จอมนักรบทรงเกียรติยศ – ตอนที่ 465 ตกหลุมพราง

ฟางเหยียนหรี่ตามองอู๋หมิง คนนี้ไม่ใช่ว่าควรจะโมโหจนอยากฆ่าตนไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมยังหัวเราะ? หรือเขาก็อยากให้อู๋เมี่ยนตายจะแย่แล้วงั้น? เป็นไปไม่ได้ อู๋เมี่ยนไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรให้เขาแม้แต่น้อยเลยนะ

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญแล้ว สำหรับฟางเหยียนแล้ว สิ่งสำคัญตอนนี้ก็คือต้องรีบทำลายสำนักไร้หน้าให้เร็วขึ้น ยิ่งเร็ว วิธีที่ใช้ยิ่งทารุณ คนของเพลิงเสวนก็จะยิ่งโมโหขึ้น มีเพียงความโกรธแค้นที่จะทำให้พวกเขาเปิดเผยออกมาได้ ถึงตอนนั้นฟางเหยียนถึงจะสามารถหาองค์กรที่หลบซ่อนอยู่ในที่มืดมิดมาโดยตลอดนี้ได้ เพียงแค่หาพวกเขาเจอ ต้องให้พวกเขาลงนรกฝังกลบเพื่อเทียนหม่า ฝังกลบเพื่อพรรคพวกสำนักเจ็ดพิฆาต!

เท่านี้ ก็สามารถคืนความปลอดภัยอย่างจริงๆจังๆให้กับเย่ชิงหยู่ได้แล้ว!

เสียงหัวเราะของอู๋หมิงค่อยๆหยุดลง เขาจ้องฟางเหยียน จากนั้นก็ได้มองไปที่เกราะทอง แล้วถาม “แกรู้ว่ามั้ยหอกทองนี้ของฉันเป็นหอกทองอะไร?”

ตอนตั้งคำถาม สายตาของเขาค่อยๆมองลงมาจากยอดของหอก จากนั้นก็ได้มองไปที่ฟางเหยียนอีกครั้ง

ฟางเหยียนสอดส่องไปที่หอกทอง ส่ายหน้าแล้วกล่าว “ขอโทษนะ ฉันไม่อยากรู้”

พูดจบ เขาจะเข้าไปฆ่าอู๋หมิง แต่อู๋หมิงได้ยกมือส่งสัญญาณ แล้วกล่าว “ไม่ต้องรีบ แกฟังเรื่องหอกทองนี้ของฉันก่อนสิ!”

“หอกทองนี้ของฉันติดตามมาสามคน เมื่อหนึ่งพันปีก่อน มีจักรพรรดิองค์หนึ่งให้ช่างตีเหล็กหลอมอาวุธทองคำบริสุทธิ์ เป็นรางวัลให้กับนายพลผู้ไม่แพ้ของเขา หลังจากที่นายพลผู้ไม่แพ้ของเขาได้รับอาวุธไปแล้ว ได้ใช้หอกทองนี้ฆ่าศัตรูไปนับไม่ถ้วน! ฆ่าปาดคอผู้รุกรานมากมาย จนกระทั่งสุดท้าย ผู้รุกรานทั้งหมดถูกเขาขับไล่ออกจากประเทศหวา หลังจากนั้นมา ชาวต่างชาติที่กระเหี้ยนกระหือรือได้ยินว่ามีคนใช้หอกทอง ก็กลายเป็นระมัดระวัง ขี้ขลาด ไม่กล้าเข้าประเทศหวา

“ต่อมานายพลท่านนั้นที่ใช้หอกทองเสียชีวิตลง ลูกของเขารับช่วงต่อตำแหน่งของเขา นั่งเก้าอี้ตำแหน่งนายพล แต่ความสุขมักจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะลูกชายของเขาไม่ใช่เทพเจ้าสงครามผู้ไม่แพ้ ไม่นาน ลูกชายของเขาพ่ายแพ้ศึกสงคราม ด้วยเหตุนี้เองหอกทองจึงได้ลับหายไปจากโลกมนุษย์ หลังจากนั้นไม่มีใครรู้ถึงร่องรอยของมัน แต่ในยุทธภพยังคงส่งต่อเรื่องราวที่มันฆ่าคนนับหมื่นมาเช่นเคย ถ้าไม่มีมัน ก็ไม่มีทางป้องกันความสงบสุขประเทศหวาได้หลายปีขนาดนั้น

“ต่อมาอีก เพราะพรหมลิขิตแหละ หอกทองอันนี้ได้ตกอยู่ในมือของฉัน สำนักไร้หน้าของเราไม่เป็นปฏิปักษ์กับโลกมาโดยตลอด การที่มาตกอยู่ในมือของฉันบางทีอาจจะเป็นพรหมลิขิต ให้สำนักไร้หน้าของเราได้ปกป้องแทนเขามั้ง!

“ไม่เป็นปฏิปักษ์กับโลก?” ฟางเหยียนหัวเราะเหอะๆ “สำนักไร้หน้าในตอนนี้ไม่เป็นปฏิปักษ์กับโลกจริงเหรอ? ถ้าพวกแกไม่เป็นปฏิปักษ์กับโลก แล้วฉันจะมาหาพวกแกมั้ย? อู๋หมิง แกนี่มันน่าสมเพชสิ้นดี เป็นหมารับใช้ของเพลิงเสวน แล้วยังพูดแบบนี้อีก”

“แก แกมีสิทธิ์อะไรมาว่าสำนักไร้หน้าของฉัน!”

“ก็จากสิทธิ์ ที่ฉันจะทำลายพวกแกยังไงล่ะ!” ฟางเหยียนพูดอย่างชัดเจน

อู๋หมิงส่งเสียงเหอะออกมา แล้วกล่าว “งั้นก็มาดูกันว่าแกจะมีความสามารถมั้ย!”

“หยุดพล่ามได้แล้ว แกพูดมาตั้งมากมาย ก็แค่ไม่อยากต่อสู้กับฉัน! ไม่ต่อสู้ก็ได้ ตอนนี้แกสามารถเลือกที่จะฆ่าตัวตาย!”ฟางเหยียนกล่าวอย่างเยือกเย็น

อู๋หมิงหัวเราะฮ่าๆๆขึ้นมา แล้วกล่าว “ฆ่าตัวตาย! ความอวดดีของแกเปลี่ยนทัศนคติสามด้านของฉันใหม่จริงๆ ฉันก็แค่อยากใช้อาวุธเทพแบบนี้แทงทะลุร่างกายของแก จะเป็นการเหยียดหยามอาวุธเทพอันนี้หรือไม่นะ!”

“ไม่หรอก! เพราะแกไม่คู่ควรที่จะใช้อาวุธเทพอันนี้” พูดจบ ฟางเหยียนมองอู๋หมิง แล้วใช้น้ำเสียงเย็นชากล่าวต่อว่า “ไม่นาน สำนักไร้หน้าทั้งสำนักก็จะไปอยู่เป็นเพื่อนกับอู๋เมี่ยนแล้ว ไม่มีใครหนีรอดไปได้สักคน!”

“ฉันจำได้ว่าสำนักไร้หน้าของพวกแกยังมีคนหนึ่งที่ชื่อท่านปรมาจารย์ไร้หน้า ใช่มั้ย?”

ฟางเหยียนไม่รู้ว่าท่านปรมาจารย์ไร้หน้าคือใคร แต่เคยได้ยินอู๋เมี่ยนพูดถึง น่าจะเป็นคนที่ไม่ธรรมดามาก ส่วนอู๋หมิงที่อยู่ตรงหน้านี้ สถานะต้องไม่สูงไปกว่าท่านปรมาจารย์ไร้หน้าแน่นอน

คนที่ถูกเรียกว่าท่านปรมาจารย์ จะต้องเป็นสิ่งล้ำค่าของสำนักไร้หน้าเป็นแน่

อู๋หมิงที่เดิมทีสบายๆหลังจากที่ได้ยินคำพูดของฟางเหยียนแล้ว ก็เกิดอาการเกรี้ยวกราดขึ้นมา

“บังอาจ!” อู๋หมิงเคาะหอกทองในมือลงไปกับพื้นอย่างแรง พื้นเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอีกครั้ง จากนั้นเขากล่าวอย่างโกรธแค้นว่า “ท่านปรมาจารย์ เป็นคนที่แกชั้นต่ำพูดว่าฆ่าก็ต้องฆ่างั้นเหรอ แกไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม สำคัญตัวเองเกินไปแล้ว แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ที่จะมีสิทธิ์ต่อสู้กับท่านปรมาจารย์!”

ฟางเหยียนหัวเราะอย่างดูแคลน “มีหรือไม่มีสิทธิ์ รอให้ฉันฆ่าแกก่อนแล้วค่อยว่ากัน ยังไงแกก็ไม่ได้เห็นท่านปรมาจารย์ตาย!”

พูดจบ จู่ๆก็เห็นฟางเหยียนโยนก้อนหินหนึ่งก้อนไปทางอู๋หมิง ก้อนหินนั้นประกายเปลวไฟอันแปลกประหลาดออกมา เหมือนกับมีพลังของกระสุน อู๋หมิงไม่ขยับ ตอนที่ก้อนหินมาถึงตรงหน้าของเขา เขาชูหอกทองที่อยู่ในมือขึ้นอย่างเบาๆ ขัดขวางการโจมตีของก้อนหินนั้นจนมีเสียงดังแกร๊งขึ้นมา สีหน้าของเขายังคงนิ่งสงบ

เมื่อเห็นดังนี้ ฟางเหยียนอดที่จะพุ่งเข้าไปฆ่าเขาไม่ได้

เขายังคงไม่ขยับไปไหน ยืนอยู่ที่เดิม ริมฝีปากทำมุม แสดงออกถึงท่าทางที่ไม่เหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม

ฟางเหยียนไม่มีเวลาจะสนใจอะไรขนาดนั้น ยังคงก้าวไปด้านหน้าต่อ ในตอนที่เขาใกล้จะถึงด้านหน้าของอู๋หมิง อู๋หมิงกล่าวอย่างชิลล์ๆว่า “จะสู้กับฉันได้มั้ย ก็ขึ้นอยู่กับโชคของแกแล้วล่ะ!”

ฟางเหยียนไม่เข้าใจความหมายของประโยคนี้ไปชั่วขณะ แต่ไม่นาน เขาก็เข้าใจแล้ว!

เพราะ ตอนที่ขาของเขาเหยียบถึงพื้น จู่ๆพบว่าไม่สามารถเหยีบพื้นได้แล้ว แต่เป็นที่ว่าง!

ได้ยินแค่เสียง“แคร้ง”ดังขึ้น จู่ๆพื้นยุบลงไป ต่อให้ฟางเหยียนแข็งแกร่งยังไง ก็คาดไม่ถึงว่าพื้นที่แข็งจู่ๆจะว่างเปล่า ตนก็ไม่คิดว่าที่นี่จะมีกับดัก

ฟางเหยียนเสียรู้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเสียรู้ให้กับการที่เขาคิดน้อยไป

เขาก็คิดมาก่อนว่าที่นี่มีกลไก ด้วยเหตุนี้เองจึงได้กลับไปกลับมาหลายครั้ง รอจนแน่ใจแล้วถึงได้กล้าทำการใหญ่แบบนี้ แต่ไม่คาดคิดว่าสุดท้ายก็ยังเสียรู้จนได้

นี่เป็นคุกใต้ดินโดยแท้จริง ด้านล่างของพื้นลึกประมาณสิบเมตร ความกว้างประมาณสิบสามตารางเมตร ถ้าได้ว่าเป็นคุกใต้ดินที่พื้นที่ใหญ่มาก หลังจากที่ตกลงไปแล้ว ด้านบนได้ถูกล็อกไว้ด้วยท่อโลหะที่แข็งหลายเส้น นอกจากนี้ ที่ๆเขายืนอยู่จู่ๆก็มีเหล็กแผ่นหลายแผ่นโผล่ขึ้นมา เหล็กแผ่นหลายแผ่นล้อมเขาเอาไว้ในพื้นที่แคบ เหมือนกับกรงที่เอาไว้ขังสัตว์เดรัจฉาน

ฟางเหยียนถูกขังไว้แล้ว ถูกขังไว้ในคุกใต้ดินอันแคบแห่งนี้

อู๋หมิงเดินมาถึงด้านบนของกับดัก มองฟางเหยียนจากที่สูงลงที่ต่ำแล้วกล่าว “ไอ้เด็กน้อย ที่นี่คือสำนักไร้หน้า!ที่นี่คือถิ่นของฉัน แล้วแกจะชนะฉันได้ยังไง?คิดจะต่อสู้กับฉัน แกไม่คิดว่าตัวเองไร้เดียงสาไปหน่อยเหรอ?”

“เป็นปฏิปักษ์กับฉันสำนักไร้หน้า มีเพียงจุดจบเดียว ตาย!”

“ที่แท้เจ้าสำนักก็ฉลาดกว่าใคร ผมว่าแล้วว่าพวกคุณต้องฆ่าไอ้ระยำนี่ได้แน่ๆ”

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset