เวินหลานที่วิ่งอย่างรวดเร็วตลอดทาง คิดไม่ถึงว่าจะลนลานจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร?
โลกนี้ทำไมถึงได้บ้าคลั่งถึงเพียงนี้?
ยิ่งเข้าใกล้คนผู้นั้นมากเท่าไร ในใจของเธอก็ยิ่งกระวนกระวายมากเท่านั้น จากวิ่งเร็ว กลายเป็นกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ทั้งที่เป็นสถานที่ที่ไม่ถึงสามเมตร เธอใช้เวลาสามนาทีถึงจะมาถึง สามารถมองออกได้ถึงกระบวนการความคิดของเธอที่เปลี่ยนไป
ทั้งประหลาดใจ ทั้งเกรงกลัว ทั้งลนลาน กระส่ายกระสับและความรู้สึกที่สลับซับซ้อนอื่นๆ ทั้งหมดนั้นมารวมอยู่บนใบหน้าที่ขาวดุจหยกทันที ขณะที่ออกห่างจากคนผู้นั้นเป็นระยะทางอันไกลแล้ว เธอยังไม่ลืมที่จะจัดระเบียบเสื้อผ้า ลูบผมเผ้าเบาๆ ท่าทางอันสง่างามนั้นตราตรึงใจของชายหนุ่มไม่น้อย
หลังจากที่จัดการเสร็จแล้ว เธอราวกับว่ารวบรวมความกล้าขึ้นมาได้เพียงพอแล้ว จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึก “คุณ…”
ยังไม่ทันได้เอ่ยจบ กลับถูกเจิ้งชงขัดจังหวะเข้า จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความปลาบปลื้มใจ เขามองไปยังเวินหลานด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “คุณเวินหลาน ความฮอตของคุณที่มีต่อแฟนคลับเกินกว่าจินตนาการของผู้คนทั้งหลาย มิน่าล่ะคุณถึงสามารถโด่งดังและถูกผู้คนมากมายคลั่งไคล้ได้ จนมาอยู่ในจุดๆ นี้ได้ ดาราหลายคนเทียบไม่ติดเลยด้วยซ้ำ ถูกต้อง เธอก็คือแฟนคลับตัวยงของคุณ ฟางฟัง”
สิ้นเสียง เจิ้งชงก็ส่งสัญญาณทางสีหน้าให้เธอ ความหมายไม่ต้องเอ่ยก็เข้าใจ ประสงค์ก็คือให้เธอให้ความร่วมมือตนเอง ถึงอย่างไรตนเองก็เป็นผู้จ่ายเงิน ข้อเรียกร้องเพียงเท่านี้ก็คงไม่เกินไป!
ถูกคนอื่นขัดจังหวะ ทำให้เวินหลานมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ขึ้นมา ทว่าก็สามารถให้อภัยได้ มีแฟนคลับไม่น้อยคนที่ทำเรื่องที่ไร้เหตุผลมากมายเพื่อติดตามดารา บางครั้งก็มีการขอแต่งงาน มีทั้งสะกดรอยตาม และมีคนที่เสียใจจนบ้าคลั่ง การกระทำที่บ้าคลั่งเช่นนี้ เธอเห็นจนชินแล้ว
ทว่า เจ้าหมอนี่ทำสายตาส่งสัญญาณมาตลอด หมายความว่าอย่างไร?
เธอไม่เข้าใจ เธอก็ไม่อยากเข้าใจด้วย
ถึงอย่างไรจิตใจของเธอก็ไม่อยู่ตรงนี้ แต่อยู่บนตัวของคนผู้นั้น
รอยยิ้มเจิ้งชงค้างอยู่อย่างนั้น คิดไม่ถึงว่าเวินหลานจะไม่สะทกสะท้านไปด้วย คงไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจความหมายของเขาหรอกนะ? เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาก็มีความไม่สงบนิ่งเล็กน้อย เอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “คุณเวินหลาน อย่าแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ การที่คุณทิ้งแฟนคลับแล้ววิ่งลงมา ไม่ใช่เพื่อฟางฟังหรอกเหรอ?”
ขณะที่เอ่ยอยู่ เขาก็ชี้มายังตัวเองเบาๆ บอกให้เวินหลานทำตามที่สายตาเขาบอก เมื่อมั่นใจแล้วว่าเวินหลานมองมายังเขาแล้ว เขาจึงเคลื่อนสายตาไปอยู่บนร่างของฟางฟังที่ยืนงุนงงอยู่ข้างๆ ความหมายชัดเจนแจ่มแจ้ง!
ชายหนุ่มผู้นี้ต้องการที่จะแสดงออกอย่างดีต่อหน้าผู้หญิงที่รัก!
นี่เธอกำลังถูกคนใช้เป็นเครื่องมืออยู่หรือ!
ความเคารพสร้างขึ้นบนพื้นฐานของความเสมอภาคกัน!
“ฉันสนิทกับคุณมากงั้นเหรอ?”
คำพูดนี้ของเวินหลานเปล่งออกมา รวมถึงท่าทางทำให้ใบหน้าของเจิ้งชงไม่พอใจขึ้นมาทันที โมโห!
วินาทีต่อมา เรื่องราวที่ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงจนพูดไม่ออกเกิดขึ้นแล้ว!
เวินหลานพุ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่ง
คนคนนั้นคือ คนคนนั้นไม่ใช่บอดี้การ์ดของคุณหนูตระกูลฟางหรอกหรือ? จะเป็นไปได้ยังไง?
เมื่อทุกคนเห็นฟางเหยียนแวบแรก ต่างก็นึกว่าเขาคือบอดี้การ์ดของฟางฟัง!
ทว่าภาพต่อหน้านี้ช่างบาดใจเสียจริง!
เวินหลานกอดฟางเหยียนแน่น ตะโกนด้วยอารมณ์ที่ตื่นเต้น “ฟาง ฟางเหยียน คุณจริงๆ ด้วย!”
หลังจากความตกตะลึงที่พูดไม่ออก เวลาต่อมาทั้งห้องโถงก็เกิดเสียงซุบซิบฮือฮาขึ้นมา!
ไม่ได้มาหาเจิ้งชง?
นี่เป็นการตบหน้าเข้าอย่างจังเลยไม่ใช่หรือ?
โดยเฉพาะคำพูดนั้นที่ว่าฉันสนิทกับคุณมากงั้นเหรอ?
ช่างเป็นคำพูดที่แทงใจดำฝ่ายตรงข้ามเสียจริง
ทุกคนต่างก็เดากันได้แล้วว่าการที่เวินหลานสูญเสียความเป็นตัวเองเนื่องจากเจิ้งชง ทว่าบัดนี้? เวินหลานไม่เพียงแต่ฉีกหน้าเจิ้งชง ทว่าสาเหตุที่พุ่งลงมานั้น เป็นเพราะผู้ชายอีกคน!
โลกเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?
ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ทั้งห้องโถงตกตะลึงจนพูดไม่ออก อึ้งจนตาค้าง
ไม่มีผู้ใดทราบว่าเกิดอะไรขึ้น!
หลังจากตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ ทั้งห้องโถงก็มีเสียงซุบซิบนินทาดังขึ้น!
ผู้ชมที่ตกตะลึงหลังจากที่ทราบความจริงแล้ว ก็ตามมาซึ่งความพะอืดพะอม หัวเราะจนเกร็งหน้าท้อง!
ผู้ชมที่อดกลั้นมาเป็นเวลานานใช้คำซุบซิบนินทา มาระบายความสะใจ นี่เป็นถึงฉากความล้มเหลวจากการทำตัวโอ้อวดครั้งยิ่งใหญ่! อีกทั้งคนผู้นั้นกลับเป็นเจิ้งชงคุณชายตระกูลเจิ้ง ที่มี ‘ชื่อเสียงกระฉ่อน’ อีกด้วย เขาผู้ซึ่งแสดงอำนาจโอ้อวดมาโดยตลอด ก็มีวันนี้เช่นกัน? ใช้นิ้วเท้าคิดก็ยังทราบถึงจิตใจของเจิ้งชงในขณะนี้!
เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคุณชายเจิ้งดูไม่ได้ขนาดนี้!
เวินหลานคือ เทพธิดาสุดเซ็กซี่ที่เป็นที่ยอมรับทั่วกัน และเป็นคนรักในความฝันของใครหลายคนด้วย เธอปฏิเสธข้อเรียกร้องที่ไม่ดีของหลายคนไปด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่งมานับต่อนับ ได้ยินมาว่ามีผู้กำกับชื่อดังคนหนึ่งต้องการนอนกับเธอ ถูกเธอฟ้องร้องไปยังศาลทันที! ผู้กำกับคนนั้นจึงต้องออกจากวงการไปด้วยชื่อเสียงอันป่นปี้ ใครๆ ล้วนคิดว่าเวินหลานจำต้องดับเป็นแน่ ทว่าใครจะไปรู้ว่าเธอโด่งดังมากกว่าเมื่อก่อนอีก! เธอยังกลายมาเป็นความภาคภูมิใจในวงการบันเทิงอีกด้วย
ดาราชื่อดังเคยตามจีบเธอหลายวัน ทว่าล้วนถูกเธอปฏิเสธไปทั้งหมด!
คนอื่นไม่ชัดเจน ทว่าเวินหลานชัดเจนดี การที่เคยรักราชาที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของโลก ใครจะไปมีอารมณ์ไปมองดูทองขาวและเพชรกันเล่า?
ความแข็งแกร่งของฟางเหยียน ไม่ใช่สิ่งที่ดาราที่มักพูดจาหว่านล้อมเหล่านั้นจะมาเทียบทันได้!
ผู้ชมทั้งหลายอยากจะประจักษ์ว่าชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าเวินหลานนั้นมีความสามารถอันใดกันแน่ จึงทำให้เวินหลานหวนหาเช่นนี้ ไม่พูดไม่ได้ว่า จุดสนใจของผู้ชมในตอนนี้ไม่อยู่กับเวินหลานแล้ว ราวกับทุกคนล้วนทราบดี ว่าจุดสนใจนั้นคือการเดินหมากระหว่างชายหนุ่มสองคน!
ทว่าการลงหมากครั้งนี้ ยังไม่เริ่มต้นก็จบเสียแล้ว!
เจิ้งชงถูกตบหน้าเข้าไม่พอ ชายผู้นั้นนิ่งเงียบไม่พูดอันใด ก็สามารถทำให้เวินหลานลุกลี้ลุกลนได้ เพียงจุดนี้ เจิ้งชงก็แพ้ราบคาบแล้ว ราวกับถูกคนกดทับไว้บนพื้นแล้วบดขยี้อย่างไรอย่างนั้น
เจิ้งชงอย่างเขาจะไปเทียบกับคนอื่นได้อย่างไร?
ชายหนุ่มผู้นี้หน้าตาธรรมดา ทว่าการแต่งกายกลับดูมีรสนิยมไม่น้อย ผู้ชมมองแค่หางตาก็มองออก ว่าเสื้อคลุมกันลมสีดำนี้คือสินค้ายอดนิยมร้านอาร์มานี่ ราคาขายสูงถึงเจ็ดหลัก!
เมื่อนึกถึงว่าสถานะของชายหนุ่มไม่น้อยเลย ทั้งห้องโถงก็ฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาต่างก็เฝ้ามองทิศทางของเรื่องนี้อยู่ ถึงอย่างไรการยุ่งเรื่องผู้อื่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นปัญหาอยู่แล้ว!
เดิมทีเวินหลานปรากฏตัวขึ้นก็ทำให้ผู้คนต้องตกตะลึงอยู่แล้ว ทว่าบัดนี้ ‘ราชาขี้โม้’ อย่างเจิ้งชงได้ทำให้บรรยากาศคลุกรุ่นขึ้นมาสูงสุด ทุกคนล้วนอยากทราบว่า เจิ้งชงจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร!
เจิ้งชงหน้าตาบิดเบี้ยวเนื่องจากความโมโห สีหน้าดูไม่จืด รังสีอำมหิตภายในดวงตาเห็นได้ชัดเจน ตั้งแต่เล็กจนโตเขาเคยขายหน้าเช่นนี้มาก่อนที่ไหน? ในเวลานี้ เขารู้สึกเพียงว่าใบหน้าของตนแสบร้อนจนเจ็บ ไม่เพียงแค่เขาผู้เดียว แม้แต่ผู้ติดตามทั้งสี่ก็สีหน้าดูไม่จืดเช่นกัน ทั้งสี่คนราวกับกินอุจาระเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น ไม่กล้ามองเจิ้งชง โดยเฉพาะโจวซาน น้องเล็กที่เจิ้งชงให้ความคาดหวัง
“คุณชายเจิ้ง เอ่อ เอ่อคือว่า…”
เปรียะ!
จำพูดของโจวซานหยุดอยู่เพียงเท่านั้น และสายตาที่โมโหจนลดทอนไม่ได้ของเจิ้งชง ราวกับต้องการที่จะจับเขาฉีกเป็นชิ้นๆ !
น่าสนุก!
เป็นสุนัขจนตรอกแล้วงั้นหรือ?
หลังจากเสียงซุบซิบนินทาดังทั่ว ผู้คนก็เลือกที่จะเพิกเฉยต่อการแทรกของเจิ้งชงและคนอื่นๆ สำหรับพวกเขา ชายหนุ่มข้างหน้าเวินหลานถึงจะเป็นจุดสนใจของพวกเขา ใบหน้าธรรมดา นอกจากชาติตระกูลจะมีชื่อเสียงแล้ว ตำแหน่งก็น่าจะไม่ธรรมดาเช่นกัน
มีเงิน หรือว่าจะไม่มีตำแหน่งด้วยเช่นนั้นหรือ?
สายตาทั้งหมดมารวมอยู่ที่ฟางเหยียน ฟางเหยียนกลับใบหน้านิ่งเรียบ ไม่ได้ถูกกระทบด้วยบรรยากาศที่น่าประหลาดใจของทั้งห้องโถงเลยแม้แต่น้อย
เวินหลานยังคงกอดเขาอยู่ กอดแน่นมาก แทบที่จะแนบชิดเข้าไปอยู่ติดกับเขา! ฉากนี้ช่างทำให้ผู้คนต้องอิจฉาจนตาร้อนเสียจริง!
บางคนก็คิดว่า เหตุใดคนผู้นั้นถึงไม่เป็นตัวเอง!
“พอได้แล้วมั้ง?” อยู่ๆ ฟางเหยียนก็ยกมือขึ้นมาผลักเวินหลานออก!
หลังจากผลักเวินหลานออก แสงระยิบระยับในดวงตาของเธอก็มีน้ำตาคลอขึ้นมา
“ขอโทษนะ ที่ฉันได้เจอคุณ มันตื่นเต้นเกินไปแล้ว!” เวินหลานเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ชัดเจน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ราวกับว่าเธอไม่ใช่ดาราที่คนอื่นติดตาม แต่เจ้าหมอนี่ถึงจะเป็นดาราที่เธอติดตาม!
ฟางเหยียนจ้องสายตาไปยังเธอนิ่ง ไม่เอ่ยอันใด ภายใต้การสบตา เธอกลับรู้สึกถึงความกดดันอันน่าประหลาด ไม่กล้าสบตาเขาโดยตรง
ฟางฟังเรียกสติกลับมาได้ การกระทำของเวินหลานทำให้เธอจับต้นชนปลายไม่ถูก เวินหลานที่อยู่เบื้องหน้าเธอ เป็นถึงเทพธิดาที่ผู้คนนับไม่ถ้วนติดตาม ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าฟางเหยียนแล้วก็เห็นได้ชัดว่าธรรมดาอย่างยิ่ง เมื่อไร้ความมั่นใจในตัวเองและสุภาพเรียบร้อย ภายใต้แสงไฟ ราวกับซินเดอเรลล่าเห็นชายหนุ่มที่รักแต่ไม่ได้มาครอบครองอย่างไรอย่างนั้น