“อืม?” เย่เฟยขมวดคิ้วมองชายรูปงาม ชายรูปงามหัวเราะอิๆ แล้วกล่าว “หญิงสาวคนนี้รูปลักษณ์พิเศษ ถ้าฆ่าแบบนั้นก็เสียดายเปล่า สู้เราพาไปเสวยสุขกันสองคนดีกว่า หลังจากที่พวกเราออกไปแล้ว ครึ่งเดือนจึงจะมีคนมารับพวกเรา ช่วงครึ่งเดือนนี้จะอยู่เฉยๆไม่ได้นะ สาวสวยแบบนี้ฆ่าไป ไม่ใช่ว่าเสียเปล่าหรอกเหรอ”
เมื่อกี๊เย่เฟยเลือดขึ้นหน้า ไม่ได้ดูว่าสวยหรือไม่สวย เมื่อได้ยินชายรูปงามพูดแบบนั้น เขาจ้องหญิงสาวคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า ที่แท้ก็เป็นสาวงามที่หาได้ยาก ประสาทสัมผัสทั้งห้าได้รูป รูปร่างสูง ผิวขาวนวล ในร่างกายมีออร่าของความเป็นผู้ใหญ่ นี่ไม่ใช่คนที่ถังยู่จะเทียบได้
เขาแสยะปากยิ้มออกมา แล้วฉวยแขนของเย่ชิงหยู่ไว้ ยกมือขึ้นมากอดคอของเย่ชิงหยู่ไว้ จากนั้นก็เอาร่างกายของตัวเองไปแนบเย่ชิงหยู่ แล้วกล่าว “นี่เป็นความคิดที่ไม่เลวมาก”
เย่ชิงหยู่ตกใจจนหน้าขาวซีด ตัวสั่นไปหมด เธอไม่ใช่ฟางเหยียน ไม่มีความสงบที่ใจเย็นแบบนั้น เธอเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง ตอนที่เจอกับภัยอันตราย จะกังวล จะหวาดกลัว
คำพูดที่ทั้งสองคนนี้พูดไม่ใช่คำพูดของคนเลยแม้แต่น้อย พวกเขามองตัวเองเป็นอะไร?เป็นเครื่องมือเหรอ?
หัวของเย่เฟยมุดเข้าไปในผมของเย่ชิงหยู่ เขาสูดดมกลิ่นหอมที่ลอยมาของผมเย่ชิงหยู่อย่างลามก
“ไงบ้าง?” ชายรูปงามถาม “ฉันพูดไม่ผิดใช่มั้ยล่ะ นี่เป็นผู้หญิงที่หอมมากคนหนึ่ง”
“ความคิดดี!เหลือไว้ปลดปล่อยความต้องการของเราสหายทั้งสองได้” เย่เฟยหัวเราะอย่างสะใจออกมา
เมื่อเห็นท่าทางที่เข้ากันได้ดีของทั้งสอง เย่ชิงหยู่ส่ายหน้าอย่างหวาดกลัวแล้วกล่าว “ไม่ ไม่ พวกแกทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ ทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ ถ้าสามีของฉันรู้ เขาจะฆ่าพวกแก”
ฟางเหยียนเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของเธอ เป็นที่พึ่งพิงเดียวในก้นลึกจิตใจของเธอ ไม่ว่าเจออันตรายใดๆ เธอล้วนนึกถึงฟางเหยียนอย่างตอบสนองต่อสิ่งเร้า ต่อให้ที่นี่จะไม่ค่อยเป็นจริงสักเท่าไหร่ แต่เธอกลับจินตนาการต่อฟางเหยียนอย่างไม่สิ้นสุด
ฟางเหยียนเหมือนกับอัจฉริยะที่ทำได้หมดทุกอย่าง เขามักจะปรากฏกายในตอนที่ตนต้องการ ที่นี่คือชายแดน เป็นสถานที่ที่ไกลที่สุดของอวิ๋นกุ้ย พูดได้ว่าไกลจากความวุ่นวายของเมือง ไกลจากสายตาของผู้คน แต่เธอเชื่อ เพียงแค่เธอเรียกฟางเหยียนในก้นลึกของจิตใจ ฟางเหยียนต้องปรากฏกายออกมาแน่นอน แน่ๆ แน่ๆ!
“สามีของแก?” เย่เฟยถามอย่างเหอะๆ “แกหมายถึงมันเหรอ?”
เย่เฟยยกมือขึ้นมาชี้ยังที่ฉินห้าวที่อยู่ไม่ไกล เมื่อถูกเย่เฟยชี้ ฉินห้าวส่งเสียงหาออกมา นั่งลงกับพื้น รีบโบกมืออย่างมือไม้อ่อนแล้วกล่าว “ไม่ๆๆ ฉันไม่ใช่สามีของเธอ ฉันไม่ใช่สามีของเธอ ได้โปรดท่านทั้งสองอย่างฆ่าผมเลย ผมมีเงิน ผมมีเงิน ผมให้เงินพวกคุณได้ ให้เงินพวกคุณเยอะๆ”
เมื่อกี๊ยังพูดว่าจะปกป้องเย่ชิงหยู่ ตอนนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง อะไรชดเชยแม่ของตัวเอง ไร้สาระทั้งนั้น เพื่อให้ได้เย่ชิงหยู่มา เขาพูดบ้าๆอะไรออกมาได้หมด ช่างน่าขำจริงๆ
ดีที่เย่ชิงหยู่ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับฉินห้าวไว้ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกห่อเหี่ยวใจ สำหรับเธอแล้ว ฉินห้าวเป็นเพียงคู่ค้าเท่านั้น เธอจะคาดหวังต่อคนแปลกหน้าได้อย่างไรกัน
“แกมีเงินเท่าไหร่?” ชายรูปงามถามอย่างเย็นชา คนอย่างพวกเขา ไม่ขาดแคลนเงิน
“รอฉันก่อน รอฉันก่อน!” พูดพลาง ฉินห้าววิ่งเข้าไปในรถบ้าน เขาเพิ่งจะเข้าไป รถก็ขับออกไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลย เขาหนีไปแล้ว เขารู้ ว่าเจอคนแบบนี้ใช่เงินก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ คนแบบนี้ต้องการชีวิตไม่ได้ต้องการเงิน เอาเงินให้พวกเขา บางทีเอาทั้งเงินทั้งชีวิต เขาไม่ได้โง่เง่าขนาดนั้น
แต่ เขาคิดว่าตัวเองสามารถหนีรอดไปได้มั้ย?ไม่ เขาหนีไม่รอด!
ในใจปีศาจทั้งสองคนที่สูญเสียทหารสามแสนนาย ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงฆ่าคนระบายความเกลียดชัง ดังนั้นฉินห้าวหนีไม่รอด ชายรูปงามใช้การจู่โจมอย่างรุนแรงวิ่งไป ไม่นาน ได้ยินเสียงร้องครวญครางอ้าดังขึ้น จากนั้นก็เป็นเสียงโครมดังขึ้น รถพลิกคว่ำแล้ว
รถบ้านช้ามาก จะวิ่งเร็วกว่าฝีเท้าของพวกเขาได้อย่างไรกัน?สองคนนี้บินได้!
ชายรูปงามฆ่าคนขับที่ขับรถ พลางดิ้นอย่างไร้ทางออก บนร่างกายของเขานอกจากแผลนั่นที่อยู่บนขา ยังมีบาดแผลอีกไม่น้อย เป็นแผลที่เกิดขึ้นจากการที่รถคว่ำ เขาถูกลากมาที่เย่เฟย ทั้งตัวได้กลายเป็นระส่ำระสายที่สุดไปแล้ว
“กลิ่นอะไร?” เย่เฟยพลางหายใจ พลางถามอย่างสงสัยไม่เข้าใจ
ชายรูปงามมองเป้าของฉินห้าว เห็นเพียงเป้าของเขาชื้นไปแล้ว!
ชายรูปงามค่อนข้างชอบใจ เขาพูดกับเย่เฟยว่า “ฉี่ออกมาแล้ว ไอ้สวะนี่มันฉี่ออกมาแล้ว!”
“เหอะๆ นี่คือสามีของแก?” เย่เฟยมองฉินห้าวเหมือนมองหมาตัวหนึ่งแล้วถาม
เย่ชิงหยู่มองฉินห้าว เขามันใจปลาซิวจริงๆ แต่นี่คือสันดานของคน ตอนที่เผชิญกับความตาย ใครจะไม่กลัวบ้าง?ฉินห้าวเป็นเพียงคนธรรมดา และเขามีเงินมาก มีหน้ามีตามาก ถ้าตายแบบนั้น สำหรับเขาแล้ว ชาตินี้เป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าสุดๆ
เย่ชิงหยู่ส่ายหน้ากล่าว “ไม่ เข้าไม่ใช่สามีของฉัน สามีฉันเป็นวีรบุรุษผงาดฟ้า ฉันว่าพวกแกปล่อยฉันไปจะดีที่สุดนะ ถ้าเขารู้ว่าพวกแกทำร้ายฉัน เขาจะฆ่าพวกแกด้วยมือของเขาเอง”
จู่ๆ คำพูดของเย่ชิงหยู่ได้แน่วแน่ขึ้น ราวกับเธอได้เตรียมพร้อมในการที่ฟางเหยียนจะมาช่วยเธอแล้ว
“โธ่ๆ!” ชายรูปงามหัวเราะ แล้วกล่าว “วีรบุรุษผงาดฟ้า?เราสองสหายคือวีรบุรุษผงาดฟ้า ต่อไปแกจะกลายเป็นเมียของวีรบุรุษผงาดฟ้า พวกเราจะทำดีกับแกนะ ไปกับพวกเราเถอะ!”
พูดพลาง ชายรูปงามกล่าว “เราฆ่าไอ้สวะนี่ แล้วรีบไปกันเถอะ!เดี๋ยวถ้าไอ้นั่นไล่ตามมา เราจะไปไหนไม่ได้แล้ว”
“ฆ่าไอ้สวะนี่!” เย่เฟยมองฉินห้าวที่อยู่บนพื้น แล้วกล่าว
ฉินห้าวส่งเสียงหาออกมา แล้วรีบกล่าว “ไม่นะ ได้โปรดเถอะ ได้โปรดพวกคุณปล่อยชีวิตหมาตัวหนึ่งไปเถอะนะ!ผมสามารถให้ในสิ่งที่พวกคุณต้องการได้ทั้งหมด เพียงแค่พวกคุณมาเมืองหยุนเฉิง ผมให้พวกคุณได้หมด”
ชายรูปงามส่งเสียงอ๋อออกมา แล้วถาม “แกให้อะไรได้?”
“อะไรก็ได้ได้หมด!” ใบหน้าของฉินห้าวเต็มไปด้วยท่าทางร้องไห้
“พอล่ะ อย่าไร้สาระกับมัน ไอ้สวะแบบนี้ เหลือไว้ก็ไม่มีประโยชน์!ฆ่ามัน แล้วรีบไป”
ในตอนที่ทั้งสองพูดคำพูดนี้ จู่ๆ รอบๆเกิดเป็นลมที่แปลกประหลาดขึ้น จู่ๆทั้งสองก็ขมวดคิ้วขึ้น คนนั้นมาแล้ว!พวกเขารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายแรงอาฆาตกำลังบีบเข้ามาใกล้แล้ว
และลมเมื่อกี๊ ก็คือลมที่แรงอาฆาตพามา
“มันมาแล้ว รีบไป!” เย่เฟยกล่าวอย่างหวาดกลัวสุดๆ
“ไป?ไปไหน?” จู่ๆ เสียงอันเย็นชาดังขึ้น
ทั้งสองรีบมองตามเสียงไป เมื่อมองก็เห็นแผ่นหลังสีดำขวางด้านหน้าของสองคนไว้ นี่เป็นชุดสงครามสีดำ สำหรับสองคนนี้ไม่มีอะไรคุ้นเคยไปกว่านี้แล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กัน ที่เขาไล่ตามมาถึงที่นี่ได้
ตอนที่สองคนฆ่าคนเมื่อกี๊เหรอ?หรือตอนที่พวกเขาพูดเมื่อกี๊?
ไม่ว่าจะตอนไหน ทั้งสองก็ตกใจจนตัวสั่นกับแผ่นหลังนี้เข้าให้แล้ว!