“โผ้จวิน งั้นตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดี?” เทียนขุยถามอย่างโกรธจัด เขาไม่ได้ฆ่าอ๋าวไท่กับมือ ในใจนี่หดหู่สุดๆ! เวลาพูด เขายังทนไม่ไหวหันไปถลึงตาใส่ศพอ๋าวไท่หนึ่งที
ฟางเหยียนยืดตัวตรงช้าๆพลางว่า “พวกเราไป! พาถังยู่กลับบ้านก่อน”
ถังยู่ที่อยู่อีกด้านตะลึงเป็นไก่ตาแตกไปนานแล้ว พอเห็นฟางเหยียนลงมืออัดอ๋าวไท่เธอก็ตะลึงงงแล้ว เดิมคิดว่าฟางเหยียนเป็นแค่คุณชายที่ได้รับการปกป้อง เธอไม่คิดว่าเวลาฟางเหยียนลงมือแล้วจะเฉียบขาดขนาดนี้
พลังการต่อสู้เหมือนวีรบุรุษในละครเลย ขยับนิดเดียวก็คว้าหมับเข้าคอหอยอีกฝ่ายเลย แถมยังทำง่ายดายมากด้วย เธอไม่รู้จักระดับนินจาอะไรเลย รู้แต่ว่าตาแก่นั่นดุร้ายมาก แต่กลับดูสู้ไม่ได้ต่อหน้าฟางเหยียนอย่างนั้น แถมยังแสดงความกลัวที่น่าอนาถและเหนื่อยใจด้วย มันแสดงให้เห็นได้ชัดว่า ฟางเหยียนแข็งแกร่งกว่าตาแก่นั่นมากนัก
มิน่าวันนั้นเขาถึงใช้สายตาอย่างราชามองกดเย่เทียน ที่แท้เขาแข็งแกร่งขนาดนี้เอง
พระเจ้า นี่ตนได้รู้จักคนร้ายกาจขนาดนี้ ถังยู่อดกลืนน้ำลายดังเอื๊อกไม่ได้ เธอหันไปมองฟางเหยียนด้วยสีหน้าดีใจตื่นเต้น สายตาที่มองราวกับสาวน้อยลุ่มหลงก็ไม่ปาน
“ไปเถอะ!ถังยู่” ฟางเหยียนหันมองถังยู่ที่นั่งเหม่ออยู่พลางว่า
ถังยู่อามาหนึ่งคำ ก่อนได้สติกลับมา และรีบรับคำทันที “ได้!”
จากนั้นเธอเดินตามฟางเหยียนไปอย่างทื่อๆ ไม่นานทั้งหมดก็ขึ้นรถไป
ระหว่างนั่งบนรถ ถังยู่ค่อยๆได้สติคืนมา เธอหันหัวไปมองฟางเหยียนที่นั่งข้างตน ฟางเหยียนในตอนนี้หลับตาทั้งสองข้าง เอนพิงที่นั่งด้านหลัง เหมือนกำลังหลับ
สมองของเธอย้อนนึกถึงตอนทั้งคู่เจอกันครั้งแรก เธอไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าจะชอบหมอนี่
แต่ต้องยอมรับจริงๆว่า เธอชอบฟางเหยียนจริงๆ ต่อให้เขาจะเย็นชา แต่เขาก็อบอุ่น เอาเหตุการณ์เมื่อกี้เป็นตัวอย่างก็ได้ เขารู้ว่าเธอกลัว เลยยกมือขึ้นมาจับมือเธอไว้ พอได้ยินเสียงระเบิด ยังหันมากอดเธอเอาไว้ เห็นได้ชัดเลยว่าเขาเป็นห่วงเธอ
อีกอย่าง ถ้าเขาไม่ห่วงเธอ คงไม่วิ่งมาช่วยเธอถึงที่นี่ พอคิดถึงตรงนี้ หัวใจถังยู่เหมือนอาบไปด้วยน้ำผึ้งหวาน ไม่นานก็มีความคิดไม่ดีแทรกเข้ามา เขามีเมียแล้ว! คนดีขนาดนี้ทำไมต้องมีเมียแล้วด้วยนะ? ถ้าเขาไม่มีเมีย มันจะดีแค่ไหนนะ
ทันใดนั้น เธอตบขาผ่างร้องว่า “แย่ล่ะ เราไม่ได้เอาศพลุงเห้อกลับมาด้วย”
คราวนี้ทำให้ฟางเหยียนที่หลับตาพักผ่อนอยู่เปิดตาโพลงทันที ความเร็วในการขับรถของเทียนขุยลดลงอย่างเห็นได้ชัดด้วย
เธอหันไปมองฟางเหยียนพลางว่า “ขอ ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ฟางเหยียนส่ายหัวบอก “ไม่เป็นไร ศพลุงเห้อน่ะให้บ้านคุณมาจัดการเก็บเองละกัน! รถของผมไม่มีทางเอาศพขึ้นได้”
นี่เป็นรถหงฉี อย่าว่าเหล่าเห้อที่ตายแล้วเลย ต่อให้เป็นตอนมีชีวิตอยู่ ก็ไม่คู่ควรนั่งรถคันนี้
“ค่ะ!” ถังยู่รับคำเสียงเบา ดวงตาคู่ที่มองฟางเหยียนเริ่มทอประกายเร่าร้อนขึ้น
ฟางเหยียนเห็นสายตาถังยู่ เขามองมันผ่านๆ จากนั้นก็ดึงสายตากลับไปหลับตาใหม่ ตอนนี้เขาคิดแต่เรื่ององค์กรสัตว์เพลิง องค์กรนั่นคิดจะทำอะไรกันแน่?หาคนมากขนาดนั้น ไหนจะตระกูลต่างๆอีก หรือคิดจะกบฏจริงๆ? แต่งเสริมกองกำลัง เตรียมพร้อมใช้กำลังพล มันสมเหตุสมผลกับองค์กรที่อยู่สงบนิ่งมาหลายปีจะทำ
ไม่ทำ หรือไม่ก็ทำแล้วไปให้สุด!
ไม่ว่าเป้าหมายของพวกเขาจะเป็นอะไร การฆ่าเทียนหม่า ฆ่าลุงเย่ พวกเขาต้องชดใช้กับการกระทำนี้! ฟางเหยียนต้องหาองค์กรนี้ให้ได้ และกำจัดมันทิ้งซะ องค์กรนี้ต้องโดนเขาทำลายแน่
การคงอยู่ของพวกเขาเป็นผลร้ายไม่ใช่ดี คิดทำแบบนี้กับตนมาตลอด หาเรื่องตายชัดๆ!
ครึ่งชม.ผ่านไป รถเดินทางมาถึงหน้าคฤหาสน์ตระกูลถัง พอรถจอดลง ฟางเหยียนลืมตาขึ้น ถังยู่ถึงยอมดึงสายตากลับมาจากใบหน้าฟางเหยียนอย่างอาวรณ์
เธอเปิดประตูจะลงจากรถ ฟางเหยียนพูดเสียงเรียบว่า “คุณกลับไปเถอะ พวกเรายังมีเรื่องต้องจัดการ! บอกคุณปู่คุณไปเก็บศพเหล่าเห้อ แล้วก็เก็บศพให้ตาแก่นั่นไปด้วยเลยละกัน !”
“คุณ คุณไม่เข้าบ้านฉันก่อนหรอ?” ถังยู่ถามอย่างประหลาดใจ
ฟางเหยียนพยักหน้าบอก “อืม ไม่ไปล่ะ!”
“งั้น ขอบคุณนะ!” ถังยู่อยากให้ฟางเหยียนไป แบบนี้จะได้อวดความสำคัญต่อหน้าหลินถงได้
ฟางเหยียนรับคำ และไม่ได้พูดอะไรอีก
ถังยู่ลงจากรถไป ยังไม่ทันปิดประตูรถ เธอเรียกขึ้นเหมือนนึกอะไรได้ “จริงสิ!”
“หือ?” ฟางเหยียนมองถังยู่พลางถาม “ทำไม?”
“ถ้า…” สีหน้าถังยู่เริ่มแดงเรื่อ เธอเก็บรวบสองมือไปบนท้องน้อยอย่างเรียบร้อย กลอกตาไปมาระหว่างนิ้วหัวแม่มือทั้งสองอย่างกระอักกระอ่วน จากนั้นมีทีท่าประหนึ่งสาวน้อยเขินอาย พูดเสียงต่ำว่า “ถ้าคุณชอบฉัน ฉันโอเคที่จะลองคบกับคุณดูนะ! ต่อให้คุณมีเมียแล้ว ฉันก็ไม่ว่า! ขอเพียงคุณยอมหย่าเท่านั้นก็พอ”
คำพูดนี้ทำฟางเหยียนแทบกระอักเลือด ฟางเหยียนกลืนน้ำลายก่อนตอบ “ไม่ต้อง!”
สองคำปฏิเสธชัดเจน คิ้วถังยู่ขมวดมุ่น สีหน้าแดงจัด เธอเม้มปากเหมือนอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ไม่รอเธอเปิดปาก ฟางเหยียนก็ปิดประตูรถด้วยตัวเองเลย
มองดูรถหงฉีที่แล่นออกไป ถังยู่ร้องออกมา พลางกระทืบเท้าด้วยความโกรธ แต่หลังจากนั้นก็ได้บ่นกับตัวเองว่า “ที่จริงไม่ต้องหย่าก็ได้ ตอนนี้คุณก็ลองคบกับฉันดูก็ได้นี่! ฉันเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังนะ จะสู้เมียคุณไม่ได้หรือไง? ให้ตายสิ ไม่รู้ว่าเมียคุณหน้าตาเป็นยังไง ใครจะสนล่ะว่าสวยไหม ยังไงก็ไม่สวยเท่าฉันแน่”
พอกลับมาที่เขตคฤหาสน์หุบดอกพีช ฟางเหยียนก็ได้รับโทรศัพท์หนึ่ง ถังเสี่ยนจงโทรมาขอบคุณเขา เขาพูดขอบคุณรัวๆ และยังบอกว่าจะไม่ลืมบุญคุณยิ่งใหญ่ในครั้งนี้เลย ต่อไปจะเชื่อฟังคำสั่งของฟางเหยียนอีก
ฟางเหยียนพูดเออออไปตามน้ำเล็กน้อยก่อนวางสายลง!
เขาหยิบไข่มุกเทพเม็ดนั้นออกมาดูอีกครั้ง มันเป็นไข่มุกเทพที่ช่วยฟื้นฟูพลังเขาหรือไง? ตอนนี้เขามีพลังหกส่วน ถ้าจะทำอะไรเขาจะไม่มั่นใจ เพราะมีองค์กรนั้นคอยจับตาดูเขาอยู่ในที่ลับตลอด ทำให้เขาไม่สบายใจมาก
ถ้ามีพลังครบสิบส่วน องค์กรนั่นมีหรือจะกล้าทำอะไรลับหลังเขา?
เขาพลิกไข่มุกเทพซ้ายขวาสำรวจไปมา และใช้ลมปราณภายในตรวจสอบดูอีกที แต่ไข่มุกเทพกลับไม่มีปฏิกิริยาเลย เหมือนสงบนิ่งทันที และเหมือนว่าพลังของมันหายไปชั่วคราว ไม่มีความรู้สึกเหมือนตอนแรกที่สัมผัสมันเลย
ตนไม่เข้าใจว่าคืออะไร บางทีอาจมีคนหนึ่งที่รู้!
ศาสตราจารย์โจว ใช่ บางทีศาสตราจารย์โจวจะรู้ องค์กรนี้ไม่น่าจะลงมือกับศาสตราจารย์โจว เพราะศาสตราจารย์โจวไม่รู้อะไรเกี่ยวกับองค์กรนี้เลย พวกเขาจะฆ่าเฉพาะคนที่มีสิทธิ์ก่อความเสียหายให้กับองค์กรเท่านั้น
พอคิดถึงตรงนี้ ฟางเหยียนหยิบมือถือออกมาหาเบอร์โทรของศาสตราจารย์โจว
เขายังไม่ทันกดโทรออก ก็มีสายเรียกเข้า นั่นเป็นเบอร์แปลกหน้า ฟางเหยียนไม่รู้ว่าใครโทรมา!
หลังจากลังเลชั่วครู่ เขากดรับสายนั้น!