมือนกัน ไม่คิดว่า ชิ้นนี้จะยังขยับได้อยู่! นี่มันเหลือเชื่อ เหลือเชื่อจริงๆ!”
“เป็นไปไม่ได้ เธอจะมีอัญมณีเลือดทองของจริงได้ยังไง?” หลิวเหยาเหยาร้องอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“เหอะ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้หรอก นี่ของคุณ คุณหนูหลิว” ต่งยู่เอาอัญมณีเลือดทองของหลิวเหยาเหยาคืนให้เธอ
จากนั้นหันไปทางเย่ชิงหยู่ พลางถามว่า “คุณหนูเย่ หยกชิ้นนี้ ฉันถามได้ไหมคะว่าได้มาจากไหน?”
“ขโมยมา มันต้องขโมยมาแน่ๆ ตอนนี้ทั้งตัวมันน่ะมีไม่ถึงหนึ่งหมื่นด้วยซ้ำ จะมีหยกแบบนี้ได้ยังไง” หลิวเหยาเหยาชี้ตะโกนไปที่เย่ชิงหยู่อย่างไม่ยอมแพ้
หลัวหยางก็พูดขึ้น “นั่นสิ หยกแบบนี้จะเป็นของหล่อนได้ยังไง?”
“พอซะทีได้ไหมเธอ หยกนี่ต่อให้อยากขโมยก็ต้องมีหนทางไปขโมย ในเมื่อเธอบอกว่าเขาเป็นขโมย งั้นเธอไปขโมยซักชิ้นมาให้ฉันดูหน่อยสิ? เฮ้อ ปัญญาอ่อนไหมเธอน่ะ” ต่งยู่พูดอย่างไม่ไว้หน้าสักนิด
หลิวเหยาเหยาโกรธจนคลุ้มคลั่ง เธอชี้หน้าต่งยู่ตะคอกว่า “เธอถือดียังไงมาด่าฉันหละ?”
ต่งยู่เหล่หลิวเหยาเหยาด้วยหางตา ไม่เห็นเธอในสายตาสักนิด
และหันไปถามเย่ชิงหยู่ต่อ “คุณคะ ขอถามได้ไหมคะว่า คุณได้หยกนี่มาจากที่ไหนกัน?”
ฟางเหยียนหัวเราะว่า “นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่ผมให้ภรรยาผม หยกนี้คู่ควรกับภรรยาผมเท่านั้น”
ระหว่างที่พูด ฟางเหยียนใส่อัญมณีเลือดทองไว้ที่คอเย่ชิงหยู่ต่อหน้าทุกคน
เย่ชิงหยู่ทำตัวไม่ถูก เธอไม่เชื่อเลยสักนิดว่าที่คอตัวเองห้อยเงินหนึ่งร้อยล้านยูโรไว้
ที่จริงเลือกในหยกนี้ตายนานแล้ว ที่ถูกคือ ไม่ใช่ตายแล้ว แต่สูญเสียพลังชีวิตไปแล้ว ตอนฟางเหยียนโดนบีบให้เสียเลือดที่ตึกว่านฉง ก็เลยเอาเลือดสดของตัวเองใส่เข้าไป ทำให้ปลุกพลังชีวิตของหยกนี้ขึ้นมา
คนธรรมดาอาจจะไม่เข้าใจการกระทำนี้ แต่ฟางเหยียนไม่ใช่คนธรรมดา
“คุณคะ ขอถามหน่อยได้ไหมว่า คุณได้หยกนี่มาจากไหน?” ต่งยู่ถามฟางเหยียน
ฟางเหยียนตอบ “เพื่อนให้มาครับ”
“แต่ว่า หยกนี้…เป็นเครื่องประดับที่กุ้ยเฟยหรือฮองเฮาสมัยก่อนประดับ คุณคิดว่าประดับภรรยา คุณ มันเหมาะสมหรอ?” ต่งยู่คิดอยากได้หยกนี้มาไว้เอง
“ผู้หญิงของผมก็คือฮองเฮา ผมว่าเธอเหมาะสมเธอก็เหมาะสมครับ”
พอพูดจบ เขาจูงมือเย่ชิงหยู่เดินออกจากโรงแรมนานาชาติเทียนเยว่ต่อหน้าทุกคน
เย่ชิงหยู่กระตุกไปทั้งร่างเมื่อได้ยินฟางเหยียนพูดแบบนี้ เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนพิกล
ฟางเหยียนในตอนนี้เหมือนบอสใหญ่เลย
ต่งยู่มองตามคนทั้งคู่ที่จากไป และอดริษยาไม่ได้ เธอริษยาที่เย่ชิงหยู่ได้สามีดีแบบนี้
หลิวเหยาเหยากำหมัดแน่น โกรธจนกัดฟันกรอด เธอถลึงตาใส่ต่งยู่พลางตะโกนด่าว่า “นังสารเลว อยากตายจริงๆใช่ไหม?”
ต่งยู่ตะลึง หันกลับไปมอง เห็นพวกหมารับใช้หลายตัวข้างกายหลิวเหยาเหยาต่างดาหน้าเข้ามาหาต่งยู่ราวกับหมาบ้า
“แค่กแค่กแค่ก!” ทันใดนั้น มีเสียงไอค่อกแค่กดังขึ้น
พอหันไปก็เห็นหลัวเทียนเยว่พาการ์ดเจ็ดแปดคนเดินเข้ามา เขาเห็นฉากเมื่อกี้ทั้งหมด สำหรับคุณผู้ชายท่านนั้น เขาไม่กล้าเข้าไปทักทายด้วยซ้ำ กลัวว่าจะทำเขาไม่สบอารมณ์
“ทำไม? คุณหนูหลิวคิดจะก่อเรื่องในถิ่นผมหรอ?”
หลิวเหยาเหยารู้จักหลัวเทียนเยว่ดี เลยรีบก้มหัวพลางว่า “ไม่ใช่ค่ะ คุณเทียน! ฉันแค่ล้อเล่นกับคุณหนูคนนี้เท่านั้นเอง”
“ขอโทษนะ คุณต่งยู่” พูดจบ เธอพาคนของเธอออกไปจากโรงแรมนานาชาติเทียนเยว่
แต่เธอมีหรือจะยอมรามือแค่นี้ ถ้าเป็นเย่ชิงหยู่เมื่อก่อน เธออาจจะไม่กล้าทำอะไร แต่เย่ชิงหยู่ในตอนนี้ เธอมีวิธีการร้อยแปดชนิดฆ่าหล่อนได้เลย!
เธอควักมือถือออกมาโทรศัพท์
“อาเปียว พาคนมาซักหลายคน ฉันจะสั่งสอนคน”
หลิวเหยาเหยาเท้าเอว พูดอย่างโกรธแค้น