เมื่อเห็นอารมณ์ของฟางเหยียน เถาไห่หลงไม่ได้พูดออกมาทันที แต่หลังจากที่เงียบไปสักพักแล้ว จึงได้ถามขึ้นมาว่า “อ้อ คุณฟาง คนที่ให้มีดกับคุณไม่ได้พูดอะไรกับคุณเหรอ?”
ฟางเหยียนพยักหน้ากล่าวอย่างไม่ไตร่ตรองใดๆ “เขาพูดนะ พูดออกมาแบบนี้ ดาวเก้าดวงเรียงตัว นักปราชญ์จุติ ปีศาจจลาจล ฟ้าดินอลหม่าน ผลัดเปลี่ยนยุค สำนักต่างๆไม่ระส่ำระสาย สวรรค์มีประตูมังกร ใต้หล้ามีเพลิงเสวน
เมื่อฟังจบ สายตาของเหล่าผู้เฒ่าล้วนเต็มไปด้วยความสงสัย ดูออกชัดเจนมาก ว่าพวกเขาก็ไม่เข้าในสิ่งนี้เช่นกัน
เถาไห่หลงกลืนน้ำลาย แล้วกล่าว “ถ้าพูดแบบนี้ ความหมายของเขาคือใต้หล้าจะเกิดความวุ่นวายงั้นดิ?”
ตอนนี้ในยามบ้านเมืองสงบรุ่งเรืองเกิดคำทำนายแบบนี้ขึ้น ทำให้คนยากที่จะเชื่อได้จริงๆ
ฟางเหยียนพยักหน้ากล่าวอย่างครุ่นคิด “บางทีอาจหมายถึงใครบางคนก็ได้นะ”
ทุกคนต่างเงียบกริบ แต่ดูจากคำพูด คำทำนายนี้ไม่เป็นมงคลเอาเสียเลย!
หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว ฟางเหยียนและเทียนขุยได้ออกจากวิลล่าดอกพีช
ผู้เฒ่าหลายคนกำลังยืนอยู่ที่ประตูของวิลล่าดอกพีช เถาไห่หลงเดินมาที่ประตูรถของหวงหยวนฉาว แล้วถามอย่างเป็นกังวลว่า “ท่านหวง วัยรุ่นสองคนนั้นเป็นใครกันแน่? พวกเขาจะไม่เป็นอะไรจริงๆใช่มั้ย?”
หวงหยวนฉาวดูแคลน แล้วกล่าว “ไม่ต้องเป็นห่วง อย่าว่าแต่จะไม่เป็นอะไรตอนอยู่ในประเทศเลย! ต่อให้อยู่ที่ต่างประเทศพวกเขาก็ไม่เป็นอะไร รู้ไว้ได้เลย ว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรเขา”
นี่คือเทพของประเทศหวา ฝันร้ายของศัตรูในสงคราม คนแบบนี้ ไม่ว่าไปที่ไหน คนที่กลัวก็มีแต่จะมีแต่ฝั่งตรงข้ามเท่านั้น
“งั้น พวกเขาทั้งสองเป็นคนที่มาตากกองทัพมั้ย?” เถาไห่หลงมองหวงหยวนฉาวแล้วถามอย่างแปลกใจ ความจริงแล้วก็มีแค่คนของกองทัพเท่านั้นที่จะอธิบายตัวตนของเขาได้ เมื่อกี๊ที่ทั้งสองแสดงความเข้มแข็งออกมา ไม่ได้เป็นความเข้มแข็งที่คนทั่วไปมีกัน หลังจากที่เถอไห่หลงได้ยินคำพูดนั้นของเทียนขุยแล้ว ก็ผุดความคิดแบบนี้ขึ้นมา
หวงหยวนฉาวหน้าเปลี่ยนสี แล้วกล่าว “ประธานเถา เมื่อกี๊คุณก็ถามเขาเองแล้วไม่ใช่เหรอ? คำพูดที่พวกเขาไม่ยินยอมที่จะพูด ถ้าผมพูดออกไป ผมก็จะเป็นคนต่ำทรามที่ไม่ยึดมั่นในคุณธรรมสิ คุณอยากเห็นผมเป็นคนแบบนี้งั้นเหรอ?”
เมื่อเถาไห่หลงนึกคิดก็เป็นดังนี้จริง ทำได้เพียงรู้สึกไม่ดี แล้วกล่าว “ทราบแล้วครับ! แต่พอได้ยินคุณพูดแบบนี้ ผมก็สบายใจแล้ว”
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเถาไห่หลง หวงหยวนฉาวบึนปากกล่าว “ผมไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นนะ”
—
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ที่ตระกูลถังมอบให้ ฟางเหยียนเริ่มมองมุกเทพที่อยู่ในห้อง
เขาหยิบมาวางไว้ในมือดูไปดูมา ไม่ว่าดูยังไงก็ไม่เห็นรายชื่อ เขาใช้มีดที่เป็นสนิมนั้นปฏิสัมพันธ์กัน แต่ก็ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ราวกับได้เสียพลังเทพของเขาไปแล้ว
เทียนขุยเห็นการกระทำของฟางเหยียน จึงได้ถามว่า “จอมพลโผ้จวิน มุกเทพเม็ดนี้ทำให้ท่านฟูื้นฟูพลังได้หรือไม่?”
ฟางเหยียนส่ายหน้า จากนั้นพยักหน้าอีกแล้วกล่าว “ใช่ ทำให้ผมฟื้นฟูพลังได้หกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่แปลกก็คือ ความรู้สึกนั้นได้หายไปแล้ว ผมพยายามลองพลังของมุกเทพแล้ว แต่ไม่อาจที่จะใช้ความรู้สึกนั้นได้อีกแล้ว”
เทียนขุยชะงัก แล้วถาม “งั้น ท่านยังอยากฝังมุกเทพเม็ดนี้อีกมั้ย?”
“ต้องฝัง!” ฟางเหยียนกล่าว “ของชิ้นไหนที่ไม่ใช่ของของพวกเรา ต้องคืนกลับไป!จะได้ไม่เกิดเดือดร้อน”
เทียนขุยพยักหน้าอย่างตั้งใจ จากนั้นเข้าใจในทันทีแล้วกล่าว “บางทีมุขเทพนี้ต้องบูชามั้ง ตอนที่เราเอาออกมาจากตระกูลเจี่ย เจี่ยเกิงจื่อเป็นผู้บูชาอยู่”
ฟางเหยียนพยักหน้ากล่าวอย่างครุ่นคิดแล้ว “ใช่ บางทีใช่ บางทีไม่ใช่ ช่างมัน ผมศึกษาดูก่อนก็แล้วกัน อ้อ ขับรถมาทั้งวัน คุณไปพักผ่อนก่อนก็แล้วกัน!”
“ครับ งั้นผมลงไปก่อนนะครับ” เทียนขุยพยักหน้าตอบอย่างตั้งใจ
ฟางเหยียนไม่พูดอะไรต่อ เพียงแต่ถือมุขเทพนั้น แล้วครุ่นคิด
เทียนขุยอีกฝ่ายหลังจากที่กลับถึงห้องแล้ว ก็ได้ถอดชุดออก โชว์เนื้อหนังออกมา ให้เห็นร่างกายที่กำยำ เขายืนหน้ากระจก มองกล้ามเนื้อของตัวเอง บนใบหน้าเริ่มมีหนวดยาวขึ้นมา
เขาลูบหนวดของตัวเองหน้ากระจก จากนั้นได้มองไปที่หัว
เขาค่อยๆยกมือขึ้นไปจับหัว เจ็บ ความเจ็บปวดที่ออกมาจากใจได้เกิดขึ้น
ความจริงแผลภายนอกของเขาหายดีแล้ว แต่บาดแผลครั้งนี้ทำให้จิตวิญญาณของเขาได้รับการกระทบกระทั่ง
จิตวิญญาณของเขาไม่ได้อ่อนแอ เพียงแต่ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะแพ้ได้ราบคาบขนาดนั้น!
เทียนขุยเป็นทหารที่ทะนงตน เป็นทหารกล้าที่ยอมตายในสนามรบแต่ไม่ยอมแพ้ เขาจะยอมให้คนอื่นเล่นงานเขาแบบนั้น และเหยียดหยามเขาอย่างนั้นได้ย่างไรกัน!
นึกไม่ถึงว่าอ๋าวไท่ใช้หมัดแปดทิศทำร้ายเขา หมัดแปดทิศเป็นวิชาหมัดที่สืบทอดต่อๆกันมาของตระกูลเขา พ่อของเขาให้ความสำคัญกับหมัดแปดทิศกว่าอะไร เอาคำพูดพ่อของเขามาใช้ หมัดแปดทิศเป็นวิชาหมัดที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกทำลายวิชาหมัดทุกวิชาได้ ถ้าเขารู้ว่าลูกชายของเขาถูกหมัดแปดทิศทำร้ายมา ไม่รู้ว่าเขาจะเจ็บปวดใจสิ้นหวังขนาดไหน
เทียนขุยเกลียด เกลียดตัวเองทำไมตอนนั้นถึงได้แย่ขึ้นนั้น นึกไม่ถึงว่าแม้แต่ผู้เฒ่ายังเอาชนะไม่ได้!
แล้วยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่คือ ไอนั่นใช้หมัดแปดทิศทำร้ายตัวเอง ใช้วิชาของตัวเองทำร้ายตัวเอง เป็นการไม่ให้เกียรติตัวเองอย่างที่สุด!
“อ๋าวไท่!” เทียนขุยกัดฟัน ตะโกนสองคำนี้ออกมาจากก้นลึกของจิตใจ เหมือนกับจะกินเขาทั้งเป็น
การเหยียดหยามของอ๋าวไท่ที่มีต่อเขา ได้ฝังลึกเข้าไปในหัวของเขาแล้ว สักวันหนึ่ง เขาจะต้องฆ่าอ๋าวไท่ด้วยน้ำมือของตัวเอง โดยฆ่าเขาด้วยหมัดแปดทิศให้ได้!
รุ่งเช้าวันรุ่งขึ้น มีโทรศัพท์เข้า ดังจนทำให้ฟางเหยียนที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมา เขารับสาย ปลายสายเป็นเสียงของผู้เฒ่าที่เสียงสั่นๆ “หมอเทพฟาง ท่านกลับมาหรือยัง?”
ฟางเหยียนลุกขึ้นมานั่งบนเตียง นี่เป็นเสียงของถังเสี่ยนจง เดิมทีวันนี้เขาวางแผนว่าจะไปหาเหล่าเห้อพ่อบ้านคนนั้นของถังเสี่ยนจง ไม่คาดคิดว่าเขาจะโทรหาตัวเองตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อได้ยินเสียง เหมือนกับเกิดอะไรบางอย่างขึ้น
“ผมกลับมาแล้ว ทำไมเหรอครับ?” ฟางเหยียนถามอย่างสงบ
ถังเสี่ยนจงกล่าว “ไม่ได้การแล้วครับ หมอเทพฟาง เมื่อคืนมีคนลักพาตัวถังยู่ไป เหล่าเห้อไล่ตามไป จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมา ท่านมาที่นี่หน่อยได้มั้ยครับ?”
“ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้!” ฟางเหยียนตอบกลับไปแล้ววางสาย
เมื่อพูดจบเขาก็ลงจากเตียงไป โทรหาเทียนขุย ไม่นานทั้งคู่ก็ออกไปอย่างรวดเร็ว
ตอนที่มาถึงตระกูลถัง พระอาทิตย์เพิ่งจะขึ้น ตระกูลถึงสว่างไสว เสียงผู้คนดังเจี๊ยวจ๊าว เมื่อฟางเหยียนเดินเข้าไปในตระกูลถัง ก็เห็นถังเสี่ยนจงที่เดินไปเดินมาอยู่ในสวน พอเขาเห็นฟางเหยียน ก็เดินมาอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของถังเสี่ยนจงแย่มากๆ ตาดำคล้ำ แค่ดูก็รู้ว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้นอนทั้งคืน
“หมอเทพฟาง ท่านมาถึงเสียที!” ถังเสี่ยนจงเดินไปที่ฟางเหยียนอย่างร้อนรน เกือบจะร้องออกมาแล้ว