จงเถาถามขึ้นอีกครั้ง “ได้ข่าวว่าหลังจากสามีเธอถูกทำร้ายร่างกายจนขาหัก ร่างกายของเขาทรุดโทรมจนไม่สามารถลุกจากเตียงไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นเขาคงหาเงินไม่ได้ ยังต้องให้เธอเลี้ยงเขาอีกล่ะสิ?”
เป็นคำพูดที่ไม่มีการอ้อมค้อมเลยจริงๆ
บรรยากาศดีๆ ในการรวมตัวของเพื่อนร่วมชั้น ได้กลายเป็นความตึงเครียดทันที
หยางจุนหรูในขณะนี้เป็นเหมือนนักโทษที่ถูกสอบสวนโดยฝ่ายตรงฉันม
เธอได้แต่ก้มหน้าและสองมือของเธอไม่รู้จะวางไว้ที่ไหนอีก
และในเวลานี้ ติงเมิ่งเหยนสังเกตเห็นตุ่มพองบนฝ่ามือของหยางจุนหรู! ต้องรู้ว่าหยางจุนหรูมีนิสัยที่ทะนุถนอมความงามของเธอมาตลอด เธอไม่เคยทำงานหนักเลยด้วยซ้ำ แล้วจะมีแผลในมือได้อย่างไร?
ซึ่งมันสามารถอธิบายได้เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือหลังจากหลัวเฟิงขาหัก หยางจุนหรูต้องแบกภาระของครอบครัวคนเดียว
จงเถายังไม่รู้จักจบสิ้น และพูดประชดประชันว่า “จุนหรู ผมได้ยินมาว่าคุณแต่งงานมาสามปีแล้ว แต่ยังไม่มีลูกเหรอ?”
หยางจุนหรูพยักหน้า “พี่เฟิงยุ่งมาก”
“ยุ่งเหรอ? เหอะๆ แต่ผมว่าเขาไม่มีความสามารถในเรื่องแบบนั้นมากกว่านะ ใช่ไหม?” จงเถายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วพูดต่อ “ตอนนี้ขาก็หักแล้ว ถ้าอยากมีลูกคงได้แต่คิดแล้วล่ะ จุนหรู หรือว่าให้ผมช่วยคุณมีลูกสักคนไหม?”
“สารเลว!!!”
ผู้คนในห้องต่างก็ทนฟังไม่ได้แล้ว ติงเมิ่งเหยนก็ทุบโต๊ะและลุกยืนขึ้น
จงเถายังแสดงสีหน้าไม่แยแสและพูดอย่างร่าเริงว่า “ผมก็แค่ล้อเล่นน่า จะจริงจังขนาดนี้ทำไม?”
“อีกอย่าง พวกคุณทุกคนเข้าใจผมผิดแล้ว อันที่จริงผมตั้งใจจะพูดว่า ผมจะช่วยจุนหรูหาหมอดีๆ สักคนเพื่อรักษาหลัวเฟิงให้หาย พวกเขาจะได้มีลูกกันสักทีไม่ใช่เหรอ?”
แม้ว่าคำอธิบายนี้จะดูฝืดมาก แต่อย่างน้อยก็ทำให้บรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ดีขึ้น
ติงเมิ่งเหยนนั่งลงแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “แล้วคุณจะไปหาหมอที่ดีจากไหนล่ะ?”
จงเถายิ้มตอบ
“เมิ่งเหยน คุณจะดูถูกหัวหน้าห้องของคุณแล้วนะ”
“ผมไม่เหมือนสามีไร้น้ำยาของคุณหรอกจะบอกให้ มันก็แค่รู้จักพ่อครัวคนหนึ่ง แล้วขอร้องให้พ่อครัวมาช่วยทำบัวลอยให้กิน แล้วได้อะไร?”
“แต่ผมไม่เหมือนกันนะ”
“ผมรู้จักหมอที่ดีที่สุดในเขตเจียงหนาน เขาสามารถช่วยได้!”
หมอที่ดีที่สุดในเขตเจียงหนาน
ติงเมิ่งเหยนถามว่า “คุณหมายถึงตระกูลสือจากสมาคมการแพทย์เหรอ?”
จงเถาถึงกับกลั้นหัวเราะไม่อยู่ “ถึงแม้สมาคมการแพทย์จะเคยเป็นผู้นำในด้านการแพทย์มาก่อน แต่ก็ถูกคนอื่นเล่นงานมาตลอด ตอนนี้พวกเขาไม่ได้เก่งที่สุดตั้งนานแล้ว”
ติงเมิ่งเหยนถามอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นก็หอการแพทย์ของตระกูลซินล่ะสิ?”
จงเถานั่งไขว้ขาแล้วพูดว่า “เกือบถูก หมออัจฉริยะที่ผมรู้จักคนนี้ เขาคือศิษย์ก้นกุฏิของคุณท่านในตระกูลซิน เขาได้รับการถ่ายทอดทักษะทางการแพทย์จากตระกูลซินมาหมดแล้ว อีกอย่างทักษะของเขาตอนนี้ก็เก่งกว่าเจ้าบ้านในตระกูลซินแล้วด้วย”
เจียงชื่อยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเอะใจ ทำไมเหมือนพูดถึงเขาอย่างไรอย่างนั้น?
จงเถาพูดต่อ “ผมกับหมอเทวดาคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกัน ผมโทรเรียกเขามาได้ทันทีเลยนะ ถ้าคุณไว้ใจผม ผมโทรเรียกหมอเทวดาคนนี้ให้คุณเดี๋ยวนี้เลย ให้เขามาช่วยรักษาอาการของสามีคุณได้”
หยางจุนหรูรู้สึกดีใจมาก
“จริงเหรอ?”
“จริงสิ งั้นผมโทรเลยนะ”
จงเถาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างเย้ยหยันแล้วเตรียมจะกดโทรออก ในขณะที่จะโทรออก เขายังเหลือบมองไปที่หยางจุนหรูแล้วคิดในใจว่าผู้หญิงคนนี้เคยปฏิเสธเขาไม่ใช่หรือ?
เหอะๆ งั้นใช้โอกาสนี้ให้หยางจุนหรูสมยอมดีกว่า!
ขอแค่เขาติดต่อหมอเทวดาได้ วันหลังหยางจุนหรูก็จะยอมฟังในสิ่งที่เขาพูดล่ะสิ? เหอะ ๆ และในตอนนี้จงเถาได้จินตนาการถึงหยางจุนหรูที่อยู่บนเตียงเขาแล้ว
เขาเลียริมฝีปากและกดหมายเลขของหมอเทวดา
แต่ในใจเขายังรู้สึกระแวงอยู่เล็กน้อย เพราะความจริงแล้วเขาไม่ได้รู้จักหมอเทวดาคนนี้เลย ส่วนเบอร์โทรของหมอเทวดานั้น ผู้บริหารในบริษัทของเขาเป็นคนได้มาจากตระกูลซินอย่างยากลำบาก และเขาแค่คัดลอกมาจากผู้บริหารในบริษัทเท่านั้น
จะรอดหรือไม่รอด เขายังไม่ได้แน่ใจ
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด สายโทรติดแล้ว
ในขณะที่ทุกคนกำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของเจียงชื่อที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น