ตอนนี้ชายตาเดียวได้เปรียบ เขาแค่นยิ้ม นี่เป็นรอยยิ้มมาดร้ายมาก
เทียนหลังไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้มีกิริยาอะไร จากสีหน้าเขาดูไม่ออกถึงความกลัวและตกใจเลย เขาเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับการที่ชายตาเดียวควักปืนออกมาเลย ตรงกันข้าม สีหน้าเรียบเฉยไม่ไหวติง ตั้งแต่ต้นจนจบเขากลับรักษาความสงบนิ่งไว้ได้
ภาพนี้สำหรับเย่ชิงหยู่แล้ว เธอกลับรู้สึกคุ้นตามาก ใช่ คุ้นมาก พฤติกรรมและอากัปกิริยาของคนนี้เหมือนกับฟางเหยียนไม่มีผิด เหมือนของพวกนี้ไม่มีทางทำอะไรพวกเขาได้เลยสักนิด
ชายตาเดียวเห็นสีหน้าเรียบเฉยไม่ไหวติงของผู้ชายคนนั้น เขาแค่นเสียงหึ ตะคอกใส่เทียนหลังว่า “ทำไม? แกคิดว่าฉันไม่กล้ายิงหรือไง? แกเชื่อไหมว่าฉันจะยิงแกตายตอนนี้เลย!”
“เหอะเหอะ!” จู่ๆเทียนหลังแค่นเสียงหัวเราะอย่างเย็นชาออกมาพลางว่า “หรือแกคิดว่าอาศัยปืนกระบอกเดียวก็ฆ่าฉันได้? ถ้าปืนสามารถฆ่าฉันได้ ฉันคงตายไปนานแล้ว ไม่อยู่มาถึงวันนี้ให้แกฆ่าฉันหรอก!”
ในสงครามเทียนหลังไม่รู้ว่าเจอคนที่อยากฆ่าตนมามากเท่าไหร่แล้ว ขนาดนักแม่นปืนที่เก่งกาจที่สุดยังทำอะไรตนไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นแค่ปืนกระบอกเล็กอย่างนี้ด้วยแล้ว ในสายตาเทียนหลัง ปืนแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับปืนของเล่นเลย
“ไอ้เลว!” ชายตาเดียวกัดฟันกรอดสบถด้วยความโกรธ จากนั้นเขาขยับลำกล้องปืน
ได้ยินเสียงปั้ง ลูกกระสุนยิงออกไป เย่ชิงหยู่กับเฉินหย่าหวีดร้องด้วยความกลัวอีกครั้ง ยังไงซะพวกเธอก็เป็นผู้หญิง เห็นคนยิงปืน ต้องกลัวอยู่แล้ว เพราะปกติถ้าลูกกระสุนโดนตัวคนเข้า มักจะไม่รอด
แต่ตอนลูกกระสุนยิงไปที่เทียนหลัง เขาเบี่ยงตัวเล็กน้อย หลบเฉียดลูกกระสุนไปได้
แค่ขยับนิดหน่อยก็หลบลูกกระสุนได้ ชายตาเดียวมองอย่างอ้าปากค้างเบิกตากว้าง เขายิงสามนัดติด แต่ทุกนัดก็โดนเทียนหลังเบี่ยงตัวหลบได้หมด ไม่มีสักนัดเลยที่ยิงโดนเทียนหลัง
“แม่ง!” ชายตาเดียวเห็นอย่างนั้น ตกใจจนเหงื่อแตกซิก
คนหลบลูกกระสุนได้ นี่ต้องมีความเร็วขนาดไหนเนี่ย มิน่าถึงสามารถจัดการลูกน้องเขาได้ในพริบตา
เขารู้ว่าเป็นแบบนี้ต่อไปมีแต่เปลืองลูกกระสุนเปล่าๆ ดังนั้นเลยวิ่งไปทางเย่ชิงหยู่กับเฉินหย่า เขาคว้าหมับเข้าที่เย่ชิงหยู่ที่กำลังตกตะลึงตัวสั่นเทา และรั้งเข้ามาในอ้อมแขนเป็นตัวประกัน พลางจับปืนจ่อที่ขมับของเย่ชิงหยู๋ ตะคอกใส่เทียนหลังว่า “แกอย่าเข้ามา ถ้าแกกล้าเข้ามา ฉันจะฆ่าหล่อนซะ!”
เทียนหลังยืนนิ่ง สองตาจ้องเขม็งไปที่ชายตาเดียว ไม่พูดอะไรสักคำ
ชายตาเดียวเห็นอย่างนั้น หัวเราะแห้งๆออกมาสองคำพลางว่า “ตอนนี้ให้ฉันไปจากที่นี่ซะ! ไม่งั้นแค่เพียงฉันเหนี่ยวไกปืน ก็จะทำสมองหล่อนแตกกระจายได้เลย แกน่ะหลบลูกกระสุนได้ แต่หล่อนหลบไม่ได้นะ!”
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ชิงหยู่โดนเอาปืนจ่อหัว หัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำนานแล้ว นี่เป็นครั้งหนึ่งที่เธออยู่ใกล้กับความตายมากที่สุด ขอเพียงลูกกระสุนออกจากลำกล้องปืนนี่ สมองเธอก็จะเป็นรูทันที
ถึงเวลานั้น แม้แต่โอกาสที่เธอจะได้พบหน้าฟางเหยียนเป็นครั้งสุดท้ายก็จะไม่เหลือ
ต้องยอมรับจริงๆว่า เย่ชิงหยู่กลัวมาก หวาดกลัวสุดๆ แต่เธอพยายามข่มความกลัวของตนไว้ แต่ไม่ว่าจะข่มยังไงก็ข่มไม่อยู่ ใครให้เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดากันล่ะ
ตอนนี้เทียนหลังเอ่ยปากพูดแล้ว “แกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่?”
ชายตาเดียวยืดอกพูด “ฉันต้องรู้อยู่แล้วสิ ให้ฉันออกไป อย่าเสียเวลาพล่ามมาก ไม่งั้นฉันจะยิงสมองหล่อนกระจุย ฉันสาบาน ว่ากระจุยแน่”
ระหว่างพูด ชายตาเดียวเพิ่มแรงกดที่มือมากขึ้น ทำน้ำตาเย่ชิงหยู่ไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
เทียนหลังยังคงพูดอย่างเย็นชาว่า “จับตัวคุณนายโผ้จวินแห่งประเทศหวาเป็นตัวประกัน ประหารเก้าชั่วโคตร! ตอนนี้ฉันจะฆ่าแกก่อน แล้วจะตามไปฆ่าครอบครัวแก ให้ตายตามกันไปทั้งเก้าชั่วโคตร!ตาย!”
เทียนหลังพูดด้วยท่าทีฮึกเหิมยิ่งใหญ่ ประหนึ่งกษัตริย์ในสมัยโบราณจะลงโทษตายให้กับนักโทษประหารก็ไม่ปาน!
พูดจบ เทียนหลังก้าวเท้าเข้ามา สายตาเขาจับจ้องชายตาเดียวเขม็ง ตอนนี้ชายตาเดียวเป็นเหยื่อของเขา ขอเพียงโดนหมาป่าล็อกเป็นเหยื่อปุ๊บ เหยื่อนั้นต้องตายแน่นอน
การรบราฆ่าฟันในสงคราม คนที่เทียนหลังฆ่ามักเป็นหัวหน้าฝ่ายศัตรู พอโดนเขาล็อกเป็นเหยื่อปุ๊บ ต่อให้ตนมีบาดแผลหนักหนาสาหัสแค่ไหน เหยื่อนั้นก็ต้องตาย ใครให้พวกมันเป็นเหยื่อตนกันล่ะ
เห็นแค่เทียนหลังหายตัวราวภูตผีเข้าไป จากนั้นนิ้วมือเขาปาดข้อมือชายตาเดียว ปืนร่วงลงพื้น หลังจากเทียนหลังคว้าหมับเข้าที่คอหอยชายตาเดียว
ชายตาเดียวโดนยกตัวลอยจากพื้น แค่ไม่กี่วินาที ความได้เปรียบของชายตาเดียวกลายเป็นเสียเปรียบทันที ตอนนี้เขาไม่เหลือความได้เปรียบอีกแล้ว ตรงกันข้าม ยังกลายเป็นลูกแกะในเงื้อมมือเทียนหลังอีก
เทียนหลังมองเขม็งมาที่ใบหน้าแดงก่ำของชายตาเดียว พูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “ที่จริงแล้วขยะอย่างแกไม่คู่ควรตายด้วยน้ำมือฉัน การได้ตายด้วยน้ำมือคนอย่างฉัน เทียนหลัง ถือเป็นเกียรติยศของแกในชาตินี้!”
พูดจบ เทียนหลังเพิ่มแรงที่นิ้วมือ มุมปากชายตาเดียวมีเลือดไหลออกมา ร่างที่ยังดิ้นรนขยับอยู่ค่อยๆแน่นิ่งไป หัวเขาเอียงพับไปอีกด้าน ตายแล้ว
เทียนหลังที่ฆ่าคนจนชินแล้วสลัดร่างชายตาเดียวทิ้งพื้นอย่างไม่ไยดี และเดินมายืนหน้าเย่ชิงหยู่ ยืดตัวตรง ทำความเคารพอย่างทหาร พูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดว่า “คุณนาย กระผมเทียนหลังสมควรตายนัก ทำให้คุณได้รับความตกใจแล้ว!”
สีหน้าเย่ชิงหยู่ซีดเผือด มองดูผู้ชายตรงหน้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงและดูคล้ายหมาป่า ดวงตาของเธอหรี่ลงมองพินิจอยู่ครู่หนึ่ง
เธอกัดฟัน พูดอย่างตะลึงปนตกใจว่า “ไม่ ไม่เป็นไร ขอบคุณมาก!”
เทียนหลังเห็นผู้คนที่ยังนอนครวญครางด้วยความเจ็บปวดบนพื้น ถามขึ้นว่า “คุณนาย ให้ผมฆ่าคนที่นี่ทั้งหมดไหมครับ?”
เย่ชิงหยู่ร้องอ๋า ก่อนรีบโบกมือปฏิเสธว่า “ไม่ต้องไม่ต้อง! ไปกันเถอะ พวกเราไปกันเถอะ”
“ครับ!” เทียนหลังโค้งคำนับ ยกมือผายออกเป็นเชิงให้เย่ชิงหยู่เดินไปก่อน เย่ชิงหยู่ใจเต้นตุ้มต่อม ค่อยๆก้าวเท้าเดินออกไป เฉินหย่าเดินตามไปติดๆ
หลังจากออกจากบาร์เวลา มาถึงถนนใหญ่ ทั้งสองคนถึงถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก เหตุการณ์เมื่อกี้เหมือนออกมาจากภาพยนตร์เลย ทำให้หญิงสาวธรรมดาทั้งสองค่อนข้างรับไม่ได้อยู่
เทียนหลังเดินมายืนหน้าเย่ชิงหยู่อีกครั้งพลางถามขึ้น “คุณนาย ไม่ทราบว่าโผ้จวินอยู่ที่ไหนครับ?”
“โผ้จวิน?” เย่ชิงหยู่จู่ๆนึกได้ว่าฟางเหยียนเคยบอกว่า ตำแหน่งของเขาในกองทัพคือโผ้จวิน ตอนนั้นยังโดนพวกตู้หมิงล่างหัวเราะเยาะว่าเล่นเกมฝันหวานไปแน่ๆ ไม่คิดว่าฟางเหยียนจะมีฐานะนี้จริงๆ
“โผ้จวินที่คุณว่าคือตำแหน่งอะไรหรอ?” เย่ชิงหยู่ถามเทียนหลังอย่างแปลกใจ เธออยากรู้ว่าฐานะฟางเหยียนคืออะไรกันแน่จากปากเทียนหลัง ตอนนี้สำหรับเธอแล้ว ฟางเหยียนเริ่มลึกลับขึ้นเรื่อยๆเลย