บทที่ 70 แก๊งจิ่วหลงเหมินผู้คุ้มกันหวงหลง
คำพูดของฟางเหยียน ทำให้หัวใจของคนในตระกูลตู้แตกสลาย
เขาพูดต่อ “ตั้งแต่วันนั้นที่เหยียบเขามาในเมืองจินโจว ตระกูลเซียวก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องย่อยยับ ฉันจะให้ตระกูลเซียวเป็นยังไง พวกเขาก็ต้องเป็นไปตามที่ฉันคิด ฉันให้ตระกูลหลิวยกเลิกความร่วมมือกับตระกูลเซียว พวกเขาทำตามฉันอย่างว่าง่าย แต่ทำไมตระกูลกู้ถึงเอาแต่เชื่อตระกูลเซียว พวกนายไม่ควรท้าทายคำสั่งของฉัน!”
“พวกนายวางใจเถอะ ฉันทำร้ายตระกูลพวกนาย เดี๋ยวตระกูลเซียวก็จะถูกทำลายไปด้วยเหมือนกัน อีกไม่นานตระกูลเซียวก็จะคุกเข่าและส่งของที่เป็นของตระกูลเย่กลับมา”
ตู้วี่หลินได้ฟังก็ตัวสั่นและขนลุกไปหมด นี่ไม่ใช่คำพูดล้อเล่น การที่ฟางเหยียนบอกเรื่องพวกนี้กับเขา เพราะเขากำลังจะตาย อาจจะไม่ใช่แค่เขา แต่เป็นตระกูลของเขาทั้งตระกูล
วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลตู้ เขาเพิ่งบอกว่าจะทำให้ตระกูลตู้ดำรงสืบไป แต่คิดไม่ถึงว่าภายในไม่กี่นาที ก็โดนใครคนหนึ่งมาบอกว่าจะฆ่าคนทั้งตระกูลต่อหน้ากระถางธูป
นี่เป็นสิ่งที่คนในครอบครัวไม่อยากเห็นด้วยตาตัวเอง
จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากข้างนอก “ถ้าอยากทำลายตระกูลตู้ ก็ต้องถามหวงหลงอย่างฉันก่อน!”
จากนั้นก็มีชายหนุ่มผมและหนวดเครายาวเฟื้อย เดินเข้ามาด้วยท่าทางโมโห ร่างกายของเขากำยำ เสื้อผ้าขาดลุ่ย ใบหน้าของเขาถูกบดบังด้วยผมและหนวดยาว จนทำให้มองเห็นไม่ชัด
แต่ความอาฆาตแผ่ออกมาจากตัวของเขา ฟางเหยียนพินิจดูอีกฝ่าย คนๆ นี้ไม่เพียงแต่จะเคยฆ่าคน แต่ฆ่าคนมาเยอะมาก เขาไม่ถึงกับบาปหนาจนไม่น่าให้อภัย แต่ก็ไม่ใช่คนดี
“บังอาจ แกเป็นใคร ถึงกล้ามาเหิมเกริมต่อหน้าจอมพลโผ้จวิน” เทียนขุยพูดอย่างโมโหและก้าวขึ้นมาข้างหน้า
ฟางเหยียนกลับยกมือขึ้นมารั้งเทียนขุยเอาไว้ เขาจ้องไปที่ตู้วี่หลินแล้วพูดว่า “ตู้วี่หลิน นายอยากเห็นเลือดของตระกูลตู้ไหลดั่งสายน้ำและเต็มไปด้วยศพใช่ไหม”
คำพูดของฟางเหยียนเข้าไปในกระดูก และเย็นยะเยือกไปถึงก้นลึกของหัวใจ ตู้วี่หลินตัวสั่นอีกครั้ง
เขามองแววตาของฟางเหยียน มันเป็นแววตาที่สามารถเอาชีวิตของคนแก่อย่างเขาได้ทุกเมื่อ
ไม่รอให้ตู้วี่หลินเอ่ยปาก ตู้เทียนหมิงสบถออกมาอย่างน่ากลัว “แกเป็นใคร พาคนมาไม่กี่คน ก็คิดอยากจะเข้ามาเอาชีวิตของคนในตระกูลตู้ แกคิดว่าตระกูลตู้ทำอะไรไม่ได้อย่างนั้นเหรอ”
ตู้หมิงล่างเหมือนเจอที่พึ่ง เขาร้องไห้ออกมาแล้วพูดว่า “มันฆ่าพ่อของผมครับลุง”
เมื่อเห็นศพของตู้เทียนหลง ตู้เทียนหมิงโกรธจนกัดฟันกรอด เขามองหวงหลงแล้วพูดว่า “พี่หวงหลง ฆ่ามันแทนฉันด้วย!”
หวงหลงมองฟางเหยียน เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาศพของตู้เทียนหลง เขายกมือไปแตะเลือดที่รอยแผลบนหัวของตู้เทียนหลง จากนั้นเขาเอาเลือดมาแตะที่ปากแล้วพูดพึมพำว่า “รสชาติก็ไม่เลว!”
พูดจบ เขาก็ฉีกเสื้อของตู้เทียนหลงออก และแหวกมันออก
คนในตระกูลกู้พากันงงไปหมด ไม่รู้ว่าหวงหลงจะทำอะไร
ตู้วี่หลินอึ้งไป นี่เขากำลังจะช่วยคนเหรอ ตู้วี่หลินจึงถามขึ้น “พี่หวงหลง ช่วยชีวิตลูกชายของฉันได้ไหม”
หวงหลงส่ายหน้า “ช่วยไม่ได้แล้วล่ะ เขาสิ้นลมหายใจไปนานแล้ว จะช่วยได้อย่างไร”
“งั้นหมายความว่า…”
ตู้วี่หลินยังไม่ทันได้พูดจบ เห็นหวงหลงแหวกหน้าอกของตู้เทียนหลงออก จากนั้นจึงล้วงมือเข้าไปในหน้าอก
ไม่นาน เขาก็ล้วงหัวใจออกมาด้วยสีหน้าตื่นเต้น
ภาพตรงหน้าทำให้ทุกคนอึ้งจนอ้าปากค้าง ผู้หญิงสองสามคนถึงกับร้องไห้ออกมา พวกผู้ชายบางคนถึงกับอาเจียนออกมาตรงนั้น
มือของหวงหลงเต็มไปด้วยเลือด เขาถือหัวใจอยู่ในมือและตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น “พวกนายเห็นไหม นี่คือหัวใจของคนที่เพิ่งตาย ดูสิ มันสดใหม่และยังอุ่นๆ อยู่เลย เป็นไง กระหายกันแล้วใช่ไหม”
“พี่กำลังทำอะไรน่ะ” ตู้เทียนหมิงถาม ขาของเขาสั่นไปหมด
เขาหัวเราะหึหึ จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า “ไอ้นี่มันอร่อยมากเลยนะ อย่าบอกนะว่าไม่รู้ จริงๆ ถ้าเอาออกมากินตอนที่คนยังมีชีวิตอยู่จะอร่อยกว่า นี่เป็นคนที่ตายมาแล้วสิบนาที บอกได้เลยว่างั้นๆ”
“ให้ตายเถอะ ไม่ได้กินไอ้นี่มานานแล้ว มีความสุขจริงๆ” พูดจบ เขาก็อ้าปากแล้วเอาหัวใจใส่เข้าไปในปาก
ตู้วี่หลินอึ้งไปหมด นี่มันปีศาจอะไรอีก กินกระทั่งหัวใจของคน
หลังจากกินเสร็จ หวงหลงเอาลิ้นเลียปากอย่างเสียดาย เขาหัวเราะเหมือนคนโรคจิต “ดีมาก รสชาตินี้ดีจริงๆ”
“หนึ่งในผู้คุ้มครองทั้งเก้าของแก๊งจิ่วหลงเหมิน ผู้คุ้มกันหวงหลง” เทียนขุยเอียงตัวมองหวงหลง แล้วพูดพึมพำออกมา
เมื่อได้ยินดังนั้น หวงหลงเงยหน้าแล้วหันไปมองเทียนขุย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเลือด
เทียนขุยขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เมื่อสิบกว่าปีก่อน เขาทำละเมิดข้อห้ามของแก๊งจิ่วหลงเหมิน เลยโดนคนในนั้นตามฆ่า หลายคนบอกว่าเขาตายแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังมีชีวิตอยู่”
“แกเป็นใคร” หวงหลงเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาเป็นประกาย เขารีบสะบัดตัวไปมา หลายสิบปีมาแล้วที่ไม่มีใครพูดถึงแก๊งจิ่วหลงเหมินให้เขาฟัง คิดไม่ถึงว่าเมื่อออกมา ก็ได้ยินคนพูดถึงแก๊งจิ่วหลงเหมิน
หรือว่าสองคนนี้คือคนที่แก๊งจิ่วหลงเหมินส่งมา
ความสงสัยเกิดขึ้นในใจหวงหลง
ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาจะต้องฆ่าพวกเขาและหลบหนีต่อไป
ไม่รอให้เทียนขุยพูดอะไร ฟางเหยียนลุกขึ้นมาและจ้องไปที่ตาของหวงหลง มันคือดวงตาอะไรกันแน่ ต้องผ่านเรื่องอะไรมาบ้างถึงมีแววตาที่น่ากลัวแบบนี้
หวงหลงคิดว่าที่เล็กๆ แบบนี้ไม่น่าจะมีใครมาสั่นคลอนเขาได้ แต่เมื่อเห็นแววตาคู่นั้น เขารู้ทันทีว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน!
ส่วนคนในตระกูลตู้ล้วนฝากความหวังไว้ที่หวงหลง พวกเขารู้สึกว่าเมื่อทั้งคู่สบตากัน เหมือนเป็นการประกาศสงครามแห่งศตวรรษ คนหนึ่งคือราชาที่มาจากสนามรบ ส่วนอีกคนเป็นสัตว์ร้ายที่สังหารผู้คนนับร้อยด้วยมือเปล่าของเขา
อีกทั้งยังมีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่อย่างแก๊งจิ่วหลงเหมิน
สงครามครั้งนี้ต้องสั่นสะเทือนไปทั่ว
ใครจะไปคิดกันว่าประโยคอันแสนเย็นชาที่ออกจากปากฟางเหยียน จะทำให้หัวใจของคนตระกูลตู้ร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“แก๊งจิ่วหลงเหมินแล้วไง ไม่ว่าฉันจะอะไร ฉันสามารถสั่งการทหารนับล้านไปทำลายแก๊งจิ่วหลงเหมินให้ราบเป็นหน้ากลอง”
แก๊งจิ่วหลงเหมินคือแก๊งในประเทศหวา ว่ากันว่ามีอำนาจล้นฟ้า ผู้อาวุโสจิ่วหลงที่เป็นผู้นำของพวกเขาเป็นบุคคลลึกลับ มีคนบอกว่าผู้อาวุโสจิ่วหลงเป็นเทพที่มีชีวิตมากว่าสามร้อยปี อีกทั้งยังมีคนบอกว่าผู้อาวุโสจิ่วหลงเป็นผีที่ตายไปแล้ว สรุปแล้วต่างคนก็ต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้ นี่คือสิ่งที่ผู้ที่เข้าใจโลกนี้อย่างแท้จริงที่จะสามารถเข้าถึงได้ คนที่มีฐานะต่ำต้อยมักจะไม่มีโอกาสมาสัมผัสกับอะไรพวกนี้ แต่ในสายตาของฟางเหยียนทั้งหมดนี้มันก็แค่เรื่องไร้สาระ จะเทพหรือผี เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ!