จอมนักรบทรงเกียรติยศ – ตอนที่ 427 มีคนจ้องดูอยู่ที่ประตู

ข้างบนเป็นพุ่มไม้ใหญ่ ที่หนานหลิงมีช่องทางเล็กแบบนี้มากมาย เพราะคงความเป็นพื้นที่สีเขียวไว้ได้ดี เพราะมีต้นไม้ทำให้เขียว จะทำให้ถนนเส้นนี้เงียบสงบ คนที่ผ่านไปมาก็ไม่มาก

การเคลื่อนไหวนี้ดังมาจากต้นไม้เขียวด้านบน ฟางเหยียนกำมือถือไว้ในมือ ตะโกนขึ้นไปยังต้นไม้เขียวที่อยู่ด้านบน “ออกมาเถอะ!ในเมื่อมาแล้ว ก็อย่าหลบๆซ่อนๆ”

จากนั้นเมื่อเขาพูดจบ ด้านหลังก็มีเสียงของผู้ชายดังขึ้นมา “หูดีนะ!”

ฟางเหยียนค่อยๆหันหลังไป เห็นชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทกางเกงสแล็ค ทางการทั้งตัว บนใบหน้าของชายวัยกลางคนมีรอยบาก ริมฝีปากด้านบนมีหนวด ผมยาวประบ่า ถือมีดสั้นไว้ในมือ ดูๆแล้วให้ความรู้สึกนักรบด้านมืด

“ฉันรู้จักแก!” เมื่อฟางเหยียนมองผู้ชายคนนั้นก็นึกถึงผู้เฒ่าที่เจอที่ประตูมหาวิทยาลัยซีหนานวันนี้ อารองของซ่งหยิง แต่คนนี้คือผู้ชายที่ยืนข้างๆผู้เฒ่า มีกลิ่นอายความเหี้ยมโหด มาจากสนามรบ เมื่อฟางเหยียนเห็นคนนี้ เขาก็มั่นใจ ว่ากลิ่นอายความเหี้ยมโหดของสนามรบนั้นมาจากชายคนนี้

ตอนนั้นชายผู้นี้ยังเสนอตัวออกมาเอง ด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด เกือบจะลงมือตอนอยู่ที่มหาลัยแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะผู้เฒ่าคนนั้นห้ามไว้ บางทีสองคนอาจจะต่อสู้กันไปแล้ว

“อ๋อ?” ผู้ชายดูแคลนออกมา “ฉันมาเพื่อเตือนแกแทนนายท่านของเรา ต่อไปอย่าเข้าใกล้คุณหนูของเราอีก ตอนนี้สถานะของแกไม่คู่ควรกับคุณหนู!วันนี้ วันนี้ฉันจะเอาแขนของแกไปข้างหนึ่ง ถือว่าเป็นการเตือน”

เมื่อพูดจบ ผู้ชายวิ่งไปหาฟางเหยียนอย่างเร็ว เขาดึงมีดสั้นออก พุ่งไปที่แขนของฟางเหยียนอย่างโหดเหี้ยม ได้ยินเสียงฟิ่ว ร่างกายของทั้งสองคนหยุดอยู่กับที่

ฟางเหยียนไม่ขยับ แม้แต่ตาก็ยังไม่กะพริบ การต่อสู้จบลงแล้ว มีสั้นในมือของผู้ชาย ก็ไม่ได้ขยับ อยู่ด้านหลังของฟางเหยียน ผ่านไปสักพัก ฟางเหยียนหันหลังกลับมา แล้วกล่าว “กลับไปบอกนายท่านของพวกแกนะ ว่าแขนข้างนี้ฉันให้เขาเป็นของขวัญ และฉันจะไปเยี่ยมถึงที่ ให้เขาตั้งหน้าตั้งตารอได้เลย!”

พูดจบ ฟางเหยียนก็เดินต่อไป แต่ผู้ชายคุกเข่าปักลงกับพื้น จากนั้นก็เห็นแขนข้างหนึ่งของเขาหล่นลงกับพื้น เลือดเริ่มกระฉูดออกจากแขนนั้น

เร็วมาก ผู้ชายไม่เห็นเสียด้วยซ้ำว่าเขาลงมือยังไง แล้วแขนของเขาก็ไม่อยู่แล้ว

ในห้องที่รอการรื้อถอนอันรกร้างทางตะวันออกของเมือง

คนต่ำช้าที่ลับๆล่อๆสองคนถือถุงข้าวกล่องเดินเข้ามาในตรอกที่มืดมิด นี่เป็นสถานที่รื้อถอนเมื่อสองปีก่อน ไม่รู้ว่าทำไมกระบวนการของทางราชการ ยังไม่เริ่มดำเนินการเสียที และเพราะไม่เริ่มพัฒนา แล้วยังหลบแดดหลบฝนได้อีก ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นสวรรค์ของคนจรจัด ว่ากันว่าในช่วงกลางคืนจะมีคนจรจัดจำนวนไม่น้อยมาปรากฏตัวที่นี่

“เฮ้อ! ถึงหรือยังเนี่ย? ทำไมฉันรู้สึกที่นี่มันน่ากลัวจัง? คงไม่มีผีหรอกนะ?”

“ผีบ้าไรละ ฉันมักจะมาที่นี่บ่อยๆ ไม่เห็นผีอะไรสักตัว อีกอย่าง ถ้ามีผีสามปรากฏมา ก็ต้องเป็นผีชั้นเลิศแน่นอน ถึงตอนนั้นดูฉันจัดการผีสาวนั่นอย่างโหดเหี้ยมก็แล้วกัน!”

“ถ้ามีผีผู้ชายมาล่ะ?”

“ก็ให้แกจัดการไง!”

“ฉันไม่เอาด้วยหรอก! ฉันว่า พวกเรากลับไปดีกว่ามั้ย? พวกเราไปเที่ยวที่เจ๊ลี่ อาจจะดีกว่าที่นี่ก็ได้นะ”

“แกมีเงินมั้ย?”

“ไม่มี! ฉันมีแค่สามสิบหยวน เมื่อกี๊ใช้ซื้อข้าวไปหมดแล้ว”

“แล้วก็จะพูดทำเชี่ยไรวะ แกไม่มีเงินแล้วไปที่เจ๊ลี่ นอกจากมีอาหารสายตา แล้วจะทำอะไรได้?”

“แต่ที่นี่มันน่ากลัวเกินไปป่ะ?”

“ชู่!” จู่ๆชายที่นำทางก็หยุดเดินลง ผู้ชายที่ตามหลังเขามาถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

“ถึงแล้ว!” ผู้ชายชี้ไปยังห้องที่มืดมิดแล้วกล่าว “ตรงนี้แหละ”

พูดพลาง ผู้ชายเดินไปข้างหน้าด้วยความกล้า เขาเปิดไฟฉาย ไฟฉายส่องไปในห้องที่ว่างเปล่านั่นอย่างเร็ว พอส่องเข้าไป ก็เห็นผู้หญิงที่กำลังห่อตัวอยู่มุมกำแพง

หญิงสาวคนนั้นเหมือนกับกวางน้อยที่ตกใจ เดิมทีอยากจะหลับ เมื่อเห็นแสงสว่าง ก็รีบลืมตาขึ้นมา แล้วส่งเสียงร้องเบาๆ ยิ่งห่อตัวด้วยความกลัวขึ้นไปอีก

หญิงสาวสวมชุดสีดำทั้งตัว ดูๆแล้วค่อนข้างเก่า เหมือนกับสวมใส่มานานมากแล้ว ผมของเธอยุ่งเหยิง ใบหน้าก็มอมแมม ถ้าไม่ใช่เพราะสองคนนี้ไม่มีเงินจริงๆ พวกเขาก็ไม่มีทางคิดแบบนี้ได้

ไม่นาน ทั้งสองมาถึงข้างๆกายของหญิงสาว ชายที่เป็นผู้นำถาม “สวัสดี ยังจำฉันได้มั้ย?”

หญิงสาวมองผู้ชายอย่างหวาดกลัว ไม่พูดไม่จา แม้แต่อารมณ์ก็ไม่เปลี่ยนไป

“นี่ให้แกกินนะ!” ผู้ชายยื่นข้าวกล่องในมือให้หญิงสาว เมื่อหญิงสาวเห็นของกิน ก็ตาเป็นประกาย แย่งมาอย่างเร็ว เปิดกล่องข้าวออก แล้วเธอก็กินอย่างตะกละตะกลาม

ผู้ชายเห็นดังนี้ จึงรีบลงมือ เริ่มลูบไล้ตามร่างกายของหญิงสาว หญิงสาวก็ไม่ต่อต้าน เอาแต่กินอย่างเดียว ราวกับพวกเขาทำอะไรไม่เกี่ยวอะไรกับตนทั้งนั้น

“แกยังยืนแข็งทื่อทำไรวะ? ลงมือสิ!” ผู้ชายที่กำลังลงมืออยู่พูดกับชายที่ยืนไม่ขยับ

“อ้อ!” หลังจากที่ผู้ชายได้ยินแล้ว จึงรีบคุกเข่าลง แล้วเริ่มลูบไล้เรือนร่างของหญิงสาวความราคะของทั้งสองเหมือนกับหมาป่าชั่วร้าย ทำท่าทางที่เกินไปแบบนั้นอย่างไม่หยุด

ความต้องการทางเพศก็แบบนี้แหละ เมื่อมีความต้องการทางเพศเกิดขึ้น จะทำให้คนหลงผิด สองคนนี้เป็นคนที่หลงผิดได้ง่ายเป็นพิเศษ มักจะถูกเรื่องทางเพศครอบงำ ควบคุมตัวเองไม่ได้

“ไง?ฉันพูดไม่ผิดใช่มั้ยล่ะ?ดีกว่าผู้หญิงครั้งที่แล้วมากใช่มั้ย?”

“อืมๆๆ!การมาครั้งนี้ คุ้มค่าจริงๆ นี่มันชั้นเลิศเลยนะเนี่ย นอกจากบนร่างกายสกปรกหน่อย ดีกว่าผู้หญิงที่เจ๊ลี่นั่นตั้งเยอะ ผิวพรรณเนียนนุ่ม ต้องเป็นหญิงสาวของครอบครัวใหญ่แน่นอน”

“อ้า!” ในขณะการกระทำของทั้งคู่ยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปนั้น จู่ๆหญิงสาวก็ร้องออกมา แล้วผลักทั้งสองออกไป

เพราะเธอกินข้าวที่อยู่ในมือหมดแล้ว และตอนนี้ได้สติกลับมาแล้ว

“เชี่ย!นั่นมันยาปลอม” ชายคนนั้นบ่นอย่างโมโห จากนั้นก็กล่าว “กดเธอไว้ แล้วเดี๋ยวฉันค่อยกดให้แก!” เขาพูดพลาง ถอดเข็มขัด

ชายคนนั้นพยักหน้า กดหญิงสาวไว้อย่างแรง

หญิงสาวก็รู้ว่าชายทั้งสองนี้มีจุดประสงค์ที่ไม่ธรรมดา ด้วยเหตุนี้จึงได้ดิ้นรนอย่างสุดชีวิต และยังร้องตะโกนออกมา ชายคนนั้นที่กดหญิงสาวไว้ปิดปากของเธอ แล้วยังด่าออกมาอีกว่า “ร้องสิ ร้องออกมา…”

พูดไปพูดมา จู่ๆเสียงของเขาก็หยุดลง การกระทำก็หยุดลงด้วยเช่นกัน จู่ๆก็แข็งทื่อไป

คนที่ตั้งท่าพร้อมพูดออกมาว่า “ทำไรวะ?”

ชายคนนั้นกล่าวอย่างตัวสั่นๆ “เหมือนจะมีคนกำลังจ้องเราอยู่ที่ประตูนะ”

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset