บทที่ 56 ผู้มีความสามารถ
วันต่อมาเป็นวันที่มีกิจกรรมของตระกูลเซียว
เป็นอีกครั้งที่ตระกูลเซียวเหมาโรงแรมนานาชาติฟู่คางทั้งโรงแรม ครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างตระกูลเฉิงในเจียงตู ครั้งก่อนหลังจากที่โดนตระกูลจางหักหน้า แน่นอนว่าเซียวเจิ้นเที่ยนต้องกู้หน้าตัวเองกลับมา
ตระกูลเฉิงในเจียงตูเป็นตระกูลที่ทำธุรกิจ เงินที่เขามีน่าจะเทียบได้กับหวงหยวนฉาว
ดังนั้นกิจกรรมครั้งนี้ต้องยิ่งใหญ่กว่าครั้งก่อนแน่นอน
คนจำนวนมากต่างตกตะลึงว่าตระกูลเซียวมีอำนาจมาก ถึงสามารถเป็นหุ้นส่วนกับตระกูลเช่นนี้ได้ เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ ตามหลักแล้วตระกูลในเมืองใหญ่อย่างเจียงตู ต้องไม่เห็นตระกูลเล็กๆ ในเมืองจินโจวอยู่ในสายตาสิถึงจะถูก
แต่ทว่าตระกูลเซียวสามารถทำได้แล้ว
เมื่อฟางเหยียนกับเย่ชิงหยู่มาถึงที่นี่ กิจกรรมยังไม่เริ่ม
ไม่ไกลจากประตูโรงแรมนานาชาติฟู่คาง มีร้านของคนแก่ตั้งแผงอยู่ข้างทาง มันเป็นจุดสนใจของคำจำนวนมาก ทุกคนพากันเดินไปตรงนั้น
ทั้งสองยืนอยู่บนถนนได้ยินเสียงถกเถียงของคนจำนวนมาก
“ตาเฒ่าตาบอดนี่เก่งจริงๆ แค่คลำไปคลำมาก็รู้ถึงฐานะทางบ้านของสามีฉัน”
“นี่ถ้าฉันยังไม่แต่งงาน ฉันคงไม่เชื่อหรอกนะ แต่นี่ฉันแต่งงานแล้วไง ยังแม่นขนาดนี้ สุดยอดจริงๆ”
“ไว้วันหลังฉันจะพาลูกสาวของฉันมาหาเขา อยากรู้จังว่าลูกเขยในอนาคตของฉันจะเป็นยังไง”
ผู้หญิงมีความอยากรู้มากกว่าผู้ชายสิบเท่า เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ดึงดูดความสนใจของเย่ชิงหยู่ได้เป็นอย่างมาก
“ฟางเหยียน เราไปดูกันดีไหม”
ฟางเหยียนไม่ปฏิเสธคำขอใดของเย่ชิงหยู่ เขาจึงพยักหน้าตอบ
ไม่นานทั้งสองก็มาถึงแผงที่รกรุกรังที่ล้อมรอบชายชราดวงตาบอดสนิททั้งสองข้าง ชายชราสวมเสื้อผ้าแนวโบราณ รอยปะเต็มไปทั้งตัว แต่เขาดูสะอาดสะอ้านเป็นอย่างมาก เขาไว้ผมยาวและหนวดยาว ซึ่งทั้งผมและหนวดของเขาเป็นสีขาว ดูไปดูมาก็เหมือนเหล่าเซียนไม่น้อยเลยทีเดียว
ข้างหน้าของเขามีหินหลากสีวางอยู่จำนวนหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นสีที่ไม่ค่อยได้เห็น แต่ในเมืองหรูเช่นนี้ชอบไข่มุก อัญมณีและหยกต่างๆ พวกเขาจึงไม่ได้สนใจกับสิ่งที่วางอยู่ตรงหน้า
มีป้ายอันหนึ่งวางอยู่ข้างหินเหล่านั้น บนป้ายเขียนว่า จับกระดูกดูดวง จับแค่ผู้หญิง
คำบนป้ายทำให้คนคิดไปไกล ถ้าไม่เห็นว่าเป็นคนแก่ ทุกคนคงจะคิดว่าเขาจะใช้มุกจับกระดูกดูดวงมาแต๊ะอั๋งผู้หญิง
ก่อนหน้านี้มีอยู่คนหนึ่ง เขาใช้วิธีจับหน้าอกดูดวงอยู่ตามหัวถนน และจับแต่ผู้หญิงเท่านั้น ต่อมามีคนแจ้งความแล้วเขาก็โดนจับไป
เมื่อชะโงกเข้าไปก็เห็นคนถกเถียงกันเรื่องน่าอัศจรรย์ของชายชราอยู่ไม่น้อย
“แม่นจริงๆ แม่นกว่าพวกดูดวงจีนสี่แถวไม่รู้กี่เท่า”
“แค่คลำกระดูกเบาๆ ก็รู้เรื่องของสามีฉัน ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ”
“ฉันว่าตาเฒ่าคนนี้คงจะไม่ใช่เทพที่ลงมาไล่ตรวจตราตามโลกมนุษย์หรอกใช่ไหม”
ขณะนั้นเอง มีผู้หญิงนั่งยองอยู่ตรงหน้าชายชรา ชายชราคลำฝ่ามือของหญิงสาว คลำตั้งแต่ปลายนิ้วจนถึงแขน เริ่มคลำตั้งแต่นิ้วก้อยไปนิ้วโป้ง เมื่อเขาคลำถึงข้อต่อกระดูก เขาก็จะหยุดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
คลำได้ประมาณสามนาที เขาวางมือของหญิงสาวคนนั้นลงแล้วพูดว่า “คุณผู้หญิงมาจากครอบครัวธรรมดา พ่อแม่เป็นเพียงคนงานธรรมดา แต่คุณกลับแต่งงานกับผู้ชายที่ดี ถ้าผมเดาไม่ผิด สามีของคุณผู้หญิงน่าจะมีธุรกิจด้านโรงแรม และเป็นโรงแรมใหญ่ด้วย”
หญิงสาวคนนั้นเอามือปิดปาก และพูดอย่างตกตะลึงว่า “พูดถูกทุกอย่างเลยค่ะ ท่านเซียนสุดยอดมาก”
ชายชรายิ้มแต่ไม่พูดอะไร
เย่ชิงหยู่มองฟางเหยียนแล้วพูดเบาๆ ว่า “ฉันอยากดูว่าเขาแม่นไหม”
พูดจบเธอก็นั่งยองลงตรงหน้าของชายชรา จากนั้นจึงยื่นมือออกไปแล้วพูดว่า “นี่คุณตา ฉันอยากลองดู”
ชายชราไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว เขายิ้มแล้วพูดว่า “ได้สิ”
จากนั้นเขาจึงยกมือขึ้นมาคลำไปบนมือของเย่ชิงหยู่ เขาคลำตั้งแต่นิ้วโป้งไปนิ้วก้อย หลังจากคลำได้รอบหนึ่ง จู่ๆ สีหน้าของเขาก็ผิดปกติ ราวกับว่าเขากำลังตกตะลึง
เขาคลำจากนิ้วก้อยไปยังนิ้วโป้งอีกครั้ง เขาคลำแบบนี้ไปประมาณสองสามครั้ง จู่ๆ ชายชราก็เด้งตัวลุกขึ้นมาจากพื้น จากนั้นก็โค้งเก้าสิบองศาให้เย่ชิงหยู่
การกระทำของเขาทำให้เย่ชิงหยู่งงไปหมด เธอรีบประคองชายชราแล้วพูดว่า “คุณตาทำอะไรคะ”
ชายชราพูดด้วยท่าทางจริงจังว่า “คุณผู้หญิง ผมไม่กล้าพูดถึงดวงของคุณ”
เย่ชิงหยู่อึ้งไปอีกครั้ง เธอหันไปมองฟางเหยียน จากนั้นจึงยิ้มและถามขึ้นว่า “พูดได้เลยค่ะ มีอะไรที่ไม่กล้าพูดล่ะคะ”
มุมปากของชายชรากระตุก และพูดอย่างเลื่อมใสว่า “คุณผู้หญิง ถ้าผมคลำไม่ผิด สามีของคุณต้องเป็นคนมากความสามารถอย่างแน่นอน อยู่ในสงครามมาเป็นเวลานาน เพื่อปกป้องแผ่นดิน อีกทั้งยังอายุน้อยและหล่อเหลา กำเริบเสิบสานและโอหังอวดดี!”
คำพูดของชายชราทำให้เย่ชิงหยู่งงไปหมด คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็ชี้มาที่เธอและพากันซุบซิบ
“คนนี้เป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงมีสามีที่แข็งแกร่งขนาดนั้น”
“ไม่ใช่หรอก นี่มันสมัยไหนแล้ว จะมีสงครามได้ยังไง อยู่ในสงครามมาเป็นเวลานานอะไรกัน”
“…”
เย่ชิงหยู่มองฟางเหยียนแล้วพูดว่า “คุณตาคะ คุณดูผิดหรือเปล่า สามีของฉันเป็นทหารจริงๆ ค่ะ แต่เขาปลดประจำการแล้ว จะเป็นคนมากความสามารถที่ควบคุมเหล่าทหารได้ยังไงกัน”
ชายชราหัวเราะออกมาเสียงดัง จากนั้นจึงพูดว่า “ผมเจอคนมามากมาย ไปผิดแน่นอนครับ!”
ฟางเหยียนยกมือขึ้นมาดึงมือเย่ชิงหยู่แล้วพูดว่า “ไปเถอะ เขาดูไม่แม่น”
เย่ชิงหยู่พยักหน้าและเดินตามฟางเหยียนออกมา
สามีของเย่ชิงหยู่คือฟางเหยียน ฟางเหยียนเป็นคนมากความสามารถที่ไหนกันล่ะ?
“แปลกจัง คุณตาคนนั้นดูดวงคนอื่นแม่น แต่ทำไมของฉันถึงไม่แม่นล่ะ” เย่ชิงหยู่หมดอารมณ์ และถอนหายใจออกมา “นายว่าที่เขาพูดคืออนาคตของสามีฉันหรือเปล่า”
เมื่อฟางเหยียนได้ยินเช่นนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มแล้วก็พูดว่า “อาจจะใช่มั้ง”
เขาพูดไปแบบนั้น แต่ในใจของฟางเหยียนกลับตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ชายชราคนนี้ไม่ใช่คนทั่วไปอย่างแน่นอน
ทุกคนไม่ได้หยุดถามเพราะฟางเหยียนและเย่ชิงหยู่ออกไป ทุกคนไม่ได้หยุดดูเพราะชายชราดูไม่แม่นเพียงคนเดียว ความอยากรู้อยากเห็นผลักดันให้คนถามอย่างต่อเนื่อง
เย่ชิงหยู่หันกลับไปมองชายชราคนนั้น เธอย่นปากยู่แล้วพูดว่า “เฮ้อ นี่มันน่าแปลกจริงๆ ดูดวงคนอื่นแม่นขนาดนั้น แต่พอดูให้ฉันก็พูดเรื่องขุนพลอะไรไม่รู้ ใช่สิ ฟางเหยียน นายว่าสมัยนี้ยังมีขุนพลไหม”
ฟางเหยียนเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “คงจะมีมั้ง”
“ไปเถอะ ใกล้จะเริ่มแล้ว”
ฟางเหยียนชี้ไปที่โรงแรม ตอนนี้มีคนเดินเข้าไปอย่างไม่ขาดสาย
เย่ชิงหยู่พยักหน้า ทั้งสองจึงเดินเข้าไปในโรงแรมนานาชาติฟู่คาง เพิ่งจะเดินเข้ามาถึงก็เจอเสิ่นจื่อเจี๋ยกับตู้หมิงล่าง ทั้งสองต่างก็ควงสาวน้อยมาด้วย แต่งตัวอลังการงานสร้าง ดูท่าแล้วน่าจะมางานเต้นรำครั้งนี้
เมื่อทั้งสองคนเห็นฟางเหยียนกับเย่ชิงหยู่มาด้วยกัน ก็นึกถึงเรื่องงานลงทุนครั้งใหญ่ของหวงหยวนฉาวเศรษฐีภาคซีหนานที่ถูกแพร่สะพัดออกมาอย่างหนาหู
ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงสบตากัน และเดินเข้าไปหาฟางเหยียนกับเย่ชิงหยู่ด้วยเจตนาที่ไม่ดี