หลังจากที่ได้รับบัตรเชิญ เจียงชื่อทั้งสามก็เปิดห้องใหม่อีกสองห้อง ซึ่งเป็นห้องที่ติดอยู่กับห้องเดิม จากนั้นทั้งสามก็เดินไปขึ้นลิฟต์
ในระหว่างที่กำลังขึ้นลิฟต์ ทันใดนั้นซินจื่อหมินก็รู้สึกเอะใจและถามด้วยความสงสัยว่า “เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เมื่อคืนพวกเธอสองคนเปิดห้องแค่ห้องเดียวเหรอ?”
เอ่อ……
เจียงชื่อกับซินยุ่นทั้งสองคนก็หน้าแดงพร้อมกันทันที
ซินยุ่นตอบอย่างพึมพำว่า “เพราะหนูเพิ่งมาถึงเมืองแปลกๆ กลางคืนหนูไม่กล้านอนคนเดียว ก็เลยให้เจียงชื่อมาอยู่เป็นเพื่อนด้วย”
“อ้อ แบบนี้นี่เอง” ซินจื่อหมินหยุดไปสักพัก จากนั้นถามด้วยคำถามที่เกือบจะทำให้ซินยุ่นถึงกับเข่าทรุด “แล้วพวกเธอได้ป้องกันไหม?”
นี่มันไปถึงไหนกันแล้ว?!
เจียงชื่อถึงกับทำตัวไม่ถูก นี่เขาจะจินตนาการสูงไปไหม?
ซินยุ่นเขินจนแทบจะมุดดินลงไป จากนั้นมุ่ยปากพูดว่า “พ่อคะ พ่อพูดอะไรกันเนี่ย?”
ซินจื่อหมินพูดต่อว่า “พวกเธอก็เป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ฉันจะไม่ก้าวก่ายมากจนเกินไปหรอกนะ แต่ป้องกันไว้ก็ดี อีกอย่าง ทางที่ดีต้องปกปิดเป็นความลับให้ดีก็แล้วกันนะ”
“โดยเฉพาะเจียงชื่อ คุณมีครอบครัวแล้ว แต่จะแอบหากินนอกบ้านก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ก็ผู้ชายอ่ะนะ เรื่องปกติอยู่แล้ว”
“ประเด็นคือต้องปกปิดความลับให้ดีนะ อย่าให้ภรรยาจับได้เด็ดขาดเชียวล่ะ ไม่งั้นอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาได้นะ”
ให้ตายสิ!
เจียงชื่อแทบจะน้ำตาตกใน นั่นมันคำพูดของพ่อแท้ๆ หรือ? เอาชื่อเสียงของลูกสาวทิ้งขว้างย่ำยีแบบนี้ได้ไงกัน!
ซินยุ่นก็เขินจนหน้าแดงก่ำไปหมด เธอไม่รู้ว่าจะคัดค้านยังไงดีแล้ว
ในที่สุดลิฟต์ก็หยุดลง ซินยุ่นรีบเดินออกไปโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้นหยิบกุญแจออกมาแล้วเปิดประตูห้องอย่างเงียบๆ
“เจียงชื่อ คุณอย่าเพิ่งรีบกลับนะ มากับผมก่อน”
ไม่รู้ว่าซินจื่อหมินคิดอะไรอยู่ จู่ๆ เขาก็พาเจียงชื่อเดินเข้าไปในห้องของซินยุ่น
และทันทีที่เดินเข้าไปในห้อง เขาก็เจอกับห้องน้ำที่เป็นกระจกใสทั้งหมด
จากนั้นเขาส่ายหัวและพูดว่า “กระจกนี้มันจะใสเกินไปไหมนะ? เจียงชื่อ คุณบอกผมมาตรงๆ เลยดีกว่า เมื่อคืนนี้คุณเห็นทุกซอกทุกมุมของลูกสาวผมแล้วใช่ไหม?”
เจียงชื่อกับซินยุ่นรู้สึกเขินอายกันทั้งคู่
ตาแก่คนนี้ปกติดูเป็นคนเคร่งขรึม แต่ทำไมจู่ๆ ก็กลายเป็นคนขี้เล่นไปแล้ว?
“พ่อ ถ้าขืนพ่อพูดเรื่องไร้สาระอีก หนูจะไม่สนใจพ่อแล้วนะ!” ซินยุ่นมือเท้าสะเอวและพูดด้วยความโกรธ
“ก็ได้ๆ ๆ พ่อไม่พูดแล้ว พ่อไม่พูดแล้วโอเคยัง? ยังไงพวกเธอสองคนระวังกันเองก็แล้วกันนะ พ่อก็แก่แล้ว คงจะห้ามอะไรไม่ได้หรอก”
จากนั้นเขาหันกลับมาแล้วพูดกับเจียงชื่อว่า “ไหน เอาเข็มเทพเปี่ยนเชวี่ยออกมาให้ผมดูหน่อยสิ”
ในที่สุดก็พูดอะไรที่มันดูจริงจังสักที
และจากนั้นเจียงชื่อก็หยิบเข็มเทพเปี่ยนเชวี่ยออกมาแล้ววางไว้บนโต๊ะ
ทั้งสามมองดูพร้อมกัน แต่ต่างก็รู้สึกว่าเข็มเทพเปี่ยนเชวี่ยชุดนี้ดูธรรมดามาก ไม่มีจุดเด่นตรงไหนเลย รู้สึกว่ามันไม่ต่างอะไรจากเข็มเงินทั่วไปเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่มีความประณีตมากกว่าเท่านั้นเอง
ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ เพียงแค่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเข็มที่ประณีตขนาดไหนก็สามารถทำมันออกมาได้อย่างง่ายดาย และนี่มันไม่ถือว่าเป็นจุดขายของเข็มนี้อีกแล้ว
ซินยุ่นขมวดคิ้วพูดว่า “ดูไม่มีจุดเด่นตรงไหนเลยนะ? หรือเราจะถูกหลอกหรือเปล่า? เหมือนกับสือเหวินปิ่งที่ซื้อสร้อยคอปลอมไป พวกเราคงไม่ได้ซื้อเข็มเทพเปี่ยนเชวี่ยของปลอมมาเหมือนกันหรอกนะ?”
ทั้งสามคนล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ แต่ทั้งสามคนต่างก็ดูไม่ออกว่ามันมีจุดเด่นตรงไหน แสดงว่าต้องมีปัญหาจริงๆ
ซินจื่อหมินยื่นมือหยิบเข็มเงินออกมาเล่มหนึ่ง จากนั้นดูอย่างละเอียดสักพัก แต่ก็ยังมองไม่เห็นความพิเศษของมันอยู่ดี
ซินยุ่นก็หยิบขึ้นมาหนึ่งเล่ม เธอก็ไม่เห็นความพิเศษของมันเหมือนกัน
จอมนักรบท้าโลก – ตอนที่ 517 ตาแก่เจ้าไม่จริงจัง
Posted by ? Views, Released on November 5, 2021
,