“เจ้าวัวรอง ฉันไม่อยากเสวนากับพวกเขาไปมากกว่านี้แล้ว ลงมือเลย ฆ่าเขาซะ!” พูดจบ สายตาเธอกวาดตาคนทั่วห้องอย่างดุดันมาดร้าย พลางว่า “แล้วก็คนในนี้ด้วย ฆ่าทิ้งให้หมด! อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าลูกเด็กเล็กแดงคนแก่คนเฒ่า เอาให้สิ้นซาก!”
เทียนขุยพยักหน้าหนักแน่นรับคำว่า “ได้!”
นี่เป็นเสียงเข้มงวดมาก และเป็นคำพูดแรกตั้งแต่เข้ามาที่นี่ของเทียนขุย วิเคราะห์จากน้ำเสียงเทียนขุย เขาโดนควบคุมเต็มรูปแบบแล้ว เทียนขุยในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับหุ่นเชิดเลย เป็นเพียงแต่เครื่องมือฆ่าคนในเงื้อมมือคนอื่นเท่านั้น
เทียนขุยค่อยๆก้าวเท้าไปยืนหน้าเจ้าสามหยาง เขากำหมัดแน่นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ จู่ๆเห็นด้านล่างกำปั้นของเขาเริ่มมีพายุทอร์นาโดขึ้นมา พายุทอร์นาโดนี่เริ่มก่อตัวใหญ่ขึ้น และค่อยๆกวาดต้นไม้ใบหญ้ารอบๆด้านล่างกำปั้นเขาอย่างช้าๆ ต้นไม้หลายต้นในสวนโดนลมพัดจนเสียงดังเซ็งแซ่ ไม่นาน ลมพวกนั้นก็เริ่มเข้ามาก่อตัวกันในกำปั้นเขา จากนั้นหมัดของเทียนขุยก็เริ่มเป็นสีแดง สองกำปั้นนั้นแข็งแน่นราวเหล็กกล้า
คนตระกูลหยางทั้งหมดตกใจเบิกตากว้างกัน แทบหยุดหายใจ ไม่มีใครเคยเจอเหตุการณ์อึกทึกแบบนี้มาก่อน!
เมื่อกี้ยังไม่มีลมอยู่เลย แต่ทุกคนก็เห็นกับตาว่ามีพลังออกมาด้านล่างกำปั้นของเขา พลังนี่เองที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรอบๆ วิชาแบบนี้ไม่ใช่กำลังภายในในตำนานนั่นแล้วจะเป็นอะไร
ทำให้บรรดาคนแก่วิพากษ์วิจารณ์เป็นการใหญ่ ทุกคนต่างเบิกตาถลนมองเทียนขุยตาไม่กะพริบ ส่งเสียงวิจารณ์กันอย่างตกใจ
“นี่ นี่ นี่คือกำลังภายในหรอ? พลังที่แผ่ซ่านออกมาจากด้านในงั้นหรอ?”
“ใช่! นี่คือกำลังภายใน ครั้งที่แล้วฉันเคยเห็นครั้งหนึ่งที่ภาคเหนือ พวกเขาบอกว่าเป็นนินจาอะไรสักอย่าง สามารถฟันต้นไม้ขาดกลางอากาศได้เลย และยังสามารถโฟกัสตีเฉพาะที่ได้ด้วย อย่างเช่น เล็งไปที่กำแพง ก็จะสามารถฟันกำแพงพังทลายได้เลย แถมพวกเขายังมีฝีมือการฆ่าคนนับพัน ฝีมือแบบนั้นเหมือนแม่ทัพในสมัยโบราณเลย นี่คือยอดฝีมือ ขอเพียงลงมือ สามารถทลายฟ้าสะเทือนดิน”
“งั้นพวกเราหมดสิ้นกันแล้วสิ? หมอนี่สองตาค้างแข็ง แค่ดูก็รู้ว่าเป็นหุ่นเชิดที่เชื่อฟังคำสั่งผู้หญิงคนนั้น”
“ฉันรู้!ดังนั้นทุกคนก็ยอมรับชะตาฟ้าลิขิตแล้วล่ะ!”
หยางจิ่งเซียนได้ยินคำพูดของคนแก่เหล่านี้ พูดอย่างเจ็บปวดใจราวมีดกรีดว่า “ผมทำร้ายทุกคนเอง ผมทำเอง! ถ้าไม่ใช่ผม ทุกคนคงไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ เป็นความผิดของผมเอง ความผิดของผม!”
ระหว่างพูด หยางจิ่งเซียนตีอกชกตัวไปด้วย วินาทีนี้เขาเป็นคนบาป!
คนตรงหน้านี้แข็งแกร่งมากเกินไป ถ้าฆ่าคนขึ้นมาจริงๆ คงฆ่าคนหมดตระกูลหยางแน่
หยางจิ่งเซียนรีบพูดกับเสี่ยวหงว่า “เสี่ยวหง ลูกจะฆ่าคนตระกูลหยาง ได้! แต่ปล่อยเพื่อนเก่าเพื่อนแกพวกนี้ของพ่อไปได้ไหม พวกเขาบริสุทธิ์ ลูกไม่ควรจะดึงพวกเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนี่นา”
พอเสี่ยวหงได้ยินแบบนี้ รู้สึกว่าตลกมาก ยิ้มเย็นจากนั้นพูดด้วยสายตามาดร้ายดุดันว่า “ไม่เกี่ยวกับพวกเขา? เมื่อกี้พวกเขาพร้อมใจกันอยู่ข้างคุณ! ฉันให้โอกาสพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่แคร์เอง”
“แต่ถ้าลูกฆ่าพวกเขา ลูกเองก็ไม่รอดนะ ลูกรู้ไหมว่าพวกเขาเป็นใครมีฐานะอะไรกัน? พวกเขาเป็นคนมีหน้ามีตาในดินแดนตะวันตกทั้งนั้น ไม่ว่าคนไหนก็มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งนั้น ถ้าวันนี้ลูกฆ่าพวกเขา พรุ่งนี้ไม่โดนตามล่าก็โดนไล่ฆ่า ลูกควรจะรู้ผลลัพธ์ของการทำเรื่องนี้นะ”
เสี่ยวหงยิ่งได้ใจ สีหน้าแค่นยิ้มเยาะออกมา ชี้นิ้วไปที่เทียนขุยพลางถามว่า “คุณรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร?”
หลายคนมองสบตากันไปมา และดึงสายตากลับไปที่ชายร่างกำยำแข็งแรงตรงหน้าอีกครั้ง ในสายตาพวกเขามีแต่ความสงสัย พวกเขาไม่รู้สิว่าเขาเป็นใคร ในสายตาทุกคน เขาเป็นการ์ดคนหนึ่ง เป็นเครื่องมือฆ่าคน
เสี่ยวหงเงยหน้าขึ้นมา พูดด้วยสีหน้าภูมิใจว่า “บางทีพวกคุณไม่รู้จักเขา แต่ฉันว่าบางคนในหมู่พวกคุณต้องเคยได้ยินชื่อเขามาก่อนแน่ เขาคือกำแพงเหล็กของประเทศหวา รองผู้นำผู้ควบคุมดูแลเขตซีหนานแห่งสำนักเจ็ดพิฆาต——เทียนขุย!”
พอคำพูดนี้ออกมา ทุกคนเงียบกริบ สำนักเจ็ดพิฆาต สำหรับคนแก่หลายคนเรียกได้ว่าคุ้นเคยมากเลย
พวกเขาจะไม่เคยได้ยินชื่อกองกำลังระดับภูมิภาคกองกำลังที่แข็งแกร่งนี้ได้ยังไง นี่คือกำแพงเหล็กของประเทศหวา ประชาชนธรรมดาอาจจะไม่รู้ แต่พวกเขารู้นี่ พวกเขารู้ดีเชียวล่ะ รู้ดีเลยว่ารองผู้นำของสำนักเจ็ดพิฆาตหมายถึงอะไร
นายพลสี่ดาว รองผู้นำก็คือนายพลสี่ดาวของประเทศหวา! เคยออกศึกเข้าสู่สนามรบ ฆ่าฟันศัตรู ปกป้องชายแดนประเทศ คุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน! พวกเขามีอำนาจสิทธิพิเศษ มีอำนาจในการควบคุมกองกำลังระดับภูมิภาคภาคหนึ่ง ฝีมือการรบที่อยากควบคุมภูมิภาคหนึ่งนั่นก็เป็นแค่คำพูดเดียว การกระทำเดียวเท่านั้น!
ถ้าโดนคนแบบนี้ฆ่า ฆ่าแล้วก็แล้วกัน พวกเขาไม่มีทางพูดอะไรได้เลย และไม่มีใครกล้าสืบด้วย เพราะพวกเขาไม่อยู่ในการควบคุมนานแล้ว พวกเขาขึ้นตรงกับคนแค่คนเดียว คนคนนั้นเป็นเสมือนเทพของประเทศหวา เป็นระดับสูงสุดไร้ใครเปรียบของประเทศหวา
ทุกคนในที่นี้รู้เรื่องนี้ดี หยางจิ่งเซียนเองก็รู้ สำนักเจ็ดพิฆาตมีรองผู้นำเจ็ดคน แบ่งกับควบคุมพื้นที่แปดที่ของประเทศหวา ทั้งเจ็ดคนถูกขนานนามว่าเจ็ดเทียนแห่งสำนักเจ็ดพิฆาต
“นี่ นี่ นี่มันเป็นไปได้ยังไง เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เขาไม่มีทางเป็นคนของสำนักเจ็ดพิฆาตเด็ดขาด!”
เสี่ยวหงแบสองมือออก ยักไหล่ถามว่า “ทำไมจะเป็นไปไม่ได้?”
“ถ้าเขาเป็นรองผู้นำของสำนักเจ็ดพิฆาตจริง ไม่มีทางยอมตามเธอมาเป็นนักฆ่าแบบนี้หรอก! เธอกำลังพูดจาโป้ปด กำลังลบหลู่ทหารหาญของประเทศหวาเรา เธอต้องโดนจัดการแน่” คนแก่อายุมากคนนั้นชี้นิ้วไปที่เสี่ยวหงพลางพูด
เสี่ยวหงแค่นเสียงหึพลางถาม “พูดมากความกับพวกคุณไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะพวกคุณไม่รู้จักเขาหรอก อย่างพวกคุณน่ะอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวบางอย่างเกี่ยวกับสำนักเจ็ดพิฆาต แต่อยากรู้จักคนในนั้น ยังไม่คู่ควรพอหรอก!”
คนแก่ที่มีหลานเรียนมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดคนนั้นชี้นิ้วมาที่เสี่ยวหง พลางตะคอกดังว่า “นางมาร เธอเลิกคิดจะมาสร้างเรื่องโกหกหลอกผู้คนที่นี่เลยนะ ลบหลู่บุคคลสำคัญของประเทศหวาเรา รู้ไหมว่าโทษอะไร? มันเป็นโทษตาย นางมารอย่างเธอ หาใครที่ไหนไม่รู้มาหลอกพวกเรา บอกว่าเป็นบุคคลสำคัญของประเทศหวา เธอคิดว่าพวกเราเลอะเลือนแล้วหรือไง?”
เสี่ยวหงไม่ได้สนใจคนแก่คนนั้นอีก ได้แต่พึมพำว่า “บางทีพวกคุณคงจะแค่เคยได้ยินชื่อสำนักเจ็ดพิฆาต แต่ไม่รู้ว่าเทียนขุนแห่งสำนักเจ็ดพิฆาตเป็นยังไง หมัดแปดทิศของเขาน่ะฝึกฝนจนใช้ได้ดั่งใจ ตอนนั้นเขาคุมสนามรบ ออกคำสั่งทหารนับหมื่นปกป้องซีหนาน สองหมัดเหล็กนี่ทำให้ศัตรูผู้รุกรานต่างหวาดหวั่นเพียงแค่ได้ยินชื่อเขา ตอนนี้ทำไมเขาถึงมาปกป้องคุ้มครองฉัน พวกคุณรู้ไหม? เพราะเขารักฉัน เขาเป็นคนที่หมู่บ้านเก่าตอนเด็กของฉัน พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก สนิทสนมกันมาก พอเขาได้ยินประสบการณ์ชีวิตฉัน ก็บอกจะช่วยฉันอย่างสุดกำลังโดยไม่มีข้อแม้เลย ด้วยฐานะตำแหน่งของเขาฆ่าพวกคุณไป คิดว่าจะมีใครกล้าหาเรื่องฉันไหม?”