ส่วนตัวฉินเข่อเอง ก็เชื่อฟังมาก เดิมทีต้องไปเรียนมหาลัยต่างถิ่น แต่คนในครอบครัวล้วนพูดว่าเรียนในท้องที่ดี ไม่ให้เธอไม่จากดินแดนตะวันตก ด้วยเหตุนี้เองเธอจึงได้กรอกมหาลัยของท้องถิ่นไป หลังจากเรียนมหาลัยแล้ว ฉินเข่อรู้สึกว่าการถูกดูแลแบบนี้ไม่ค่อยเป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเพื่อนนักศึกษา จึงได้บอกหยางซงว่าอย่าเอะอะอะไรก็มามหาลัย โดยเฉพาะเขามักจะชอบขับรถมา
ต่อมาหยางซงก็ยุ่งอยู่กับธุรกิจของที่บ้าน จึงไม่ค่อยได้มาหาฉินเข่อที่มหาลัยแล้วจริง นี่เป็นครั้งหนึ่งในไม่กี่ครั้ง เขาก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึงฉินเข่อจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
คนที่พูดว่าฉินเข่อไปห้องทำงานกับอาจารย์คนนั้นคือหลิวเจียเจีย และคนที่พูดว่าคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไรก็คือหลิวเจียเจียเช่นกัน
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเข่อ หยางซงส่งเสียงเหอะออกมา จากนั้นมองไปยังฉินเข่อด้วยใบหน้าโมโห แล้วกล่าว “เข่อเข่อ พี่บอกแล้ว ถ้าเกิดเรื่องอะไรที่มหาลัย ต้องบอกพี่ แกพูดว่ากลัวไม่มีเพื่อน กลัวว่าสถานะของครอบครัวเราทำให้แกรู้สึกแตกต่างจากเพื่อนของแก พี่ไม่มาหาแกที่มหาลัยได้ แต่ถูกรังแก แกต้องบอกพี่สิ ถ้าแม้แต่ถูกรังแกแกยังไม่บอกพี่ มันหมายความว่าไง!ในใจของแก ยังมีพี่ชายคนนี้อยู่มั้ย”
ฉินเข่อเห็นหยางซงที่โมโหขนาดนี้ ก็หัวเราะอิๆๆขึ้นมา แล้วกล่าว “มีๆๆ จะไม่มีพี่ชายคนนี้ได้อย่างไรกัน!ฉันรู้ว่าพี่ชายดีกับฉันที่สุดแล้ว แล้วก็จะปรากฏตัวปกป้องฉันในยามวิกฤตอีกด้วย พี่สบายใจได้ ฉันรับรองครั้งหน้าตอนเกิดเรื่อง จะต้องบอกพี่ก่อนแน่นอน” พอหัวเราะ ดวงตาทั้งสองขาก็โค้งๆ เหมือนดวงจันทร์ พูดแล้วว่าขอโทษรับผิด เธอได้ยิ้มรับความผิดแล้วยังจะโกรธเธอลงอีกเหรอ เมื่อเห็นฉินเข่อหัวเราะแบบนั้น หยางซงจะยังโมโหอยู่ได้อย่างไรกัน
เขาถอนหายใจ แล้วกล่าว “เข่อเข่อ ถ้าไม่ใช่เพราะแก คนเมื่อกี๊ถูกฉันขยี้ตายไปแล้ว!”
ฉินเข่อขี้เกียจจะพูดเรื่องนี้ กลัวว่าเดี๋ยวพี่ชายจะโมโหต่ออีก ด้วยเหตุนี้เองจึงได้ถามว่า “อ้อ จอดรถไว้ที่ไหน?”
หยางซงเบี่ยงเบนความสนใจสำเร็จ แล้วกล่าว “แกบอกว่าไม่ชอบให้ฉันมาที่มหาลัยไม่ใช่เหรอ ฉันไม่ได้ขับรถมาแน่นอน จอดไว้ที่ลานจอดรถที่หน้าประตูมหาลัย!”
“อิๆ!” ฉินเข่อหัวเราะ “นี่สิถึงจะเป็นพี่ชายคนดีของฉัน!รู้ว่าพี่นี่แหละดีกับฉัน”
หยางซงส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ หญิงสาวคนนี้เป็นคนที่เขารักมากที่สุด
“อ้อ วันนี้พี่มาหาฉันมีธุระอะไรเหรอ?” ฉินเข่อถามอีก เธอไม่ได้เรียกให้หยางซงมา
เพิ่งจะถามคำถามนี้จบ เธอก็ชะงักไป เพราะเธอเห็นคนๆหนึ่ง!
ขณะนี้ มีรถแท็กซี่คันหนึ่งขับผ่านเธอไปพอดี ในรถแท็กซี่เธอเห็นใบหน้าของคนๆหนึ่ง นั่นมันคนนั้นหนิ คนนั้นที่ช่วยเธอไว้ในอารามเต๋า ใช่ คือคนนั้น
ถึงแม้จะเป็นแว็บเดียวที่ผ่านไป แต่ฉินเข่อกล้ารับประกันว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นก็คือใบหน้านั้น แม้ใบหน้านั้นจะนิ่งสงบมาก แต่อารมณ์บนใบหน้าคนทั่วไปจะไม่มีทางมีได้
“พี่มารับแกกลับบ้านไปทำธุระ อีกสองวันเป็นวันเกิดครบรอบหกสิบแปดปีของลุงใหญ่ไม่ใช่เหรอ?พวกเราเตรียมจัดงานของลุงใหญ่ของแก!มีหลายที่ต้องตกแต่ง พวกเราไม่รู้ว่าจะตกแต่งยังไงดี จึงมารับแกไปดูโดยเฉพาะ” หยางซงกำลังพูด พูดพลางเดินพลาง เขากลับไม่เห็นว่าฉินเข่อไม่ได้ตามมา แต่ยืนเหม่อลอยอยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากตัวเองห้าเมตร
เดินไปได้หลายก้าวเขาเพิ่งจะพบความผิดปกติ ด้วยเหตุนี้จึงได้หันไปถามว่า “เข่อเข่อ แกทำอะไรอะ?”
ฉินเข่อส่งเสียงหา กลับมาได้สติ แล้วกล่าว “เมื่อกี๊รองเท้าหลุด ฉันใส่รองเท้า ใส่รองเท้า”